เมื่อมนุษย์ยังต้องการความสุข เสียงเพลงจึงยังมีที่ยืนเสมอ การขับเคี่ยวกันในอุตสาหกรรมดนตรีจึงยังคงเข้มข้นทั้งค่ายเล็กกลางใหญ่ ไม่ว่า Label ไหนก็ยังคงสร้างสรรค์งานกันออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน และถ้าจะให้พูดถึงหนึ่งในค่ายเพลงที่มีผลงานโดดเด่นและหลากหลายในชั่วโมงนี้ ชื่อของ What The Duck ก็น่าจะผุดขึ้นมาเป็นรายแรก ๆ What The Duck ? What The Duck ค่ายเพลงชื่อมันส์ ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านอารีย์ มีบรรยากาศในการทำงานที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ของศิลปินและทีมงานสุด ๆ เหมือนเป็นคาเฟ่เท่ ๆ ไม่ก็ co-working space คูล ๆ ที่ใครเห็นก็อยากจะมาอยู่ จากค่ายเพลงอินดี้เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งค่ายสเกลขนาดกลางที่มีศิลปินอยู่ในสังกัดทั้งหมด 18 เบอร์ (ข้อมูล ณ เดือน สิงหาคม 2561) หลายเบอร์ก็เป็นศิลปินที่หลายคนชื่นชอบ ไล่มาตั้งแต่ สิงโต นำโชค, ชาติ-สุชาติ, MUSKETEERS, เป้-อารักษ์, แป้งโกะ, Ten To
เมื่อมองไปยังภาพรวมทิศทางการทำตลาดของโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่หลายคนน่าจะเห็นตรงกันถึงเรื่องราวของทำเล, การเดินทาง รวมถึง Facilities มากมาย ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นจุดขายในแทบทุกโครงการ แต่ท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนจะกลายเป็นการตลาดสูตรสำเร็จของวงการอสังหาฯ ทางบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กลับเลือกที่จะใช้วิธีสื่อสารแนวคิดการพัฒนาแบรนด์ใหม่อย่าง Park Origin ในรูปแบบที่เรียกได้ว่าฉีกกฎของวงการอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้ กับแนวคิด A Perfect Living Platform ที่ถูกนำมาตีความเป็นโฆษณาโดยฝีมือผู้กำกับหนังโฆษณาระดับท็อปของวงการอย่าง ‘ต่อ-ธนญชัย’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ‘พี่ต่อ-ฟีโนมีน่า’ ซึ่งได้เปลี่ยนนิยามของโฆษณาอสังหาฯ ที่พวกเราคุ้นเคย ไปสู่มุมมองที่ตัวพี่ต่อเองยังยอมรับถึงความกล้าของทางออริจิ้น ที่เลือกซื้อไอเดียนี้ ซึ่งแก่นความคิดที่พี่ต่อได้สื่อสารออกมาผ่านหนังโฆษณาชิ้นแรกนั้น ไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ดำเนินตามรอยงานโฆษณาอสังหาฯ ที่เราเคยเห็น ลืมไปเลยเรื่องภาพสวย ๆ ของโครงการ หรือเรื่องราวไลฟ์สไตล์น่าอิจฉาในสังคมเมือง แต่สิ่งที่โฆษณาชิ้นนี้ต้องการนำเสนอ คือการกระตุ้นให้เราฉุกคิดแล้วมองในมุมกลับ เพื่อเข้าถึงเจตนารมณ์ของทางออริจิ้น ที่มองตัวเองว่า แม้จะอยู่ในฐานะของผู้สร้าง หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นผู้ทำลายพื้นที่ธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่มาของคำถามที่ว่า แล้วจะสร้างคอนโดมิเนียมอย่างไร ให้เกิดคุณค่าเหมาะสมกับธรรมชาติที่ต้องเสียไป และสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยภายในคอนโดให้ได้มากที่สุด ? ซึ่งคำถามนี้ได้กลายเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการพัฒนาแบรนด์ Park Origin ที่พร้อมพลิกโฉมการใช้ชีวิตในคอนโดด้วยการสร้าง
ในยุคที่ดิจิทัลเป็นใหญ่และเป็นหนึ่งช่องทางที่แทบจะกำหนดได้ว่าแบรนด์จะโตหรือจอด คนทำงานด้านสื่อทุกคนจึงต้องไหวตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง นี่เลยเป็นเหตุผลให้เกิดการรวมตัวกันระหว่างคนโฆษณาเพื่อสร้างพันธมิตรเสนอข้อมูล ช่วยให้วงการสื่อเข้มแข็งในงาน DATT DAY 2018 – Infinite Possibilities ซึ่งปีนี้จัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว DAAT 101 หลายคนสงสัยว่า DAAT คืออะไร แท้จริงแล้วมันคือตัวย่อของ Digital Advertising Asscociation (Thailand) ทำไมเราต้องไปงาน DATT DAY ในเมื่อข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับดิจิทัลก็อาจจะวนเวียนหรือสามารถเสิร์ชหาได้จาก Device ที่เรามีทั้งมือถือและสมาร์ตโฟน เราขอสรุปจากสิ่งที่เราเข้าไปสัมผัส 3 ข้อ ต่อไปนี้ เราจะได้สัมผัสกับบุคคลที่เป็นตัวพ่อตัวแม่ด้านดิจิทัลจากอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ในงานเดียว แบบตัวเป็น ๆ ข่าวคราวอัปเดตในงานค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราต้องการ เพราะเป็นการสำรวจโดยใช้พื้นฐานข้อมูลจากประเทศไทย ที่สำคัญยังไร้ fake news ด้วย ปิดท้ายงานด้วย After Party ที่จะทำให้สายสัมพันธ์ของคนอยากโตในวงการนี้มีทางไป บางทีเราอาจได้เนื้อคู่ หรือพาร์ตเนอร์ที่ตรงใจไว้ร่วมงานได้ Recap DAAT’s
“ถ้าคุณยังไม่พบวิธีหาเงินขณะหลับได้ คุณก็จะต้องทำงานไปจนวันตาย” คือสิ่งที่มหาเศรษฐีคนหนึ่งของโลกอย่าง Warren Buffett เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่งดูเหมือน Quote นี้ อาจจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่มันช่างแฝงด้วยความจริงอย่างไม่อาจปฎิเสธได้ และแม้ว่าการเป็นเศรษฐีมีเงินทองจะไม่ใช่ปลายทางความสุขของชีวิต ทว่าหากเงินยังเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์เราก็ยิ่งจำเป็นจะต้องหาเงินมาใช้ วันนี้ UNLOCKMEN ได้นำตัวเลขจาก Business Insider มาเพื่อสนับสนุนคำพูดของ Warren Buffett หากคุณอยากเป็นเศรษฐี แม้ว่าในขณะหลับพวกเขาสามารถหาเงินกันได้ชั่วโมงละเท่าไหร่ เริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจที่รวยติดอันดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับ Jeff Bezos เจ้าของอาณาจักร Amzon สามารถหาเงินได้ราว ๆ $4,474,885 USD (145 ล้านบาท) ต่อชั่วโมง ลองคิดคร่าว ๆ ว่าวันหนึ่ง Jeff Bezos นอนประมาณ 7 ชั่วโมง นั้นทำให้ช่วงเวลาการนอนของเขาก็ยังจะทำเงินได้ราว ๆ $31,000,000 USD (1 หมื่นล้านบาท) หรือจะเป็น Mark Zuckerberg ผู้สร้างเครือข่ายโซเชียลแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Facebook ก็ยังทำเงินได้ราวๆ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีเงินอยู่ในบัญชี แต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ลงทุนทำอะไรเพื่อต่อยอดเงินตรงนี้ให้เพิ่มพูมขึ้นไป ครั้นจะไปเล่นหุ้นก็ต้องมานั่งศึกษาให้วุ่นวาย ไหนจะศัพท์เฉพาะมากมายบลา ๆ ๆ จนคุณถอดใจ เก็บเงินไว้อย่างเก่าในบัญชีดีเสียกว่า ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้เงินในบัญชีงอกเงยออกมาเพื่อต่อยอดสิ่งที่อยากจะทำในอนาคต แต่รู้หรือไม่ว่าสินค้าประเภทแฟชั่นในปัจจุบัน จัดเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงที่คุณสามารถลงทุนเพื่อต่อยอดเงินให้ทวีคูณมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณเองแทบจะไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ชอบแต่งตัวก็ได้ เพราะแม้กระทั่งในส่วนของผู้หญิงเองก็ตาม มีแม่ค้าหลายคนเลือกจะลงทุนกับกระเป๋า Hermes หรือ Channel เพื่อสร้างเงินต่อยอดจนเป็นมีเงินล้านมาแล้วมากมาย ยิ่งกระแสสตรีทแฟชั่นซึ่งบูมอยู่ในขณะนี้ ทำไมคุณถึงไม่ลองลงทุนเพื่อให้เงินในบัญชีมันได้งอกเงยดูละ ก่อนอื่นเลยคุณต้องเข้าใจก่อนว่าการจะลงทุนเก็งกำไรสินค้าประเภทแฟชั่นนั้น ต้องทำเพื่อสร้างกำไรเท่านั้น อย่างได้คิดว่ารักพี่เสียดายน้อง พอได้ไอเทมเจ๋ง ๆ มาแล้วรู้สึกเสียดายจนไม่กล้าขายต่อแบบนั้นจะกลายเป็นติดลบไปได้ แล้วอีกประเด็นสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้คือคุณจะต้องมีหูตาที่กว้างไกล และเครือข่ายในการหาของสินค้าประเภท Limited Edition จากทั่วทุกมุมโลก สำหรับเคล็ดลับในเบื้องต้น วันนี้ UNLOCKMEN จะขอมาแนะนำแบรนด์แฟชั่นดาวรุ่งที่หากคุณหาซื้อได้อย่างไรก็ทำเงิน เพราะต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์ ทุกคอลเลคชั่นจะสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ *การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน Supreme หากใครเคยมีโอกาสเดินทางไปตามประเทศต่าง ๆ ที่มีช้อป Supreme ตั้งอยู่ จะพอรู้ว่าเนี่ยคือแบรนด์แฟชั่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบัน แม้กระทั่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลาย ๆ เจ้า ยังพยายามจะลอกเลียนความสูตรสำเร็จของพวกเขา เพราะเมื่อคุณเข้าช้อป Supreme ไม่ว่าที่ใดก็ตาม จะพบกับความว่างเปล่า เนื่องจากสินค้าทั้งหมดได้ถูกขาย Sold
เคยซักถุงเท้าแล้วถุงเท้าหายไปเหลือข้างเดียวไหม? นอกจากมนุษย์ต่างดาว การสร้างพีระมิด หรือการตั้งหินสโตนเฮนจ์ ฯลฯ ที่เราตามหาความจริงกันไม่เจอแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ยังคงเป็นปริศนาหลุมดำกันจนถึงทุกวันนี้คือการซักถุงเท้า! ที่พวกผู้ชายอย่างเรายังคงทำหน้าเหวอทุกครั้งที่เครื่องเตือนให้ตาก เพราะจากที่เราโยนถุงเท้าเข้าเครื่องไปทั้งสองข้าง สุดท้ายเมื่อเครื่องทำงานเรียบร้อยหยิบผ้าออกมากลับเหลือถุงเท้าเพียงข้างเดียว! ถึงแม้จะนี่จะเป็นเรื่องที่ดูเล็ก ๆ แต่พอเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ เงินที่เสียไปรวม ๆ แล้วก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่เข้าเหมือนกัน ประเด็นนี้โดนแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์แล้วไปเข้าหูของแบรนด์ถุงเท้าอย่าง “Bombas” เข้า บริษัทจึงออกแคมเปญใหม่ไว้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ลูกค้าโดยตั้งชื่อแคมเปญว่า “Laundry Back Guarantee” หรือการรับประกันว่าไม่ว่าจะซักที่ไหนก็ตามมันจะกลับมาให้ครบสองข้างแน่นอน และนี่คือตัวอย่างโฆษณาของแคมเปญนี้ ครบสองข้างได้ยังไงถ้ามันหาย ? คำตอบคือเขาอนุญาตให้ลูกค้าแจ้งกลับมาได้ถ้าทำหายระหว่างซัก โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิเปลี่ยนเจ้าถุงเท้าโสดไร้คู่เป็นคู่ใหม่ได้ฟรีทันที แต่มันก็มีเงื่อนไขเล็ก ๆ ให้ทำตาม ได้แก่ ส่งเปลี่ยนได้เพียงคู่เดียว ถุงเท้าที่หายต้องแจ้งภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ซื้อ และที่สำคัญคือมีเวลาจำกัดการซื้อในแคมเปญนี้ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น งานนี้ถ้าให้วิเคราะห์เรามองว่ามันเป็นความฉลาดของแบรนด์ถุงเท้าแบรนด์นี้ เพราะเขาสามารถเรียกยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นได้แน่นอนทั้งจากสตอรี่ปริศนาการหายไปของถุงเท้า กระตุ้นความรู้สึกท้าทายให้ลูกค้าอยากจะซื้อมาใช้ในช่วงนี้เพื่อให้มันรีบ ๆ หายไป แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือการสร้าง awareness หรือการจดจำให้แบรนด์อยู่ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้า เรียกว่าเป็นการสร้าง CRM (Customer Relationship Management) แบบเนียน ๆ ก็ว่าได้
ปัจจุบันกระแสการลงทุนการบริหารความมั่งคั่ง เป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่ต่างให้ความสนใจ ทว่าด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนที่เรายังมีไม่เพียงพอ และคำว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” จึงมาแตะเบรก ทำให้แม้เราจะอยากลงทุน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยง เพื่อตอบโจทย์กระแสการลงทุนนี้ จึงเกิดเป็นเทรนช่องทางการบริการทางการเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า Wealth Management หรือการบริหารความมั่งคั่งขึ้น โดยมี “Wealth Personal Banker” หรือผู้แนะนำการลงทุนที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการบริหารเงิน รับหน้าที่ดูแล ปกป้อง และเพิ่มพูนของมั่งคั่งให้กับเรา เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังของอาชีพสุดท้าทายนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN จึงมุ่งหน้าไปเสาะหาข้อมูลจากคนที่ทำอาชีพนี้และอยู่ในวงการนี้จริงโดยแวะเวียนมาที่ SCB Investment Center โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ คุณก้อย – กาญจนา คล่องอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส SCB FIRST: SA, Executive and Professional Segment และผู้บริหารศูนย์ SCB Investment Center กรุงเทพฯ คุณปอย
มีคนจำนวนหลายล้านคนทั่วโลกได้ดูคลิป Bruce Lee ที่สุดของตำนานแห่งกังฟูจีนฝึกซ้อมด้วยการใช้กระบองสองท่อน Nunchucks วาดลวดลายสุดเทพจนเราต้องอ้าปากค้าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระบองสองท่อนตีปิงปองอย่างเหนือชั้น เอาชนะนักปิงปองที่แม้จะใช้จำนวน 2 คนก็ยังต่อกรกับ Bruce Lee ไม่ได้ ต่อด้วยการให้คนโยนไม้ขีดใส่ โดย Bruce Lee สามารถใช้กระบองสองท่อนหวดอย่างแม่นยำจนไฟติดไม้ขีดทุกดอกได้ ในภาพฟิลม์ที่ดูเก่าแก่ เสียงและท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติ บวกกับชื่อเสียงตำนานความยิ่งใหญ่ของ Bruce Lee ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูน่าเชื่อถือจนไม่มีข้อสงสัย เผื่อใครยังนึกไม่ออก เรากำลังดูถึงคลิปด้านล่างนี้อยู่ตั้งแต่นาทีที่ 0:55 เป็นต้นไป เชื่อว่าถึงตอนนี้ หลายคนก็ยังคงดูสกิลการตีปิงปองและหวดไม่ขีดไฟที่น่าอัศจรรย์ของ Bruce Lee วนไปวนมาด้วยความตะลึง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่เราคิดว่าน่าจะดีกว่าถ้าเราจะรู้ข้อเท็จจริงของคลิปที่ว่านี้เอาไว้ด้วย เพราะที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่คลิปการฝึกของ Bruce Lee ที่แท้จริง แต่เป็นคลิป Viral Video ที่ยอดเยี่ยมสำหรับโฆษณาโทรศัพท์มือถือ Nokia N96 Limited Edition Bruce Lee ผลงานของบริษัทโฆษณา JWT Beijing ตั้งแต่ปี 2008 หรือเป็นเวลามากกว่า 40
การสร้างแรงจูงใจบางครั้งก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจ หากคุณกำลังเป็นผู้บริหารอาจจะลองศึกษาจากข่าวนี้ได้ เพราะเมื่อก่อนหน้า Nike มีข่าวคราวการปลดพนักงานทั่วโลกออกถึง 10% สร้างความวิตกกังวลจนเกิดเป็น Toxic Coperate Culture ขึ้นในองค์กร ทว่าจากการรายงานข่าวของ CNBC ล่าสุดได้กล่าวว่าบริษัทกีฬาชั้นนำของโลกได้เตรียมปรับเงินเดือนพร้อมเปลี่ยนวิธีการคำนวณโบนัสให้กับพนักงานทั่วโลก เหตุผลที่ Nike ได้ตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงานหลากหลายหน้าที่ พร้อมกับมอบโบนัสที่จะวัดจากผลงานส่วนตัว และผลประกอบการบริษัทเพื่อสร้างแรงจูงใจโดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การทำงานที่ดียิ่งขึ้น โดยทาง Nike ได้ตัดสินใจหยุดจ่ายชดเชยค่าสินไหมทดแทน แล้วนำเงินส่วนนี้มากระจายให้กับพนักงานส่วนใหญ่แทน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มในปี 2019 สาเหตุที่เกิดการปรับโครงสร้างในคราวนี้ก็มาจากเหตุการณ์พนักงานระดับซีเนียร์หลายคนเกิดลาออก พร้อมยังเกิดปัญหาภายในบริษัทจนเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดี และ Mark Parker ซีอีโอของบริษัทไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อนำไปแก้ไขอย่างจริงจัง จึงเกิดเป็นปัญหาภายในองค์กรที่เรียกกันว่า Toxic Coperate Culture จนต้องออกมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ แม้ว่าในไตรมาสล่าสุดของแบรนด์จะกลับมาเติบโตมากขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวมานาน ทำให้บริษัทเริ่มกลับมาเล็งเห็นพร้อมฟื้นฟูโครงสร้างองค์กร เพราะต้องยอมรับในจุดหนึ่งว่า ต่อให้สินค้าที่คุณจ่ายไปจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าเกิดภายในบริษัทนั้นไม่นิ่งและมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในระดับซีเนียร์อยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืนต่อการพัฒนาองค์กรในระยะยาว source
“แค่คิดว่าอยากแก้ จะรื้อแล้วให้ผมเสกขึ้นมามันทำไม่ได้หรอกนะ” “ช้าที่พี่แล้วมาบีบเวลาผมตอนท้ายให้งานมันเสร็จ มันไม่ได้นะพี่” “ก็พี่บรีฟไว้อย่างนี้ ทำไปจนเสร็จแล้วโละ บอกไม่ใช่ที่อยากได้ได้ไง” เราเชื่อว่าใครที่ต้องทำงานกับคนหลายคน หรือทำงานที่ควบคุมให้จบในตัวไม่ได้ คงต้องเคยพูดประโยคด้านบนกันสักหนสองหนหรือมากกว่านั้น เผลอ ๆ ระหว่างพูดคงมีเงื้อหมัด พูดสบถระบายอารมณ์กันบ้าง การทำงานที่เฟืองทุกชิ้นของระบบไม่ได้ทำงานเต็มร้อยพร้อมกัน หรือต่อให้ทำงานได้เต็มที่สุดฝีตีนแต่ผลสุดท้ายก็ยังพังไม่เป็นท่าเพราะลูกค้าปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “เห็นภาพงานไม่ตรงกัน” ส่วนมากมักเกิดจากจุดอ่อนของกระบวนการทำงานแบบดั้งเดิมที่แต่ละงานทุกคนจะส่งต่องานกันแบบไม้ผลัดซึ่งคนในวงการ IT นิยามการทำงานแบบนี้ว่า Waterfall Waterfall คือระบบการทำงานแบบส่งต่อไม้ผลัด ลองคิดภาพตามว่าถ้าเราลงวิ่งผลัดในสนามที่ทีมเรามีสมาชิกวิ่งอยู่ 4 คน คนแรกออกวิ่งส่งต่อให้คนที่สอง คนแรกก็จะไม่รู้เรื่องของคนอื่นนอกจากคนที่สองที่ตัวเองต้องส่งไม้ให้ หรือถ้ามีปัญหาระหว่างทาง กว่าจะไปถึงคนที่ 4 ที่เป็นไม้สุดท้าย ทุกอย่างก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะมันมาถึงจุดที่หวนกลับไปแก้ไม่ได้อีก สุดท้ายจึงต้องลงเอยด้วยการกลับไปนับหนึ่งอีกครั้ง ถ้านั่นเป็นวิถีการทำงานที่ผู้ชายอย่างเราทำอยู่ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปรู้จักกับแนวทางการทำงานแบบใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่าง “Agile” เทคนิกการทำงานที่ทำให้เราไหวตัวทันต่อทุกปัญหาและแก้ไขได้เสมอซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่บริษัทใหญ่ยักษ์แบบ Google หรือ Facebook ใช้งานจริง AGILE คืออะไร คำว่า “Agile” มีต้นกำเนิดจากสายพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ปี 2001 โดยเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่กลุ่มคน