ว่ากันว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้เปลี่ยนงานบ่อยกันเป็นว่าเล่น นอกเหนือจากความขี้เบื่อแล้ว เหตุผลเรื่องฐานเงินเดือนที่ขึ้นเอา ๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยนงานก็เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันมาก แต่ UNLOCKMEN ขอเสนอว่าเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนงานเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองเสมอไป แต่มีวิธีตรงชัดแมน ๆ อย่างการขอขึ้นเงินเดือนด้วยตัวเองกันไปเลย! เพราะงานวิจัยชี้ว่ากว่าร้อยละ 70 ของคนที่กล้าขอขึ้นเงินเดือนนั้นประสบความสำเร็จได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นจริง ๆ 1.ทำการบ้าน ไม่ใช่อยู่ ๆ เรามีตัวเลขใหม่ที่อยากได้ในใจแล้วจะจบ เดินดุ่ม ๆ ไปคุยกับผู้มีอำนาจตัดสินใจแล้วขอเงินเดือนเพิ่มเสียดื้อ ๆ เราควรต้องทำการบ้านก่อนว่าตำแหน่งแบบเรานั้นเขาได้เงินเดือนกันอยู่เท่าไหร่ เรามีหน้าที่รับผิดชอบเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับตำแหน่งเดียวกันในที่ทำงานเดียวกัน หรือตำแหน่งเดียวกันในที่อื่น ๆ แล้วลองดูความเป็นไปได้กับตัวเลขในมือที่ตั้งใจไว้ดู 2.รู้คุณค่าของตัวเองที่มีต่อบริษัท แต่ความเป็นไปได้เรื่องจำนวนเงินเดือนที่เราต้องการเพิ่มก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตำแหน่งหน้าที่ของเราอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราทำงานอย่างมีคุณค่าให้กับที่ทำงานของเรามากแค่ไหน ผู้จัดการส่วนใหญ่เปิดเผยว่าพนักงานที่ทำงานที่สร้างคุณค่าให้บริษัทมากกว่าก็มีแนวโน้มที่เขาจะเพิ่มเงินเดือนให้มากกว่า รู้อย่างนี้แล้วก็ทบทวนตัวเองตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่าว่าอยากได้เงินเดือนเพอ่ม เราทำงานสร้างคุณค่าให้บริษัทเพิ่มแล้วหรือยัง? 3.รู้จังหวะเวลา จังหวะเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่มีตัวเลขในมือแล้วอยากเดินเข้าไปคุยเมื่อใดก็ได้ จังหวะที่คุณเพิ่งทำโปรเจกต์สำคัญเสร็จลุล่วงไปด้วยดีใหม่ ๆ หรือเพิ่งขายงานผ่านฉลุย หรือความสำเร็จใดก็ตามที่เป็นการสร้างคุณค่าให้กับบริษัทและหน้าที่ของคุณ เมื่อคุณทำมันได้ดี ก็รีบใช้โอกาสหลังจากนั้นในการขอปรับขึ้นเงินเดือนซะ เพราะมันมีแนวโน้มจะสำเร็จมากกว่าขอตอนที่คุณเพิ่งทำอะไรพังลงไม่เป็นท่า หรือไม่มีผลงานอะไรเลยแน่ ๆ 4.รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง เหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกจะลาออกจากงานเพื่อไปหวังเงินเดือนที่มากกว่ากับที่ทำงานแห่งใหม่นั้น เป็นเพราะความกลัว ความกลัวที่จะผิดหวัง ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ สงบนิ่งเข้าไว้ และคิดเสียว่านี่ก็ไม่ต่างจากการเจรจาต่อรองทั่วไป มีโอกาสสมหวัง
ในวันที่เราเริ่มคิดจะทำอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งของตัวเองสักอย่าง ภาพปลายทางในหัวของแต่ละคน UNLOCKMEN เชื่อว่าคงมองเห็นกันแต่ปลายทางของความสำเร็จกันอยู่แน่ ๆ แต่มันก็ไม่ผิดที่เราทุกคนจะฝัน เพราะความฝันนี่แหละ มักเป็นแรงผลักดันเราให้ก้าวต่อไป และความฝันทุกอย่าง… ผมว่ามัน “ต้องการการลงมือทำจริง” ถ้าเป็นการนับ 1 ใหม่หมด เราอาจต้องเริ่มต้นจากการทำอะไรคนเดียว ไม่มีหน้าที่ตายตัว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก ๆ, ธุรกิจหรือทีมเล็ก ๆ การหาคนมาเติมเต็มทุกตำแหน่งที่ต้องการอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำได้ทันทีเดี๋ยวนั้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของงบประมาณหรือการหาคนมาร่วมหัวลงท้ายด้วยกันก็ตาม เราได้รวบรวม 8 ตัวช่วยการทำงานใช้ได้จริง คุณจะเป็น Freelance หรือบริษัทเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น ๆ ก็สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้ดีกว่าเก่าได้ มาแนะนำกัน Evernote โปรแกรมพื้นฐานที่เราแนะนำว่าควรโหลดติดเครื่องไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ หลายคนอาจคิดว่าแค่การจดโน้ตไม่เห็นจำเป็นต้องโหลดเลย ตัวติดเครื่องที่ให้มาก็ดีอยู่แล้วนิ เราบอกเลยว่าดี ง่าย แต่ยังไม่สุด Evernote จะมาเติมเต็มความสามารถมากมายที่โน้ตทั่วไปทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์โน้ตของเราให้กับคนอื่น หรือจัดเก็บรูปภาพ, Task, แจ้งเตือน, ทำ Slide ไปจนถึงแยกหมวดหมู่ ได้อย่างอิสระง่ายได้ แถมแค่ตัวฟรีก็ใช้ได้เหลือ ๆ แล้ว รองรับการทำงานได้หลาย Platform พร้อมซิงค์ข้อมูลกันผ่านระบบ
ยุทธวิธีทางการตลาดในปัจจุบัน การสื่อสารตัวตนของแบรนด์ออกไปให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ ถือเป็นอีกแนวทางสำคัญ เพราะคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่ชัดเจนนั้น สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ที่แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกผลิตภัณฑ์ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่คล้ายคลึง และเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเป็นหลัก ด้วยเหตุผลง่าย ๆ จากความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ ที่เชื่อมั่นว่าสิ่งที่มีความใกล้เคียงกับตัวเอง คือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียม The Reserve จากค่ายพฤกษา เป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่เรามองว่า สามารถหยิบยกเอาแนวทางสื่อสารการตลาด ซึ่งเน้นการถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์มาปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ทางการตลาด ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคาแรคเตอร์แบรนด์ที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับความต้องการที่จะเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างตรงจุด จนกลายมาเป็นแนวคิดใหม่ในการสื่อสารแบรนด์โดยใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างตามจุดเด่นของแต่ละโครงการ เพื่อสร้างภาพจำ และความคุ้นเคย รวมถึงเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แนวคิดการเลือกใช้สัตว์เพื่อสื่อสารคาแรคเตอร์ของโครงการที่ชัดเจนนั้นเริ่มมาตั้งแต่ The Reserve Thonglor 2 ที่เลือกใช้หมาป่าเป็นสัญลักษณ์ พร้อม Tagline “Reserve Your Nature” สื่อถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในย่านทองหล่อ ที่มักรวมกลุ่มแบบ Wolfpack เพื่อ Hangout ท่ามกลางแสงสี และความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนในย่านนี้ ต่อเนื่องมาจนถึงโครงการล่าสุดอย่าง The Reserve Phahol-Pradipat ซึ่งใช้ “เสือหิมะ” เป็นตัวแทนของนักล่าที่มีความทะเยอทะยานมุ่งมั่น และชื่นชอบการอาศัยอยู่บนที่สูง
ในยุคที่การทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบ Brick and Mortar เข้าสู่ยุคออนไลน์ในโลกดิจิตัลแบบเต็มรูปแบบ ต้องบอกเลยว่าใครปรับตัวได้ก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะในยุคที่ Digital Disrupt เทคโนโลยีมีบทบาทเข้ามาสู่ชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นนอนก็เปิดเฟสบุ๊คอัพเดทข่าวสาร กดเรียก Uber ไปทำงาน ซื้อของผ่านออนไลน์ และการทำธุรกรรมอีกมากมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต ยุคที่ต้องมีการปรับตัวอย่างมากเพื่อให้ธุรกิจตอบโจทย์กับความต้องการที่ไร้ขอบเขต เป็นโอกาสอันดีที่ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน THE PREMIER Success Forum 2017 : BEHIND the PRidE-TITUDE ที่จัดโดย บริการเดอะพรีเมียร์ ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดเวทีเล่าแนวคิดและแรงขับเคลื่อนชีวิตสู่เป้าหมายของ 4 บุคคลที่ประสบความสำเร็จบนโลกดิจิทัลในแต่ละสายงาน ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละคนมีแนวคิดที่เจ๋ง และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนยุคใหม่ เราจึงไม่พลาดที่จะนำแนวคิดดี ๆ ของเขาเหล่านั้นมาแบ่งปันกัน ยอด ชินสุภัคกุล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น “วงในดอทคอม” (wongnai.com) ถ้าพูดถึงเรื่องการหาที่กินใหม่ ๆ เรามั่นใจว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ”wongnai.com” เว็บไซด์ที่รวมรวมร้านอาหารอร่อย สถานที่เจ๋ง ๆ มาไว้ในที่เดียว
“You have to learn to be an investor if you want to become wealthy” คำพูดสอนสั่งของปู่ Warren Buffet ที่สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเราอยากที่จะประสบความสำเร็จ มีความมั่งคั่งในชีวิต เราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องบอกว่ามันไม่ง่ายเลย ที่จะรวย มั่งคั่ง ประสบความเสร็จได้ ง่าย ๆ อย่างที่เห็นบนแผงหนังสือรวยหุ้นที่เค้าว่ากัน แต่ถ้ามัวอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร เงินมันก็ไม่อาจงอกเงยขึ้นมาได้ หลายคนติดว่าแล้วจะเริ่มยังไง มันยากวุ่นวายเหลือเกิน วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงอยากมาแชร์ไอเดียเริ่มต้นเตรียมพร้อมลงทุนให้เงินงอกเงยไปพร้อมกัน ก่อนอื่นเลย หลายคนอาจคิดว่า แค่มีเงินก้อนแรกก็ลงทุนได้แล้ว สบายใจได้ แต่ปู่ Warren Buffet ยังสอนเอาไว้อีกว่า “Risk comes from not knowing what you’re doing” ความเสี่ยงที่โหดร้ายที่สุดคือ ไม่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
ติดหนี้ คำพูดที่ปวดใจ ใครๆก็ไม่อยากฟัง เมื่อภาระหนี้สินมีผลต่อความเป็นอยู่ และส่งผลต่อความเครียดทั้งตนเอง และคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหนี้สิน หนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนบ้านไม่ทัน ได้เงินเดือนมาจ่ายดอกเบี้ยก็หมด เงินต้นไม่หายไปเสียที การเป็นหนี้ เหมือนแบกหินก้อนใหญ่ไว้บนหลัง เราจะทำอย่างไรดี Lady P. มีเทคนิคเล็กๆน้อยมาแบ่งปันยามคุณติดหนี้ “ตั้งสติ จิตใจให้มั่น” ก่อนที่คุณจะเครียดจนหัวระเบิด ให้คุณหยุดตั้งสติก่อนที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง และสิ่งแรกที่คุณควรทำคือ หยุดก่อหนี้สินเพิ่ม ไม่ว่าคุณต้องลำบากแค่ไหน เพราะถ้าคุณหาหนี้ใหม่มาเรื่อยๆ หนี้เก่าคุณจะไม่มีวันหมด และหนี้ใหม่ก็จะเพิ่มเป็นหนี้แบบงูกินหาง ไม่จบไม่สิ้น “คิดใหม่ จัดสรรใหม่ เริ่มปรับตัวเองใหม่” เริ่มการทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย ของตนเองทุกวันตลอดเดือน ดูว่าในแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่ากินข้าว ค่าเดินทาง ค่าสังสรรค์ ค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ เมื่อทำเสร็จแล้วให้ดูว่าทั้งเดือนที่ผ่านมาใช้จ่ายไปเท่าไหร่และหมดไปกับค่าอะไรเป็นพิเศษ มีเหลือเก็บออมหรือไม่ หรือต้องดึงเงินเก็บมาใช้ทุกเดือน การที่คุณไม่เคยทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายเลย จะไม่รู้ว่าในแต่ละเดือนมีการใช้จ่ายเงินอย่างไร และหมดไปกับอะไรบ้าง “ตอนนี้คุณติดหนี้อะไรบ้าง” จดรายละเอียดหนี้สินของคุณออกมาให้หมด ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนมือถือ ยิ่งปัจจุบันนี้ โปรโมชั่น
ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในวงการอสังหาฯ นอกจากเรื่องของการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมถึงการฟาดฟันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดุเดือด ยังมีแนวคิดดี ๆ ที่มองย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นในการสร้างพื้นฐาน พัฒนาคน พัฒนาบุคลากร รวมถึงผู้คนทั่วไป ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดียิ่งขึ้น กับการเปิดตัว AP Academy Lab แล็บเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาฯ แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพสำหรับคนเมือง ที่ยกห้องเรียน และห้องปฏิบัติการด้านอสังหาฯ มารวมเอาไว้ในที่เดียว ด้วยคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ และความสงสัยว่าแหล่งเรียนรู้ด้านอสังหาฯ แนวใหม่ จะฉีกกฎการเรียนรู้ในตำราให้สัมผัสได้จริง สามารถเข้าถึง เข้าใจง่ายโดยไม่น่าเบื่อได้อย่างไร UNLOCKMEN จึงขอเข้าไปเยี่ยมชม AP Academy Lab แล็บการเรียนรู้ดีไซน์เท่ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร บนชั้น 31 ของอาคารเลครัชดา ถนนรัชดาภิเษก ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ‘คุณแจ๊ค ปิตุพงษ์ เชาวกุล’ แห่ง Supermachine Studio สตูดิโอออกแบบไทยชื่อเสียงโด่งดังไกลในระดับสากล ร่วมกับ ทีม AP
หลังจากที่ UNLOCKMEN ได้นำผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสกับนิยามความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ ใน Article ก่อนหน้านี้ ที่ว่าด้วยเรื่องของความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ความเป็นที่สุดทางด้านธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่การบาลานซ์ชีวิตได้อย่างสมดุล พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังคงให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เพื่อเติมเต็มความสุขในพาร์ทของชีวิตส่วนตัว ถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่เหล่าผู้บริหารรุ่นใหม่มองว่า สามารถผลักดันให้ได้พบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง และยั่งยืน และในวันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ กับมุมมองความสำเร็จจาก 2 วงการธุรกิจ ที่เกิดจากการต่อยอดแนวคิดที่ได้จากการสังเกตไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และคนรอบข้าง นำมาพัฒนาจนเป็นรูปแบบที่ธุรกิจซึ่งช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์แปลกใหม่ไม่หยุดนิ่ง รวมถึงธุรกิจที่อาศัยการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับคุณค่าดั้งเดิมจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนยุคใหม่ เริ่มต้นจากมุมมองของ ปรางค์ – อภินรา ศรีกาญจนา ทายาทคนสวยของ บริษัท เอเชียประกันภัย ผู้ที่พิสูจน์ศักยภาพตัวเอง ด้วยการปลุกปั้นธุรกิจ startup ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนสายปาร์ตี้อย่าง U Drink I Drive บริการพนักงานขับรถส่วนตัว ที่จะพาคุณและรถส่วนตัวของคุณกลับบ้าน โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นหลัก เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบัน “เราอาจเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ของคนเมืองไม่ได้ แต่เราสามารถเพิ่มทางเลือกด้วยบริการที่ทำให้ชีวิตพวกเค้าดีกว่าหรือปลอดภัยกว่าได้” เชื่อไหมว่าด้วยนิสัยและทัศนคติคนไทยบางคนชอบมองว่าเมาแล้วขับรถกลับบ้านเองได้เป็นเรื่องเท่ แต่จากสถิติประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการโดนคนเมาขับรถชนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ปรางค์มองว่าเราควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วประกันค่อยเข้าไปดูแล เราเลยคิดว่าควรเพิ่มทางเลือกให้กับคนเมืองเหล่านี้ ด้วยอะไรที่ทำให้เค้ารู้สึกปลอดภัยและก็ไม่ได้ทำให้เค้ารู้สึกเชยด้วย ซึ่ง U Drink
หากพูดถึงร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ไม่ใช่แบรนด์สโตร์แล้วละก็ ในประเทศไทยคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Ari (อาริ) ร้านคอนเซ็ปต์สโตร์ที่เปิดขึ้นมารองรับสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของกีฬา รวมถึงไลฟ์สไตล์แบบสปอร์ต จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ต้องการสานฝันความชอบของตัวเอง จนเป็นแรงผลักดันถึงปัจจุบันทำให้ Ari (อาริ) สามารถขยับขยายร้านจนกลายเป็นแถวหน้าในเรื่องอุปกรณ์กีฬา เพื่อล้วงเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขา วันนี้ UNLOCKMEN จึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์แบบ Exclusive กับ คุณ เอ็กซ์ – ศิวัช วสันตสิงห์ ผู้ก่อตั้ง Ari (อาริ) ที่จะมาบอกเล่าเคล็ดลับความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ทุกท่านสามารถนำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองได้ UNLOCKMEN : ขอถาม background คุณเอ็กซ์ก่อนมาเริ่มทำร้าน Ari หน่อย? จริง ๆ ที่บ้านเป็นข้าราชการเกือบหมด คุณแม่ทำออฟฟิศ ส่วนคุณพ่อก็เป็นข้าราชการ ท่านก็ตั้งเป้าอยากให้เราเป็นข้าราชการเหมือนท่าน ก่อนหน้านี้ผมเลยทำงานอยู่กระทรวงการต่างประเทศ แต่คือมันไม่ไหว มันไม่ใช่ตัวเองก็เลยอยากออกมาทำธุรกิจของตัวเอง UNLOCKMEN : แล้วจุดเริ่มต้นของร้าน Ari มันมาจากไหน? เริ่มจากว่าเราชอบเตะฟุตบอล เราชอบรองเท้าสตั้ด อุปกรณ์กีฬาอะไรเงี้ย แต่เมื่อก่อนเมืองไทยมันไม่มีร้านขาย เราก็ต้องฝากเพื่อนซื้อจากต่างประเทศ หรือไม่ก็ต้องวิ่งไปตามร้านที่เขาหิ้วมาขาย เรารู้สึกว่า เอ้ย ทำไมมันไม่มีร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวฟุตบอลอย่างเดียว ก็เลยเหมือนแบบอยากทำ
ขึ้นชื่อว่า “ลูกค้า” ต่อให้ผู้ประกอบการจะยิ่งใหญ่คับฟ้ายังไงก็ต้องโดนคอมเพลน เพราะเราอาจจะผิดพลาดจนต้องแก้ไข หรือบางทีก็เป็นเรื่องจุกจิกกวนใจที่เราไม่ทันนึก แต่ลูกค้าเขาดันนึกถึง เพราะฉะนั้นการรับมือกับลูกค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในระดับไหนของธุรกิจก็ต้องเรียนรู้เอาไว้ วันนี้ UNLOCKMEN พามาดู 3 CEO ระดับชื่อก้องโลกว่าเขาเหล่านี้มีวิธีรับมือกับความเยอะของลูกค้าอย่างไรบ้าง รับรองว่าเรียนรู้แล้วเอาไปใช้ ไม่มีคำว่าเสียใจแน่นอน รับมือแบบมินิมอลสไตล์ Steve Jobs (CEO Apple) ดีไซน์สินค้าและการใส่เสื้อสีเดียวแบบเดิมซ้ำ ๆ ก็บ่งบอกถึงความความมินิมอลในจิตวิญญานของ Steve Jobs ได้มากพอสมควรแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าความมินิมอลนี้แผ่ขยายมาถึงการรับคำคอมเพลนจากลูกค้าด้วย!? จากคำบอกเล่าของลูกค่าผู้น่ารัก (?) อย่าง Aaron Brooker ที่เล่าถึงประสบการณ์หาญกล้าในการคอมเพลนสินค้าของ Apple แต่ไม่ได้จะเดินเข้า iStudio เรียกพนักงานมาแล้วก็บ่น ๆ ๆ ให้เสียเวลา เขียนอีเมลไปคอมเพลนกับ Steve Jobs แม่งเลยแล้วกัน Aaron Brooker ซื้อจอ monitor ขนาด 22 นิ้ว พร้อมกับ Macbook Pro ขนาด