“I want to make a timepiece that will not break, even if dropped.” จากประโยคที่แฝงความมุ่งมั่นของ Kikuo Ibe วิศวกรนาฬิกา G-SHOCK ที่ลั่นวาจาไว้เมื่อปี 1981 สู่การคืนชีพความคลาสสิกของเรือนเวลารุ่นดั้งเดิม DW5000C ที่นำเรื่องราวในอดีตมาแต่งเติมและสานต่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นผ่านโมเดลตัวใหม่ ‘G-SHOCK GMWB5000D-1’ ครั้งนี้หยิบยกนาฬิการุ่นเก๋ามาแปลงโฉมให้ทันสมัย แต่คงความงามแบบโบราณและโดดเด่นด้วยพื้นผิวสแตนเลสสตีลที่แวววับตั้งแต่สายนาฬิกาไปจนถึงตัวเรือน G-SHOCK GMWB5000D-1 ดีไซน์หน้าปัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพิ่มกรอบสไตล์วินเทจใช้ลายอิฐเป็นตัวเดินเรื่อง สร้างผิวสัมผัสแปลกใหม่ท่ามกลางความมันวาวระยิบระยับ ปรับกลไกและฟันเฟืองให้มีโครงสร้างแบบลอยตัว พร้อมใช้ชุดเรซินเชื่อมระหว่างรอยต่อของตัวเรือนและขอบสเตนเลส เพื่อให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น แถมทนทานและกันน้ำได้ถึง 200 เมตร มีน้ำหนักเพียง 167 กรัม แต่คงซึ่งประสิทธิภาพวัสดุแข็งแกร่งและยากต่อการทำลาย ราวกับเป็นเรือนเวลาที่ถอดแบบมาจากฅนเหล็กในภาพยนตร์ The Terminator ยังไงยังงั้น บริเวณหน้าปัดยังเพิ่มไฟ super illuminator LED ที่ส่องสว่างเป็นพิเศษและผู้ใช้ยังเลือกระยะการเรืองแสงได้แบบ 2 และ 4 วินาที มาพร้อมไทม์โซน
วงการโฆษณาเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ทำงานบนข้อจำกัดด้านเวลา พื้นที่เล่าเรื่อง และงบประมาณ แต่สิ่งที่ห้ามมีจำกัดคือจินตนาการ ดังนั้น ไม่ว่าโจทย์ที่ได้จะเป็นลูกค้าเจ้าเดิมที่พรุนสายตาผู้บริโภค อยู่มานาน หรือมีบรีฟที่จำเจขนาดไหน สิ่งที่คนทำงานต้องทำคือหยุดผู้บริโภคให้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ฝังความทรงจำของผู้บริโภคให้นาน วันนี้เราจึงรวม Print Ads ซึ่งเป็นหนึ่งในแขนงงานโฆษณาที่เราชื่นชอบมากที่สุด เพราะมันมีโอกาสเล่าเรื่องด้วยภาพเพียงภาพเดียวเท่านั้นจากหลายแบรนด์ดัง หลายภาพในนี้ทำให้เราไต่ไปถึงคอนเซ็ปต์แบรนด์จนเกิดความประทับใจ ลองมาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง แล้วภาพพวกนี้ Kill คุณได้เหมือนที่เรารู้สึกหรือเปล่า McDonalds 24/7 ผลงานจาก Cream Electric Art สตูดิโอครีเอทีฟโปรดักชันที่ออกแบบโปสเตอร์โฆษณาให้กับ Fast Food เจ้าของตัวอักษร M ที่เราคุ้นเคยซึ่งจำหน่ายตลอด 24 ชั่วโมง โผล่มาอยู่ทุกช่วงเวลาสำหรับคนทุกอาชีพ ไม่ว่าค่ำคืนดึกดื่นแค่ไหน คุณจะได้เห็นอักษรสีเหลืองอยู่เป็นเพื่อนเสมอในทุก ๆ กิจกรรม อาทิ การลาดตระเวนของหน่วยรักษาความปลอดภัย การเล่นเกม คนที่ติดไฟแดงระหว่างขับรถยามค่ำ คู่เพื่อนที่ติวหนังสือกัน KFC ชิ้นนี้หลายคนเคยเห็นเวอร์ชันแรกกันไปแล้ว สำหรับเวอร์ชัน 2 เอเจนซี่ดังอย่าง Ogilvy & Mather
เคยมีงานวิจัยของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) อ้างว่ากว่าจะออกมาเป็นสนีกเกอร์หนึ่งคู่ มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 13.6 กิโลกรัม ยิ่งถ้าการผลิตใช้วัสดุจากหนัง ตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นมากเป็นเท่าตัว แต่ต้องบอกว่าตอนนี้แฟชั่นสนีกเกอร์ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว หลายแบรนด์รองเท้าเริ่มหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่เพียงเน้นหนักแง่งานดีไซน์และประโยชน์ใช้สอย หากให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตโดยเลี่ยงการทำลายสิ่งแวดล้อมหรือน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในช่วงหลายปีมานี้เราเลยได้เห็นรองเท้าดีไซน์รักษ์โลกคลอดออกมาให้หนุ่ม ๆ หัวใจสีเขียวเลือกสอยกันไม่หยุดหย่อน UNLOCKMEN เลยอยากพาคุณสุภาพบุรุษไปชมสนีกเกอร์สุดเจ๋งจาก 5 แบรนด์ที่ทำจากสับปะรด ข้าวโพด พลาสติกชีวภาพ จวบจนขยะรีไซเคิล จะเท่และคลีนขนาดไหน ไปดูกัน! PLANT SHOE BY NATIVE SHOES สนีกเกอร์มินิมัลที่สร้างสรรค์โดยฝีมือของแบรนด์รองเท้าสัญชาติแคนาดา NATIVE SHOES คู่นี้ผลิตจากพืช 100% ได้ยูคาลิปตัส เปลือกสับปะรด ใยปอแก้วออร์แกนิก และยางพาราเป็นส่วนประกอบหลัก PLANT SHOE ดีไซน์มาให้เป็นแบบ unisex จึงสวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ด้านบนของรองเท้าทำจากเปลือกสับปะรดและใยปอแก้วออร์แกนิก ก่อนจะใช้น้ำมันมะกอกและกาวจากยางพาราเชื่อมวัสดุทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตัวพื้นรองเท้าด้านนอกทำจากน้ำยางพาราธรรมชาติ แต่ไม่ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทางปิโตรเคมีเหมือนกับยางชนิดอื่น ๆ ทำให้มันสามารถย่อยสลายจุลินทรีย์ได้เองตามธรรมชาติและเร็วกว่าปกติหลายเท่า รวมถึงกลายเป็นปุ๋ยหมักคุณภาพเยี่ยมได้อีกด้วย TREAD
เป็นอีกครั้งที่แบรนด์นาฬิการะดับตำนานอย่าง Patek Philippe ส่งผลงานเข้าสู่งานประมูลนาฬิกาเพื่อการกุศลชื่อดังอย่าง OnlyWatch ที่จัดขึ้น 2 ปีหน และครั้งนี้ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 นับจากเริ่มต้นครั้งแรกในปี 2005 จากคอนเซ็ปต์การประมูลนาฬิกาพิเศษที่มีเพียงเรือนเดียวในโลก ตรงกับชื่องานที่ตั้งไว้คือ “Only Watch” ทำให้งานนี้กลายเป็นงานที่รวมนาฬิกาหายากจากแบรนด์ชั้นนำทั่วทุกมุมโลก และอยู่ในระดับแรร์สุด ๆ เพราะบางเจ้าถึงกับออกแบบและผลิตนาฬิกามาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ OnlyWatch งานประมูลนาฬิการะดับโลกที่นำรายได้ทั้งหมดมอบให้กับ Monegasque Association องค์กรที่นำเงินไปสนับสนุนโครงการวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อเสื่อมดูเชน Duchenne muscular dystrophy (DMD) และแม้งานนี้จะเป็นงานประมูลการกุศลแต่อย่าได้ดูถูกความสามารถของคำว่า “เรือนเดียวในโลก” เด็ดขาด เพราะในปีที่ผ่านมาเงินสะพัดภายในงานประมูล OnlyWatch นั้นสูงถึง 1,300,000,000 ล้านบาท แน่นอนว่าไม่มีทางที่ Patek Philippe จะพลาดงานนาฬิกาการกุศลที่ใหญ่ขนาดนี้ ชื่อของ Patek จึงอยู่ในลิสต์หนึ่งในห้าสิบสองแบรนด์ที่จะนำนาฬิกามาประมูลในปีนี้ทันทีพร้อมระบุรุ่นนาฬิกาที่เคาะราคาไม่ได้ง่ายอย่าง Grandmaster Chime 6300A (Grandmaster Chime Ref.6300) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ หน้าปัดบอกเวลาทั้งหน้าและหลัง แถมได้รับการยอมรับจนถูกขนานนามให้เป็นนาฬิกาข้อมือที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก Patek Philippe ขึ้นชื่อเรื่องความประณีตในการสร้างระบบกลไกแสดงเวลาที่ซับซ้อน หน้าปัดทั้งสองด้านผลิตจากทองคำ 18 กะรัต ด้านหนึ่งใช้สีแซลมอนพร้อมแกะสลักลวดลาย Guilloche หรือที่เรียกว่าลายกิโยเช่ที่รับแรงบันดาลใจจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ออกมาเป็นลายเส้นบนหน้าปัดนาฬิกา รังสรรค์โดยช่างฝีมือที่รับประกันว่าเป็นงานทำมือ
เพราะการแต่งกายไม่ได้เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่ม แต่การแต่งกายบ่งบอกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตน ไปจนถึงแสดงวิธีคิดเบื้องลึกของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนาฬิกาซึ่งถือเป็นไอเทมคู่ใจ ใคร ๆ ก็มองเห็นได้ง่ายจึงสามารถบอกเล่าเรื่องราวของผู้สวมใส่ได้ไม่น้อย การจะเลือกนาฬิกาสักเรือนที่ตอบโจทย์สไตล์การแต่งตัว แต่ขณะเดียวกันก็มีแก่นและคอนเซปต์ชวนค้นหาจึงเป็นเรื่องสุดท้าทายสำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่นิยมชมชอบวิถีมินิมัลและต้องการไอเทมที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ก็ยังต้องการนำเสนอแก่นแท้และวิธีคิดสุดลึกล้ำเพื่อแสดงให้เห็นว่าภายใต้ความเรียบเท่ ตัวตนของเรามีเรื่องราวมากมายรอให้ค้นเจอ วันนี้เราจึงมีไอเทมสำหรับผู้ชายผู้หลงใหลความมินิมัลมาแนะนำ “ISSEY MIYAKE 1/6” นาฬิกาดีไซน์เรียบเท่ แต่อัดแน่นด้วยคอนเซปต์และไอเดียเบื้องหลังการดีไซน์สุดลึกล้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tradition Scale หรือ เครื่องมือวัดรุ่นเก่า อีกทั้งยังเป็นการร่วมงานครั้งสำคัญระหว่างแบรนด์ ISSEY MIYAKE WATCH Project และ Nao Tamura ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก แม้ปกติ Nao Tamura จะออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ไลต์ติ้งและอื่น ๆ มาไม่น้อย แต่ความพิเศษสำหรับงานดีไซน์ชิ้นนี้คือการออกแบบนาฬิกาทั้งเรือนครั้งแรกของเธอ จึงยิ่งทำให้มุมมองการดีไซน์นั้นเต็มไปด้วยความสดใหม่ ดึงดูดใจ และไร้กรอบแห่งความจำเจมาจำกัด “วินาทีที่นาฬิกาพาดอยู่บนข้อมือ มันเสริมสร้างตัวตนและเอกลักษณ์ให้กับผู้สวมใส่ด้วย อาจพูดได้ว่านาฬิกาคือที่ซึ่งอารมณ์และฟังก์ชันรวมอยู่ด้วยกัน” – Nao Tamura สำหรับ Nao Tamura นาฬิกาจึงเป็นพื้นที่แห่งฟังก์ชัน แต่ในขณะเดียวก็มีอารมณ์อันซับซ้อนซ่อนอยู่ เธอต้องการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นมากกว่านาฬิกาทั่วไป
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่เป็นสาวกรองเท้าจากค่าย Nike โดยเฉพาะโมเดล Air Max 1 คงต้องเตรียมเงินกันให้พร้อม ถ้าได้เห็นภาพต้นแบบ “TINKER” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพร่างดั้งเดิมของรองเท้า Air Max 1 ที่ Tinker Hatfield เคยวาดไว้ตั้งแต่ปี 1984 ซึ่งมีภาพหลุดออกมาถึง 3 สีด้วยกัน หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าชายที่ชื่อ Tinker Hatfield เป็นใครหรือมีความสำคัญกับ Nike มากขนาดไหน แต่สำหรับสาวกของค่าย Swoosh คงทราบกันดีว่าเขาคือชายที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบรองเท้ามากมายในค่าย Swoosh ไล่ตั้งแต่ Air Jordan 3-15 รวมถึง Air Jordan XX, XXlll และ XXV รวมไปถึงรองเท้ากีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอย่าง Air Max 90 และ Air max 1 แต่ใครจะรู้ว่าภาพร่างของเขาที่วาดเอาไว้เมื่อ 35 ปีที่แล้วจะกลายมาเป็นแรงบันดาลในการออกแบบแคปซูล
ย้อนไปเมื่อ 40 ปีก่อน สมัยที่อินเทอร์เน็ตกับสมาร์ตโฟนยังไม่ค่อยคุ้นหู และเชื่อว่าระบบสตรีมมิ่งเพลงก็คงยังไม่เกิด ในตอนนั้นผู้คนที่หลงรักเสียงดนตรีต้องฟังเพลงผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักของมัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพกเพลงไปฟังได้ทุกหนแห่ง แถมผู้ใช้ยังไม่อาจเลือกเพลย์ลิสต์ที่ตนอยากฟังได้ตามใจนึก Masaru Ibuka และ Akio Morita สองผู้ก่อตั้ง SONY พร้อมกับทีมวิศวกรแผนกเทปจึงร่วมกันคิดค้นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา โดยมีโจทย์ในการออกแบบคือขนาดที่กะทัดรัดและสามารถให้ผู้ใช้เลือกเพลงฟังได้ตามต้องการ พวกเขาจึงนำเครื่องบันทึกเทปของนักข่าวมาดัดแปลง ตัดฟังก์ชันการอัดเสียงออกไปและเพิ่มวงจรสเตอริโอกับชุดหูฟังเข้าไปแทน ในยุคที่โลกยังไม่รู้จักเครื่องเล่นเพลงมากนัก ทำให้กระแสความนิยมของ SONY WALKMAN ก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่ผู้ผลิตรายแรกที่เข้ามาในตลาด แต่ต้องยอมรับว่าเครื่องเล่นเพลงชิ้นนี้มีวิวัฒนาการที่น่าทึ่ง และไม่นานนักชื่อของ WALKMAN ก็กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอย่างง่ายดาย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ SONY ได้จัดนิทรรศการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ครบรอบ 40 ปี ของ WALKMAN ใจกลาง Ginza ย่านชอปปิงที่คึกคักที่สุดของโตเกียว งานนี้มีการแสดงอุปกรณ์ SONY WALKMAN กว่า 230 เครื่อง ตั้งแต่ TPS-L2 รุ่นแรกของปี 1979 ยันรุ่นล่าสุดของปี 2019 ตัวงานแบ่งเป็นสองส่วนคือโซน
แบรนด์นาฬิกาเครื่องประดับสัญชาติอเมริกา Jacob & Co. ที่เหล่านักสะสมนาฬิการาคาสูงจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน ตอนนี้ได้ร่วมมือกับนักเตะชื่อดังแห่งยุค Lionel Messi และองค์กรการกุศล Only Watch ออกนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษสำหรับแฟนคลับกระเป๋าหนักที่ชื่นชอบในตัว Messi หนุ่มผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักยอดนักเตะชาวอาร์เจนตินาในตำแหน่งกองหน้าของทีมฟุตบอลบาร์เซโลนาอย่าง Lionel Messi เพราะเขาถือเป็นนักกีฬาที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะร่วมสมัยที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง และเคยคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกปี 2009 มาแล้ว นาฬิกาพลอยประดับไพลินเพื่อการกุศลที่ Messi ได้มีส่วนร่วมด้วยมีชื่อว่า Epic X Chrono “Messi” โดยใช้ทองคำขาว 18 กะรัต ประดับด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินตรงขอบนาฬิกาเหมาะสำหรับหนุ่มภูมิฐานที่กลัวว่านาฬิกาข้อมือเรือนโปรดจะซ้ำกับคนอื่น แต่งเติมสีน้ำเงินตรงขอบหน้าปัด ฐานระหว่างสายกับตัวเรือน ส่วนรายละเอียดในหน้าปัดก็ใช้สีโทนเย็นเป็นหลักจากนั้นใช้สีแดงของเข็มวินาทีตัดให้หน้าปัดโดดเด่นมากขึ้น ลงลึกรายละเอียดกันมากขึ้นด้วยตัวเรือนทำจากไทเทเนียม 47 มิลลิเมตร เม็ดมะยมสีแดงสดกับระบบโครโนกราฟที่แม่นยำ สำหรับปุ่ม START กับ STOP เลือกใช้สีขาวเหมือนตัวเรือนและใช้สีแดงสดกับตัวอักษรเหมือนกับเลข 10 และเข็มวินาที ซึ่งสีแดงและหมายเลข 10 ใช้ตามหมายเลขเสื้อเวลาลงสนามแข่งของ Messi พร้อมสัญลักษณ์ M ตามชื่อของ Messi ตรง
เชื่อว่าหลายคนคงพอรู้จัก STRANGER THINGS ซีรีส์ย้อนยุคที่ฉายในเน็ตฟลิกซ์มาแล้วสองภาค ว่าด้วยเรื่องเด็กชายที่หายตัวไปอย่างลึกลับและมีเหตุประหลาดเกิดขึ้นในเมือง ถือเป็นซีรีส์ที่ผนวกความลี้ลับและการทดลองทางวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างไร้ที่ติ แน่นอนว่าระดับความมันส์อยู่ในขั้นสุดและได้ใจผู้ชายหลายคนไปเต็ม ๆ หลังจากปล่อยให้แฟนซีรีส์ทนคิดถึงอยู่นาน STRANGER THINGS ภาค 3 ก็เตรียมลงจอเน็ตฟลิกซ์ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ต้องบอกว่าจุดเด่นของซีรีส์ที่เท่ไม่แพ้พล็อตเรื่อง คือสไตล์การแต่งตัวและกลิ่นอายของยุค 80s ที่ทำเอาหลากแบรนด์แฟชั่นต้องจับมาคอลแลปส์กับไอเทมต่าง ๆ ของตน แม้แต่โพลารอยด์เองก็ทนไม่ไหวต้องหยิบความไอคอนิกและดีเอ็นเอสุดเข้มข้นของซีรีส์เรื่องดัง มารังสรรค์เป็นกล้องโพลารอยด์รุ่นพิเศษ ‘ONESTEP 2: STRANGER THINGS EDITION’ ที่ดีไซน์ตัวกล้องให้กลับหัวล้อกันกับโลก upside down แถมออกแบบบอดี้ให้ดูเรียบง่าย ย้อนยุค และสื่อถึงความเป็น STRANGER THINGS ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ตัวบอดี้ดีไซน์ด้วยสีน้ำเงินและสอดแทรกความดุดันด้วยสีแดงดำ เสริมความคลาสสิกอีกทีด้วยฟิล์มโพลารอยด์ 600 แบบดั้งเดิม ทั้งยังผลิตฟิล์ม i-Type รุ่นพิเศษและออกแบบลวดลายบนขอบฟิล์มทั้ง 16 แบบตามสไตล์ยุค 80s บันทึกภาพแบบร่วมสมัยด้วยเลนส์ high-quality 2ft พร้อมจับภาพที่คมชัดและถ่ายภาพได้ดีในสภาพแสงที่น้อยสุดท้าทาย เปิดมุมมอง 41 องศาในแนวตั้งและมุมมองแบบ
ผู้ชายอย่างเราคงทราบกันดีว่า “รองเท้า” คือหนึ่งในไอเทมสุดไฮป์ที่สำคัญต่อการแต่งตัวในทุกสไตล์ ด้วยตัวเลือกของรุ่นและงานดีไซน์ที่มีมากมาย ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องแต่งกายที่ศิลปินหลายคนเลือกใช้เป็นแบบในการละเลงความคิดสร้างสรรค์ด้วยการดัดแปลงเอกลักษณ์จากสิ่งที่ชอบก่อนถ่ายทอดลงสู่รองเท้าโดยหลายครั้งก็ทำออกมางดงามจนรู้สึกว่าควรมีวางขายจริง เช่นเดียวกับผลงานดีไซน์ชุดล่าสุดที่ศิลปินหนุ่มชาวยูเครนเลือกใช้ “อากาศยาน” มาเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบรองเท้าทั้ง 3 รุ่นจากค่าย Swoosh Danya Shulipa ศิลปิน Illustrator สัญชาติยูเครน ได้เผยแพร่ผลงานผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ด้วยการนำเสนอรองเท้าจาก Nike จำนวน 3 โมเดลได้แก่ Air Force 1 Utillity, SF Air Force 1 และ Air Max 97 โดยรองเท้าแต่ละคู่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์สำคัญของอากาศยานสุดคูลที่ตัวเขาชื่นชอบ ซึ่งจะสวยงามมากน้อยแค่ไหนต้องมาชมด้วยตาคุณเอง เริ่มกันที่คู่แรกกับ Air Force 1 Utillity ที่เลือกใช้ยานอวกาศขนส่งของน่าซ่าอย่าง OV-103 Discovery มาเป็นแบบ โดย OV-103 ถูกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกระสวยขนส่งอวกาศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด จากการปฏิบัติภารกิจสำเร็จถึง 39 ครั้ง Danya Shulipa เลือกใช้โทนสีขาวดำแบบเดียวกันกับตัวกระสวยในอัปเปอร์และแถบคาดสีดำที่มีโลโก้ของนาซ่าติดไว้ ก่อนปักคำว่า