หลังจากผ่านพ้นช่วงต้นปีและเก็บสถิติหนังช่วงต้นปี 2019 ไปเป็นที่เรียบร้อย ในตอนนี้วงการภาพยนตร์กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปีอย่างเป็นทางการ ต้อนรับกันด้วยหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญ ที่ต่อคิวเรียงมาให้เราได้ดูและลุ้นกันจนแทบหยุดหายใจ UNLOCKMEN ขอแนะนำหนังสุดระทึกของเดือนสิงหาคมกันว่ามีเรื่องไหนที่น่าสนใจและได้กระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักวิจารณ์กันบ้าง MIDSOMMAR (2019) Midsommar (2019) ดำเนินเรื่องราวผ่านคู่รักที่เดินทางมายังประเทศสวีเดนเพื่องานเทศกาลในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ห่างไกลไร้ผู้คน สิ่งที่น่าสนใจของเทศกาลครั้งนี้อยู่ที่งานฉลองฤดูร้อนที่จะจัดขึ้นทุก 90 ปี โดยงานจะดำเนินต่อเนื่องไปถึง 9 วันที่พระอาทิตย์ตั้งอยู่กลางฟ้า ไม่ตกดิน ความกล้าของผู้กำกับ Ari Aster ที่ตัดความมืดซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของหนังสยองขวัญ และบอกเล่าเรื่องราวสุดสยองท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ ด้วยพล็อตหนังสุดแปลกที่กล้าแหกกฎการหลอนมาหลอกกันกลางวันแสก ๆ บวกกับเรื่องราวที่หยิบยืมมาจากนิทานพื้นบ้านแต่เล่าให้ผู้ใหญ่ดูทำให้ Midsommar กลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ถูกจับตามองและพูดถึงมากของปีนี้ไม่แพ้เรื่องไหน ๆ รวมถึงนักวิจารณ์บอกว่างานพิธีกรรมในเรื่องเป็นอะไรที่โคตรน่าขนลุก และคงต้องบอกว่าชื่อของค่ายหนังอินดี้อย่าง A24 ก็ทำให้ใครหลายคนวางใจพร้อมตีตั๋วเดินทางไปสยองขวัญพร้อมสองคู่รักที่เดินทางไปยังหมู่บ้านประหลาดแล้ว โดย Midsommar (2019) สามารถกวาดมะเขือสดจากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปได้ 82% READY OR NOT (2019) หลังจากที่ Ready or Not (2019) ปล่อยตัวอย่างหนังสั้น
ถึงแม้ Oasis จะไม่ได้กลับมารวมวงกันเหมือนก่อนเก่าอย่างที่ชาวเราเฝ้าภาวนา แต่ปี 2019 นี้ ก็นับว่าครึกครื้นมากทีเดียว เพราะทั้ง Noel Gallagher คนพี่ และ Liam Gallagher คนน้อง ต่างปล่อยงานเพลงใหม่ ๆ กันออกมาทั้งคู่ ถึงแม้ทั้งสองคนจะยัง #ตัดพี่ตัดน้อง (เอ๊ะ) ไม่ยอมพูดจาภาษาดอกไม้ใส่กัน แต่การปล่อยเพลงออกมาใน Timeline ใกล้ ๆ กันก็นับว่าพอยาใจแฟนคลับได้บ้าง (แต่จะชื่นใจกว่านี้ถ้าพี่ ๆ ยอมรียูเนียนเพื่อผม!) Black Star Dancing – Noel Gallagher’s High Flying Birds โดยทาง Noel Gallgher ก็เพิ่งปล่อย 3 เพลงใหม่ Black Star Dancing, Rattling Rose และ Sail On ออกมา ฟังจากดนตรีแล้วก็บอกได้เลยว่าคนพี่ตั้งใจจะเดินหน้าทำดนตรีแนวใหม่
วันหยุดแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อนหย่อนใจ เปิดเพลงนุ่ม ๆ สบายหู บางคนก็อาจจะออกไปชมนกชมไม้ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยา ซึ่ง ‘ธรรมชาติ’ มีพลังในการบำบัดจิตใจมนุษย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดนตรีที่ธรรมชาติก็เช่นกัน ในยุคที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ครองเมือง จะเปิดฟังศิลปินคนไหนก็ล้วนแล้วแต่มีซาวด์สังเคราะห์เข้ามาเกี่ยวข้อง เราไม่ได้จะบอกว่าอิเล็กทรอนิกส์เป็นเพลงที่ไม่ดี แต่บางครั้งเพื่อจะได้เข้าถึง ‘การพักผ่อน’ ที่แท้จริง คุณอาจต้องการเสียงดนตรีที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่านั้น และดนตรี Folk (โฟล์ก) คือทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับโจทย์นี้! เพราะขึ้นชื่อว่าโฟล์กแล้วจะยุคเก่าหรือใหม่ ความธรรมชาติของเครื่องดนตรีคือปัจจัยสำคัญ อีกทั้งเรายังได้เสพเนื้อเพลงดี ๆ ที่มักจะแฝงปรัชญาชีวิตด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้เรามีเพลงโฟล์กที่น่าสนใจมาแนะนำ ให้คอเพลงได้สุขใจสบายหู ตลอดช่วงวันหยุดนี้ NFWMB – Hozier ถ้าใครเคยฟังทั้ง 2 อัลบั้มของ Hozier แล้วพบว่าไม่มีเพลงนี้ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะ NFWMB ถูกแยกออกมาใน EP อัลบั้ม Nina Cried Power แค่กีตาร์ตัวเดียว เสียงคีย์บอร์ดคลอเบา ๆ กับเสียงร้องของเขาก็ทำให้เพลงดู ‘เต็ม’ โดยไม่ได้รู้สึกขาดอะไรไป รับประกันว่าเป็นมิตรต่อหูแน่นอน ส่วนคำว่า NFWMB ในที่นี้ ถูกย่อมาจาก Nothing
กระแสของเรื่องราวของดาราศาสตร์ อวกาศกับดวงดาว เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่เป็นระยะ แถมในช่วงนี้องค์การอวกาศชื่อดังอย่าง NASA ก็กลับมามีบทบาทในสื่ออีกครั้งกับการครบรอบ 50 ปี ของการขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของมนุษยชาติ และเมื่อพูดถึงอวกาศ ก็จะต้องนึกถึงบรรยากาศไร้แรงโน้มถ่วงนอกโลกกับสีดำสุดลูกหูลูกตาที่ยิ่งทำให้เคว้งคว้างกว่าเดิม ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ UNLOCKMEN เลือกหนังเกี่ยวกับอวกาศ 5 เรื่อง ที่ทั้งเศร้า เหงา หว่อง ไปจนถึงงุนงงมาให้ทุกคนได้ดูกันว่าชีวิตของเราในตอนนี้กับตัวละครในหนังใครจะเหงากว่ากัน The Martian (2015) ในขณะที่กลุ่มนักบินอวกาศกำลังสำรวจบนดาวอังคาร แต่กลับต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างพายุที่อาจสร้างความเสียหายให้กับยานจึงต้องยกเลิกภารกิจ ระหว่างการอพยพ Mark ถูกชิ้นส่วนของยานกระแทกจนกระเด็นออกห่างจากคนอื่นและทางยานก็ไม่พบสัญญาณชีพของเขา จึงต้องยกเลิกการค้นหาตัวเขาพร้อมนำยานออกจากดาวอังคาร แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ Mark ยังไม่ตาย Mark พาตัวเองไปยังศูนย์อาศัยไร้คนบนดาวอังคาร เขาตรวจสอบข้อมูลและพบว่ามนุษย์จะกลับมาที่ดาวอีกครั้งในอีก 4 ปี แต่เขามีอาหารที่จะประทังชีพเพียงแค่ 300 วัน ทำให้เขาต้องดึงความรู้เรื่องของพฤกษศาสตร์มาใช้ดำรงชีพพร้อมกับความรู้ทางวิศวกรรมเพื่อดัดแปลงรถ เครื่องยนต์ต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้นานที่สุด ในขณะที่โลกก็ทราบถึงการมีชีวิตของเขาและหาทางช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ The Martian (2015) เป็นผลงานกำกับของ Ridley Scott นำแสดงโดย Matt Damon และเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ‘การแข่งขัน’ กับ ‘วงการดนตรี’ ล้วนแล้วแต่อยู่คู่กันมาอย่างช้านาน ไม่ว่าจะแข่งบนเวทีประกวด, แข่งกันทำเพลงให้ฮิตติดชาร์ต, แข่งยอดวิวบน Youtube จนมาถึงแข่งยอด Streaming อย่างในปัจจุบัน ไหนจะบรรดานักวิจารณ์ที่ขยันออกมาตีตรางานเพลงกันเป็นว่าเล่น ใครโชคดีก็ถูกยกยอ หากโชคร้ายก็ถูกสาปจนยับเยิน ฟังดูอาจจะไม่ยุติธรรม เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือมาตรวัดสิ่งนี้ แต่ก็เป็นความจริงที่ศิลปินแทบทุกคนต้องพบเจอ SOMKIAT (สมเกียรติ) 5 หนุ่มอินดี้อารมณ์ดีวงนี้ก็เช่นกัน ทั้ง โบ๊ท (ร้องนำ), บอส (กีตาร์), นนท์ (กีตาร์), นัท (เบส) และ ยิ้ม (กลอง) ก้าวแรกในวงการเพลงของพวกเขาเกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นก็คือการแข่งขัน Coke Music Awards ปี 2010 ถึงจะได้รางวัลชนะเลิศ แต่กว่าจะได้ออกซิงเกิลแรกกับค่าย Smallroom ก็ผ่านไปแล้วถึง 2 ปีให้หลัง วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากชวนคุณ มาย้อนรอยเส้นทางสายดนตรีที่ไม่เรียบง่ายของพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน จากวงดนตรีนักศึกษาบนเวทีประกวด สู่ศิลปินมืออาชีพในค่ายอินดี้แถวหน้าของเมืองไทย พวกเขายังต้องแข่งอะไรอีกบ้างจนถึงทุกวันนี้
นอกจากความเพลิดเพลินและอรรถรสที่ได้รับชมภาพยนตร์ อีกสิ่งหนึ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้กัน คือการคอยลุ้นว่าพล็อตของหนังเรื่องนี้จะเป็นไปตามที่เราคิดไว้หรือเปล่า แล้วฉากเริ่มเรื่อง กลวิธีการเล่า ตลอดจนฉากจบจะสร้างความประทับใจได้มากน้อยขนาดไหน? แต่เราเชื่อว่าคงมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ทำให้หนุ่ม ๆ รู้สึกว่าตนถูกหลอก เปลี่ยนบริบทจากเซียนหนังผู้คร่ำหวอดในแวดวงจอเงินให้กลายเป็นคนโง่ใบ้ ตามไม่ทัน สังเกตไม่เห็น และคิดไม่ถึงกับเรื่องราวและฉากจบที่ดูจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เพราะมันดันมาจบเรื่องในแบบที่คุณไม่เคยวาดฝันไว้มาก่อน คำเตือน! ภาพยนตร์ดังต่อไปนี้ไม่มีการสปอยล์ฉากจบของเรื่องแต่อย่างใด THE SIXTH SENSE “I See Dead People” ประโยคดังที่หลุดออกจากปากเด็กชายผู้มองเห็นวิญญาณ ในภาพยนตร์บิดเบี้ยวอัดแน่นซาวด์ผีอลังการ THE SIXTH SENSE ที่เคยปล่อยความหลอน เครียด และกดดันกระโจนเข้าใส่จิตใจของผู้ชมมานับล้าน เนื้อเรื่องเล่าถึงเด็กชายผู้มองเห็นผีและนักบำบัดที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเด็กคนนี้ แต่น่าแปลกที่เคสเล็ก ๆ ของเด็กคนเดียวดันกระทบกระเทือนไปยังครอบครัวของนักบำบัดรายนี้ด้วย บทบาทการแสดงของเด็กหนุ่มที่ดูน่ารักพร้อม ๆ กับน่ากลัว และนักบำบัดที่เชื่อว่าเด็กเห็นผีจริง แต่ก็มิอาจสัมผัสได้ถึงวิญญาณเหล่านั้น หนุ่ม ๆ จึงจะได้ซึมซับความสนุกสนานไปพร้อมกับการพัฒนาของตัวละคร แต่ด้วยมุมมองกล้อง การตัดต่อ และกลการเล่าอาจทำให้คุณไม่สามารถจินตนาการถึงตอนจบของมันได้เลย MEMENTO จะเป็นยังไงถ้าคุณตื่นมาแล้วต้องรับรู้ว่าตัวเองความจำเสื่อม จนไม่อาจจดจำเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นได้แม้แต่เล็กน้อย ความรู้สึกนั้นเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่ตัวละครเอกในเรื่อง MEMENTO ต้องพบเจอ แต่ที่แย่กว่านั้นคือเขากำลังค้นหาฆาตกรที่ฆ่าข่มขืนภรรยาของเขา ทั้งที่ตนสูญเสียความทรงจำ
Jake Gyllenhaal เป็นนักแสดงชายในฮอลลีวูดที่แจ้งเกิดจากหนังสูตรสำเร็จและก้าวเข้าสู่หนังอินดี้และหนังอื่น ๆ เพื่อท้าทายความสามารถทางด้านการแสดงของตัวเอง ก่อนที่จะหวนกลับเข้าสู่แวดวงภาพยนตร์ Blockbuster อีกครั้งกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Spider Man: Far From Home (2019) กับบทบาท Mysterio ด้วยมาดเท่ ๆ กับดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมถึงฝีมือการแสดงที่มากความสามารถจนได้เข้าชิงรางวัลจากเวทีมากมายหาตัวจับยากนี้ ทำให้ UNLOCKMEN อยากจะชวนทุกคนไปย้อนดูหนัง 5 เรื่องที่เขาเคยฝากผลงานไว้ ลองมาดูไปพร้อมกันว่าภาพยนตร์เรื่องไหนของ Jake Gyllenhaal บ้างที่คุณไม่ควรพลาด SOURCE CODE (2011) เวลา 8 นาทีใช้ทำอะไรได้บ้าง ฟังเพลง เดินกลับบ้าน หรือเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ? ค้นหาคำตอบของเวลาไปกับ Jake Gyllenhaal ในภาพยนตร์แอกชัน-ไซไฟ ที่สอดแทรกความโรแมนติกไว้อย่างแยบยลกับเรื่อง Source Code (2011) เมื่อทหารนายหนึ่งตื่นขึ้นมาบนรถไฟพร้อมกับความมึนงงเพราะเขาตื่นขึ้นมาในร่างของคนอื่น เขาจะเริ่มนึกถึงตัวตนว่าเขาถูกส่งข้ามเวลามาด้วยเครื่องที่ชื่อว่า Source Code พร้อมกับภารกิจใหญ่เพื่อหยุดยั้งการระเบิดของรถไฟ โดยการย้อนเวลาแต่ละครั้งจะมีเวลาแค่ 8
บทเพลงและเสียงดนตรีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติที่ขาดไปไม่ได้ คนเราฟังเพลงเพื่อหาความรื่นรมย์ในหัวใจ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเรายึดปฏิบัติมาช้านาน แต่ใครจะเชื่อว่าวันหนึ่ง ‘เพลง’ ที่จรรโลงใจจะกลายเป็นอาวุธในการขับไล่หรือทรมานคนได้ แล้วยิ่งถ้าบอกว่าเพลงนั้นคือเพลงสำหรับเด็กอย่าง ‘Baby Shark’ ฟังดูก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเพลงพ่อแม่ลูกฉลามนี้ถูกนำมาเปิดเพื่อขับไล่คนแล้วจริง ๆ ! เพลง Baby Shark เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ย่าน West Palm Beach ในรัฐ Florida เมื่อมีกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนมากถูกทางการขับไล่ไม่ให้นอนบริเวณอาคาร Lake Pavillion ซึ่งเป็นอาคารกระจกใสริมน้ำที่เปรียบดั่งทำเลทองของเมือง แถมยังถูกใช้เป็นสถานที่จัด Event ต่าง ๆ มากกว่า 160 งานในปีที่ผ่านมา โดยวิธีขับไล่ที่ว่าก็สุดแสนจะอหิงสา ไม่ได้ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดทว่าเป็นการเปิดเพลง Baby Shark และ Raining Tacos เพลงฝึกร้องสำหรับเด็กเล็กที่แสนติดหู วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะนอนไม่ได้แล้วลุกหนีไป ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้แม้มันจะดูไม่ได้รุนแรงยังไง แต่ในสายตาของนักรณรงค์ หรือคอเพลงที่ก็อดรู้สึกเฟลเพราะความไร้มนุษยธรรมแถมยังนำเพลงยอดฮิตในหมู่เด็กไร้เดียงสามาใช้กับจุดประสงค์ที่โหดร้ายไม่ได้ เพลง It’s Raining Tacos ทำไมถึงต้องลุกมาทำแบบนี้ คนพวกนี้ผิดอะไร?
มันคงต้องมีกันบ้างที่คอเพลงชายฉกรรจ์ทั้งหลาย อยากจะสลับมาเสพของสวย ๆ งาม ๆ ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย Hardcore หรือนักรันวงการ Hiphop มาด Swag มาจากไหน บางเวลาคุณก็อยากจะพักผ่อน ฟังเสียงใส ๆ มองหน้าสวย ๆ ของเหล่าศิลปินสาวกันบ้างแหละ ซึ่ง UNLOCKMEN เข้าใจความรู้สึกดี! วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเพลงหลากหลายแนวจากเหล่าศิลปินสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม แถมเพลงยังพริ้มพราว ไว้ให้คุณได้เพิ่มเข้าเพลย์ลิสต์ หรือคลิกไปดู MV ให้ชื่นใจกันเล่น ๆ เผื่อจะมีคนที่คุณยังไม่เคยรู้จัก หรือรู้จักแล้วแต่ยังไม่เคยฟัง มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง Bad Guy – Billie Eilish หลายคนอาจจะรู้จัก Billie Eilish สาวน้อยอเมริกัน วัย 17 ปีคนนี้กันแล้ว เพราะเธอกลายเป็นป๊อปสตาร์ดาวรุ่งพุ่งแรงคนใหม่ประจำปีนี้ก็ว่าได้ เพลงของเธอเป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อป ถึงเสียงร้องจะใส แต่อารมณ์ในเพลงค่อนข้างจะหม่นและลึกลับ จึงถูกใจแฟนเพลงทั้งชายและหญิงที่ไม่ถนัดเพลงสายหวานกันถ้วนหน้า หากคุณนิยมเพลงเร็ว เบสหนัก ๆ ก็อาจจะถูกใจเพลงฮิตอย่าง Bad Guy
ย้อนไปในปี 1986 ภาพยนตร์เรื่อง TOP GUN ได้สร้างตำนานให้กับจอเงินแบบที่คนทั่วทั้งโลกลืมไม่ลง ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ครบรสและถูกกับจริตแมน ๆ ของผู้ชายเราเป็นที่สุด นอกจาก TOP GUN จะทำให้ Tom Cruise แจ้งเกิดในวงการฮอลลีวูดอย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอัดแน่นด้วยฉากแอ็กชันเอฟเฟกต์ผาดโผนบนอากาศ นำเครื่องบินรบและเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ มาเข้าฉากลำเป็น ๆ ให้ได้เห็นกันเต็มสองตา แถมสไตล์ความเนี้ยบเท่ของพระเอก Maverick ที่รับบทโดย Tom Cruise ก็กลายเป็นกระแสนิยมของผู้ชายในยุคนั้นด้วย ทั้งการสวมแว่นตากันแดดทรงหยดน้ำ ขี่บิ๊กไบค์คันเท่ หรือแม้แต่ใส่แจ็คเก็ตหนังหล่อ ๆ ล้วนเป็นแฟชั่นอมตะแห่งยุค 80s ที่ยังคงมีให้เห็นจวบจนทุกวันนี้ TOP GUN (1986) ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของเสืออากาศรหัสลับ Maverick นักบินขับไล่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่สงครามเหนือน่านฟ้าของอเมริกาและโซเวียตกำลังคุกรุ่น จนวันหนึ่งที่ Maverick ขับเครื่องบินขับไล่รุ่น F-14 Tomcat ทำภารกิจกับคู่หูตามปกติ แต่แล้วดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้เข้าต้องเข้าร่วมการฝึกในศูนย์ฝึกสอนยุทธการทางอากาศ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ‘TOP GUN’ สุดยอดโรงเรียนที่เคี่ยวกรำเหล่านักบินขับไล่ให้เชี่ยวชาญการรบทางอากาศ ที่ Naval Air