ในวันที่ตลาดคราฟต์เบียร์ในไทยกำลังก้าวไปข้างหน้าและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นทุกที คราฟต์เบียร์ที่บรรจุมาในขวดขนาดกะทัดรัดที่เราเห็นกันจนชิน ก็เริ่มเผยโฉมใหม่ในรูปแบบกระป๋องให้เราเห็นกันมากขึ้น โดยเฉพาะคราฟต์เบียร์ที่มาจากต่างประเทศที่มาในรูปแบบกระป๋องที่ทั้งสวย ทั้งน่าคว้ามากระดกจนเราแทบอดใจไม่ไหว แต่ UNLOCKMEN ก็เชื่อว่าทุกคนคงสงสัยพอ ๆ กันว่าทำไมเบียร์ถึงต้องมาในรูปแบบกระป๋อง ทั้ง ๆ ที่ดื่มจากขวดก็ดีอยู่แล้ว วันนี้ UNLOCKMEN เลยถือโอกาสชวน BEERCYCLOPEDIA สารานุกรมของคนชอบเบียร์ มาให้คำตอบชัด ๆ กันไปเลยว่า “ในวันที่คราฟเบียร์ตก (ลงสู่) กระป๋อง” ทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น? BEERCYCLOPEDIA: เมื่อประมาณเกือบ ๆ 3 ปีก่อน ผมเคยเขียนเรื่อง ขวด VS กระป๋อง โดยมีเนื้อหาที่บอกเล่าและอธิบายถึงความแตกต่างของบรรจุภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภท และทิ้งท้ายในทำนองทำนายทายทักว่าในอนาคตผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ในต่างประเทศจะหันมาใช้กระป๋องมากยิ่งขึ้น และแล้วไม่นานคำทำนายนั้นก็เริ่มเป็นความจริง ปัจจุบันผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายใหญ่อย่าง Stone Brewing Co. , Brewdog, Sierra Nevada, Founders Brewing Co. , To Ol, Evil Twin, Modern Times,
ได้ยินคำว่า “หนังสือให้ความรู้” เราก็นึกออกแต่หนังสือปกสีเคร่งขรึม เปิดมาเจอตัวอักษรเล็ก ๆ เรียงยาวเหยียดชวนหลับ แต่หนังสือ 5 เล่มที่ UNLOCKMEN ภูมิใจนำเสนอนี้คือหนังสือ 5 เล่ม 5 สไตล์ที่สดใสจี๊ดจ๊าดตั้งแต่หน้าปก (แค่ถือก็คูลแล้ว) แถมอัดแน่นไปด้วยสาระความรู้ที่เรารับรองว่าหาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ ที่สำคัญเป็นความรู้ สาระหนัก ๆ อย่างประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยาแต่อ่านง่าย ภาษาสนุก ทำความเข้าใจได้ในรอบเดียว อ่านจบนอกจากได้ความรู้ ยังได้ความสนุก ได้เรื่องไปเล่าต่อให้คนอื่นฟัง ช่วย UNLOCK ความสามารถในการส่งต่อความรู้ไปสู่วงเหล้า เอ้ย วงเพื่อนไปอีกแบบ ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ลองเปิดใจดูสักนิด แล้วเราจะรู้ว่าหนังสือให้ความรู้ ไม่ต้องอ่านแล้วทำหน้ายู่ยี่เสมอไป อ่านไปยิ้มไปได้สาระไปก็ได้ รับรองเลย! ประวัติศาสตร์ความเป็นไทยฉบับไม่น่าเบื่อเหมือนในตำราเรียน ไทยๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ผู้เขียน: ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ สำนักพิมพ์: Salmon Books ได้ยินคำว่าประวัติศาสตร์ ผู้ชายหลายคนก็พร้อมเบือนหน้าหนีแล้ว เพราะความทรงจำวัยเด็กกับตำราเรียนประวัติศาสตร์และการท่องจำปี พ.ศ. นั้นไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย ไทย ๆ
เมื่อพูดถึงพื้นที่ย่านจตุจักรหลายคนคงนึกถึงตลาด อ.ต.ก., สวนรถไฟ, สถานีขนส่งหมอชิต และขาดไม่ได้กับตลาดนัดจตุจักร อีกหนึ่ง Landmark หลักใจกลางกรุงที่ใครต่อใครต้องเคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่นตามเทรนด์ หรือเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสอง หาของวินเทจเก๋า ๆ รวมถึงของแต่งบ้าน ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง หนังสือเก่า ฯลฯ มากมายเกินจะอธิบาย แต่ถ้าจะให้เลือกร้านบรรยากาศเท่ ๆ เอาไว้ทานข้าว นั่งจิบกาแฟ นัดสังสรรค์ Hang Out กับเพื่อนฝูง ภาพร้านเหล่านี้สำหรับย่านจตุจักรอาจจะยังไม่ชัดเจนนัก ทั้งที่จริง ๆ แล้วทำเลที่ตั้งตรงนี้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS, MRT หรือแม้กระทั่งการเดินทางด้วยรถยนต์ที่สัญจรไปมาเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้อีกหลายสาย ใกล้กับศูนย์การค้า และอาคารออฟฟิศสำนักงานใหญ่อีกมากมาย ซึ่ง UNLOCKMEN จะพาทุกท่านไป Explore ร้านเด็ดน่านั่งในละแวกนี้ เพื่อเป็น Lifestyle Destination แห่งใหม่ เอาไว้เป็นทางเลือกสำหรับพักผ่อนหย่อนใจตอนเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ Brio Bistro & Bar ประเดิมร้านแรกกับโลเคชั่นหลักที่คุ้นเคยในย่านนี้ กับร้าน Brio Bistro & Bar
เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เดอะคิทเช่นเทเบิ้ล (The Kitchen Table) ที่โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) ยังคงเดินหน้าจัดบรั้นช์วันเสาร์สุดฮิต ‘ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ (W Does Brunch)’ และที่พิเศษกว่านั้นในปีนี้จะจัดถึง 2 ครั้งต่อเดือน ในทุกวันเสาร์แรกและวันเสาร์ที่สามของเดือน ยังคงจัดเต็มไปด้วยเมนูอาหารชั้นเลิศและเครื่องดื่มนานาชนิดจากมิกส์โซโลจิสต์ พร้อมดนตรีบีทส์มันส์ๆจากดีเจ และผสมผสานแฟชั่นเข้ากับอาหารด้วยการนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบที่ไม่มีใครเหมือน จากการร่วมมือกับดีไซเนอร์มากฝีมือ พร้อมสนุกสนานไปกับเวิร์คช็อป และการตกแต่งที่ซ่อนลูกเล่นจากดีไซเนอร์ที่ผลัดเปลี่ยนกันไปทุกๆสามเดือน นอกจากนั้นดีไซเนอร์และเชฟของเราได้ออกแบบเมนูพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากคอลเล็คชั่นของดีไซเนอร์นั้นๆ ‘W Does Brunch’ สำหรับเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน เตรียมพบกับ ‘Julie Baker & Summer (จูลี่ เบเคอร์ แอนด์ ซัมเมอร์)’ แบรนด์ที่นำเสนองานศิลปะเต็มไปด้วยสีสัน และความสนุกสนาน โดยคุณป่าน – ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวาดภาพประกอบมากฝีมือ ที่โดดเด่นด้วยภาพวาดจากลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ และสีสันสดใส ในสไตล์งานศิลปะแบบไร้เดียงสา หรือ นาอีฟอาร์ท
สำหรับชีวิตคนเมืองอันแสนจะเร่งรีบ ‘เวลา’ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผู้คนสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน ซึ่งแน่นอนว่าเวลาส่วนใหญ่นั้นถูกใช้หมดไปกับการทำงาน ทำให้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด แทบทุกคนเป็นต้องอยากใช้ไปกับการพักผ่อน ดูแลสุขภาพร่างกาย รวมถึงใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ แต่ในชีวิตจริงเวลาที่พอจะมีเหลือสำหรับพักผ่อน ยังต้องถูกแบ่งให้กับการออกไปติดต่อทำธุรกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมทางการเงิน จ่ายค่างวดบ้าน ค่าบัตรเครดิต รวมถึงจ่ายค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าเน็ต ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ นี่ยังถือว่าโชคดีที่ในปัจจุบันยังมีบริการต่าง ๆ คอยอำนวยความสะดวกให้เราไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการทำธุระเหล่านี้มากจนเกินไป ซึ่ง LINE Mobile (Beta) บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานเช่นเดียวกัน และความสะดวกที่ว่าไม่ใช่เพียงแค่ความสะดวกในขั้นตอนการชำระเงิน แต่ทาง LINE Mobile (Beta) ตั้งใจให้เราสัมผัสกับความง่าย สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก ทำได้ด้วยตัวเอง ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาพนักงานที่ช็อป ตั้งแต่การเริ่มสมัคร ที่ UNLOCKMEN ได้เล่าให้ฟังใน Article ก่อนหน้านี้ และในวันนี้เราจะมาลงลึกถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในพาร์ทของการใช้งาน LINE Mobile (Beta) ที่เคยเกริ่นเอาไว้ว่ามันสะดวก ยืดหยุ่น และง่ายดาย
PHRAYA (พระยา) Gold Rum (โกลด์ รัม) ซุปเปอร์พรีเมี่ยมรัมของไทยซึ่งมีความเชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการนำเสนอประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยมีแรงบันดาลใจจากความอุดมสมบูรณ์ของธาตุทั้งสี่บนผืนแผ่นดินไทย ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเปิดตัว PHRAYA อย่างเป็นทางการ โดยตั้งใจสื่อสารถึงจุดยืนของ PHRAYA ในเรื่องของความพิถีพิถันในการมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่า หรือ Craft of Refinement ในงานเปิดตัว Gold Rum สุดพิเศษครั้งนี้ ได้ทำการจับมือกับ “Mixologist” ชื่อดังของไทย และบาร์วัฒนธรรมไทยชั้นนำ นำเสนอเครื่องดื่ม 4 สูตรพิเศษที่ใช้ PHRAYA เป็นส่วนผสมหลัก ภายใต้ธีม “สี่พระยา” ซึ่งเป็นที่มาของเมนูเครื่องดื่มซุปเปอร์พรีเมี่ยมของไทย ได้แก่ พระยาบรรพต (ดิน), เจ้าพระยา (น้ำ), พระยาอัคคี (ไฟ) และ พระยาวายุ (ลม) ซึ่งได้รับเกียรติจากบุคคลชั้นนำที่มีไลฟ์สไตล์สะท้อนความเป็นไทย อาทิ คุณน้อย วงพรู –
โฮจิมินห์ซิตี้ (Ho Chi MInh City) หรือชื่อเดิมว่า ไซ่ง่อน (Saigon) หนึ่งในปลายทางบ้านใกล้เรือนเคียงเราที่เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่ล้วนอยากจะมาสัมผัสเมืองแห่งประวัติศาสตร์สไตล์ยุโรป แต่มีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียที่นี้สักหนหนึ่ง ตอนฟ้าออกแดดโฮจิมินห์จะเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกเข้ากันได้อย่างลงตัว สามารถเดินเที่ยวสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามได้แทบจะทั้งเมือง แต่เมื่อเวลาฟ้าเปลี่ยนสี มืดค่ำ ปลายทางแห่งนี้ก็มีเส้นทาง Unexpected มากมาย ที่ท้าให้ทุกคนลองไปสัมผัส จะเป็นแบบไหน UNLOCKMEN ได้รวบรวมสถานที่เปิดหูเปิดตา เปิดโลก ให้ทุกคนเห็นได้อีกมุมหนึ่งของโฮจิมินห์กัน Sax n’ Art Jazz Club กลิ่นอายตะวันตกยามค่ำคืนสไตล์ Jazz ที่ใครหลายคนไม่คาดคิดว่าจะซ่อนตัวอยู่ในนครโฮจิมินห์ ที่นี่เป็น Club Jazz เพียงแห่งเดียวของโฮจิมินห์ เจ้าของคือ Tran Manh Tuuan นักดนตรีชาวเวียดนามคนแรกที่ได้รับทุนการศึกษาจาก Berklee College of Music ในบอสตันและยังเป็นนักเป่าแซ็กโซโฟนที่รู้จักมากที่สุดในเวียดนาม ที่แห่งนี้ได้สร้างมาตรฐานความสุนทรีให้กับผู้ฟังทุกค่ำคืน จึงเป็นอีกสถานที่น่าประทับใจของหลากหลายนักเดินทางที่มาโฮจิมินห์ต้องไม่พลาดมาที่นี่สักหน สถานที่ที่ให้ชาวต่างชาติได้มีบทบาทเข้าร่วมบนเวที สร้างอรรถรสแก่ผู้มาฟังอีกด้วย Location : Level 23, Centec
การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางตลาดเบียร์ที่ไม่ได้เปิดทางเลือกให้เรามากนัก ผู้ชายแมน ๆ อย่างเราเลยมีโอกาสได้ลิ้มลองแค่เบียร์ลาเกอร์ไม่กี่ยี่ห้อ การชื่นชอบเบียร์ลาเกอร์ในตลาดก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ UNLOCKMEN ก็อยากชวนคุณมาเปิดโลกมิติใหม่ที่จะพาไปลิ้มลองความหลากหลายของเบียร์ที่จะชวนให้คุณช็อคว่า เฮ้ย แม่งมีเบียร์แบบนี้ด้วยหรอวะ? เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการเปิดสู่มิติพิศวงแห่งโลกของเบียร์ที่พ้นไปจากลาร์เกอร์ไม่กี่ยี่ห้อที่เราคุ้นเคย UNLOCKMEN ขอพาคุณเข้าสู่ Hair of the Dog ร้านเบียร์บรรยากาศสุดดาร์คเหมือนหลุดเข้าไปในหนังฆาตกรรม ด้วยฟีลเร่งเร้าแบบนี้จะมีอะไรเหมาะไปกว่าการกระดกเบียร์ IPA เบียร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความขมแต่สดชื่นให้ตื่นตะลึงไปพร้อม ๆ กัน Deschutes Fresh Squeezed IPA / ABV 6.4% Deschutes Fresh Squeezed IPA คือ IPA สัญชาติอเมริกัน ที่แค่ชื่อก็ฟังแล้วช่างสดชื่นเหมือนถูกกระแทกหน้าด้วยรสชาติของฮอปแบบเต็ม ๆ และด้วยความคั้นสดที่ถูกแปะป้ายตีตราตั้งแต่บนชื่อนี้เองที่ไม่ทำให้คอ IPA ต้องผิดหวังแน่นอน Deschutes Fresh Squeezed IPA มาพร้อมกลิ่นฮอปชัดเจนเตะจมูก หรือจะเรียกว่าถีบจมูกไปเต็ม ๆ เลยก็ว่าได้ ไม่เพียงแค่นั้นยังมีกลิ่นหอม ๆ ของผลไม้รสเปรี้ยว กลิ่นเปลือกส้มอวล ๆ ชวนให้สดชื่นสไตล์ผลไม้เมืองร้อนคั้นสด
กลับมาอีกครั้งกับโกลบอลแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ โมเอ็ท ปาร์ตี้ เดย์ 2017 (MOËT PARTY DAY 2017) จัดโดย โมเอ็ท แอนด์ ชองดอง (MOËT & CHANDON) แชมเปญสุดหรูจากประเทศฝรั่งเศส นับเป็นปีที่สองของโลก และเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นำโดย คุณชยานนท์ จุลดุสิตพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โมเอ็ท แอนด์ ชองดอง และ คุณธชิวา ทิพย์มโนวร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ โมเอ็ท ชองดอง บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโมเอ็ทโมเมนต์พร้อมกันกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ในวันที่ 17 มิถุนายน ตั้งแต่เที่ยงวันที่ประเทศนิวซีแลนด์เรื่อยไปจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ประเทศเม็กซิโก ในงานนี้มีเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล, กรณ์ ณรงค์เดช, ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก, กุญช์ณิชา
ถ้าจะให้พูดถึงเครื่องดื่มคู่ใจคนทำงาน ซึ่งหนุ่ม ๆ ทั้งหลายแทบจะขาดไม่ได้ คงหนีไม่พ้นกาแฟ ที่เริ่มจิบกันตั้งแต่เช้าวันใหม่ ต่อด้วยยามบ่ายที่เริ่มอ่อนล้า หรือในบางวันที่จำเป็นต้องโหมงานดึก อาจมีการอัพกาแฟเพิ่มในช่วงเย็น ไปจนถึงค่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ลดความง่วงความอ่อนเพลีย ซึ่งจริง ๆ แล้วคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ของกาแฟ ต้องยกประโยชน์ให้กับสารที่มีชื่อว่า ‘คาเฟอีน’ จากผลการทดลองพบว่าเมื่อคนเราดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนในร่างกายจะเริ่มทำหน้าที่โดยตรงต่อสมอง และประสาทส่วนกลาง โดยคาเฟอีนนั้นจะเข้าไปจับตัวกับ adenosine สารสื่อประสาทชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ผ่อนคลายการทำงานของสมอง และจำนวน adenosine ที่เพิ่มมากขึ้นตลอดวันคือตัวการหลักที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อยากพักผ่อน หนีไปนอนให้รู้แล้วรู้รอด แต่การที่คาเฟอีนเข้าไปจับตัวกับ adenosine นั้นไม่ได้แค่ไปจับตัวอยู่ด้วยกันเฉย ๆ เพราะคาเฟอีนยังเข้าไปบล็อกการทำงานของ adenosine ช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว ลดความอ่อนเพลีย และความต้องการพักผ่อน นอกจากนี้คาเฟอีนยังช่วยเพิ่มอะดรีนาลีนในกระแสเลือด รวมถึงเป็นตัวกระตุ้นการหลั่งของสาร dopamine ในสมอง ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง และมีผลต่ออารมณ์ความพึงพอใจของมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ชายอย่างเรานิยมดื่มเพื่อปลุกพลังสมอง ก่อนผจญกับงานกองโต หรือระหว่างเข้าประชุมที่ต้องเค้นไอเดียกันอย่างเข้มข้น แม้ว่ากาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ชายหลายคนขาดไม่ได้ แต่ความขี้เกียจคือปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคในการออกไปหากาแฟดี ๆ สักแก้วมาจิบเพิ่มพลัง จะเลือกแก้ปัญหาด้วยการซื้อกาแฟซองสำเร็จรูปมาตุนเอาไว้ก็ไม่ได้อารมณ์ความหอมกลมกล่อม หรือในกรณีที่ตัดใจยอมออกไปซื้อกาแฟที่ร้านโปรดบางทีอาจจะจบแค่การติดฝนอยู่หน้าออฟฟิศ ต้องยอมกลับมากินกาแฟสำเร็จรูปแบบหงอย ๆ