Maserati ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และบุคลิกโดดเด่น ที่เพียงได้เห็นก็ทราบทันทีว่าเป็น มาเซราติ อย่างแน่นอน นับเป็นรถที่กำเนิดมาพร้อมสไตล์ เทคโนโลยี และคาแรคเตอร์พิเศษ ตรงใจผู้มีรสนิยมสุดพิถีพิถัน และเป็นเสมือนบรรทัดฐานในอุตสาหกรรมยานยนต์มาโดยตลอด รถทุกรุ่นล้วนสะท้อนตัวตนของยนตรกรรมอิตาเลียนออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งด้านการดีไซน์ สมรรถนะ ความสะดวกสบาย ความหรูหรา และความปลอดภัย ล่าสุด Maserati ได้จับมือกับ เดวิด เบคแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์คนปัจจุบันของ มาเซราติ รังสรรค์ MC20 รุ่นพิเศษที่เกิดจากความหลงใหลในมนต์เสน่ห์เมือง ไมอามี ‘MC20 Fuoriserie Edition for David Beckham’ เปรียบเสมือนจดหมายที่เขาได้บรรยายความประทับใจต่อเมือง ไมอามี ซึ่งเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของนักฟุตบอลชื่อก้องโลก รถคันนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมพิเศษเรียกว่า ‘Fuoriserie’ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดการตกแต่งในแบบที่ตนชื่นชอบ เสมือนเป็นผืนผ้าใบสีขาว ที่พร้อมให้จรดปลายพู่กัน เพื่อรังสรรค์ยนตรกรรม มาเซราติ ที่สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครองได้ดีที่สุด ทีมนักออกแบบจาก Maserati Centro Stile และ เดวิด เบคแฮม ผสมผสานไอเดียบรรเจิด เกิดเป็น MC20 Fuoriserie Edition
MG เปิดตัว “ALL NEW MG5” ด้วยคอนเซ็ปต์ “BEYOND” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน เหนือชั้นกว่ารถยนต์ในกลุ่ม B –Sedan และ Eco-Car ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการขับขี่ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย ALL NEW MG5 เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่สะท้อนแนวทางการพัฒนาของเอ็มจี ประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) โดยมีรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-segment ทั่วไป จึงให้มีพื้นที่ภายห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงโปร่ง พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม การออกแบบคอนโซลกลางแบบ Driver-focus cockpit ที่ให้องศาที่เหมาะกับตำแหน่งคนขับ รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระดับมาตรฐานของ B-Sedan มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม
ถ้าหากให้เลือก Supercar คันหนึ่ง คุณจะเลือกรถแบรนด์อะไร? เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีคำตอบในใจที่แตกต่างกันไป เพราะความชอบและคาแรคเตอร์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหารถ Supercar ที่ครบเครื่องจริง ๆ ไม่ได้มีดีแค่ Performance แต่มันมีทั้งเรื่องราวประวัติความเป็นมาของ Supercar ที่สืบทอด DNA ผู้ชนะมาจากสนามแข่งแบบ 100% และที่สำคัญมันเป็น Supercar ที่ถูกประเมินค่าให้เป็นงานศิลปะระดับ Masterpiece รถ Supercar คันนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘Aston Martin’ History of Aston Martin ชื่อของ Aston Martin เป็นที่รู้จักในวงกว้างกว่าบรรดานักเล่นรถ Supercar หลังจากที่คนเห็นมันปรากฏตัวในภาพยนต์จากการเป็นรถคู่ใจของสายลับ James Bond 007 แต่จริง ๆ แล้ว แบรนด์ Aston Martin นั้น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1913 โดย 2 ผู้ก่อตั้งอย่าง Lionel Martin และ Robert
เรียกได้ว่ากระแสรถซิ่งยุค 90 นั้นกำลังมาแรงสุด ๆ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเรา แต่ต้องบอกว่ามันบูมไปทั่วโลก เห็นได้ชัดจากราคาที่หลายคนจะต้องร้องโอ้โห เพราะในรถบางคันบางรุ่นที่เป็นตำนานจริง ๆ นั้น ราคามันกระโดดขึ้นไปอยู่สูงกว่า Supercar มือ 1 รุ่นใหม่ ๆ ซะอีก แน่นอนว่า ด้วยราคา และเสน่ห์ของมันทำให้ทั้งนักสะสมรถ และนักลงทุนตาลุกวาว และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงของสะสมของคนรักรถ ที่น้อยคนนักจะไปได้สุดทางแบบนี้ กับนักสะสม JDM Car หรือ JAPAN DOMESTIC MARKET ที่จะมานั่งคุยกัน รับรองว่าจะต้องถูกใจนักซิ่งยุค 90 อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเราจะพาทุกคนไปดูรถซิ่ง JDM ยุค 90 ที่มีอยู่หลายคันแล้ว เราจะพูดเจาะลึกถึงรถอีกคันที่ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนาน และเป็น 1ใน 4 ราชา แห่งวงการรถ JDM 90 ซึ่งจะเป็นคันอื่นไปไม่ได้ นอกจาก ‘Honda NSX’ กับ ‘คุณล้าน ศักดิ์ชาย เกรียงสมุทร’
มีใครเป็นแฟน BMW แล้วรู้จัก BMW-Glas 3000 V8 Fastback Coupe’ prototype คันนี้บ้างมั้ยครับ? ไม่ต้องเสียใจถ้าคุณจะไม่รู้จัก เพราะมันเป็นรถที่แรร์ยิ่งกว่าแรร์ ระดับคันเดียวในโลกที่ปรากฎขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญแบบเฉพาะกิจ ย้อนกลับไปในปี 1966 BMW เคยตัดสินใจเข้าซื้อกิจการรถยนต์ค่ายร่วมชาติเยอรมันในนามว่า Glas ค่ายที่เริ่มต้นจากเครื่องจักรใช้ในฟาร์ม มาสู่มอเตอร์ไซค์สกูตเตอร์ และรถยนต์ในที่สุด เป็นที่รู้จักในด้านรถขนาดเล็กที่ชื่อ Goggomobil microcar แต่ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นจากค่ายรถจากอังกฤษ แม้ Glas จะดิ้นรถด้วยการออกรถที่มีขนาดใหญ่และสมรรถนะดีขึ้น อย่าง 2600GT SOHC V8 แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะกอบกู้สถานการณ์ จนต้องขายให้กับ BMW ไปในที่สุด อีกเหตุผลที่ BMW ตัดสินใจซื้อ Glas เพราะต้องการขยายฐานการผลิตให้กับ BMW 1500 รุ่นยอดฮิตที่ลำพังผลิตแต่ใน Munich แห่งเดียวไม่ไหวนั่นเอง นี่เป็นเหตุผลท่ีหลังจาก BMW เป็นเจ้าของเรียบร้อย ก็ทยอยหยุดสายพานการผลิตเดิมของ Glas ลงทีละรุ่น ๆ
ถือเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของ Jaguar ในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง I-Pace ออกมาสู่ตลาด จากแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์รถยนต์หรูอย่าง XJ หรือรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง F-Type คงไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ ๆ Jaguar จะควักเงินลงทุนหลายพันล้านปอนด์เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ผ่านการทดสอบเป็นระยะไกลนับล้านกิโลเมตร จนสามารถสร้างสรรค์ I-Pace ออกมาได้ ค่ายรถที่ไม่เคยผลิตรถยนต์ EV มาก่อน แต่กลับทำได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ครั้งแรก การันตีด้วยรางวัลมากมายทั้ง 2019 World Car of the Year, World Car Design of the Year, World Green Car awards, European Car of the Year นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้สำเร็จเพราะโชคช่วย สื่อหลายสำนักจึงเห็นตรงกันว่า Jaguar I-Pace เป็นรถที่มีความสำคัญสำหรับทั้งอนาคตของ Jaguar และอุสาหกรรมรถยนต์ เพราะ I-Pace
ในขณะที่อยู่บนท้องถนน คุณอาจจะเห็น Mercedes-Benz หรือ BMW ทุกรุ่นจนชินตา แต่ทุกครั้งที่เราเห็นรถยนต์ Audi บางรุ่น ที่แม้ราคาจะไม่ได้แพงระยับ มันกลับทำให้เราตื่นเต้นจนต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้ โดยเฉพาะรถในตระกูลทรง Avant ที่มีเสน่ห์และน่าสนใจกว่ารถ SUV หรือ Sedan ทั่วไป รวมถึงการตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม ในลุคที่สุดจะดุดันของ Audi A6 Avant ไม่บ่อยนักที่เราจะฟันธงได้ตั้งแต่เริ่มรีวิว เพราะตลอดเวลาที่เราได้ขับมัน นี่คือรถอีกหนึ่งคันที่เรารู้สึกประทับใจจนอยากจะแนะนำให้ทุกคนไปลองขับดูให้ได้ เพราะเมื่อเทียบราคาในตลาดกับสิ่งที่ได้จาก Audi A6 (C8) Avant 45 TFSI S-Line Black Edition นั้น ค่าตัว 4.29 ล้านบาท ถือว่าไม่แพงเลย เหตุผลที่รถทรง Avant มีเสน่ห์ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความแตกต่าง เนื่องจากจำนวนรถที่มีไม่มากบนท้องถนน จึงตกเป็นเป้าหมายของนักสะสมอยู่เสมอ ส่งผลให้ราคาของมันแข็งกว่าเมื่อเทียบกับรถ SUV หรือ Sedan 4 ประตู รวมถึงการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แถมแต่งยังไงก็หล่อ