‘ความเหงา’ เป็นความรู้สึกปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเหงาตอนที่ต้องอยู่คนเดียว บ้างเหงาตอนที่สายฝนโหมกระหน่ำยามค่ำคืน แต่ผู้ชายบางคนกลับรู้สึกเหงาขึ้นมาดื้อ ๆ ในที่ทำงาน แม้ตลอด 8 ชั่วโมงที่วุ่นวายดูจะไม่มีเวลาว่างให้ความเหงาเข้าแทรกได้ แต่ผลสำรวจของเว็บไซต์ CV-Library เผยว่ามีพนักงานกว่าครึ่งกำลังรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และเปล่าเปลี่ยวในที่ทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นไอ้ความเหงาที่แสนธรรมดานี้ดันส่งผลเสียต่อการทำงานของพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อ CV-Library หนึ่งในเว็บไซต์จัดหางานของอังกฤษได้สำรวจพนักงาน 2,000 คน เรื่องความรู้สึกเหงาในที่ทำงาน แม้พนักงานที่มีอายุระหว่าง 35-44 ปี จะเป็นช่วงวัยที่เหงามากที่สุด แต่ก็มีพนักงานกว่าครึ่งในบริษัทที่กำลังเผชิญปัญหาเช่นเดียวกันนี้ ปัจจัยที่ทำให้พนักงานรู้สึกเหงา เป็นเพราะพวกเขาต้องนั่งทำงานท่ามกลางหนุ่มสาวหน้าใหม่ไฟแรง เลยอดคิดไม่ได้ว่าตนแตกต่างจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จึงเลือกจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองมากกว่าเข้าไปทักทายหรือพูดคุย นานเข้าชีวิตที่ไร้บทสนทนากับเพื่อนร่วมงานจึงก่อตัวเป็นความเหงาโดยที่พวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรู้สึก ‘เหงา’ ในที่ทำงาน ไม่ว่าจะด้วยความต่างของช่วงวัย ลักษณะนิสัยส่วนตัว หรือบรรยากาศในออฟฟิศ นี่คือ 5 วิธีที่จะช่วยกำจัดความเหงาและทำให้คุณกลับมามีความสุขกับการทำงานอีกครั้ง! เริ่มบทสนทนากับเพื่อนร่วมงาน ออฟฟิศของคุณมีบรรยากาศเงียบเหงาหรือตัวคุณเองที่เงียบกันแน่? ถ้าไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในที่ทำงาน หนุ่ม ๆ อาจต้องพยายามสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ให้มากขึ้น เริ่มจากคำทักทายสั้น ๆ “อรุณสวัสดิ์ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” หรือประโยคบอกลาง่าย ๆ
นอกจากรถของเล่น เกมบอยตลับ และบรรดาหุ่นยนต์กันดั้มที่โตมากับเราตั้งแต่เด็ก ก็มีตัวต่อเลโก้ (LEGO) ที่เป็นหนึ่งในความทรงจำของเด็กผู้ชาย แถมยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจนถึงปัจจุบัน เลโก้ (LEGO) เป็นตัวต่อพลาสติกที่เริ่มผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1949 ที่เมืองบิลลุนด์ (Billund) ประเทศเดนมาร์ก จากฝีมือของช่างไม้ระดับปรมาจารย์ Ole Kirk Christiansen ที่สร้างก้อนอิฐพลาสติกหลากสีขนาดต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ นำมาต่อประกอบกันจนเกิดเป็นรูปร่างมากมาย CF Møller Architects สตูดิโอสถาปัตยกรรมแห่งเดนมาร์กจึงนำเอกลักษณ์ของเลโก้ มาถ่ายทอดผ่านดีไซน์ของอาคารสำนักงานใหญ่เลโก้ เพื่อให้สถาปัตยกรรมแห่งนี้สะท้อนความทรงจำในวัยเด็กที่แสนมีค่าของใครหลาย ๆ คน อาคารทั้งสองหลังที่สร้างขึ้นครอบคลุมพื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร ตัวโครงสร้างออกแบบให้เป็นรูปทรงเรขาคณิต วางก้อนอิฐขนาดใหญ่ด้านหน้าอาคาร เน้นการใช้โครงเส้นหนาและกระจกทรงสูงเพื่อมอบความรู้สึกที่เปิดโล่ง แถมยังมีตัวต่อเลโก้ขนาดยักษ์ที่ยื่นออกมาจากหลังคาเป็นจุดนำสายตาหลัก ทีมนักออกแบบอยากถ่ายทอดความภาคภูมิใจของเด็กคนหนึ่งที่ต่อเลโก้จนสำเร็จ จึงดีไซน์ภายนอกอาคารให้ดูสนุกสนาน แม้จะใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบเรขาคณิตบอกถึงความแข็งแกร่งขององค์กร แต่ก็สอดแทรกจินตนาการและความสนุกสนานแบบเด็ก ๆ ผ่านตัวต่อเลโก้ที่ซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ การออกแบบภายในก็โดดเด่นไม่แพ้ด้านนอก มีบันไดวนสีเขียวมะนาวและดีไซน์พื้นตลอดจนผนังให้เป็นหลากสีสัน นำแผ่นยิปซัมไฟเบอร์มาใช้เพื่อลดปริมาณการใช้โครงเหล็ก แถมยังใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลักในการออกแบบ สะท้อนสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) หรือ สแกนดิเนเวียน
เคยนับบ้างไหมว่าเราหมดเวลาไปกับการทำงานกี่ชั่วโมงต่อวัน? หากคิดเล่น ๆ คงประมาณหนึ่งในสามของวันเลยละมั้ง ตั้งแต่เรียนจบและเริ่มชีวิตการทำงานอย่างจริงจัง งานและชีวิตประจำวันก็ผูกโยงกันโดยสมบูรณ์ ถึงจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในออฟฟิศมากกว่าบ้านก็เถอะ แต่คงไม่ใช่ผู้ชายทุกคนหรอกที่จะทำงานอย่างผาสุกสวัสดี งานกองมหึมาที่ว่ายากดูเป็นเรื่องขี้หมาไปเลยถ้าเทียบกับคนและวัฒนธรรมองค์กร ไหนจะเอาเปรียบ ไหนจะความเละเทะของระบบบริหาร หรือแม้แต่ความจู้จี้จุกจิกน่ารำคาญของหัวหน้า ทั้งหมดนี้ทำให้เรามีทัศนคติเชิงลบกับองค์กร และเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหามากมายที่บ่มเพาะให้คุณกลายเป็นพนักงานในคราบตัวร้ายทำลายองค์กร แล้วพฤติกรรมไหนควรทิ้งไป ทัศนคติใดควรลบกันแน่? “งานนี้ให้คนอื่นทำเถอะครับ ผมคงไม่เหมาะ” การเลี่ยงจากหน้าที่และความรับผิดชอบ อันเนื่องมาจากความคิดว่าตนไม่สามารถทำงานบางอย่างได้ นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไร อย่าลืมว่าเราต้องฝึกฝนและทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แม้งานที่เคยทำจะมีข้อผิดพลาดหรือถูกตำหนิอยู่บ่อยครั้ง แทนที่จะก่นด่าองค์กรแล้วผละความรับผิดชอบออกไปให้คนอื่น จะดีกว่าไหมถ้าคุณเปิดใจยอมรับและนำข้อผิดพลาดในอดีตมาปรับปรุงงานปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าทุกสังคมการทำงานจะยอมรับคำว่า “ไม่อยากก็ทำก็ไม่ต้องทำ” เสมอไป การเลี่ยงงานยาก ๆ และนั่งเป็นพระราชาอยู่ในคอมฟอร์ตโซนต่อไป คงไม่ทำให้ทั้งคุณและองค์กรของคุณเติบโตขึ้นได้ “ถ้าไม่นับงาน ผมก็ชอบทำทุกอย่างในออฟฟิศ” อีกหนึ่งนิสัยที่แก้ไม่เคยหายคือความขี้เกียจทำงาน และความขยันขันแข็งกับอะไรที่ไม่ใช่งาน แม้อยู่ในชั่วโมงงานแต่เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการฟังเพลง เล่นเกม ตอบแช็ต หรือแม้แต่แสร้งพิมพ์ดีดมัน ๆ พร้อมสีหน้ามุ่งมั่นปนเครียดเพื่อให้หลายคนคิดว่าคุณกำลังทำงานอย่างหนัก คุณมักจะนั่งเหม่อลอยในห้องประชุม มาสายจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ หรือแม้แต่บ่นเป็นหมีกินผึ้งกับเรื่องหยุมหยิม หากทั้งหมดที่กล่าวมานี้บ่งบอกถึงความเป็นคุณ หนุ่ม ๆ อาจต้องพิจารณาตัวเอง แล้วรีบแก้ไขมันซะ! ก่อนที่จะสายและบ่อนทำลายองค์กรมากไปกว่านี้ “โคตรไม่ชอบขี้หน้าไอ้แว่นนี่เลยว่ะ” แม้การติฉินนินทาจะไม่ใช่เรื่องที่หลายคนสันทัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันยังมีให้เห็น จริงอยู่ที่การพูดคุยจะทำให้งานราบรื่นและนำมาซึ่งการทำงานร่วมกันอย่างสันติ
พอมาอยู่ในฐานะหัวหน้า หรือมีลูกน้องเป็นของตัวเองแล้ว เท่ากับว่าเรามีภาระ มีหน้าที่ ที่มันกดดันเรามากเพิ่มขึ้น หลายคนเจ๋งพอที่จะเป็นหัวหน้าในฝันที่ลูกน้องทุกคนอยากทำงานด้วย แต่บางคนยังไม่ใช่ แถมกลายเป็นฝันร้ายของลูกน้องอีกต่างหาก ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน ลองทำความรู้จักกับเทคนิคดี ๆ ที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำให้หัวหน้าทั้งหลาย ได้ใจลูกน้อง แบบคนมีกึ๋นเขาทำกัน เลือกของให้ถูกคน หากเราเต็มใจที่จะหยิบยื่นวัตถุดิบ อุปกรณ์ดี ๆ ของเจ๋ง ๆ ให้กับลูกน้องของเรา อย่าลืมว่าแค่อุปกรณ์เจ๋ง ๆ มันยังไม่พอ ต้องเลือกให้มันเหมาะกับคน ๆ คนนั้นด้วย หมั่นถามความต้องการของพวกเขาอยู่เสมอว่าเขาขาดอะไรในการทำงาน หรือต้องการอะไรเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานออกมาดีขึ้น พวกเขาจะได้เป็นนักรบที่พร้อมไปด้วยอาวุธที่แต่ละคนถนัด ทีนี้ออฟฟิศของเราจะไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่มันจะเป็นพื้นที่ที่พวกเขารู้สึกสนุกที่จะทำในสิ่งที่เขาถนัด กับอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ที่รอพวกเขาที่ออฟฟิศ สร้างโอกาสดี ๆ ให้โอกาสพวกเขาได้พักยืดเส้นยืดสาย ให้เขาได้พักสายตา รีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดใสอีกครั้ง หรือโมเมนต์อื่น ๆ ให้พวกเขากลับมามีกำลังใจอีกครั้ง อย่างในการประชุม ประเด็นไหนที่โดนปัดตกไป ลองให้โอกาสเขาได้เสนอประเด็นนั้นอีกครั้งแบบเต็มที่ ให้เขาเลิกกังวลกับเรื่องในอดีต และปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต และเต็มที่กับเรื่องที่อยู่กับเขาในปัจจุบัน นั่นทำให้ออฟฟิศกลายเป็นสถานที่ที่มีโอกาสดี ๆ เกิดขึ้นเสมอ
ที่ทำงานของคุณเป็นยังไงบ้าง ? พอเจอคำถามนี้เข้าไป ลองมองไปรอบ ๆ ตัวไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การเดินทาง เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า หากคุณรู้สึกไม่โอเคกับสักสิ่ง ก็เป็นสัญญานว่าเริ่มใช้ชีวิตการทำงานลำบากมากขึ้นแล้วล่ะ หากเป็นสภาพแวดล้อมก็ยังพอทนไหว แต่สำหรับคนรอบตัวในที่ทำงานนี่สิที่ยาก จะบอกว่าไม่ต้องสนใจสิวะ! ทำงานของเราไป แต่ถ้าคนนั้นเป็น “เจ้านาย” ล่ะ ? เราคงช่างมันไม่ได้หรอกนะ จะมีปัญหากับใครก็ได้ แต่จะมีปัญหากับเจ้านายไม่ได้! UNLOCKMEN จะช่วยหาทางออกให้สำหรับคนที่เตรียมจะงัดกับหัวหน้าอยู่หลายระลอก ลองสันติวิธีที่ไม่ต้องงัดกันให้เสียความสัมพันธ์กันดีกว่า สังเกตท่าที คุณอาจยังไม่แน่ใจว่าตกลงบอสคิดยังไงกันแน่ ลองสังเกตสิ่งเหล่านี้ดู ด้วยวุฒิภาวะของความเป็นหัวหน้าคงไม่มีใครบอกกันโต้ง ๆ ว่า “เฮ้ย ! ไม่ชอบขี้หน้าคุณเลยว่ะ” แต่อาจจะแสดงออกด้วยท่าทีอย่างอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็นภาษากายอย่างสายตา ท่าทาง หรือจะเป็นคำพูด ที่เป็นอะไรที่ดูออกง่ายกว่าพอสมควร ถ้าใครไม่ถูกชะตากับเรา และยิ่งถ้าเป็นหัวหน้า งานในมือคุณก็จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ลองสังเกตคำพูดประเภท “อย่าลืมนะ ว่าต้องทำนี่ นี่ แล้วค่อยไปนี่” “คุณลองทำแบบนั้นดีกว่ามั้ย?” ถ้าหากคุณรู้สึกว่าถูกเพ่งเล็งนั่นหมายความว่าคุณอาจไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานนั้นมากพอ แล้วมาดูวิธีรับมือในข้อต่อไป แสดงความกระตือรือร้น ทุกครั้งที่มีการเริ่มโปรเจกต์ใหม่ แสดงให้บอสเห็นว่าคุณเตรียมตัวมาบ้างแล้ว ทำเท่าที่ทำได้แบบเป็นธรรมชาติของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาแน่นปึ้ก 100%
ชีวิตวัยทำงานอยู่ในลูปเดิม ๆ ตื่น ทำงาน กลับบ้าน นอน ฟังดูอาจจะน่าเบื่อแต่ถ้าหากเรามีความสุขกับงานที่ทำ สภาพแวดล้อมดี เพื่อนดี เจ้านายดี ถือว่าเราโชคดีไปที่ไม่มีอะไรมาทำให้ลูปเดิมที่ต้องเจอไปอีกแสนนานมันน่าเบื่อขึ้นมา แต่ความเป็นจริงทุกคนไม่ได้โชคดีแบบนั้น อาจเจอเพื่อนไม่ดีบ้าง เจ้านายไม่ดีบ้าง หรือแม้แต่งานที่ทำเองก็เถอะ จะพาให้หมดไฟ หมดใจ กันไปแบบง่าย ๆ ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในนั้น แต่ยังไม่อยากถอดใจ อยากหาทางออกให้ตัวเองแบบไม่กระทบคนอื่น วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคดี ๆ ให้เราเปลี่ยนโต๊ะทำงานให้เหมือนนั่งทำงานที่บ้าน ไหน ๆ ก็เปลี่ยนคนอื่นมันยากนัก จะเปลี่ยนตัวเองก็ยากกว่า เปลี่ยนโต๊ะแม่งนี่แหละ ง่ายสุด ไม่มีปากมีเสียงด้วย หามุมสีเขียวไว้พักสายตา มุมสีเขียวสักมุมให้เราได้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น จะได้หายใจหายคอได้แบบโล่งขึ้นมาหน่อย พักสายตาล้า ๆ จากจอคอมพ์ฯย้ายมาที่มุมผ่อนคลายของเรา จะได้เยียวยาทั้งสายตาทั้งอารมณ์ ถ้าหากการเอาต้นไม้จิ๋ว ๆ มาวางมันดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ขี้เกียจรดน้ำ ดินหก มดขึ้น เราขอแนะนำ สวนในโหลแก้ว ที่เดี๋ยวนี้มีชุด kit ให้เราได้ตกแต่งเองตามสไตล์แบบง่าย ๆ และ หญ้าเทียมสติกเกอร์ มีขายตามร้านเครื่องเขียน ที่เอาไว้ใช้ในงานโมเดลอาคาร