ยังคงฉลอง 50 ปี BMW M อันอย่างต่อเนื่อง และนี่ก็เป็นการเปิดตัวที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบปีนี้ของ BMW กับการนำตำนาน BMW 3.0 CSL (E9) หรืออีกชื่อเรียกคือ BMW Batmobile รถแข่งที่ทำเวลา 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.8 วินาทีตั้งแต่ยุค 70s กลับมาโลดแล่นอีกครั้งใน 2023 BMW 3.0 CSL ซึ่งเป็นรถที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในตระกูล ความแตกต่างภายนอกผ่านการติดตั้งชุดพาร์ทใหม่รอบคัน โป่งล้อหน้าหลังที่ rear wing ขนาดใหญ่ที่ทำให้มันได้ชื่อว่า Batmobile แปะสัญลักษณ์ M Power ไว้เต็มพื้นที่ ดีไซน์ไฟท้ายและช่องดักอากาศ ผลิตจาก Carbon Fiber Reinforced Plastic ซึ่งผลิตและประกอบในโรงงาน Dingolfing ซึ่งเป็นโรงงานผลิต Rolls-Royce และติดตั้งแบบ hand-built เช่นเดียวกัน รวมถึงเส้นสาย M graphics บนตัวถังสี
Lunaz สำนักผู้เชี่ยวชาญด้านการจับ classic Range Rover มาชุบชีวิตด้วยขุมพลังไฟฟ้า เป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตปีละเพียง 50 คัน ในราคาเริ่มต้นคันละ 12 ล้านบาท แต่ดูจากภาพก็รู้ว่ายอดจองเต็มโควต้าทุกปี ผลงานของ Lunaz แบ่งเป็นสองรุ่นย่อย เริ่มจาก “Country” ในสีฟ้า Maya Blue เป็น Land Rover Range Rover รุ่นคลาสสิคที่นำมาตัดหลังคาแบบ drop-top ใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 360 แรงม้า แรงบิด 612 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ all-wheel-drive ด้านในตกแต่งอย่างหรูและทันสมัย ด้านหลังมีที่นั่งเลาจน์สำหรับผู้โดยสาร 6 คน ปูพื้นด้วยไม้ Mocca Walnut อย่างกับนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นโรงแรมหรู รุ่นต่อมาคือ “Town” ใช้ตัวถัง long-wheelbase Range Rover เน้นความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารมากกว่าจะเน้นลุย หลังคาสามารถเปิดได้แบบ open-top หากต้องการรับลม ภายในใช้จอ
Nissan Z GT4 เปิดตัวอย่างหล่อในงาน SEMA 2022 มาพร้อมป้ายราคา $229,000 หรือราว 9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีไทย เผื่อใครอยากซื้อไปทำรถแข่ง ถือว่าโหงวเฮ้งดีทีเดียว สำหรับตัวแข่งเวอร์ชันแรกของ Nissan Z ที่พัฒนามาเพื่อแข่งขันในรายการ GT4 class เผยโฉมแล้วบนเวที SEMA 2022 มาพร้อมขุมพลังเริ่มต้น VR30DDTT twin-turbo V6 450 hp 443 lb-ft of torque ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของ “Balance of Performance” (BOP) ที่จำกัด max output ไว้ไม่ให้จูนกันแรงเกินไป แปลว่ารถคันนี้ยังสามารถไปได้เร็วกว่านี้อีกหลายเท่าตัว ภายนอกของรถคันนี้แต่งขึ้นมาสำหรับงาน SEMA โดยเฉพาะ ดังนั้นรถแข่งคันจริงอาจจะมีสีและลวดลายที่แตกต่างออกไป ตัวเลข 23 บนฝากระโปรงรถเป็นเลข Exclusive Number ของ Nissan ซึ่งระลึกถึงประวัติศาสตร์ด้านการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในช่วงปี
กระตุกผ้าคลุมเผยโฉมออกมาแล้วครับ สำหรับ Hypercar คันล่าสุดที่สร้างขึ้นเพื่อลงแข่งขันรายการ FIA WEC World Endurance Championship (WEC) เป็นการกลับสู่การแข่งขัน Le Mans ในรอบ 50 ปี ภายใต้รหัส 499P ซึ่งสะท้อนดีไซน์แรงบันดาลใจจาก Ferrari 312 Group 6 ในปี 1971 และรถแข่งทั้งสองคันจะใช้หมายเลข 50 และ 51 จาก 312 เช่นเดียวกัน Ferrari 499P Hypercar ใช้ขุมพลัง hybrid เครื่องยนต์ 3.0-liter V6 Twin-Turbo ที่สร้างขึ้นใหม่โดย Ferrari Attivita Sportive GT sportscar racing department วางตำแหน่ง mid-rear ให้กำลังสูงสุด 680 horsepower พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าประกบล้อคู่หน้าให้กำลังอีก
ความร่วมมือที่สั่นสะเทือนทั้งวงการแฟชั่นและมอเตอร์ไซค์ Moto Guzzi จับมือ Gucci และ Palace ออกมอเตอร์ไซค์ลิมิเต็ดเอดิชั่นที่จะกลายมาเป็นคอลเลกชั่นระดับตำนาน งานสร้างสรรค์จากแบรนด์มอเตอร์ไซค์และแบรนด์แฟชั่นที่เป็นภาพแทนของอิตาเลียนสไตล์สุดคลาสสิคอย่าง Moto Guzzi และ Gucci ร่วมด้วย Palace แบรนด์สตรีทแวร์สัญชาติอังกฤษ ทั้งหมดอยู่ในโฉมของมอเตอร์ไซค์ที่ทุกคนตั้งตารอที่สุดของปีนี้ Moto Guzzi V7 ลิมิเต็ดเอดิชั่น กล่าวได้ว่านี่คือการปะทะและรังสรรค์อันยอดเยี่ยมระหว่างโลกที่ดูไม่อาจจะเชื่อมโยงกันได้ทั้งสองใบ ด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในวัฒนธรรมสิงห์นักบิดของ Palace เสริมด้วยวิสัยทัศน์สุดล้ำของ Gucci และที่ขาดไม่ได้คือ V7 หนึ่งในรุ่นรถที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Moto Guzzi มาพร้อมดีไซน์ที่เกิดจากการตีความใหม่ของแบรนด์ระดับโลกทั้งสาม Moto Guzzi V7 Gucci Palace จึงเปี่ยมด้วยรายละเอียดอันเฉียบล้ำ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลกมอเตอร์ไซค์ นี่คือโปรเจกต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Vault แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Gucci พัฒนาขึ้นเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างสรรค์ ซึ่งสอดพ้องกับวิสัยทัศน์ของ Moto Guzzi ที่สรรสร้างมอเตอร์ไซค์เพื่ออุทิศแด่จิตวิญญาณอันเป็นอิสระของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ พร้อมกับการวางจำหน่ายทางป๊อบ-อัพสโตร์บางแห่ง Moto Guzzi V7 Gucci
เรียกว่าเสียงแตกพอสมควร หลังเปิดตัว BMW M2 ใหม่ให้โลกได้ยลโฉมกันไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้เรามีรายละเอียดของชุดแต่ง M2 M Performance Parts แบบครบ ๆ มาให้ดูความดุเดือด ซึ่งจะเน้นทั้งด้าน Aerodynamics, Powertrain, Chassis และ Cockpit ด้าน Aero น่าจะเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของรถ ทุกจุดเน้นโชว์ texture ให้เห็นลวดลายของ carbon fiber โดยมีทั้งการใช้ full carbon และการใช้ carbon fiber-reinforced plastic ทั่วทั้งคัน ด้านหน้าเพิ่มอารมณ์ความซิ่งด้วยที่ลาก tow strap ใหม่เป็นสีแดงพร้อมโลโก้ตัว M ซึ่งเราเชื่อว่าเจ้าของ BMW สายซิ่งต้องนำไปติดรถตัวเองกันแน่นอน ส่วนด้านหลังเพิ่ม roof spoiler รับกับ wing หลัง ไล่ลมลงมาถึง diffusers ที่เปลี่ยนดีไซน์ท่อไอเสีย M performance titanium
Porsche ขยายไลน์ให้กับ 911 ด้วยการเปิดตัว 911 Carrera T (T = Touring) ที่เน้นฟิลลิ่งการขับขี่ไปอีกขั้น เครื่องยนต์ 3.0-liter twin-turbo flat-6 ให้กำลัง 379 hp แรงบิด 331 lb-ft กับน้ำหนักตัวราว 1,470kg ซึ่งเป็นรุ่นที่เบาที่สุดของ generation นี้ ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้ง seven-speed dual-clutch automatic และ seven-speed manual จาก Carrera S ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 290 km/h แม้จะมากับเครื่องยนต์รุ่นเริ่มต้น แต่ได้ช่วงล่าง Active sport suspension รวมถึง Sport Chrono package ที่รวม
แม้หน้าตาจะแปลกตา แต่มีหลายเหตุผลที่เราคิดว่า M2 รุ่นนี้น่าสนใจ เพราะนี่คือตระกูล M รุ่นสุดท้ายกับเครื่องยนต์เผาไหม้ 100% BMW M2 ใหม่ ใช้เครื่อง S58 twin-turbocharged 3.0-liter inline-six ตัวเดียวกับใน M3, M4, และ X3 M ให้กำลัง 453 horsepower, 550 Nm of torque 0-100 km/h ใน 3.9 วินาที โดยจะไม่มีรุ่น Competition ออกมาเหมือนรุ่นพี่ มีเกียร์ให้เลือกทั้ง eight-speed M Steptronic transmission และ six-speed manual transmission และจะมีเพียงระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (ไม่มีขับสี่ xDrive ให้เลือก ณ ตอนนี้) มิติตัวถังของ BMW M2
คุณจะสามารถอัพเกรดรถ hypercars ระดับเกือบ 1,000 แรงมัน ให้โหดขึ้นได้อีกแค่ไหน? ทีม RYFT บอกว่าสบายมาก พร้อมเผยผลงานชิ้นล่าสุด SF90 Competition Edition อัพเกรดหน้าตาเพิ่มความเท่และยกระดับชุด aerodynamic ให้ดียิ่งขึ้น RYFT Ferrari SF90 Competition Edition จัดเต็มด้วยพาร์ท carbon fiber กว่า 20 ชิ้น ออกแบบชุดท่อไอเสียและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งดีไซน์ทั้งหมด RYFT เรียกมันว่า “Functional Aero” เพื่อสื่อถึงกระบวนการในการคิดและผลิตมากมายหลายขั้นตอน กว่าจะได้ชุดแต่งที่สวยงามและใช้งานได้จริง ชุด part รอบคันล้วนได้แรงบันดาลใจจากรถรุ่นก่อน ๆ ของ Ferrari ไม่ว่าจะเป็น front splitter จาก 488 GT3 Evo สเกิร์ตข้างจาก Scuderia 16M มี active rear-wing ที่สร้าง
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดศักราชใหม่ของยนตรกรรมพรีเมียมด้วยการเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ เป็นครั้งแรก รถยนต์ซีดานพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ทั้งการขับขี่ที่เร้าใจ ความหรูหราสง่างาม และห้องโดยสารที่ให้บรรยากาศอบอุ่นสะดวกสบาย โดยรถยนต์ซีดานพรีเมียมไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition) บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ล้วนโดดเด่นทั้งในด้านความหรูหราสะดวกสบาย ความทันสมัย และความยั่งยืน ทั้งยังสะท้อนกลิ่นอายความสปอร์ตและความคล่องตัวในการออกแบบ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ สะท้อนความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู และจะมาเป็นยนตรกรรมที่นำพาอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และวันนี้ เราพร้อมเผยโฉมรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้แฟนบีเอ็มดับเบิลยูชาวไทยได้ชมเป็นครั้งแรก กับรุ่นรถยนต์ที่สะท้อนความโดดเด่นครบทุกด้าน ทั้งความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ ความสะดวกสบาย สุดยอดประสบการณ์การขับขี่