เมื่อ Pro surfer และวิศวกรมารวมตัวกัน ความมันส์จึงบังเกิดเป็น Yujet Surfer Electric Jetboard ผลงานการสร้างสรรค์สำหรับนักเซิร์ฟให้พร้อมเล่นได้ตลอดทุกน่านน้ำโดยไม่ต้องรอคลื่นอีกต่อไป Yujet Surfer Electric Jetboard หรือที่ทีมผู้คิดค้นเรียกมันว่าเป็นการนำเอาพลังของ Jetski มาใส่กระดานเซิร์ฟ ตัวบอร์ดทำจาก carbon fibre น้ำหนักเบาแต่ทนทาน ประสานพลัง Jet power ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจาก lithium-ion battery แบบกันน้ำ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึงเกือบ 40 km/h ชาร์จหนึ่งครั้งสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 40 นาที โดยมีโหมดให้เลือกผ่าน wireless controller เช่น Sports mode สำหรับใช้ความเร็วสูงสุด หรือ Beginner mode สำหรับมือใหม่ไปอย่างช้า ๆ การประกอบแบตเตอรี่และ fin ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ จึงสะดวกในการพกพา Jeremy Schneiderman หนึ่งในผู้ก่อตั้งพูดถึง Yujet Surfer
Kinship คือวัฒนธรรมคนเอเชียมักจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านครอบครัวเดียวหรือรวมกันหลายครอบครัว หลาย generation เช่นเดียวกับในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นความท้าทายในการออกแบบ Interior Design บ้านให้ตอบโจทย์หลายครอบครัวในพื้นที่จำกัด และนี่คือตัวอย่างบ้านโดย Ming Architects น่าจะเป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่ชอบบ้านสไตล์ Modern Industrial Loft กับรายละเอียดโหด ๆ และต้องรองรับสมาชิกครอบครัวใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต Venus House ไอเดียบ้านสไตล์ Modern สำหรับครอบครัวใหญ่ในสิงคโปร์ที่อาศัยอยู่ด้วยกันหลาย generation โดย layout บ้านทาวน์เฮาส์มีความคล้ายกับในประเทศไทย คือหน้าแคบแต่ลึก ความท้าทายคือการแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยยังคงความเป็นส่วนตัวสำหรับแต่ละครอบครัว ทีมออกแบบจึงแก้ปัญหาด้วยการเจาะเพิ่มชั้นใต้ดินเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านได้มาอีก 1 ชั้น และเปิดพื้นที่กลางบ้านให้แสงเข้าจากด้านบนผ่าน glass skylight เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้ลงมาอย่างทั่วถึง และยังช่วยเรื่องระบายอากาศ รวมถึงการออกแบบขั้นบันไดให้แสงส่องผ่านได้ แบ่งโซนต่าง ๆ ด้วยโทนสีและวัสดุการตกแต่งเพื่อสร้างความแตกต่างออกจากกันโดยอยู่ในโทนขาว ดำ เทา ตามสไตล์ Modern Industrial Loft แต่ที่เด็ดสุดของบ้านนี้คือสระว่ายน้ำ indoor บริเวณชั้นสองในห้อง Entertainment Room
ต้องขอบคุณ Ferrari และ Lamborghini Miura ในวันนั้น ที่ทำให้ Ferruccio Lamborghini (เฟอร์ลูซิโอ แลมเบอร์กินี) มีวันนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป Mr. Lamborghini คงเป็นได้เพียงแค่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีทางได้เติมเต็มความฝันในการสร้างแบรนด์ Supercars ที่ดีที่สุดในโลกอย่างที่เจ้าตัวใฝ่ฝันเอาไว้ ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า Lamborghini มีจุดเริ่มต้นจากบริษัทผลิตรถไถที่เกิดจากความอัจฉริยะของ Mr. Ferruccio Lamborghini ใช้ทั้งสมบัติเก่าและเศษซากหลังสงครามโลก บวกกับความรู้ด้านเครื่องยนต์ สร้างรถไถที่ไม่มีใครตามทัน ก่อนจะร่ำรวยจนซื้อ Supercars ดี ๆ เก็บไว้ขับเล่นมากมาย รวมถึง Ferrari แต่ระหว่างที่ขับไป ก็พบหลายสิ่งที่เจ้าตัวไม่ชอบ และรู้สึกว่า Ferrari ที่ถือว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในยุคนั้นยังไม่สามารถมอบสิ่งที่ Lamborghini ต้องการได้ ระหว่างทางก็นึกได้ว่า ‘กูก็ทำเองซะเลยมั้ยล่ะ” จึงตัดสินใจก่อตั้ง Automobili Ferruccio Lamborghini S.p.A ขึ้นมาในปี 1963 โดยใช้ทั้งความรู้ ความรวยจากการทำธุรกิจมาลงทุนซื้อตัวคนสำคัญจาก Ferrari อย่าง
ขวัญใจชาวซูบี้ที่ต้องรีบหามาไว้ในครอบครอง กับตัวแรงรหัสร้อน Subaru WRX S4 STI Sport# ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน มากับขุมพลังเดิม 2.0-liter เทอร์โบ 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการปรับแต่งช่วงล่างให้เหนียวแน่นหนึบพร้อมรับทุกสถานการณ์ และเปลี่ยนอุปกรณ์บางจุดเพื่อให้ขับขี่แบบสปอร์ตได้สนุกสนานมากขึ้น Subaru WRX S4 STI Sport# เป็นรุ่นพิเศษที่อัพเกรดมาจากรุ่นย่อย WRX S4 STI Sport EyeSight ค่อนข้างจะแยกยากถ้าไม่ใช่แฟนซูบี้ตัวจริง ภายนอกมีชุดแต่งใหม่ที่เพิ่มอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าสีดำ Dark Clay Silica กันชนหน้าเพิ่มช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านหลังเพิ่มสปอยเลอร์ดำ กันชนหลังเพิ่มรูระบายอากาศและเปลี่ยน rear diffuser ให้โหดขึ้นพร้อมปลายท่อออกด้านละสอง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วสีดำตามสไตล์นักซิ่ง ภายในมาพร้อมโทนสีดำขรึมทั้งห้องโดยสารสลับตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตจาก Recaro ปักโลโก้ STI หุ้มหนังกลับสลับหนังแท้เช่นเดียวกับพวงมาลัย
แม้ผลกระทบจากโควิดจะทำให้ตลาดรถยนต์ทั่วโลกซบเซาไปบ้าง แต่หนุ่ม ๆ ที่รักรถยนต์โดยเฉพาะสาวกของ Porsche 911 ยังคงมีเรื่องให้ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันอีกครั้ง เพราะโปรเจกต์ที่พัฒนาและผลิตเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวออกมาแล้วกับ Porsche 911 ตัวถังรหัส 992 Targa 4 และ Targa 4S ถ้าพูดถึงรถยนต์อย่าง Porsche 911 ผู้ชายส่วนใหญ่คงนึกถึงรุ่นสองประตู (Coupe) หรือเปิดประทุน (Convertible) มาเป็นภาพแรกในหัว แต่สำหรับ Porsche รุ่นเปิดประทุนดีไซน์คลาสสิกสไตล์ Targa ก็เป็นอีกรูปแบบที่ทุกคนอยากครอบครอง พวกเขาจึงได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดสร้างมันขึ้นมาให้เกิดใหม่อีกครั้งภายใต้รหัส 992 *Cool Fact: นอกเหนือจาก Porsche ยังมีรถรุ่นอื่นที่ใช้การเปิดหลังคาสไตล์ Targa อยู่ใน Chevrolet Corvette, Lamborghini Aventador Roadster, Ferrari 812 GTS เป็นต้น แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันซะทีเดียว เพราะอยู่กันคนละกลุ่มราคา แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Porsche เคยสร้าง 911
ร่วมเดินทางท่องเวลาไปสู่อีกมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลราวกับความฝัน นำพาคุณไปสู่ดวงจันทร์ ปล่อยใจล่องลอยไปในห้วงเวลาและอวกาศ ผ่านเรือนเวลา Arceau L’heure de la lune (อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน) กับหน้าปัดโฉมใหม่ นำเสนอมุมมองของดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวบริวารของโลกในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยแสดงภาพข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ทั้งจากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ไปพร้อมๆ กัน หน้าปัดย่อยสองหน้าปัดหมุนโคจรเหนือพื้นหน้าปัดที่ทำด้วยหินอุกกาบาตของดวงจันทร์ (Lunar) ดาวอังคาร (Martian) หรือแบล็ค ซาฮาร่า (Black Sahara) เผยภาพของดวงจันทร์ที่รังสรรค์จากแผ่นแม่มุก และเคลื่อนที่ไปพร้อมกับโมดูลพิเศษ ควบคู่กับกลไกซับซ้อนที่ HERMES ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ ถือเป็นเรือนไฮไลท์สำคัญของงาน Watches & Wonders 2020 ด้วยการออกแบบกลไกซับซ้อนที่ไม่เหมือนใคร นาฬิกา Arceau L’heure de la lune รุ่นนี้ ตีความและถ่ายทอดเรื่องราวความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาของ HERMES กลไกที่ห่อหุ้มภายใต้ตัวเรือนไวท์โกลด์หรือแพลทตินัม ให้สัมผัสบางเบาจนแทบไม่สังเกตเห็น หินอุกกาบาตฝังอยู่ในแผ่นแม่มุกก่อตัวเป็นห้วงอวกาศ โดยมีหน้าปัดย่อยเปรียบดั่งดาวเทียมหมุนโคจรอยู่เหนือดวงจันทร์ เพื่อปิดบังหรือเผยให้เห็นดวงจันทร์ในลักษณะที่ดูสมจริง แฝงลูกเล่นด้วยการสลับตำแหน่งกลับทิศทางให้ซีกโลกใต้มาอยู่บนซีกโลกเหนือ เป็นความคิดนอกกรอบที่แสดงถึงชั้นเชิง ชวนให้ผู้สวมใส่ได้สังเกต และปล่อยใจให้ล่องลอยตามจินตนาการท่ามกลางหมู่ดาวที่ระยิบระยับบนหน้าปัด
ถ้าเราพูดถึง BMW 8-Series ในวันนี้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึง BMW แบบ Grand Tourer สปอร์ต 2 ประตู รุ่นใหญ่สุดเก๋าของค่ายที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานในรหัส G14 (Coupe’) และ G15 (Covertible) ที่เรียกได้ว่ามีดีไซน์ที่สุดสวยงามผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แน่นอนว่ามันเป็นรถในฝันที่หลายคนต้องอยากได้ไว้ในครอบครอง แต่ถ้าพูดถึงรหัสเลข 8 เราต้องย้อนไปพูดถึงโมเดลที่สร้างมาตรฐานความเป็นที่สุดของ BMW ซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1989 และปัจจุบัน BMW 8-Series รหัส E31 ซึ่งเป็นผู้สร้างความขลังให้กับตัวเลข 8 ของค่ายใบพัดฟ้าขาว ก็ยิ่งทวีความ Rare เพิ่มมูลค่าในหมู่นักสะสมและผู้คนที่มีโอกาสได้เห็นมัน ส่งผลให้รถ 2-Door Coupe’ ที่มีจุดเด่นคือไฟ Pop-up headlight เพียงหนึ่งเดียวของตำนาน BMW ยังคงเป็นรถที่สวยงามเอาชนะกาลเวลา และไม่ว่าใครก็ต้องหันไปมองกันจนคอเคล็ดเสมอแม้เวลาจะผ่านมากว่า 20 ปีแล้วก็ตาม ในอดีตหลายคนเข้าใจผิดว่า BMW 8-Series คือรถโมเดลที่ต่อยอดมาจาก BMW 6-Series
จากตำนานการแข่งขันในยุค 60s ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่งานดีไซน์ “เวสป้า เรซซิ่ง ซิกส์ตี้” (Vespa Racing Sixties) กับ 2 รุ่นพิเศษ ทั้ง “เวสป้า สปริ้นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส เรซซิ่ง ซิกส์ตี้” (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Racing Sixties) และ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอชพีอี เรซซิ่ง ซิกส์ตี้ (Vespa GTS Super 300 HPE Racing Sixties) ด้วยคาแรคเตอร์สปอร์ตที่ยังคงกลิ่นอายคลาสสิกเอาไว้ ผ่านลวดลายกราฟิก บนตัวรถทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ลายกราฟิกสีเหลืองและทองบนรถสีเขียวเมทัลลิก (สี Green Racing Sixties) และลายกราฟิกสีแดงและทองบนรถสีขาว (สี White
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อ Khyzyl Saleem, Graphic Designer สาย Vehicle Artist ที่ชื่นชอบรถยนต์ และมักจะมีไอเดียดี ๆ สร้างสรรค์รถยนต์ที่ไม่เคยมีใครจินตนาการถึง ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยปลายนิ้ว และผลงานเท่ ๆ มากมายก็เคยถูกสื่อทั่วโลกหยิบไปนำเสนอกันมาแล้วนับไม่ถ้วน และเราเองก็เป็นแฟนคลับของ Saleem ด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะขอหยิบผลงานล่าสุด ที่เท่และล้ำจนปล่อยผ่านไปไม่ได้จริง ๆ กับการนำเอา Lamborghini Countach มาดัดแปลงใส่สไตล์จนเหมือนหลุดมาจากยุค Blade Runner โดยที่ไม่ได้มีการดัดแปลงโครงสร้างของ Countach เลยแม้แต่น้อย นับว่าเป็น Designer ที่บริษัทรถยนต์ควรจ้างไปร่วมทีมอย่างแท้จริง ทั้งหมดที่ Saleem ทำเพียงแค่เติมไฟ LED เข้าไปบริเวณด้านหน้าและหลัง ส่วนภายนอกมีการดัดแปลง bodyparts พร้อมเลือกใช้สี aluminium ทำให้ดูโหดขึ้นหลายเท่า ให้อารมณ์กลิ่นอายเหมือน Cybertruck กับ Delorean ผสมผสานกันอย่างลงตัว รายละเอียดทั้งหมดทำออกมาได้อย่างสวยงามจนหวังว่าจะมีใครเอาไปปั้นของจริงออกมาเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่เชื่อว่านี่คือฝีมือการ Retouch ภาพ เรามีตัวอย่างคลิปวีดีโอ MW
Supercar ที่ทุกสำนักยอมรับว่าออกไปได้สวยที่สุดคันนึง จากัวร์ เอฟ-ไทป์ โฉมใหม่ (New Jaguar F-Type) วิวัฒนาการสู่การถ่ายทอดถึงเอกลักษณ์ความสปอร์ตและความดุดันมากกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซินซูเปอร์ชาร์จแบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร กำลังสูงสุด 575 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยการปรับแบบพลศาสตร์ และเครื่องยนต์ Ingenium เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วย F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Coupe ราคาจำหน่าย 6,400,000 บาท F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Coupe R-Dynamic ราคาจำหน่าย 6,900,000 บาท F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Convertible