หากพูดถึง ‘ความร่วมสมัย’ หนุ่ม ๆ หลายคนคงมโนภาพไปถึงตึกรามบ้านช่องเก่าแก่และสไตล์การตกแต่งโบราณที่ดูจะหลุดออกจากความนิยมของคนหมู่มากไปแล้ว แต่แท้ที่จริงการตกแต่งแบบร่วมสมัย หรือ Contemporary Style เป็นการหยิบความนิยมของปัจจุบันมาผนวกเข้ากับเอกลักษณ์งานดีไซน์จากอดีตที่ยังมีเสน่ห์เหนือกาลเวลา การตกแต่งสไตล์นี้มักจะเน้นความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ทำให้พื้นที่ดู ‘มากล้น’ จนเกินไป อาจเลือกใช้โครงสร้างยุคเก่าและเติมแต่งความทันสมัยด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่น ๆ โดยไม่ได้มีกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับที่ตายตัว หากต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ก่อร่างขึ้นแล้วกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเท่านั้น ด้วยความเร็วเครื่องบิน 14 ชั่วโมง 30 นาที เดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังสเปน ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเกาะอิบิซา (Ibiza) หนึ่งในหมู่เกาะแบลีแอริกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากที่นี่จะโด่งดังด้านสถานบันเทิงยามราตรี เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน และมีสีสันของชีวิตกลางคืนที่เป็นจุดเด่นและเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศให้มาเยือน เกาะอิบิซาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนแสนสงบและซุกซ่อนโรงแรมสไตล์ร่วมสมัย ที่ไม่ได้ขัดแย้งแถมยังไปกันได้ดีกับสภาพแวดล้อมภายนอก La Granja Ibiza Dreimeta สตูดิโอออกแบบชื่อดังในเยอรมนีเปลี่ยนแปลงไร่อายุร่วม 200 ปีและกระท่อมเก่าคร่ำคร่าให้กลายเป็นโรงแรมร่วมสมัยบนพื้นที่ 10 เฮกเตอร์ ที่นี่มีห้องพักให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งห้องธรรมดาและเกสต์เฮาส์ มีสระว่ายน้ำ ห้องครัว และฟาร์มในตัว ทำให้เมนูอาหารของ LA GRANJA IBIZA แห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากผักผลไม้กว่า 30 ชนิด ทั้งบีทรูท,
ทุกครั้งที่เรานั่งดูรูปทรงผมเท่ ๆ จากดารานายแบบ พร้อมความรู้สึกชื่นชมว่าทรงผมแบบนี้สไตล์นี้ก็น่าจะเหมาะสมกับเราดี ว่าแล้วก็ยกหูโทรไปนัดคิวตัดผมกับร้านทำผมชื่อดังเจ้าประจำ “วันนี้คุณอยากตัดทรงอะไรครับ?” ช่างทำผมสุดเท่ถามพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม เราก็ควักรูป Reference ทรงผมที่เราต้องการเปิดให้ช่างดู “ไม่มีปัญหาครับ” ช่างกล่าวพร้อมลงมือตัดผมจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็เริ่ม Set ผมด้วยกรรมวิธีมากมายที่เราพยายามตั้งสติจำพร้อมสอบถามกรรมวิธีการเซ็ทผม ซึ่งช่างก็ค่อย ๆ อธิบายอย่างใจเย็น “เรียบร้อยครับ” ช่างทำผมกล่าวพร้อมกับสีหน้าของเราที่ยิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจในทรงผมใหม่สุดคูล แต่เวลาแห่งความสุขภายใต้ทรงผมที่เซ็ทอย่างสวยงามมักจะอยู่ได้เพียงชั่วข้ามคืน เมื่อถึงเวลาเช้าวันสำคัญที่เราอยากพกพาผมทรงใหม่ในความทรงจำล่าสุดไปอวดใครต่อใคร กลับต้องประหลาดใจที่เราทำทุกอย่างเหมือนที่ช่างอธิบายเป๊ะ แต่ผลที่ได้กลับต่างกันราวฟ้ากับเหว มันไม่ได้ดั่งใจ มันไม่เนี้ยบเท่าไหร่ มันไม่ใช่ทรงผมเมื่อวาน ไม่ว่าจะเป็นทรง Slick Back หรือ Side Part ที่ดูว่าทำง่าย กลับกลายเป็นทรงอะไรก็ไม่รู้ไปเมื่อเราลงมือทำเอง ที่ผ่านมาหลายคนได้แต่สงสัยแล้วก็ลืมมันไป วนลูปความดีใจปนผิดหวังในข้ามคืนแบบนี้ใหม่อย่างไม่รู้จบและไม่เข้าใจว่า “สาเหตุคืออะไร” เรามาตอบให้เลยครับว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่ “วอลลุ่ม” เราอาจจะเคยสงสัยว่าทำผมตัดผมทรงเดียวกับเพื่อนเป๊ะ แต่เพื่อนเรากลับเซ็ทออกมาได้เท่อย่างง่ายดายเพียงเป่า ๆ เสย ๆ ในขณะที่เรานั่งบรรจงม้วนทีละช่อ ใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมประโคมจนหนักศีรษะก็ยังเละไม่เป็นทรงอยู่วันยังค่ำ นั่นอาจจะเป็นเพราะลักษณะเส้นผมที่แตกต่างกันไปของผู้ชายไทย ส่วนใหญ่ชายไทยจะมีเส้นผมที่เล็ก ตรง และแบน ไม่มีวอลลุ่ม ทำให้จัดทรงผมให้เปลี่ยนทิศทางหรือยกตัวได้ยากมาก (แต่ก็มีข้อดีเรื่องสุขภาพเส้นผมที่มักจะดี เงางาม)
สินค้าแบรนด์เนมทำออกมาเพื่อใคร ? เราใช่กลุ่มเป้าหมายของพวกเขาหรือไม่ ? ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเดิมทีสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมถูกผลิตออกมาเพื่อคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น อย่างทวีปยุโรปที่เป็นแหล่งกำเนิดของแฟชั่นราคาสูงลิบก็ถูกทำออกมาให้กลุ่มราชวงศ์ของแต่ละประเทศ ขุนนาง หรือนักธุรกิจมหาเศรษฐีผู้มีอันจะกิน เมื่อเวลาผ่านไปสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมกลายเป็นตัวชี้วัดทางสังคมของผู้ใช้ บางคนคิดว่าถ้าใครมีเท่ากับรวย หรือใครมีจะได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามแบรนด์แฟชั่นหากินกับกลุ่มชนชั้นสูงไม่ได้ตลอดไป เพราะคนเหล่านี้ถือเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม แบรนด์ต่าง ๆ จึงเริ่มออกแบบสินค้าบางประเภทเพื่อเจาะกลุ่มคนอื่นบ้าง แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Hermes ทำการตลาดด้วยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามระดับฐานเงินเดือนไว้หลายกลุ่ม ตั้งแต่หลักแสน หลักล้าน จนถึงกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่าสินทรัพย์สภาพคล่องมากกว่า 22.757 ล้านบาทขึ้นไป (Tukko Nathida, 2019) และก็ไม่ต้องกลัวว่าหากแบรนด์เนมกลายเป็นของเกร่อแล้วคนชั้นสูงแรกเริ่มที่อยู่คู่กับแบรนด์จะใช้อะไร เพราะแบรนด์เหล่านี้ก็ออกไอเทมรุ่นลิมิเต็ดสุดหายากเข้ามายั่วน้ำลายแทน เมื่อแบรนด์แฟชั่น Hi-end ขยับเข้าหาผู้บริโภคหลากหลายมากขึ้นด้วยการเพิ่มสินค้าที่คนหลายกลุ่มเข้าถึงได้แทนการลดราคา จึงทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยอยากจะมีสินค้าแบรนด์เนมสักชิ้นเป็นของตัวเอง บางคนเก็บเงินซื้อกระเป๋ารุ่นที่อยากได้ บางคนจ่ายด้วยบัตรเครดิตไปก่อน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบดีไซน์การออกแบบของแบรนด์แต่เงินไม่ถึงเลือกหันไปซื้อของก็อปแทน คนไทยเคยชินกับไอเทมแฟชั่นก็อปเกรดเอ เกรดบี เกรดมิลเลอร์หรือเกรดอะไรก็ตามแต่ ทำให้ UNLOCKMEN อยากนำเสนอข้อดีของการใช้ของแท้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้เหล่าหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหาไอเทมเท่ ๆ สักชิ้นพิจารณาว่าทำไมเราถึงควรซื้อของแท้มากกว่าของปลอม คุณภาพของสินค้าที่ดีกว่า หนุ่ม ๆ หลายคนที่ใช้เครื่องหนังของสินค้าแบรนด์เนมคงพอจะรู้ถึงความทนทายาดของไอเทมเหล่านี้ เพราะมันผ่านการออกแบบที่พิถีพิถัน เกิดจากดีไซน์อันลงตัว วัสดุคุณภาพที่ใช้ทำก็เป็นของดีตามมาตรฐาน
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบกีฬาอเมริกันฟุตบอล NFL อเมริกันเกมสุดมันคงรู้ดีว่าตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนที่การแข่งขันในฤดูกาล 2019-2020 จะเริ่มขึ้น โดยความพิเศษของปีนี้คือวาระครบรอบ 100 ฤดูกาลของ NFL โดยส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครั้งนี้คือคอลเลกชันรองเท้า Nike Air Zoom Pegasus 36 แพ็คพิเศษ การแข่งขันนัดเปิดสนามของศึกคนชนคนในฤดูกาล 2019-2020 ระหว่าง Green Bay Packer และ Chicago Bears จะเป็นการประเดิมฤดูกาลแข่งขันที่ 100 ของ The National Football League (NFL) นับตั้งแต่เริ่มแข่งขันครั้งแรกในวันที่ 20 สิงหาคม ปี 1920 ซึ่งในฤดูกาลนี้ทางลีกเตรียมเฉลิมฉลองไว้อย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงทาง Nike ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักด้านชุดแข่งก็เตรียมคอลเลกชันรองเท้าชุดพิเศษออกมา โดยเลือกโมเดลรองเท้าวิ่งอย่าง Nike Air Zoom Pegasus 36 ตอนนี้ Nike Air Zoom Pegasus 36 ‘NFL Pack
แม้ Kobe Bryant สุดยอดนักบาสเกตบอลจะอำลาวงการยัดห่วงไปแล้ว แต่ผู้คนยังนิยมและสนใจรองเท้า Signature ประจำตัวเขาอยู่เสมอ ล่าสุด UNDEFEATED ค่ายจอมคอลแลปส์ก็เตรียมหยิบ Zoom Kobe 4 โมเดลสุดงามมาดีไซน์ใหม่อีกครั้ง หลังจากเคยประสบความสำเร็จจาก Kobe 1 Protro มาก่อนหน้านี้ UNDEFEATED ถือเป็นแบรนด์ที่จับรองเท้าคู่ไหนมา Collaboration ก็ได้รับความนิยมตลอด ในปี 2018 พวกเขาเคยจับโมเดลรองเท้าบาสเกตบอล Kobe 1 Protro มารีดีไซน์ใหม่ จนสี “Flight Jacket” และ “Purple” กลายเป็นของแรร์และเป็นรองเท้าที่มีราคาสูงระดับท็อปของตลาด ในปีนี้พวกเขาจึงกลับมาอีกครั้งด้วย UNDEFEATED x Nike Kobe 4 Protro Pack UNDEFEATED x Nike Kobe 4 Protro Pack แบ่งออกเป็น 4 สี แต่ละสีมาจากทีมใน NBA ได้แก่ Milwaukee Bucks, Phoenix Suns, San Antonio Spurs รวมถึงสีม่วง-เหลืองตัวแทนของต้นสังกัดของ
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันผู้ชายอย่างเราหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรูปร่างหน้าตาของตัวเองกันมากขึ้น แต่การดูแลตัวเองให้ดูดีอาจเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับผู้ชายหลายคนเพราะต้องเรียนรู้กันมากมายหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้า การดูแลผิวหน้าหรือจัดแต่งทรงผม กว่าจะทำความเข้าใจทุกเรื่องจนเริ่มจับทางได้ก็ต้องแบ่งเวลาจาก 24 ชั่วโมงของชีวิตมานั่งอ่านหรือทดลองทำด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน “เวลา” คือต้นทุนชีวิตที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะกับ Urban Men อย่างเรา ที่ต่างคนต่างก็มีธุระรัดตัว ทั้งงานที่ต้องจัดการ ความสัมพันธ์ที่ต้องดูแล ยังไม่รวมกิจกรรมตอบโจทย์ Passion ที่เราต้องแบ่งเวลาไปทำ ด้วยต้นทุนด้านเวลาที่มีอยู่จำกัดนี้เอง ทำให้ผู้ชายหลายคนล้มเลิกความตั้งใจจะดูแลตัวเอง เพราะเห็นว่าต้องเปลืองเวลากับความจุกจิกโดยไม่จำเป็น รวมถึงรู้สึกยุ่งยากเกินกว่าจะทำได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่อย่าเพิ่งกังวล เพราะ UNLOCKMEN พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ชายทุกคน STYLE GUIDE ของเราจึงแนะนำวิธีการเลือกเสื้อผ้า ทรงผม เพื่อผู้ชายหลากหลายไลฟ์สไตล์ อ่านครั้งเดียว นำไปปรับใช้ได้ตลอดทุกสถานการณ์ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือทริคเล็ก ๆ ที่จะช่วยประหยัดเวลาในแต่ละแอคทีวิตี้ เหมาะกับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการให้ตัวเองเท่ออกจากบ้านได้ทุกวัน แต่ไม่ต้องเสียเวลามากไป แถมสะดวกและทำได้จริง ถ้าพูดถึงชุดทำงาน หนุ่ม ๆ แต่ละคนล้วนเลือกสวมใส่เสื้อผ้าตามความเหมาะสมของงานตัวเอง จนทำให้บางคนมองว่าก็สถานที่เดิม ๆ ไปอยู่ทุกวันจะต้องดูดีไปเพื่ออะไร? แต่เชื่อไหมว่าช่วงเวลาของการทำงานนี่เองที่เราควรใส่ใจกับบุคลิกของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะการแต่งตัวอย่างเหมาะสมหรือการเข้าออฟฟิศด้วยทรงผมที่ชวนมอง ก็บ่งบอกถึงความใส่ใจ ความเป็นมืออาชีพ หรือแม้แต่ความคิดสร้างสรรค์ได้ เครื่องแต่งกายหรือทรงผมจึงอาจมีส่วนผลักดันให้คุณก้าวหน้าในอาชีพมากขึ้น
การร่วมงานกันระหว่างแบรนด์เสื้อผ้า Ready to Wear ชื่อดังอย่าง UNIQLO กับ Shonen Jump เมื่อปี 2018 อย่าง Uniqlo x Shonen Jump 50th Anniversary ถือเป็นคอลเลกชันคอลแลปส์ที่ได้เสียงตอบรับดีเยี่ยม และจากความนิยมล้นหลามในครั้งนั้น ทำให้ทั้งสองค่ายเตรียมส่งคอลเลกชัน ‘Shonen Jump’ for 60th Anniversary ตามออกมาให้แฟน ๆ มังงะหัวใจเต้นแรงแล้ว คอลเลกชันเสื้อยืดจาก Uniqlo และ Shonen Jump ในชุด 50th Anniversary ซึ่งประกอบไปด้วยเสื้อยืดลวดลายของการ์ตูนดัง ไม่ว่าจะเป็น Bleach , Captain Tsubasa, Dragon Ball, Gintama , Hunter x Hunter, Naruto, Rokudenashi Blues, Yu-Gi-Oh! และ Yu Yu hakusho ได้ใจหนุ่ม ๆ หลายคนโดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นหรือมังงะ
ย้อนไปในปี ค.ศ. 1950-1970 เป็นช่วงเวลาที่การออกแบบสไตล์บรูทัลลิสต์ครองความนิยมทั่วโลก เพราะเน้นการแสดงออกเชิงโครงสร้าง เลือกใช้สัจจะวัสดุอย่างคอนกรีตเป็นพระเอกของเรื่อง อวดพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ พร้อมเปิดให้เห็นเนื้อแท้ของวัสดุก่อสร้างอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่เพียงออกแบบเปลือกนอกของตัวอาคารด้วยรูปทรงเรขาคณิต แต่ยังนำแพตเทิร์นซ้ำไปซ้ำมาสร้างความโดดเด่นให้สถาปัตยกรรมสไตล์นี้ ซึ่งคอนเซ็ปต์การดีไซน์นั้นแฝงกลิ่นอายของยุโรปสมัยก่อนและคงเสน่ห์แห่งความร่วมสมัยมาจนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมที่ถูกนำมาใช้ในอาคารราชการ เพราะสะท้อนอุดมการณ์แรงกล้า BRUTALIST ARCHITECTURE ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่อัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์และความซื่อสัตย์สุจริต ในอดีตมันคือสิ่งแปลกใหม่ที่โค่นล้มความคิดเก่าคร่ำครึในแวดวงสถาปัตยกรรมไปได้แบบขาดรอย แถมรูปแบบงานดีไซน์ยังถูกนำไปใช้ในการออกแบบอาคารราชการและอนุสรณ์สถาน เนื่องจากบ่งบอกถึงความแข็งแรง มั่นคงหนักแน่น และตรงไปตรงมา แต่บางทีมันก็แสดงออกถึงความเป็นเผด็จการ เมื่อสังคมเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ความคิดความอ่านของผู้คนก็แปรผัน สถาปัตยกรรมแนวบรูทัลลิตส์ที่เคยงดงามถูกมองว่าโหดร้าย เข้าถึงยาก และดูเป็นนามธรรม ทั้งยังนำไปผูกโยงกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้รูปทรงเรขาคณิตและปูนเปลือยที่เป็นเอกลักษณ์กลับสื่อถึงความเป็นเผด็จการและแสดงความก้าวร้าวรุนแรง ต้องบอกว่าความคิดสมัยใหม่นั้นเจาะทำลายโครงสร้างของสถาปัตยกรรมแนวนี้ไปได้อย่างง่ายดาย แถมมีการประเมินว่าโครงสร้างแข็งแรงทนทานของสถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์ ต้องใช้เงินมหาศาลในการทำนุบำรุงและเป็นเรื่องยากที่จะดัดแปลงหรือแต่งเติม การกลับมาของสถาปัตยกรรมที่เคยถูกดูแคลน แต่แล้วแนวคิดที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าน่าเกลียดน่าชังในอดีต ก็หวนคืนสู่วงการสถาปัตยกรรมและกลับมาผงาดอีกครั้งอย่างสง่างาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีการหยิบเอารูปแบบงานดีไซน์คอนกรีตของบรูทัลลิสต์ มาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน แม้จะลดทอนความแข็งกร้าวของรูปทรง แต่ยังคงการเล่นแพตเทิร์นและคอนกรีตที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เปลี่ยนจากคอนกรีตเปลือยที่หนาเตอะวิวัฒนาการเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กกล้าที่ยังแข็งแกร่ง ทนทาน และงดงามเหนือกาลเวลาเช่นเคย Centre Point, London Habitat 67, Montreal Sirius Building, Sydney Robarts Library, Toronto Hayward
หลังจากคอลเลกชัน Adidas x Dragonball Z ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ดูเหมือนยักษ์ใหญ่ค่ายกีฬาอย่าง Adidas กำลังมองหาการ์ตูนเรื่องใหม่มาคอลแลปส์รองเท้าอีกครั้ง ล่าสุดมีภาพหลุดรองเท้าคู่ที่ 2 ในคอลเลกชันออกมาแล้วโดยเป็น NARUTO x ADIDAS ซึ่งอาจารย์จากทีม 7 อย่าง “ฮาตาเกะ คาคาชิ” ก็เป็นตัวละครผู้ถูกเลือกนั่นเอง ก่อนหน้านี้มีข่าวเล่าลือว่าค่ายสามขีดและ Naruto Shippeden หรือชื่อไทยที่ว่า นินจาจอมคาถา ผลงานของอาจารย์ Masashi Kishimoto หนึ่งในการ์ตูนดังจากแดนปลาดิบที่หนุ่มทั่วโลกหลงใหล โดยลือกันว่ากำลังซุ่มร่วมทำงานคอลแลปส์รองเท้าคอลเลกชันใหม่กันอยู่ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีภาพหลุดรองเท้าที่คาดกันว่าเป็นคู่ประจำตัวนางเอกของเรื่อง ฮารุโนะ ซากุระ ที่มีสีแดง-ชมพู คล้ายกับชุดหลักของตัวละคร รวมถึงสัญลักษณ์ T7 แปลว่า ทีม 7 ติดไว้ข้างเท้าด้านนอก รวมถึงแผ่นอินโซลสีม่วงที่มีรูปตัวละครอยู่ด้วย ซึ่งทำให้ผู้ที่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้พากันคาดเดากันว่าคอลเลกชันดังกล่าวใกล้สมบูรณ์แล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำข่าวลือไปอีกเมื่อมีรูปหลุดของรองเท้าคู่ล่าสุดซึ่งคราวนี้เป็นตัวละครโปรดของใครหลายคนอย่าง ฮาตาเกะ คาคาชิ ผู้เป็นอาจารย์ในทีม 7 ของเหล่าตัวเอก รวมถึงโฮคาเงะรุ่นที่ 6 ในเวลาต่อมา ผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นคือผ้าคลุมปากและผ้าคาดศรีษะที่ปิดตาข้างหนึ่งไว้ ซึ่งคนที่อ่านนารูโตะมาแล้วคงทราบกันดีว่าคืออะไร รองเท้ารุ่นประจำตัวของเจ้าของฉายา “นินจาก๊อปปี้” มาในรุ่น Copa
ผู้ชายทุกคนล้วนมี Golden Moments หรือช่วงเวลาสุดยิ่งใหญ่ที่น่าจดจำและมีความหมายต่อหัวใจของเรา แต่ถ้าต้องพูดถึง Golden Moments แห่งมวลมนุษยชาติที่หวนรำลึกกลับไปครั้งใดก็สัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เราทุกคนล้วนนึกถึง “ภารกิจพิชิตดวงจันทร์” จาก Golden Moments ของวันนั้นสู่วันนี้ ครบรอบ 50 ปีแล้วตั้งแต่นักบินอวกาศประทับรอยเท้าแรกลงบนดวงจันทร์จนพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์อย่างสิ้นเชิง ในช่วงเวลาครบรอบเหตุการณ์สำคัญที่สุดของมวลมนุษยชาติ โอเมก้า (OMEGA) สุดยอดแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกสัญชาติสวิสจึงฉลองด้วยจักรกลเวลา โอเมก้า สปีดมาสเตอร์ (OMEGA Speedmaster) รุ่นใหม่ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของนักบินอวกาศ ภารกิจอพอลโล 11 (Apollo 11) และ Golden Moments แห่งประวัติศาสตร์สุดพิเศษได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากย้อนกลับไปยังเดือนพฤศจิกายนปี 1969 นับเป็นเวลา 4 เดือนหลังจากที่ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ เรือนเวลา OMEGA Speedmaster รุ่นพิเศษก็ออกวางจำหน่ายเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของภารกิจพิชิตดวงจันทร์โดยเป็น Speedmaster รุ่นแรกของแบรนด์ซึ่งผลิตระหว่างปี 1969 – 1973 Speedmaster รุ่นแรกของแบรนด์นี้มีเพียงแค่ 1,014 เรือนเท่านั้น แต่ละเรือนยังมีหมายเลขประจำเรือนอีกด้วย โดยนาฬิกาหมายเลข 3 –