หลังจากมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่า Virgil Abloh ผู้กุมบังเหียนงานออกแบบเสื้อผ้าแผนก Menswaer จากห้องเสื้อสุดหรูอย่าง Louis Viutton กำลังมีแผนจะร่วมงานแบรนด์ Retail ยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดนอย่าง IKEA เพื่อออกแบบสินค้าร่วมกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ความคืบหน้าล่าสุดตอนนี้พวกเขาได้เปิดตัว Pop-up Store ของ Virgil Abloh x IKEA แห่งแรกขึ้นเพื่อใช้แสดงงานที่อยู่ในคอลเลกชันล่าสุด “markerrad” โดยเป้าหมายแรกคือมหานครปารีส “STILL LOADING“ คือชื่อของ Pop-up Store แห่งแรกที่ Virgil Abloh และ Henrik Most ซึ่งเป็นทั้ง Creative Leader ของ IKEA และ Project Partner เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยเลือกจะแปลงโฉมไนท์คลับชื่อดังใจกลางเมืองปารีส Nuits Faives เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดง โดยคอนเซ็ปต์ของมันถูกเล่าจากปาก Virgil Abloh ว่า “เราพยายามจับกลุ่มคนที่ต้องการตกแต่งบ้าน โดยมีโจทย์ว่าต้องการบ้านที่มาจากตัวตนของตัวเองและมีความแตกต่างจากบ้านทั่วไป เพราะคนส่วนใหญ่มักเติบโตมาจากบ้านซึ่งมีสภาพแวดล้อมมาจากความคิดและความต้องของพ่อแม่หรือคนอื่น เราเลยตั้งใจออกแบบผลงานออกมาเพื่อเอาใจคนที่มองหาสิ่งใหม่ รับรองว่าทันทีที่เห็น ทุกคนจะอยากซื้อมันกลับบ้านในทันที “ ภายใน Pop-Up ประกอบไปด้วยชุดพรมสไตล์โมเดิร์นซึ่งเราเคยเห็นกันมาแล้ว แต่รอบนี้เราจะได้ทราบถึงเรทราคาของมันด้วย โดยพรมสีดำมาพร้อมกับคำว่า “GREY” ราคา 129
ปัจจุบันเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากวงการแฟชั่นในแต่ละปีมีมูลค่ามากมายมหาศาล ผลที่ตามมาคือการแข่งขันทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะทุกแบรนด์ล้วนแต่ต้องการส่วนแบ่งอันหอมหวลด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่วันนี้เราจะเห็นแคมเปญโฆษณาเจ๋ง ๆ ถูกผลิตออกมาเต็มไปหมด รวมถึงการย้อนกลับมาพึ่งพารูปแบบดั้งเดิมอย่างการโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายกำลังตามกระแสดังกล่าวกันเป็นแถว ล่าสุดกับหน้าแรกของหนังสือพิมพ์อย่าง New York Post ก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของ Kanye West เพื่อใช้เปิดตัวการกลับมาของรองเท้ายอดนิยม YEEZY BOOST 350 V2 “Triple White” โดยเขาได้ซื้อพื้นที่ทั้งหมดในหน้าหนึ่ง (Front Page Cover Wrap) เพื่อใส่วลีสำหรับแคมเปญรองเท้าอย่าง “We Love” ทั้งหมด 11 ภาษาวางเรียงกันก่อนจะปิดท้ายด้วยรูปใบปิดจาก Lookbook ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ฉบับเดียวเพราะทาง Kanye West ได้เหมาลงโฆษณาแบบเดียวกันลงในหนังสือพิมพ์อีกหลายหัว ไม่ว่าจะเป็น The San Francisco Chronicle , Chicago Tribune , Los Angeles Times รวมถึงหัวต่างประเทศอย่าง Metro ก็โดนไปกับเขาด้วย สำหรับใครที่คุ้นเคยกับวงการ Media ดี
ในปี 2018 มี 30 มลรัฐในสหรัฐอเมริกาให้กัญชาทางการแพทย์เป็นเรื่องถูกกฎหมาย ซึ่งรัฐ Washington ทำมาตั้งแต่ปี 1998 และในจำนวนนี้มีอีก 9 รัฐสามารถใช้เพื่อการผ่อนคลายได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ยังมีคนได้รับผลกระทบจากคดีเล็กน้อย เกี่ยวกับการครอบครองกัญชามาตั้งแต่ก่อนกฎหมายจะบังคับใช้ พวกเขาเลยมีประวัติส่วนตัวที่ไม่ขาวสะอาดจนทำให้ถูกจำกัดสิทธิในด้านต่าง ๆ มากมาย ด้วยเหตุนี้เองเมือง Seattle จึงมีความคิดริเริ่มการยกเลิกโทษเกี่ยวกับคดีความเกี่ยวกับกัญชาย้อนหลัง เพื่อให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในรายชื่อเหล่านั้นได้มีสิทธิมีเสียงในการใช้ชีวิตมากขึ้น Pete Holmes ทนายความของเมือง Seattle ผู้เสนอแนวความคิดดังกล่าวต่อศาลบอกว่า มีผู้คนประมาณ 400-500 คน ทั้งที่รับโทษไปแล้ว และกำลังถูกดำเนินคดีซึ่งเกี่ยวข้องกับกัญชา มีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่กับตัว และนั่นกลายเป็นสาเหตุให้พวกเขาถูกตัดสินผิด ๆ จากคนในสังคมจาก Criminal Record ไม่ว่าจะเป็นถูกปฏิเสธการรับเข้าทำงาน ไปจนถึงผลกระทบต่อการยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งโอกาสด้านการศึกษาในกรณีที่เป็นเยาวชน จึงเกิดความคิดเสนอการยกเลิกโทษดังกล่าวย้อนหลังให้ รวมถึงลบประวัติออกให้อีกด้วย แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขอยู่ว่าจะต้องเป็นคนที่คดีความเกิดขึ้นในช่วงปี 1996 – 2010 และเป็นกรณีที่โทษนั้นไม่หนักหนา หรือมีครอบครองไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น คดีความเกี่ยวกับกัญชามีผลกระทบกับประชากรทุกเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในจำนวนคดีทั้งหมดสามารถแบ่งเชื้อชาติของผู้กระทำความผิดได้เป็น คนเอเชีย 3 % คนผิวสี 46% คนผิวขาว 46%
เรียกความสนใจจากผู้ชายได้เสมอสำหรับกีฬามวย เพราะความรู้สึกของการได้เห็นยอดฝีมือสองคนยืนตะบันหน้าแลกหมัดกันบนเวทีสามารถสร้างความเลือดร้อนและตื่นเต้นให้กับเราได้ตลอดเวลา ทำให้ทุกวันนี้อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวงการหมัดมวยก็จะมีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้ามาเสมอ ทั้งค่าตัวนักชก ค่าโปรโมเตอร์ หรือส่วนแบ่งต่าง ๆ จากการแข่งขัน แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนดูอย่างการถ่ายทอดสด Boxing เริ่มมีอาการซบเซากว่าที่เราคิด ทำให้ช่องยิงสดมวยในตำนานอย่าง HBO ยังต้องโยนผ้าขาว ถอยฉากหลบออกมาก่อนจะโดนหมัดน็อคขาดทุนไปมากกว่านี้ HBO BOXING มีความผูกพันกับวงการมวยสากลอาชีพมาเป็นเวลายาวนานกว่า 45 ปี ครั้งแรกที่พวกเขาตัดสินใจซื้อลิขสิทธ์การแข่งขันถ่ายทอดสดทางเคเบิ้ลทีวีในสหรัฐอเมริกานั้น ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1973 เลยทีเดียว โดยครั้งนั้นเป็นการขึ้นตะบันหน้ากันของสองยอดฝีมือในรุ่น Heavyweight ระหว่าง Joe Frazier กับ George Foreman’s และเป็นฝ่ายหลังที่ชนะน็อคไปได้ เหตุการณ์ครั้งนั้นเองกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นตำนานอันยิ่งใหญ่ของ HBO BOXING ก่อนจะพัฒนาตัวเองมาสู่การเป็นผู้จัดพร้อมกับถ่ายทอดเองเหมือนในทุกวันนี้ แต่ทว่าความมั่งคั่งมักไม่ค่อยอยู่กับใครนาน แม้ว่าคุณจะเคยอยู่จุดสูงสุดของวงการก็ตาม เพราะ HBO ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นโดยให้ Peter Nelson รองประธานฝ่ายบริหารของ HBO Sport มาเป็นคนแจ้งข่าวใหญ่ครั้งนี้ บอกว่าพวกเขามีแผนจะยุติการถ่ายทอดสดกีฬามวยสากลอาชีพในปี 2019 โดย Peter ให้เหตุผลว่าหลังจากที่บริษัทได้ทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับสถิติผู้เข้าชมมาสักระยะหนึ่ง พบว่ามวยไม่ใช่ปัจจัยหลักของการสมัครเป็นสมาชิกอีกต่อไปแล้ว ทำให้ HBO
ไม่รู้ว่าบุรุษที่ชื่อว่า Kanye West หนึ่งวันมีเวลากี่ชั่วโมงกันแน่ หลังจากปีนี้ปล่อยโปรเจคทั้งงาน Collabs และงานส่วนตัวออกมาถี่ตลอดทั้งปี ทั้งในส่วนของงานแฟชั่น อีเวนท์ รวมไปถึงการทำโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินต่าง ๆ จนแฟนทั้งหลายคิดว่าคงอดเห็นงานเพลงของตัวเค้าไปแล้วเป็นแน่แท้ ล่าสุดเจ้าตัวพึ่งปล่อย Hint ผ่านโพสต์ในอินสตาแกรมเพื่อชี้ชัดไม่มีกั๊กว่า Kanye กำลังเตรียมปล่อยสตูดิโออัลบั้มที่ 9 ในชีวิตออกมาในวันที่ 29 : 09 : 18 โดยจะใช้ชื่อว่า YANDHI ตลอดปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองเลยก็ว่าได้สำหรับ Kanye West ไม่ว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับ Streetwears อย่างรองเท้าตระกูล YEEZY ซึ่งจะ Restock ครั้งใหญ่เร็วนี้ ไปจนถึงการรับตำแหน่ง Creative Director งานอีเวนท์ให้กับ PornHub แถมช่วงกลางปียังปล่อยอัลบั้มอย่าง “YE” ไหนจะงานเบื้องหลังโปรดิวเซอร์ของค่ายที่ตัวเขาเป็นเจ้าของซึ่งรู้จักกันในนาม G.O.O.D Music ให้กับศิลปินอย่าง Kid Cudi (Kid see Ghost) และ Pusha T (DAYTONA) พร้อมปล่อยซิงเกิ้ลอย่าง XTCY และล่าสุด
กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการแฟชั่นเมื่อแอคเคาท์ Instagram ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง COACH ได้ทำการโพสต์ต้อนรับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนอกจากตัวร้ายสุดคูลจาก The Black Panther อย่าง Michael B Jordan ในลุค Signature Hood สีเอกลักษณ์ของแบรนด์นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะมาพร้อมกับการผลักดันไลน์เสื้อผ้าผู้ชายระลอกใหม่ที่จริงจังยิ่งกว่าเดิมจากห้องเสื้อ COACH อีกด้วย Stuart Vever ผู้รับตำแหน่ง Creative Director ของแบรนด์เล่าผ่านงานแถลงข่าวถึงสาเหตุที่ COACH ตัดสินใจเลือก Michael B Jordan มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฟังว่า พวกเขารู้จัก Michael มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยถ้าเล่าจากมุมมองของแบรนด์ พระเอกมาดเข้มคนนี้มีความเยือกเย็นในตัว ซึ่งหลายครั้งก็ปรากฏตัวในเสื้อผ้าของ COACH ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติเสมอ และนั่นเองทำให้เขาคิดว่า Michael จะต้องเป็นผู้ชายที่เข้ากันกับ DNA ของแบรนด์ได้ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมงานกันและจะเริ่ม launch โปรเจกต์ต่าง ๆ กันในเร็ววันนี้ คาดกันว่าการเปิดตัวนักแสดงวัย 31
“The greatest comeback of all time” คือถ้อยคำที่ผู้คนในวงการกีฬาใช้ยกย่องการกลับมาคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีของชายที่ชื่อ Tiger Woods นักกอล์ฟวัย 42 ปี หลังเขาคว้าอันดับ 1 ในรายการ Tour Championship 2018 โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากแชมป์ครั้งล่าสุดในเดือนสิงหาคมปี 2013 หลังจากต้องพักรักษาตัวจากปัญหาอาการบาดเจ็บ การติดสุรา และปัญหาครอบครัวรุมเร้า “When Tiger Woods plays golf, the world watches.” โปรกอล์ฟอดีตมือหนึ่งของโลก คือนักกีฬาซึ่งในยุคสมัยนึงพูดได้เต็มปากว่า “ไม่มีใครไม่รู้จัก” ก่อนหน้านี้เขาคว้าแชมป์ PGA Tour ได้ถึง 79 สมัยโดยถ้าเปรียบเทียบครั้งล่าสุดที่ Tiger คว้าแชมป์มาครองได้ ตอนนั้น Anthony Joshua พึ่งจะเทิร์นโปรมวยอาชีพได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่หลังประสบความสำเร็จต่าง ๆ มากมาย ครองความยิ่งใหญ่ในชีวิตมาอย่างยาวนาน ชีวิตของ Tiger
ดูเหมือนว่างานแถลงข่าวของ UFC 229 คู่หยุดโลกระหว่าง Conor McGregor และ Khabib Nurmagonedov ซึ่งจะขึ้นฟาดปากกันในวันที่ 6 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการกลับมาของจ้าวสังเวียนจอมเกรียนเท่านั้น หลังจากมีข่าวออกมาจากปากประธานของ UFC ว่า Mcgregor ได้จรดปากกาเซ็นสัญญารับรองศึกยาวในอนาคตไว้แล้ว ไม่ว่าผลของไฟต์หยุดโลกที่จะมาถึงครั้งนี้จะออกมาแบบไหนก็ตาม 20 กันยายนที่ผ่านมา UFC เรียกน้ำย่อยเหล่าแฟน ๆ ด้วย Press Conference ของแมตช์หยุดโลกระหว่าง 2 นักสู้ที่ดีที่สุดของรุ่น Lightweight ณ ปัจจุบัน ระหว่างอดีตแชมป์จอมเถื่อน Conor McGregor และนักชกจอมโหดจากรัสเซีย Khabib Nurmagonedov ผลพวงจากความบ้าคลั่งที่ทีม McGregor ยกพวกถล่มรถบัสของ UFC จนเกือบติดคุกติดตารางก่อนหน้านี้ ซึ่งหลายคนคงได้เห็นลีลาทักษะการแลกน้ำลายกันไปแล้วพอหอมปากหอมคอก่อนจะขึ้นซัดกันจริง ๆ บนสังเวียน แต่ไม่เพียงแค่นั้นสำหรับแฟน ๆ เดนตายของ Conor คงจะได้รับข่าวดีกันถ้วนหน้า หลังจากมีแหล่งข่าวเปิดเผยกับทาง ESPN ว่าตอนนี้เขาได้เซ็นสัญญาตกลงเรื่องไฟต์ในอนาคตของเขาออกไปอีก 6 ไฟต์โดยคาดว่าสัญญาครั้งนี้จะทำให้ในอนาคต Conor
ในทุกอุตสาหกรรมเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทย่อมมาจากวิสัยทัศน์กว้างไกลของผู้บริหาร แต่ไม่เพียงแค่ในด้านผลประกอบการเท่านั้นที่ควรให้ความสำคัญ เมื่อรากฐานของบริษัทมักเริ่มมาจากเหล่าพนักงานซึ่งกำลังทำงานอยู่บนความเสี่ยง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสายการผลิตที่ต้องใช้แรงมากอย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ มีสถิติตัวเลขของผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุตสาหกรรมหนักทั่วไปอยู่ที่ 3.3 ใน 100 คน แต่จุดที่น่าสนใจคือ จำนวนสถิติของพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บในโรงงานประกอบรถยนต์กลับมีสูงถึง 6.7 ใน 100 คน ซึ่งบอกได้ถึงอันตรายของความเสี่ยงจากการทำงานในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทำให้ล่าสุด บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากอเมริกา ซึ่งจ้างพนักงานในทุกฐานการผลิตทั่วโลกรวมกันถึง 202,000 คน จับมือกับ EksoBionic บริษัทกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างชุดหุ่นยนต์เสริมการทำงานของร่างกายมนุษย์ ได้ร่วมกันพัฒนาโปรเจคชุดทำงานสุดเจ๋งที่เรียกว่า Exoskeleton เพื่อประสิทธิภาพการทำงานตลอดจนช่วยในเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย ในตอนแรกชุดดังกล่าว เคยถูกทดลองจากค่าย BMW มาแล้ว ก่อนที่ฟอร์ดจะนำมาทดลองใช้อย่างจริงจังกับกลุ่มช่างใน Section การประกอบชิ้นส่วน ซึ่งต้องทำงานร่วมกับเครื่องจักรและมีความเสี่ยงมากกว่าส่วนอื่น โดยเจ้าชุด Exoskeleton มีลักษณะคล้ายกับ ชุดของ Matt Demon ในหนังเรื่อง Elysium เหมือนการสวมเสื้อกั๊กแบบครึ่งท่อน มีคุณสมบัติในการเพิ่มความแข็งแรงของแผ่นหลังและแขน สามารถเพิ่มการแบกรับน้ำหนักสูงสุดถึง 15 ปอนด์ (6.8 กิโลกรัม) ต่อแขนหนึ่งข้าง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงได้
หลังจากตั้งตารอมาพักใหญ่ ในที่สุดเราก็ได้เห็นฝีไม้ลายมือแรกในการออกแบบของ Riccardo Tisci ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน ในฐานะผู้ที่มารับตำแหน่ง Chief Creative Officer คนใหม่ ให้กับแบรนด์เก่าแก่ของเกาะอังกฤษอย่าง Burberry แทน Christopher Bailey โดยหลายคนต่างคาดหวังกับความสามารถของเขาซึ่งเคยคืนชีพให้กับ Givenchy มาแล้ว Burberry เองแสดงก็ความมั่นใจโดยการ Rebranding แบรนด์เสียใหม่ ด้วยการเปลี่ยนลวดลาย Thomas Burberry monogram ครั้งแรกในรอบ 20 ปีให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น อาจจะมากจนแฟน ๆ หลายคนตกใจในความเป็น Street ที่วัยรุ่นขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับแฮชแท็ก #newera อย่างเต็มภาคภูมิ ล่าสุดการ Debut ผลงานชุดแรกในฐานะ Chief Creative Office ของเขาก็ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกผ่าน Collection Spring/Summer 2019 ใน London Fashion Week ที่พึ่งผ่านไป แต่ผลงานจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแผนก Menswear ของห้องเสื้ออายุ 162 ปีแห่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหนและมีอะไรน่าสนใจบ้างตามไปดูกัน