เป็นศึกฟาดปากที่เดือดสะใจแฟน MMA ทั่วโลก และเป็นศึกที่คุ้มแสนคุ้มสำหรับคนที่ซื้อบัตรเข้าไปดู เพราะนอกจากจะได้ดูความพ่ายแพ้ของ Conor McGregor แล้ว ยังได้ดูความวุ่นวายนอกเวที Octagon ที่ลุกลามไปถึงการจับกุม และน่าจะเป็นปมสงครามไปสู่ศึกล้างหน้านัดต่อไปของทั้งคู่แน่นอน จบไปเป็นที่เรียบร้อยสักที สำหรับสงครามระหว่าง Conor McGregor ปะทะ Khabib Nurmagomedov ซึ่งผลการต่อสู้ตกเป็นชัยชนะของฝ่าย Khabib ยอดนักสู้ผู้ปล้ำกับหมีมาตั้งแต่เด็ก ปกป้องสถิติชนะรวด 27 ครั้งและเข็มขัดแชมป์ UFC lightweight ไว้ได้ ซึ่งเข็มขัดเส้นนี้ค่อนข้างจะไม่ธรรมดา เพราะกว่าจะตกมาถึงมือ Khabib นั้น ผ่านทั้งการปลดจากเอว McGregor เนื่องจาก Inactive เป็นเวลานาน และถูกปลดอีกครั้งจากเอว Tony Ferguson หลังครองแชมป์ได้เพียงช่วงเวลาไม่นาน เนื่องจากอาการบาดเจ็บ เรียกว่าคลาดกันไปคลาดกันมา กว่าจะมาถึงมือ Khabib ซึ่งเอาชนะ Al Iaquinta ผู้ถูกจับมาเสียบเพื่อชิงแชมป์แบบส้มหล่น แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้ศึกครั้งนี้น่าเบื่อแต่อย่างใด ตรงกันข้าม นี่เป็นศึกที่เดือดเลือดพล่าน เป็นศึกต่อสู้ที่มีความโกรธแค้นของแต่ละฝ่ายสะสมอยู่ใต้พรมเป็นปมมาเนิ่นนาน เริ่มจากฝ่าย Khabib ที่ไปรุมตบหัว Artem Lobov
ดูเหมือนว่าวงการ Sneaker ได้สูญเสียมันสมองสำคัญไปอีก 1 คนแล้ว หลังมีข่าวว่า Sandy Bodecket รองประธานอาวุโสฝ่ายโครงการพิเศษของ Nike ชายผู้เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NIKE SB เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็ง หลังต่อสู้กับโรคร้ายมาอย่างยาวนาน ว่ากันว่าเขาเป็นกำลังสำคัญที่สร้างพื้นฐานอันเข้มแข็งให้กับค่าย Swoosh เป็นการสูญเสียที่มีเพื่อนในวงการร่วมไว้อาลัยมากมาย Sandy Bodecket เข้าทำงานกับ NIKE ครั้งแรกในปี 1982 ในฐานะนักทดสอบคุณภาพรองเท้า ด้วยความสามารถและความหลงใหลที่เขามีต่องานผลิตรองเท้า ในปี 1994 บริษัทก็เห็นถึงฝีมือและย้ายเขาไปนั่งตำแหน่งหัวหน้าแผนกของ Nike Football ซึ่ง Sandy Bodecket ก็ตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยการผลักดันสินค้าในหมวดดังกล่าวให้กลายเป็นหนึ่งในไลน์สินค้าที่ได้รับความนิยมสูง ก่อนจะมาเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนอาณาจักร NIKE SB ให้กลายเป็นที่รู้จักของหนุ่ม ๆ สาย KICK FLIP ทั่วโลก NIKE Skateboarding หรือที่เรียกกันง่ายว่า NIKE SB คือหนึ่งในไลน์สินค้าประเภทเสื้อผ้าและรองเท้าจาก NIKE พวกเขาเริ่มผลิตรองเท้าสเก็ตบอร์ดขึ้นครั้งแรกในปี 1997 แต่ทว่าเวลานั้นไม่มีใครสนใจเอารองเท้าของพวกเขาไปวางขาย เพราะ NIKE ถือเป็นมือใหม่ซึ่งไม่สามารถเข้าไปแย่งพื้นที่จากแบรนด์เจ้าถิ่นอย่าง DC
แม้เวลาจะผ่านมานานถึง 22 ปีไปแล้ว นับตั้งแต่วันที่ตำนานแร็ปเปอร์อันดับ 1 ของโลก TUPAC SHAKUR หรือ 2PAC เสียชีวิตจากการถูกยิงในปี 1996 แต่เราเชื่อเหลือเกินว่าสำหรับแฟนเพลงหรือผู้ที่ชื่นชอบผลงานของเขา จิตวิญญาณของ 2PAC ยังคงจับต้องได้เสมอในทุก ๆ ครั้งที่หยิบเพลงมาเปิด แม้ปัจจุบันตัวของ Pac จะไม่อยู่แล้วก็ตาม แต่ยังคงมีงานเพลงบางส่วนที่ 2PAC แต่งทิ้งเอาไว้ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังไม่เคยปล่อยออกมาให้โลกได้รับฟังมาก่อน ซึ่งตอนนี้พร้อมจะถูกรวบรวมออกมาเป็นอัลบั้มแล้ว หลังจากที่ครอบครัวของเขาจัดการเคลียร์เรื่องลิขสิทธิ์กับทางค่ายได้สำเร็จ กินเวลานานเกือบ 10 ปีสำหรับปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงของ TUPAC SHAKUR หลังแม่ของเขายื่นฟ้องค่ายเพลงสัญชาติแคนาดา ONE Entertainment (eOne) ซึ่งได้เข้ามาซื้อสังกัดดั้งเดิมในยุครุ่งเรือง DEATH ROW RECORD จนทำให้พวกเขากลายมาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดมูลค่ามากกว่า $6 million USD คดีความผ่านไปนานจนแม่ของ TUPAC เสียชีวิตลง และคนที่เข้ามารับเรื่องต่อคือน้องสาวแท้ ๆ ของตระกูล Shakur และเหมือนกับว่าฟ้าจะเป็นใจให้ความพยายามอย่างยาวนาน ล่าสุดศาลตัดสินให้ทางค่ายต้องจ่ายลิขสิทธิ์เพลงของ TUPAC มูลค่ากว่าล้านเหรียญ รวมถึงยกเพลงที่ยังไม่ปล่อยออกมาทั้งหมดให้กับครอบครัวของเขาด้วย ในอดีต DEATH ROW RECORDS
LAND ROVER ค่ายรถยนต์หัวกะทิโดยเฉพาะในรูปแบบ Four-wheel Drive ยังคงมีแผนการพัฒนาพาหนะเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่ตลอด ล่าสุดพวกเขาได้เปิดตัวรถยนต์กู้ภัยสุดล้ำสำหรับใช้งานในหน่วยสภากาชาด โดยต่อยอดแนวคิดมาจากรถ Project Hero Concept เมื่อปี 2017 และเลือกจะยกเครื่องโมเดลรถ LAND ROVER DISCOVERY เพื่อดัดแปลงเป็นศูนย์บัญชาการช่วยชีวิตเคลื่อนที่ ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบรถช่วยชีวิตในอนาคตได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับค่ายผู้ผลิตรถอย่าง Jaguar Land Rover ในการร่วมมือกับสภากาชาด เพราะนับเป็นเวลากว่า 64 ปีแล้วนับตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาสนับสนุนรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือขนย้ายเวชภัณฑ์ผ่านทะเลทรายอันร้อนระอุและสมบุกสมบันของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปี 1954 จนเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน Land Rover ก็ยังคงให้การสนับสนุนด้านพาหนะต่อสภากาชาดมาตลอด ด้วยการส่งรถยนต์กว่า 120 คัน ไปให้ศูนย์ช่วยเหลือในทุกซอกมุมโลก กระจายตัวไปมากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ก่อนในปีที่ผ่านมาจะปล่อยโมเดลตัวอย่างรถยนต์กู้ภัยร่วมกับสภากาชาดของประเทศออสเตรีย ซึ่งต่อมากลายเป็นต้นแบบของ LAND ROVER “CONCEPT HERO” ในปัจจุบัน DISCOVERY “CONCEPT HERO” 2018 ถูกสร้างและดัดแปลงขึ้นมา เพื่อใช้เป็นศูนย์บัญชาการสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานที่เข้าถึงได้ยาก รวมถึงเป็นรถช่วยเหลือหลักในการค้นหาผู้สูญหายจากกรณีต่าง ๆ ซึ่งรถรุ่น LAND ROVER DISCOVERY ก็เป็นคำตอบที่ใช่
หลังจากมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่า Virgil Abloh ผู้กุมบังเหียนงานออกแบบเสื้อผ้าแผนก Menswaer จากห้องเสื้อสุดหรูอย่าง Louis Viutton กำลังมีแผนจะร่วมงานแบรนด์ Retail ยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดนอย่าง IKEA เพื่อออกแบบสินค้าร่วมกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ความคืบหน้าล่าสุดตอนนี้พวกเขาได้เปิดตัว Pop-up Store ของ Virgil Abloh x IKEA แห่งแรกขึ้นเพื่อใช้แสดงงานที่อยู่ในคอลเลกชันล่าสุด “markerrad” โดยเป้าหมายแรกคือมหานครปารีส “STILL LOADING“ คือชื่อของ Pop-up Store แห่งแรกที่ Virgil Abloh และ Henrik Most ซึ่งเป็นทั้ง Creative Leader ของ IKEA และ Project Partner เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยเลือกจะแปลงโฉมไนท์คลับชื่อดังใจกลางเมืองปารีส Nuits Faives เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดง โดยคอนเซ็ปต์ของมันถูกเล่าจากปาก Virgil Abloh ว่า “เราพยายามจับกลุ่มคนที่ต้องการตกแต่งบ้าน โดยมีโจทย์ว่าต้องการบ้านที่มาจากตัวตนของตัวเองและมีความแตกต่างจากบ้านทั่วไป เพราะคนส่วนใหญ่มักเติบโตมาจากบ้านซึ่งมีสภาพแวดล้อมมาจากความคิดและความต้องของพ่อแม่หรือคนอื่น เราเลยตั้งใจออกแบบผลงานออกมาเพื่อเอาใจคนที่มองหาสิ่งใหม่ รับรองว่าทันทีที่เห็น ทุกคนจะอยากซื้อมันกลับบ้านในทันที “ ภายใน Pop-Up ประกอบไปด้วยชุดพรมสไตล์โมเดิร์นซึ่งเราเคยเห็นกันมาแล้ว แต่รอบนี้เราจะได้ทราบถึงเรทราคาของมันด้วย โดยพรมสีดำมาพร้อมกับคำว่า “GREY” ราคา 129
ปัจจุบันเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากวงการแฟชั่นในแต่ละปีมีมูลค่ามากมายมหาศาล ผลที่ตามมาคือการแข่งขันทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะทุกแบรนด์ล้วนแต่ต้องการส่วนแบ่งอันหอมหวลด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่วันนี้เราจะเห็นแคมเปญโฆษณาเจ๋ง ๆ ถูกผลิตออกมาเต็มไปหมด รวมถึงการย้อนกลับมาพึ่งพารูปแบบดั้งเดิมอย่างการโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายกำลังตามกระแสดังกล่าวกันเป็นแถว ล่าสุดกับหน้าแรกของหนังสือพิมพ์อย่าง New York Post ก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของ Kanye West เพื่อใช้เปิดตัวการกลับมาของรองเท้ายอดนิยม YEEZY BOOST 350 V2 “Triple White” โดยเขาได้ซื้อพื้นที่ทั้งหมดในหน้าหนึ่ง (Front Page Cover Wrap) เพื่อใส่วลีสำหรับแคมเปญรองเท้าอย่าง “We Love” ทั้งหมด 11 ภาษาวางเรียงกันก่อนจะปิดท้ายด้วยรูปใบปิดจาก Lookbook ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ฉบับเดียวเพราะทาง Kanye West ได้เหมาลงโฆษณาแบบเดียวกันลงในหนังสือพิมพ์อีกหลายหัว ไม่ว่าจะเป็น The San Francisco Chronicle , Chicago Tribune , Los Angeles Times รวมถึงหัวต่างประเทศอย่าง Metro ก็โดนไปกับเขาด้วย สำหรับใครที่คุ้นเคยกับวงการ Media ดี
ในปี 2018 มี 30 มลรัฐในสหรัฐอเมริกาให้กัญชาทางการแพทย์เป็นเรื่องถูกกฎหมาย ซึ่งรัฐ Washington ทำมาตั้งแต่ปี 1998 และในจำนวนนี้มีอีก 9 รัฐสามารถใช้เพื่อการผ่อนคลายได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ยังมีคนได้รับผลกระทบจากคดีเล็กน้อย เกี่ยวกับการครอบครองกัญชามาตั้งแต่ก่อนกฎหมายจะบังคับใช้ พวกเขาเลยมีประวัติส่วนตัวที่ไม่ขาวสะอาดจนทำให้ถูกจำกัดสิทธิในด้านต่าง ๆ มากมาย ด้วยเหตุนี้เองเมือง Seattle จึงมีความคิดริเริ่มการยกเลิกโทษเกี่ยวกับคดีความเกี่ยวกับกัญชาย้อนหลัง เพื่อให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในรายชื่อเหล่านั้นได้มีสิทธิมีเสียงในการใช้ชีวิตมากขึ้น Pete Holmes ทนายความของเมือง Seattle ผู้เสนอแนวความคิดดังกล่าวต่อศาลบอกว่า มีผู้คนประมาณ 400-500 คน ทั้งที่รับโทษไปแล้ว และกำลังถูกดำเนินคดีซึ่งเกี่ยวข้องกับกัญชา มีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่กับตัว และนั่นกลายเป็นสาเหตุให้พวกเขาถูกตัดสินผิด ๆ จากคนในสังคมจาก Criminal Record ไม่ว่าจะเป็นถูกปฏิเสธการรับเข้าทำงาน ไปจนถึงผลกระทบต่อการยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งโอกาสด้านการศึกษาในกรณีที่เป็นเยาวชน จึงเกิดความคิดเสนอการยกเลิกโทษดังกล่าวย้อนหลังให้ รวมถึงลบประวัติออกให้อีกด้วย แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขอยู่ว่าจะต้องเป็นคนที่คดีความเกิดขึ้นในช่วงปี 1996 – 2010 และเป็นกรณีที่โทษนั้นไม่หนักหนา หรือมีครอบครองไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น คดีความเกี่ยวกับกัญชามีผลกระทบกับประชากรทุกเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในจำนวนคดีทั้งหมดสามารถแบ่งเชื้อชาติของผู้กระทำความผิดได้เป็น คนเอเชีย 3 % คนผิวสี 46% คนผิวขาว 46%
เรียกความสนใจจากผู้ชายได้เสมอสำหรับกีฬามวย เพราะความรู้สึกของการได้เห็นยอดฝีมือสองคนยืนตะบันหน้าแลกหมัดกันบนเวทีสามารถสร้างความเลือดร้อนและตื่นเต้นให้กับเราได้ตลอดเวลา ทำให้ทุกวันนี้อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวงการหมัดมวยก็จะมีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้ามาเสมอ ทั้งค่าตัวนักชก ค่าโปรโมเตอร์ หรือส่วนแบ่งต่าง ๆ จากการแข่งขัน แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนดูอย่างการถ่ายทอดสด Boxing เริ่มมีอาการซบเซากว่าที่เราคิด ทำให้ช่องยิงสดมวยในตำนานอย่าง HBO ยังต้องโยนผ้าขาว ถอยฉากหลบออกมาก่อนจะโดนหมัดน็อคขาดทุนไปมากกว่านี้ HBO BOXING มีความผูกพันกับวงการมวยสากลอาชีพมาเป็นเวลายาวนานกว่า 45 ปี ครั้งแรกที่พวกเขาตัดสินใจซื้อลิขสิทธ์การแข่งขันถ่ายทอดสดทางเคเบิ้ลทีวีในสหรัฐอเมริกานั้น ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1973 เลยทีเดียว โดยครั้งนั้นเป็นการขึ้นตะบันหน้ากันของสองยอดฝีมือในรุ่น Heavyweight ระหว่าง Joe Frazier กับ George Foreman’s และเป็นฝ่ายหลังที่ชนะน็อคไปได้ เหตุการณ์ครั้งนั้นเองกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นตำนานอันยิ่งใหญ่ของ HBO BOXING ก่อนจะพัฒนาตัวเองมาสู่การเป็นผู้จัดพร้อมกับถ่ายทอดเองเหมือนในทุกวันนี้ แต่ทว่าความมั่งคั่งมักไม่ค่อยอยู่กับใครนาน แม้ว่าคุณจะเคยอยู่จุดสูงสุดของวงการก็ตาม เพราะ HBO ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นโดยให้ Peter Nelson รองประธานฝ่ายบริหารของ HBO Sport มาเป็นคนแจ้งข่าวใหญ่ครั้งนี้ บอกว่าพวกเขามีแผนจะยุติการถ่ายทอดสดกีฬามวยสากลอาชีพในปี 2019 โดย Peter ให้เหตุผลว่าหลังจากที่บริษัทได้ทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับสถิติผู้เข้าชมมาสักระยะหนึ่ง พบว่ามวยไม่ใช่ปัจจัยหลักของการสมัครเป็นสมาชิกอีกต่อไปแล้ว ทำให้ HBO
ไม่รู้ว่าบุรุษที่ชื่อว่า Kanye West หนึ่งวันมีเวลากี่ชั่วโมงกันแน่ หลังจากปีนี้ปล่อยโปรเจคทั้งงาน Collabs และงานส่วนตัวออกมาถี่ตลอดทั้งปี ทั้งในส่วนของงานแฟชั่น อีเวนท์ รวมไปถึงการทำโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินต่าง ๆ จนแฟนทั้งหลายคิดว่าคงอดเห็นงานเพลงของตัวเค้าไปแล้วเป็นแน่แท้ ล่าสุดเจ้าตัวพึ่งปล่อย Hint ผ่านโพสต์ในอินสตาแกรมเพื่อชี้ชัดไม่มีกั๊กว่า Kanye กำลังเตรียมปล่อยสตูดิโออัลบั้มที่ 9 ในชีวิตออกมาในวันที่ 29 : 09 : 18 โดยจะใช้ชื่อว่า YANDHI ตลอดปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองเลยก็ว่าได้สำหรับ Kanye West ไม่ว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับ Streetwears อย่างรองเท้าตระกูล YEEZY ซึ่งจะ Restock ครั้งใหญ่เร็วนี้ ไปจนถึงการรับตำแหน่ง Creative Director งานอีเวนท์ให้กับ PornHub แถมช่วงกลางปียังปล่อยอัลบั้มอย่าง “YE” ไหนจะงานเบื้องหลังโปรดิวเซอร์ของค่ายที่ตัวเขาเป็นเจ้าของซึ่งรู้จักกันในนาม G.O.O.D Music ให้กับศิลปินอย่าง Kid Cudi (Kid see Ghost) และ Pusha T (DAYTONA) พร้อมปล่อยซิงเกิ้ลอย่าง XTCY และล่าสุด
กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการแฟชั่นเมื่อแอคเคาท์ Instagram ของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง COACH ได้ทำการโพสต์ต้อนรับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนอกจากตัวร้ายสุดคูลจาก The Black Panther อย่าง Michael B Jordan ในลุค Signature Hood สีเอกลักษณ์ของแบรนด์นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะมาพร้อมกับการผลักดันไลน์เสื้อผ้าผู้ชายระลอกใหม่ที่จริงจังยิ่งกว่าเดิมจากห้องเสื้อ COACH อีกด้วย Stuart Vever ผู้รับตำแหน่ง Creative Director ของแบรนด์เล่าผ่านงานแถลงข่าวถึงสาเหตุที่ COACH ตัดสินใจเลือก Michael B Jordan มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฟังว่า พวกเขารู้จัก Michael มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยถ้าเล่าจากมุมมองของแบรนด์ พระเอกมาดเข้มคนนี้มีความเยือกเย็นในตัว ซึ่งหลายครั้งก็ปรากฏตัวในเสื้อผ้าของ COACH ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติเสมอ และนั่นเองทำให้เขาคิดว่า Michael จะต้องเป็นผู้ชายที่เข้ากันกับ DNA ของแบรนด์ได้ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมงานกันและจะเริ่ม launch โปรเจกต์ต่าง ๆ กันในเร็ววันนี้ คาดกันว่าการเปิดตัวนักแสดงวัย 31