ผู้ชายหลายคนอยากเลี้ยงหมา แต่ชีวิตประจำวันไม่เอื้ออำนวย เช่นอยู่คอนโดคนเดียว ไม่มีคนคอยเลี้ยงดูตอนทำงาน หรือกลัวจะเสียใจตอนมันตาย ทำให้เราต้องตัดใจจากความน่ารักของเพื่อนสี่ขาสำหรับคลายเหงาอย่างที่คนอื่นเค้ามีกัน สิ่งที่เราทำได้คือเฝ้ารอให้ถึงวันที่ Robot Dog จะได้รับการพัฒนาให้เหมือนหมาจริงที่สุด ปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไป และพวกเราก็จะได้เล่นกับหมาที่ไม่มีวันป่วยหรือตายจากเราไป Sony Aibo คือ Robot Dog ตัวใหม่จากค่าย Sony ที่เป็นคำตอบสำหรับผู้ชายอยากเลี้ยงหมาแบบพวกเรา ออกแบบมาเพื่อเป็นหุ่นยนต์แก้เหงาที่ผ่านการอัพเกรดมาจาก Aibo เวอร์ชั่นเก่าในปี 1999 – 2006 ซึ่งต้องบอกว่าเทคโนโลยีในยุคนั้นอาจจะไม่สามารถสร้าง Aibo ที่เฉลียวฉลาดได้มากนัก เมื่อเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้รับการพัฒนามาไกลถึงวันนี้ Sony จึงได้ปรับเปลี่ยนโฉมหน้าให้น่ารักน่าซื้อมากขึ้น และเพิ่มความสามารถเข้าไปใหม่ราวกับเป็นสุนัขคนละตัว 2018 Sony Aibo Robot Dog โฉมใหม่จะสามารถเล่นกับเจ้าของได้มากขึ้น การเคลื่อนไหวและเสียงร้องที่เป็นธรรมชาติ มีการเพิ่ม T-ouch Sensor สำหรับสื่อสารยามที่เราสัมผัสลูบไล้ตัวมัน พร้อม Facial Recognition สำหรับจดจำโฉมหน้าเจ้าของ ซึ่งจะช่วยให้มันทักทาย แสดงท่าทางที่แตกต่างจากคนอื่น และ Camera Mapping สำหรับจดจำมุมต่าง ๆ
ในวันเมา ๆ บางวันผู้ชายอย่างเราก็อดนึกถึงอดีตช่วงที่เราสามารถซื้อเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์มาเมามายตอนไหนก็ได้ ไม่มีเวลาตามกฎหมายมากำหนด แม้ตอนนี้สังคมจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบและการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่เราก็อดคิดถึงการดื่มเพื่อหลับ ขยับเพื่อเมาตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้! แล้วมันจะดีแค่ไหนถ้ามี Beer Hotel โรงแรมที่บริการเบียร์จากแท็ปให้เมาไม่อั้น ดื่มให้หลับ ตื่นมาก็เมาใหม่ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกลิ่นและรสชาติเบียร์ให้ฟินกันไปข้าง ไอเดีย Beer Hotel สุดบรรเจิดนี้มาจาก BrewDog บริษัทคราฟต์เบียร์ชื่อดังของสกอตแลนด์ที่อยากให้มนุษย์สายดื่ม (หรือไม่ดื่ม) ได้ดื่มด่ำกับคราฟต์เบียร์อร่อย ๆ แบบไม่อั้น โดยโรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ถ้าได้มาพักที่นี่รับรองเลยว่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์เบียร์ ๆ แบบที่ที่ไหนก็ให้ไม่ได้ “DogHouse” คือชื่อ Beer Hotel ที่เรากำลังพูดถึงกัน ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 32 ห้อง และห้องสูท 8 ห้อง (แอบกระซิบว่าบางห้องเราสามารถพกพาสุนัขคู่ใจไปพักด้วยได้) ความดีงามของที่นี่คือทุกห้องจะมีตู้เย็นที่อุณหภูมิเย็นจัด ๆ อัดแน่นไปด้วยคราฟต์เบียร์จาก BrewDog ทุกรสชาติเท่าที่เราจะนึกออกรอเสิร์ฟเราแบบไม่อั้นอยู่ แต่ถ้าแค่คราฟต์เบียร์เป็นกระป๋อง ๆ มันยังทำให้เรารู้สึกว่า “เฮ้ย นี่ก็ธรรมดาไปมั้ย คราฟต์เบียร์กระป๋องหากินที่ไหนก็ได้”
รู้หรือไม่ ถ้ามีคลิปหรือรูปโป๊เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เสี่ยงติดคุก 5 ปี ส่วนใครชอบส่งต่อให้เพื่อน เสี่ยงคุกหนักกว่าสูงสุดถึง 7 ปี เชื่อว่าในกลุ่มเพื่อนผู้ชายทุกคนต้องมีเจ้าพ่อส่งคลิปในกลุ่มไลน์อย่างน้อย 1 คน ที่ไม่คุยอะไรมาก กดส่งคลิปโป๊รัว ๆ และบางคนอาจจะเลือก Save อันที่ชอบเอาไว้ ที่จริงแต่กฎหมายตามมาตรา 287/1 ของมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (17) สื่อลามกอนาจารเด็กที่ถูกเพิ่มเข้าไปในปี 2558 อาจจะทำให้วงแตกกันทันที เพราะกฎหมายระบุว่าทั้งผู้ครอบครองและผู้ส่งคลิปโป๊ รูปถ่าย หรืออะไรก็ตามที่สื่อไปทางกระทำทางเพศของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกำหนดให้การส่งต่อแก่ผู้อื่น มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีมาตรา 287/2 ที่พูดถึงการใช้หาผลประโยชน์ เช่นการเอารูปโป๊ คลิปโป๊ไปทำการค้าขาย
ถ้าพูดถึงศิลปินระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจชื่อแรก ๆ ที่ทุกคนน่าจะพร้อมใจพูดถึงคงหนีไม่พ้น Paul McCartney, Eric Clapton, Keith Richards, และแน่นอนว่าต้องมี Bob Dylan รวมอยู่ในนั้นด้วย แต่จากลิสต์ที่กล่าวมาปู่ Bob Dylan ของเราดูจะผ่าเหล่าผ่ากอที่สุดเนื่องจากคนอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่มีฝีมือชั้นอ๋องในศาสตร์ด้านดนตรีและร้องเพลงด้วยกันทั้งนั้น ต่างจากราชาเพลงโฟล์คที่เคยออกมายอมรับว่าเสียงร้องและฝีมือกีตาร์ของเขานั้นไม่ได้ดีเด่อะไรเลย เข้าขั้นห่วยด้วยซ้ำในวงการดนตรีอาชีพ แต่สิ่งที่ทดแทนข้อด้อยเหล่านั้นคือฝีมือการแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดที่ Rolling Stone นิตยสารดนตรีระดับโลกจัดอันดับให้ Bob Dylan เป็นนักแต่งเพลงอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์วงการดนตรีเลยทีเดียว แม้ว่าฝีมือการแต่งเพลงของเขาจะร้ายกาจเพียงใดก็คงไม่เพียงพอให้เขาอยู่บนบัลลังก์ค้างฟ้ามาจนทุกวันนี้แน่นอน วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะพาไปดูวิธีการทำงานและแนวคิดของราชาเพลงโฟล์คคนนี้กัน Learning from the Best ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดและ Bob Dylan ก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ตอนนี้เขาจะเป็นโคตรของโคตรอาจารย์แห่งวงการดนตรีไปแล้วแต่กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้เขาเองก็มีอาจารย์เหมือนกัน ‘Woodie Guthrie’ คือชายที่เป็นทั้งอาจารย์ แรงบันดาลใจ และแนวทางการดำเนินชีวิตให้กับ Bob Dylan ก็ว่าได้ ถ้าใครเป็นแฟนเพลงของทั้งคู่คงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คล้ายกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเนื้อหาที่เน้นการเสียดสีการเมืองและสไตล์อื่น ๆ ในบทเพลง ถึงแม้ว่า Woodie Guthrie จะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1967 แต่
UFC 229 ยังคงสร้างปรากฏการณ์พีคขึ้นเรื่อย ๆ และคู่ชิงแชมป์รุ่น Lightweight ระหว่าง Conor McGregor และ Khabib Nurmagomedov ซึ่งได้ประกาศวันฟาดปากกันแน่นอนแล้วคือวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ล่าสุดหลังจากเริ่มเปิดจำหน่ายตั๋วในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็กลายเป็นอีกวาระประวัติศาสตร์จารึกเพราะตั๋วขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น! แถมทำท่าว่าราคาของตั๋วใน Second Market กำลังพุ่งทะยานขึ้นสูงปรี๊ดอีกด้วย ดูเหมือนการกลับคืนสังเวียนในรอบ 2 ปีของจอมเกรียน Conor Mcgregor ( 24 – 21 – 3 ) และแชมป์เจ้าของสถิติไร้พ่ายอย่าง Khabib Nurmagomedov ( 26 – 0 ) จะเป็นนัดที่แฟน ๆ จำนวนมากต่างก็ตั้งตารอ ทำให้ตอนนี้ตั๋วโซนปกติ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 205 ดอลลาร์สหรัฐได้ไต่ขึ้นไปแตะที่ 631 ดอลลาร์แล้ว ส่วน RINGSIDE ก็ทะยานขึ้นหลัก 45,000 ดอลลาร์จากราคาเริ่ม 10,000 ดอลลาร์ ดังนั้นหากเทียบมูลค่ารวม
เป็นเรื่องที่กำลังฮือฮาใน Reddit เว็บไซต์พูดคุยครอบจักรวาล เมื่อมี User ที่ใช้ชื่อว่า Eriegin โพสต์ภาพรถ Supercar 2 คันจอดในโรงรถสภาพฝุ่นเกาะแน่นพร้อมข้อความว่า “ ถึงจะเต็มไปด้วยสนิมและฝุ่น แต่ Lamborghini Countach ของคุณยายแม่งก็ยังเจ๋งอยู่ดี!” จนทำให้คนคลั่งรถจำนวนมากร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเมามัน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกาอยากทำหน้าที่หลานชายผู้น่ารัก เลยอาสาทำความสะอาดโรงรถให้คุณย่าของเขา แต่เมื่อเลื่อนประตูโรงรถขึ้นกลับต้องแปลกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเมื่อมีรถ Supercar 2 คัน จอดนิ่งสงบเหมือนไม่มีใครเคยแตะต้องเป็นเวลานาน! ความจริงปรากฏเมื่อคุณย่าเล่าให้เขาฟังว่า มันเคยเป็นของปู่ ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ในเวลาต่อมาราคาประกันรถยนต์ Supercar ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแพงมาก ๆ เริ่มพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของบริษัท จึงจำเป็นต้องจอดปีศาจทั้งสองตัวทิ้งไว้จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลารวมกันเกือบ 20 ปี รถคันแรกคือ Ferrari 308 GTS สีแดงสด มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 2.9 ลิตร กำลังขับ 237 แรงม้า ซึ่งคาดว่าหากออกขายทอดตลาดราคาจะอยู่ที่ ประมาณ 25,000 – 80,000
ถ้าพูดถึงการ์ตูนยอดนิยมยุคนี้ไม่ว่าจะเป็น One Piece, My Hero Academia, The Promised Neverland และเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง แม้ว่าการ์ตูนเหล่านี้จะมีพล็อตแตกต่างกัน แต่เกือบทุกเรื่องมีคอนเซ็ปต์ที่คล้ายกันคือการผจญภัยโดยมีฉากหลังเป็นพลังมิตรภาพ ในขณะที่การ์ตูนแนวลูกผู้ชายกล้ามโตที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากนอกจากการต่อสู้แบบบ้าพลังแทบจะหายไปจากตลาดเลยก็ว่าได้ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ 20-30 ปีก่อนที่เป็นยุครุ่งเรืองของการ์ตูนแนวนี้ หลายเรื่องขึ้นหิ้งกลายเป็นตำนานที่ยังถูกพูดถึงมาจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ, ซามูไรพเนจร, จอเกบูลส์ รวมถึงเรื่องที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้อย่าง ‘บากิ’ ย้อนความหลัง สำรวจเรื่องราว ‘Baki the Grappler’ หรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า ‘บากิ’ คือผลงานมังงะจากปลายปากกาของ Keisuke Itagaki ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1991 ลงในนิตยสาร Weekly Shōnen Champion ซึ่งถ้านับถึงตอนนี้มังงะเรื่องนี้ก็มีอายุกว่า 28 ปีเข้าไปแล้ว ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 132 เล่ม โดยแบ่งเป็น 4 ภาค ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมภาคย่อยที่มีอีกไม่น้อย บากิเป็นการ์ตูนที่เล่าเรื่องย่อได้ง่ายที่สุด เพราะทั้งเรื่องแทบจะไม่มีแก่นเรื่องใด ๆ เลยนอกจากการต่อสู้ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายนาม ‘ฮันมะ บากิ’ ภายนอกเขาก็ดูไม่แตกต่างจากเด็กวัยเดียวกันคนอื่น
ทุก ๆ ครั้งเมื่อมีการจัดอันดับประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุด, สงบที่สุด, น่าอยู่ที่สุด เหล่าบรรดาประเทศในยุโรปตอนเหนือหรือที่เรียกกันว่า ‘สแกนดิเนเวีย’ มักจะคว้าตำแหน่งชนะเลิศไปครองเสมอ เช่นเดียวกับการจัดอันดับประเทศที่การทำงานมีความสุขที่สุดที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ซึ่งผู้ชนะอันดับ 1 ในรายการนี้อย่างสม่ำเสมอคือ ‘ประเทศเดนมาร์ก’ ดินแดนโคนมแห่งสแกนดิเนเวีย นอกจากบรรยากาศประเทศที่น่าอยู่แล้ว Work-Life Balance ของประเทศนี้เป็นยังไงกันนะ อะไรคือสาเหตุที่คนทำงานมีความสุขที่สุด และมันแตกต่างจากบ้านเรายังไง เตรียมเสื้อกันหนาวไว้ให้ดี เพราะ UNLOCKMEN จะพาทุกคนบินลัดฟ้าสู่เดนมาร์กค้นหาคำตอบของคำถามนี้ด้วยกัน Working Hours วัฒนธรรมของประเทศเดนมาร์กนั้นให้ความสำคัญกับครอบครัวหรือชีวิตด้านอื่น ๆ ไม่น้อยไปกว่าเรื่องงาน ดังนั้นเวลาทำงานของพวกเขาจะไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ชายชาวเดนมาร์กจะทำงานสัปดาห์ละ 41 ชั่วโมง ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ 35 ชั่วโมงเท่านั้น และมีคนจำนวนเพียง 2% ของประเทศเท่านั้นที่ทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่จำนวนเฉลี่ยทั่วทั้งโลกอยู่ที่ 13% ในเดนมาร์กชุดความคิดที่ว่า ‘ยิ่งคุณทำงานหนัก ทำงานนาน ผลลัพธ์ของงานที่ออกมาจะดี’ เป็นวิธีคิดที่ผิดมหันต์ พวกเขามุ่งเน้นเรื่องความสุขในการทำงานและเชื่อว่าการทำงานอย่างมีความสุข ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดีโดยตัวของมันเอง นอกจากเวลาทำงานไม่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปแล้ว พวกเขายังได้สิทธิ์ในการลาพักร้อนยาวนานถึง 5
Pop Art คือศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนและสังคมในปัจจุบันที่กำลังได้รับความสนใจหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนั้น เป็นเหมือนกระบอกเสียงสะท้อนภาพแท้จริงของสังคมในขณะนั้น เมื่อพูดถึง Pop Art หนึ่งในศิลปินแนวนี้ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘Andy Warhol’ ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ Pop Art ซึ่งโลดแล่นสร้างสรรค์ผลงานอยู่ในช่วงยุค 60-80 ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ผลงานและเรื่องราวของเขายังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เหมือนที่ Henry Geldzahler ผู้ดูแล Metropolitan Museum of Art ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 1973 ว่า “Andy จะเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลังไปอีกนานแสนนาน” หนึ่งใน Icon แห่งวงการศิลปะอย่าง Andy มีระบบความคิดไม่ธรรมดา วันนี้ UNLOCKMEN จึงจะพาไปสำรวจว่าวิธีการทำงานอย่างสร้างสรรค์สไตล์ Andy Warhol มีอะไรกันบ้าง ไม่แน่ว่าอาจจะมีเคล็ดลับอะไรที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานตัวเองได้ โดยเฉพาะสาย Creative บอกเลยว่าไม่ควรพลาด Crossbreed หนึ่งในสินค้าที่คุ้นตาชาวอเมริกันที่สุดคือซุปมะเขือเทศกระป๋องยี่ห้อ Campbell’s ส่วนหนึ่งในผลงานศิลปะชิ้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของ Andy Warhol คือภาพวาดซุปมะเขือเทศกระป๋องยี่ห้อ Campbell’s เช่นกัน ถือเป็นความฉลาดและสร้างสรรค์ของ Andy ที่เลือกหยิบจับของใกล้ตัวที่ทุกคนรู้จักกันดีมาผสมผสานกับไอเดียของเขาจนเกิดเป็นผลงานศิลปะที่ตอนนี้มูลค่าของมันพุ่งสูงมากกว่า 80
ความฝันของพวกเราคือการได้ขับ Lamborghini แบบกดมิดไมล์เพื่อจะได้รับรู้ถึงอรรถรสของ Supercar อย่างเต็มที่ แม้การจะเป็นเจ้าของครอบครองมันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ปัจจุบันได้มีบริษัท Supercar Rental เกิดขึ้นมากมายในหลายประเทศ เช่นเดียวกับในประเทศ Dubai ชาว Middle East ที่ร่ำรวยกลางงทะเลทราย ย่อมมีบริษัทให้นักท่องเที่ยวได้เช่ารถในฝันขับมากมาย และหนึ่งในนั้นต้องพบว่าบริษัทของตัวเองโดนค่าปรับมากถึง $46,000 (1.5 ล้านบาท) จากข้อหา Speeding (ขับรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด) ภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น เรื่องเกิดจากนักท่องเที่ยวได้ทำการเช่า Lamborghini Huracan คันงามจากบริษัทรถเช่าหรู Saeed Ali Rent A Car ซึ่งมีแต่รถ Exotic Car น่าขับทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Ferrari 458 Spiders หรือ Audi R8 Spyder รวมถึง Lamborghini สีขาวคันที่มีปัญหานี้ด้วย ซึ่งเราพอจะเข้าใจอารมณ์คนที่นั่งใน Cockpit ของ Lamborghini ได้ดีว่ามันคงยากที่จะห้ามใจไม่ให้ซิ่งหมดไมล์บนถนนโล่ง ๆ