Featured

ZERO TO HERO: คุยกับ RAY CHAN ซีอีโอ ‘9GAG’ แพลตฟอร์มฮาระดับโลก ที่เรียนไม่เก่งแถมไม่ตลก

By: anonymK December 4, 2019

คุณคิดว่าบริษัทระดับโลกต้องเป็นที่อุดมของคนหัวกะทิ เป็นนักริเริ่มทำโน่นทำนี่ใหม่ตลอด

คุณคิดว่าแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ หาเงินได้เยอะ ๆ และต้องมี DNA งานของผู้นำลงไปอยู่ในนั้นสักที่

ถ้าคุณเคยคิดแบบนั้น ลืมมันไปให้หมดเถอะ เพราะหลังจากที่ UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับ Ray Chan หนึ่งในผู้ก่อตั้ง 9GAG แพลตฟอร์มฮาข้ามชาติในงาน Digital Thailand Big Bang 2019 แล้ว ดูเหมือนสูตรนี้มันใช้ไม่ได้ผลสักนิด

ก่อนจะไปเจาะว่า ทำไม “9GAG” ถึงเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มขำ ๆ เป็นงานอดิเรกที่ทำหลังเลิกงานก้าวไปจริงจังในระดับระดมทุนที่ซิลิคอนวัลเลย์ ดินแดนสวรรค์ของสาย Tech จนวันนี้มีพนักงานมากกว่า 40 ชีวิตและวิธีการทำงานของ Ray Chan เป็นอย่างไร เราขอเริ่มต้นด้วย 4 เรื่องที่วันนี้คนส่วนใหญ่อาจยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 9GAG

1. ซีอีโอคอนเทนต์ตลกไม่ใช่คนตลก

เรื่องนี้ Ray Chan พูดมาทุกสื่อเลยว่าเขาไม่ใช่คนตลกนะ อย่ามาให้เขายิงมุกเลย กระทั่งวันที่เราไปสัมภาษณ์เขาก็ยังยืนยันคำพูดนี้ กระทั่งยิ้ม หัวเราะให้กล้องเขายังขอปฏิเสธ แต่นั่นแหละ ต่อให้เขาไม่ใช่คนตลกที่จะออกมาเล่นมุกให้เราขำ เขาก็ยังสร้างรอยยิ้มให้โลกใบนี้ได้ด้วยสิ่งที่เขาทำอยู่ดี

2. 9GAG ไม่ใช่เจ้าของคอนเทนต์ฮา ๆ พวกนั้นเอง

แชร์มาเยอะ แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้เลยว่าไอ้ที่เราแชร์ ๆ ไปจาก 9GAG ไม่ใช่คอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นโดย 9GAG เองเลย แต่เป็นการแชร์ต่อมาจากเหล่าครีเอเตอร์ตัวจริงเสียงจริงที่สร้างคอนเทนต์ขำ ๆ โดยใช้แพลตฟอร์มที่พวกเขาสร้างขึ้นอย่าง 9GAG เป็นสื่อกลางส่งต่อมันสู่ผู้ใช้งานโซเชียลทั่วโลก

หมายเหตุ: แม้ว่างานจะไม่ได้ทำขึ้นมาเองแต่เขาไม่ได้ขโมยมาแบบผิดลิขสิทธิ์เพราะมีทีมงานที่คอยติดต่อไปขออนุญาตเจ้าของคอนเทนต์ก่อนซึ่งหลายคนก็ยินดีที่จะใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นเส้นทางสร้างไวรัล ก็ถือว่าวิน-วิน นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้อยู่มาได้โดยไม่โดนฟ้อง

3. 9GAG ไม่ใช่ของฝรั่งแต่มาจากบริษัทสัญชาติจีนและภาษาจีน

ที่มาของชื่อ 9GAG ที่บางคนยังหลงคิดว่ามันเป็นของฝรั่งเพราะไม่มีภาษาจีนตรงไหนเลย แท้จริงนำมาจากภาษากวางตุ้ง โดยผสมขึ้นจากคำว่า “เก๋า” ที่แปลว่าหมายเลข 9 และคำว่า “แก๊ก” (GAG) ที่เป็นศัพท์สแลงทางอินเทอร์เน็ตของชาวฮ่องกงที่แปลว่า สนุกสนาน ตลกขบขัน เพราะ Ray Chan เองก็เป็นคนฮ่องกงเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ เขาที่เป็นคนจีนเหมือนกัน แต่ที่ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษเพราะการตั้งตัวเลขกับภาษาอังกฤษฮิตกันในหมู่ชาวฮ่องกง

4. 9GAG ไม่มีรายได้ทางอื่นนอกจากโฆษณา

ถ้าจะหาเจ้าของแพลตฟอร์มที่ได้รายได้ทั้งหมดงอกมาโดยไม่ได้ผลิตอะไรเองมาขายเลย เป็นพ่อค้าคนกลางตัวจริงเสียงจริง แถมได้เงินจากขายโฆษณาอย่างเดียวแล้วอยู่รอดมาเรื่อย ๆ 9GAG นี่แหละคือตัวอย่างที่ดีที่คุณจะต้องมาดู เพราะทุกวันนี้นอกจากเงินก้อนที่ได้จากการระดมทุน เงินเลี้ยงองค์กรทั้งหมดก็มาจากคนซื้อโฆษณาในแพลตฟอร์มล้วน ๆ เรียกได้ว่าพึ่งคนอื่นของแท้จริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนคืออะไร เดี๋ยวเราจะไปเฉลยอีกครั้งจากการพูดคุย

ตอนนี้ Ray Chan อยู่ตรงหน้าเราและเล่าจุดเร่ิมต้นของเขาให้ฟังว่า ปี 2008  เขาและกลุ่มเพื่อนก่อตั้ง 9GAG ขึ้น โดยเริ่มจากการส่งมุกขำขันกันทางอินเทอร์เน็ตแล้วลงความเห็นว่าน่าจะสร้างเว็บไซต์ไว้โยนลิงก์ให้กดเข้าไปดู ไปคอมเมนต์กันได้เลยเพราะสะดวกกว่า จึงร่วมมือกันสร้างเว็บฯ ขึ้นแบบไม่ตั้งใจแสวงหาผลกำไร แค่เน้นเรื่องความมันส์เพียงอย่างเดียว แต่ 4 ปีต่อมาเขาก็เริ่มจริงจังกับการสร้างแพลตฟอร์มและพัฒนาจนกลายเป็นอาชีพหลักจนถึงทุกวันนี้

ระยะเวลาเกือบ 11 ปีที่สร้าง 9GAG มา ยืนหยัดท่ามกลางโซเชียลที่ปั่นป่วนทั้งยอด Engage และคู่แข่งมหาศาล เขาทำอย่างไร เราพกคำถามที่เราสงสัยมากมายมาถามเขา

ความแตกต่างระหว่างตอนเริ่มต้นปีแรกกับตอนนี้คืออะไร ?

ตอนนี้เราทีมเรามีคนกว่า 40 คน ดังนั้น ตอนนี้เราจำเป็นต้องแคร์เรื่องการทำยอด เพราะแต่ก่อนอาจจะเป็นโปรเจกต์จากช่วงว่างหลังเลิกงาน (Leisure Project) ไม่จริงจัง ไม่ได้เงินก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เราต้องจ่ายเงินเดือนให้คนอื่น เรามีรายจ่ายเพิ่ม ดังนั้นเราต้องแคร์เกี่ยวกับเรื่องสร้างรายได้ด้วย ขณะเดียวกันเราก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ต้องคิดว่าทำอย่างไรที่นำเสนอคอนเทนต์ให้ดีขึ้นได้

ส่วนความท้าทายวันนี้ ผมคิดว่าเราควรจะทำให้โลกมีความสุขเพิ่มขึ้น (Make The World Happier) เพราะผมคิดว่าทุกวันนี้คนมีความกดดันสูงขึ้น การทำงาน ชีวิต ดังนั้น ถ้าเราทำให้คนมีความสุขเพิ่มขึ้น บางทีแค่หัวเราะหรือยิ้มวันละ 5 นาที ผมคิดว่ามันทำให้เรามีคุณค่ามากขึ้น (valueable)

 

แล้วตัวคุณล่ะมีความสุขเพิ่มขึ้นด้วยไหม ?

ใช่ แน่นอนครับ ผมเรียนด้านกฎหมายในมหาวิทยาลัย แต่เรียนได้ค่อนข้างห่วย เพราะฉะนั้นคงจบมาเป็นทนายไม่ได้แน่ จินตนาการไม่ออกเลยว่าตอนนี้จะทำอะไรถ้าผมไม่ได้ทำ 9GAG เพราะตอนน้ีผมได้ไปงานประชุมเท่ ๆ ได้คุยกับพวกคุณ ได้บอกเล่าความคิดเห็นที่ผมมีเกี่ยวกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เนตใช่ไหม แต่ถ้าผมไม่ได้ริเริ่ม 9GAG ขึ้นมา บางทีตอนนี้ก็อาจจะเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาที่ทำงาน 9 to 5 หรือ 9 to 8 ผมไม่ได้พูดเพื่อบอกว่ามันไม่ดีนะ แต่บอกว่าตอนนี้ชีวิตของผมมันน่าสนใจกว่า

ในเมื่อวันนี้คุณเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม บริษัทขยาย ทำไมถึงไม่คอนเทนต์ขึ้นมาเองด้วยล่ะ

เราไม่ทำคอนเทนต์เอง เพราะว่าเราไม่ใช่คนครีเอทีฟ ไม่ใช่คนน่าสนใจ และเราก็ไม่ใช่คนตลกด้วย และนั่นคือเหตุผล เพราะเรารู้ว่ามันมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย คนมีความสามารถและพรสวรรค์ข้างนอกนั่นเยอะแยะ ดังนั้น ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เราไม่สร้างคอนเทนต์เอง แต่อยู่ที่ เฮ้ย! คนข้างนอกนั่นมันมีคนเก่ง ๆ เยอะมากเลย เขาทำคอนเทนต์ออกมาเยอะแยะ ทำอย่างไรเขาถึงจะทำให้สิ่งที่เขาทำไปถึงคนดูคนของเขาได้ ผมคิดว่านั่นสำคัญกว่าการที่เราจะมานั่งทำคอนเทนต์เองอีก หน้าที่ของเราคือเลือกส่งออกไปได้ถูก

ถ้าคุณเป็นคนครีเอทีฟ แน่นอนว่าบางทีคุณก็อาจจะสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาเอง แต่สำหรับพวกเรา เราไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนครีเอทีฟ นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสร้างแพลตฟอร์ม เราทำงานน่าเบื่อเพื่อช่วยคนที่น่าสนใจพวกนั้น

 

คุณทำอย่างไรถึงจะเลือกคอนเทนต์ที่ “ใช่” นั่นออกมาส่งต่อให้คนอื่นได้ล่ะ?

ก่อนอื่นมันเป็นเริ่มจากรสนิยมส่วนตัวเลย ถึงเราจะไม่ใช่ครีเอทีฟ แต่ว่าเราเป็นคนที่ชอบและเข้าใจเรื่องราวพวกนั้น มันเหมือนเราไม่ได้ทำอาหารเก่งแต่รู้ว่าอาหารจานนั้นอร่อย จริงไหม เราคิดว่าถ้าเราเลือกคอนเทนต์ที่เราชอบ หลังจากที่เรามีผู้คนเยอะแยะมากมาย เราก็ทำให้เขาเลือกคอนเทนต์ที่เขาชอบเอง นั่นเลยเป็นเหตุผลให้เรามีระบบคอนเทนต์ใน 9GAG และเราก็มี Data ที่มาช่วยบอกเราว่า เฮ้ย บางทีคอนเทนต์นั้นก็อาจจะเวิร์กนะ แล้วเราก็จะแชร์คอนเทนต์นั้นมากขึ้น

แต่บางอย่างถึงมันจะไม่ได้กรองโดย Data เราก็จะส่งออกไป แม้คอนเทนต์นั้นจะโคตรประหลาด เพราะเราเชื่อในสัญชาตญาณของ Editor ดังนั้น เขาก็จะปล่อยให้เขาเลือกในสิ่งที่เขาชอบด้วย

วันที่คนสนใจเรื่องการเลือกตั้งหรือการเมืองมากขึ้น มันทำให้คุณทำงาน 9GAG ยากขึ้นไหม?

ผมคิดว่าสำหรับพวกผมอาจจะไม่ยากขึ้นเท่าไหร่ เมื่อคนเข้าไปในแพลตฟอร์มสากล พวกเขาจะพูดถึง Local Politics เยอะ เขาไม่ค่อยพูดเรื่องการเมืองสากลเท่าไหร่ และจากประสบการณ์ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าเมื่อคนจากแต่ละส่วนของโลกมาเจอกัน มันจะทำให้พวกเขาสุภาพอ่อนน้อมขึ้นมากกว่าการไปเจอกับคนพื้นที่เดียวกันเหมือนกัน เลยไม่ค่อยมีปัญหา

ขอข้อแนะนำในการทำงานสำหรับคนที่กำลังจะเข้ามาสตาร์ตอัปแบบคุณหน่อย เรารู้ว่าหัวข้อที่คุณพูดมาวันนี้คือ “What Advice you read is wrong?” มันหมายถึงอะไรเหรอ ?

ครับ สิ่งที่ผมจะพูดวันนี้ก็อาจจะผิดเหมือนกัน

เวลาคุณอ่านหรือฟังคำแนะนำจากคนอื่น ต่อให้คนนั้นจะเป็นคนประสบความสำเร็จระดับโลกระดับสตีฟ จอบส์ หรือ มาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์ก ผมอยากจะบอกว่าคำแนะนำพวกนั้นมันก็ช่วย แต่ปัญหาอีกอย่างที่ต้องไม่มองข้ามคือ ผมเกิดที่ฮ่องกง มาจากครอบครัวชาวฮ่องกง บางทีคุณอาจจะเกิดที่ไทย สักที่ในไทย พื้นฐานของเรามันแตกต่างกันอยู่แล้วถูกไหม ความคาดหวังก็ต่างกัน ทั้งคาแรกเตอร์ บุคลิกภาพ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันใช้ได้กับผมก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ใช้ได้กับคุณ

ผมไม่ค่อยได้แคร์สิ่งที่คนอื่นพูดสักเท่าไหร่ บางทีคุณอาจจะคิดเรื่องที่คนอื่นคิดเยอะก็ได้ ผมอาจจะชอบทำงานน่าเบื่อที่ทำอยู่แต่คุณอาจจะชอบงานที่มันน่าสนใจกว่านี้ ดังนั้น คำแนะนำที่เยอะ ๆ พวกนั้นบางอย่างมันเอามาใช้ไม่ได้ เพราะคนเราต่างกัน บริษัทเองก็ต่างกัน โดยเฉพาะเวลาที่คุณอ่านคำแนะนำจากพวกซีอีโอที่ประสบความสำเร็จ

พวกเขาเริ่มสร้างบริษัทมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ประสบการณ์ที่เขามีอาจจะเอามาประยุกต์ใช้วันนี้ไม่ได้ เพราะว่าในยุคนั้นมันยากมากที่จะสร้างบริษัทเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต ถูกไหม แต่วันนี้แค่คุณมีสมาร์ตโฟน คุณก็กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ สร้างช่อง Youtube ของตัวเองได้ คุณกลายเป็นนายตัวเองได้ นั่นเลยทำให้ต่างกันมาก

10 ปีที่แล้ว พ่อแม่เรายังบอกว่า เราไม่ควรเล่นเกมคอมพิวเตอร์เยอะนะเพราะมันเปลืองเวลา แต่ตอนนี้มีนักเล่นเกมที่เขาเล่นเกมก็หาเงินเลี้ยงชีพได้ มีอาชีพที่เรียกว่า E-Sport เกิดขึ้น ดังนั้น เวลาเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยน แน่นอนว่าเราไม่เหมือนเดิม มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการใหม่ ๆ ตอนนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมีอะไรในมือ แต่ผมคิดว่ามันจะมีประโยชน์ให้คุณฟังพวกมันได้ในฐานะแหล่งไอเดียและเป็นแรงบันดาลใจเพื่อการเรียนรู้

อะไรคือกุญแจความสำเร็จที่ทำให้ 9GAG สร้างไวรัลได้

ก่อนอื่นตอนนี้ผมไม่ได้คิดว่า 9GAG ประสบความสำเร็จแล้วก็เลยยังรู้ว่าอะไรคือกุญแจความสำเร็จตรงนั้น แต่ทุกวันนี้สิ่งที่เราทำทุกวันคือการคิดเสมอว่าอะไรคือสิ่งที่ user ชอบ เราพูดคุยกับคนของเรา แล้วเราก็ตั้งใจฟัง “มันไม่ใช่ขั้นตอนที่ทำแล้วจบไป แต่เป็นขั้นตอนที่ทำไปแบบไม่รู้จบ”

 

อยู่รอดวันนี้ สำคัญกว่าอนาคต

เจ้าของแพลตฟอร์มยักษ์ที่มีคนตามหลักล้านปิดท้ายบทสนทนากับเราไว้อย่างน่าสนใจ เมื่อเราถามว่าก้าวต่อไปของ 9GAG จะเป็นอย่างไร เขาบอกเราว่า “การทำให้อยู่รอด (Survival)” เขาต้องหาวิธีที่มั่นใจได้ว่าบริษัทจะมีรายได้พอสำหรับรายจ่าย เพราะนับวันคู่แข่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หลายบริษัทมีศักยภาพการแข่งขันสูง ส่วนวิธีที่ทำให้สามารถ Survival ได้ท่ามกลางสถานการณ์เดือด ๆ แบบนี้ก็ไม่ยาก แค่ยึดตำแหน่งในใจคนที่เป็นท็อปแฟนและดูแลคนเหล่านี้ให้ดี

“สิ่งที่ผมจะบอกคือ บางทีคุณไม่ต้องเป็นคนแรกหรอก แต่คุณต้องมั่นใจว่า user ของคุณอยู่ตรงไหน แล้วฟังเขามาก ๆ ตัวอย่างเช่น เราไม่ได้สร้างบัญชี IG มาก่อน กระทั่งเมื่อสองปีที่ผ่านมา มี user ทักมาว่า เฮ้ย! IG มันเป็นแพลตฟอร์มที่เท่มากเลยนะ เราถึงไปทำบัญชี IG และตอนนี้มันทำให้เรามีคนมากกว่า 50 ล้านคนติดตามเราผ่านบัญชี IG

ผมว่าเรื่องทำเงินนี่ยังไงมันก็ยากมากอยู่แล้วถูกไหมครับ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องง่ายที่คนอื่น ๆ ทำได้ แต่สำหรับพวกเราที่โฟกัสส่วนใหญ่เรื่อง Survival เราไม่ได้โฟกัสเรื่องกำไรมากนัก เพราะพวกผมเชื่อว่าบอสของผม หรือ users ถ้าเราทำเพื่อพวกเขาแปลว่าเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง ดังนั้น เราทำให้ผู้ใช้เราก่อนแล้วค่อยทำให้ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าทีมเราจะมีความสุข เพราะบางทีถึงเราอาจจะสร้างเงินได้เยอะแต่เราอาจจะทำให้ทีมเราไม่มีความสุข มันก็ยากที่จะเดินหน้าบริษัทไปได้ ดังนั้น เรื่องนี้ผมคิดว่ามันก็ยากแหละ แต่มันก็เป็นไปได้”

ช่วงเวลาไม่นานที่ได้พูดคุยกับ Ray Chan เชื่อว่าหลายคนคงได้เนื้อกลับไปแบบเน้น ๆ ทั้งเรื่องการประกอบธุรกิจ แพสชัน และการคิดถึงผลกำไร UNLOCKMEN เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้หลักสูตรเดียวกันเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีหรือทำตามเพื่อสร้างบริษัทให้ยิ่งใหญ่ อยู่ยาวนาน เพราะวิธีของแต่ละคนแตกต่างกันและปรับเปลี่ยนได้เสมอเช่นเดียวกับที่ Ray พูดไว้ด้านบน

 

อย่ากลัวที่ไม่ได้เป็นคนริเริ่ม อย่าโหมวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนใคร
ถ้าคุณรู้และเข้าใจ เพราะ SURVIVAL คือสนามมาราธอนสำหรับวิ่งระยะไกล

 

Photographer : Warynthorn Buratachwatanasiri

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line