Life

ZERO TO HERO: รังสรรค์ จันทร์วรวิทย์ ราชา ZIPPO เมืองไทย ผู้เปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นธุรกิจ

By: TOIISAN August 10, 2019

ประเทศไทยก็ดัดจริตในระดับหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราต้องเอาไฟแช็กไปแขวนไว้กับบุหรี่ตลอด

มันคงจะจริงอย่างที่ว่า เพราะสำหรับในประเทศไทยไฟแช็กถูกจับคู่อยู่กับบุหรี่มาตลอดทุกยุคทุกสมัย แต่ในช่วงวัยเด็กเราเห็นคนรุ่นพ่อจำนวนไม่น้อยที่ไม่สูบบุหรี่แต่ก็พกไฟแช็ก Zippo ติดกระเป๋าไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ถือเป็นหนึ่งในตัวแทนความเท่ของผู้ชายที่อยู่มาทุกยุคทุกสมัย เพราะ Zippo เป็นไฟแช็กที่เท่ด้วยตัวของมันเอง 

UNLOCKMEN เคยเขียนเกี่ยวกับไฟแช็ก Zippo อยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับคนวงในที่คลุกคลีกับ Zippo อย่างจริงจัง จนเราได้มีโอกาสได้นั่งสนทนากับคุณ “รังสรรค์ จันทร์วรวิทย์” หรือคุณแต๋น ประธานและผู้ก่อตั้งชมรม Zippo Club Thailand 

สิ่งที่ UNLOCKMEN อยากรู้เกี่ยวกับ Zippo มีมากมายหลายหัวข้อนับไม่ถ้วนรวมถึงเรื่องราวของคุณแต๋นที่ทำให้ความชอบกลายเป็นธุรกิจแถมพอเมื่อทำแล้วก็ประสบความสำเร็จอีก เพราะไม่ใช่ทุกคนทำได้ และไม่ใช่ทุกคนมีความสุขกับการนำความชอบมาเป็นธุรกิจ เราจึงเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการถามว่า อะไรที่ทำให้คุณแต๋นสนใจไฟแช็ก Zippo ?

ผมเริ่มสนใจ Zippo มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมเพราะเห็นลุงใช้แล้วมันเท่มาก แถมสิ่งที่ทำให้เริ่มสนใจจริงจังเป็นเพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็จะเห็นลุงใช้ไฟแช็กอันเดิมเสมอ มันทนมาก มีเอกลักษณ์มากโดยเฉพาะเสียงเวลาเปิด-ปิด แต่กว่าจะมาสะสมจริง ๆ ก็ตอนทำงานมีเงินเป็นของตัวเองครับ

เสน่ห์ที่แตกต่างระหว่างไฟแช็กอื่นกับ Zippo ในมุมของคุณแต๋นมีอะไรบ้าง ?

อย่างแรกเลยคือเสียงคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นไฟแช็กที่กันลมได้ จุดแล้วไม่ดับง่าย ๆ แถมเล่นทริคได้อีกด้วย แต่สิ่งที่เป็นจุดแข็งทำให้ Zippo แตกต่างจากแบรนด์อื่นคือเรื่องการดูแลหลังการขาย เพราะเขารับประกันตลอดชีวิต ซึ่งนโยบายนี้เป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1932 จนมาถึงปัจจุบัน

Zippo อันไหนราคาแพงที่สุด ?

ถ้าเป็นราคาสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันมีราคาอยู่ประมาณสองล้านกว่าบาทคือ Zippo รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในปี 1932 มีแค่ 40 กว่าอัน แถมตอนนี้มีเหลืออยู่ในโลกไม่ถึงสิบอันแล้วเหลือแค่ 7-8 อันเท่านั้น เลยทำให้ราคามันพุ่งสูงมาก และตอนนี้เขาก็ประมูลกันไปแล้วที่อังกฤษ ส่วนอีกอันอยู่กับเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผม เขาจะขายประมาณหกล้านเยน

สะสมไฟแช็กแบบนี้ ปกติแล้วสูบบุหรี่รึเปล่า ?

เคยสูบบุหรี่ครับ แต่ตอนนี้เลิกสูบได้ประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังสะสมไฟแช็กอยู่

คนสะสมไฟแช็กส่วนใหญ่เป็นคนสูบบุหรี่ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบบุหรี่แต่ก็ยังเลือกสะสม คิดว่ามันเป็นเพราะอะไร ?

จริง ๆ แล้วคนไม่สูบบุหรี่สะสมไฟแช็กเยอะมากครับ มีทุกประเภทเลยทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เดี๋ยวนี้วัยรุ่นก็หันมาสะสมไฟแช็กเยอะขึ้น ไม่ใช่ว่าต้องสูบบุหรี่เสมอไปถึงจะสะสม Zippo ได้ มันเป็นมากกว่าไฟแช็กเพราะอย่างบางรุ่นเก็บไปสักพักหนึ่งราคามันจะขึ้น บางคนมองเห็นช่องทางตอนที่มันราคาถูกอยู่ก็รีบซื้อมาสะสมไว้ก่อน

แล้วคุณแต๋นสะสมมานานแค่ไหนแล้ว ? 

สะสมมา 29 ปีแล้วครับ Zippo ของสะสมส่วนตัวของผมที่ไม่ได้มีไว้ขายตอนนี้มีราว ๆ สี่พันอันได้ แต่ในร้านของเราก็มีเอาของสะสมของผมมาขายด้วยนะ อย่างบางอันซื้อมาซ้ำก็เอามาขายและถ้ารวมอันที่อยู่ในร้านด้วย ผมก็มีไฟแช็กประมาณหมื่นกว่าอันได้ 

 

เมื่อความชอบได้รับคำวิจารณ์ที่คนนอกมองว่าไร้สาระกลายเป็นธุรกิจทำเงิน

เราทุกคนต่างมีความชอบ บางคนชอบสะสมแผ่นเสียง กันดั้ม รองเท้าผ้าใบ บางคนชอบสะสมของเก่า นาฬิกา กล้องฟิล์ม เพราะแต่ละคนมีรสนิยมที่หลากหลายและต้องพบเจอกับคนที่ไม่เข้าใจพร้อมต้องรับฟังถ้อยคำต่าง ๆ ว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นเรื่องไร้สาระ การซื้อของที่ชอบมาเก็บไว้เป็นคอลเลกชันเป็นเรื่องสิ้นเปลือง และไฟแช็กก็คงจะหนีคำวิจารณ์จากคนอื่น ๆ ไม่พ้น 

ตอนที่เราเริ่มสะสม Zippo ได้จำนวนหนึ่งมีคนวิจารณ์ความชอบส่วนตัวของเราไหม ?

เรื่องแบบนี้มันแล้วแต่คนจริง ๆ ครับ สมัยก่อนคนที่บ้านผมก็ไม่สนับสนุนที่ผมสะสม Zippo แต่เพราะว่าเราชอบมาก มันเป็นความชอบส่วนตัวของผม เงินที่ซื้อก็เป็นเงินเดือนที่ผมได้มา แต่ก่อนเงินเดือนที่เราได้มันจะประมาณ 4,500 บาท ส่วน Zippo อันละ 400 ก็แบ่งเงินมาซื้อเดือนละอัน พอเงินเดือนเรามากขึ้นก็สามารถซื้อได้เยอะขึ้น ส่วนคนที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่ชอบอะ เราก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้ 

หลังจากสะสมไฟแช็กมาได้ระยะหนึ่งอะไรที่ทำให้เราเริ่มมองว่ามันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ?

เมื่อก่อนผมทำงานหลายอย่างทั้งทำร้านอาหาร ทำสายการบิน ทำนิตยสาร เข้าสู่วงการตกแต่งภายใน จนได้มาทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นก็เลยได้ไปประเทศญี่ปุ่นบ่อย เราเห็น Zippo ที่ญี่ปุ่นมันมีเยอะมาก ๆ ลวดลายเยอะมากจริงครับ พอเราไปญี่ปุ่นเมื่อไหร่ก็ซื้อลายแปลก ๆ มาเก็บไว้ รวมถึงในกรุงเทพฯ ผลก็ไปกว้านซื้อมาเก็บไว้เยอะมาก พอถึงจุดหนึ่งก็ลาออกมาพร้อมกับเงินหนึ่งก้อนแล้วก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ตัวเองชอบคือเปิดร้านขาย Zippo 

แล้วผลที่ออกมา ?

เจ๊งสิครับ! ตอนนั้นแค่ชอบอย่างเดียว ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการทำให้เราเลือกทำเลร้านได้ไม่ดี ไม่มีคนรู้จัก คนก็ไม่ไปที่ร้านทำให้เราขายของไม่ออก นอกจากนี้เงินที่เราสะสมมาก็ลดลงเรื่อย ๆ คิดไปคิดมาเลยบอกตัวเองว่าพอแล้วก็ไปเลียแผลอยู่สองปีครับ 

กลัวไหมตอนที่ตัดสินใจออกมาเปิดร้านขายไฟแช็ก ?

กลัวครับ ตอนนั้นมีลูกสองคนแล้วด้วย แต่คิดว่าเราทำงานมาหลายอย่างประสบการณ์ที่เจอมาน่าจะช่วยเราได้ แถมเราเป็นลูกคนจีนก็อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง พอมันเจ๊งในตอนแรกก็เสียความมั่นใจไปพอสมควร ตอนเก็บของกลับบ้านคนรอบตัวก็หัวเราะบอกว่า “เห็นไหมไม่น่าทำเลย” หรือ “เตือนแล้วนะ” บ้างล่ะ แต่สุดท้ายเราก็พลิกจากวันที่เจ๊งจนมาประสบความสำเร็จได้ 

เราซื้อจากเว็บเมืองนอกมาขาย เห็นเราได้ออกทีวี ร้านมีหลายสาขาและตอนนี้ก็กำลังจะขยายออกไปต่างจังหวัดด้วยเช่นเชียงใหม่ พัทยา ขอนแก่น ก็มีคนชื่นชมเรา

“เพราะเรารักและเชื่อมันในสิ่งที่เรารัก แต่ถ้าเราทำมันเล่น ๆ ก็ไม่มีวันมาถึงจุดนี้ได้” 

 

ZIPPO CLUB THAILAND กลุ่มสังคมสำหรับคนคอเดียวกัน 

ถึงแม้ว่าการเปิดร้านขายไฟแช็กครั้งแรกจะไม่สำเร็จถึงขนาดเจ้าตัวเองยังกล้าพูดเลยว่า “เจ๊ง” แต่คุณแต๋นก็ยังไม่หมดความรักกับไฟแช็กยี่ห้อนี้ซ้ำยังทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากขึ้นจากการตั้งเว็บไซต์สำหรับคนที่ชื่นชอบ Zippo เพื่อให้กลุ่มคนที่มีความชอบเดียวกันได้มาพบกัน 

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจก่อตั้งเว็บที่ให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ Zippo ?

เราเป็นคนสมัยเก่าที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นเลย แต่มีคนบอกว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่า “เว็บไซต์กึ่งสำเร็จรูป” อยู่นะ เราสามารถใส่ข้อมูล รูปภาพได้ดั่งใจก็เลยตัดสินใจลองทำดู เปิดเว็บเกี่ยวกับ Zippo เอาข้อมูลจากหนังสือภาษาอังกฤษที่มีมาแปลเป็นภาษาไทยใส่ไว้ในเว็บทั้งประวัติของ Zippo การดูแล วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ปัญหาที่คนใช้ไฟแช็กเจอบ่อย ๆ และใช้ชื่อเว็บว่า zippoclubthailand ครับ 

ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ?

หลังจากที่ผมเปิดเว็บได้ครึ่งปี อยู่มาวันหนึ่งก็มีคนทักมาให้กำลังใจเราว่าเขาชอบสิ่งที่เราทำอยู่ มันทำให้ผมดีใจมาก ทำให้เราอยากหาข้อมูลมาเติมทุกวัน จากไม่มีคนชมรมของเราก็มาถึงหลักร้อยคน เรานัดเจอกัน คุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่าง ๆ ไปจนถึงการเล่นทริค แถมก็มีรายการทีวีมาติดต่อว่าอยากสัมภาษณ์ โชว์การเล่นทริคของไฟแช็ก เราก็ดังภายในข้ามคืนเลย! 

สมัยก่อน Zippo ของปลอมมันมีเยอะกว่าของจริงอีกครับ เราก็แนะนำว่าต้องแยกของแท้กับของปลอมอย่างไร 

พอเปิดเว็บมาได้สองปีคนเริ่มเชื่อถือเรามากขึ้น เขาก็มาถามเราว่าจะหาซื้อ Zippo ได้จากที่ไหนบ้าง ทำไมผมไม่เอาของที่มีเยอะอยู่แล้วมาขาย สิ่งนี้คือการจุดประกายให้เราอยากลองขายของอีก แถมตอนนี้เรารู้เยอะ เรามีเว็บไซต์มีชมรมก็เลยติดต่อไปทาง Zippo ว่าอยากจะซื้อของเขามาขายช่วยทำใบเสนอราคาให้หน่อย

พอเขาถามว่าเว็บเราชื่ออะไรและรู้ว่าเราใช้ zippoclubthailand เขาก็หายไป หลังจากนั้นสองอาทิตย์ก็มีจดหมายจากอเมริกาส่งมาว่า “ห้ามใช้ชื่อ Zippo ให้เอาออกจากเว็บฯ หรือเปลี่ยนชื่อไปเลยไม่อย่างนั้นจะฟ้อง” 

“ผมช็อกมากว่าทำไมถึงไม่ได้ ถ้าเราทำชมรม Zippo แล้วไม่ชื่อ Zippo จะให้ชื่อว่าชมรม Cricket เหรอ ?”

สุดท้ายแล้วเว็บไซต์ของเราก็ต้องเปลี่ยนชื่อ ?

ใช่ครับ เปลี่ยนจาก zippoclubthailand มาเป็น zippadeedoo ที่มาจากเพลง Zip a Dee Doo Dah ของดิสนีย์ แถมมันคล้ายกับคำว่า Zippo ด้วย 

 

ความคลาสสิกสุดเท่ของไฟแช็กที่ข้ามผ่านกาลเวลา และอยู่ยืนยงมาถึงปัจจุบัน 

หลังจากที่คุณแต๋นผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เริ่มต้นจากความชอบที่แปลงมันมาเป็นธุรกิจทำงาน ล้มเหลว และประสบความสำเร็จ ด้วยเรื่องราวต่าง ๆ จึงทำให้เรามุ่งความสนใจไปที่ตัวของ Zippo เอง ว่าเพราะอะไรถึงได้อยู่มาอย่างยาวนานแถมประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าได้ถึงขนาดนี้ และคุณแต๋นในฐานะที่เป็นประธานชมรม Zippo Club Thailand มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับไฟแช็กที่เขาหลงรัก 

สำหรับคนที่เพิ่งสนใจและเริ่มสะสม Zippo มีคำแนะนำให้กับคนที่กำลังเริ่มอย่างไร ? 

ที่ผมเจอคนชอบ Zippo จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทอย่างชัดเจนครับ บางคนชอบเรียบ ๆ เน้นปีผลิต ก็ต้องไปดูของเก่า บางคนดูตามปีเกิดตัวเอง บางคนยิ่งปีเก่ายิ่งชอบมีราคา สิ่งต่อมาดูสภาพของใหม่ก็จะมีราคาราคาสูงกว่าตัวที่เคยใช้งานแล้ว ยกตัวอย่างไฟแช็กปี 1941 รูปทรงพิเศษสภาพ 100% ราคาก็จะขึ้นไปถึงหมื่นถึงแสนบาท แต่ถ้าใช้แล้วราคาก็ลดลงมา มันเป็นเรื่องปกติครับ

อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มชอบสะสมลายสวย ๆ คล้ายกับเทรนด์แฟชั่นโดยเฉพาะญี่ปุ่น บางคนก็ชอบลายที่ผลิตจากอเมริกา ซึ่งถ้าอเมริกาก็จะมีลายออกมาปีละ 200-300 ลาย คนก็สามารถตามเก็บลายที่ถูกรสนิยมของเราได้ แล้วการออกลายแบบนี้มันทำให้เราตามเก็บได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ตัวโปรดักส์ที่มันเหมือนเดิมตั้งแต่ปี 1932 กลไกที่เหมือนเดิม เปลี่ยนรูปร่างบ้างนิดหน่อย แต่เพิ่มมาด้วยลวดลายทำให้คนอยากสะสม 

จะแยก Zippo ของแท้กับของปลอมยังไงเพราะเดี๋ยวนี้ของปลอมทำออกมาเหมือนเกือบทุกรายละเอียดแล้ว ?

สำหรับคนที่ใช้ Zippo จะดูง่ายมาก แต่ถ้าคนที่ไม่เคยใช้จะดูยากหน่อย เพราะของปลอมมันเหมือนมาก ๆ มีหลายเกรดด้วยทั้งเกรด AAA เกรดมิลเลอร์ต่าง ๆ แต่ยังไงของปลอมก็คือของปลอมครับยังไงก็ไม่ใช่ และอีกอย่างของแท้จะซ่อมฟรีตลอดชีวิต แถมถ้าซื้อกับผมก็เอาเข้ามาได้เลยครับ 

คิดว่าตัวเองตอนนี้ประสบความสำเร็จในวงการ Zippo แล้วหรือยัง ? 

สำเร็จระดับหนึ่งและก็ภูมิใจมาก เราได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยของ Zippo เป็นหนึ่งในคนไทยสองคนแรก เขาเรียกให้ไปเทรนด์เรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่การผลิต ดีไซน์ ประวัติศาสตร์ของ Zippo ไปจนถึงการทำการตลาด ซึ่งมันทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ถ้ามันเต็ม 100% ผมว่าเรามาถึง 80-90% แล้ว และก็ยังมีโครงการที่อยากทำอีกเยอะด้วย

ประสบการณ์ทั้งหมดสอนอะไรเราได้บ้างเกี่ยวกับการนำความชอบมาทำเป็นธุรกิจ 

อันนี้ผมเตือนก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนจะสำเร็จเพราะแค่ชอบ หรือแค่คิดว่าเอาของสะสมของตัวเองมาทำเป็นธุรกิจแล้วจะรุ่ง บางคนล้มจนเจ็บหนักก็มี เพราะคนส่วนใหญ่ทำการตลาดไม่เป็น ไม่มีฐานลูกค้า ไม่มีข้อมูลอะไรมากพอเลย เหมือนกับผมที่เปิดร้านครั้งแรกไม่ได้ศึกษาอะไร รู้ว่าชอบอย่างเดียวเปิดร้านเลย

ความชอบอย่างเดียวมันไม่พอนะครับ 

 

 

PHOTOGRAPHER: Warynthorn Buratachwatanasiri

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line