Business

#Thinkต่าง : 3 วิธีคิดผิด ๆ ที่ทำให้ชีวิตการทำงานล้มเหลว

By: unlockmen April 15, 2017

เวลาเราไปถามใครซักคนว่าเขารู้สึกว่าตัวเองทำงานเป็นอย่างไร คำตอบส่วนใหญ่ที่ได้มาน่าจะออกมาประมาณว่า เออ เขาว่าเขาก็ทำงานดีนะ ทำงานเต็มที่เท่าที่จะทำได้ แต่คำถามคือ ทำไมทุกคนที่บอกว่าตัวเองตั้งใจทำงาน พยายามทำสิ่งต่างๆให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับได้ผลลัพธ์ที่ออกมาหรือมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน?

เอาจริง ๆ ผมว่าทุกคนก็ไม่ได้ตอบผิดตรงไหนหรอกครับ เราทำงานดี และทำงานเต็มที่จริงๆนั่นแหละ แต่ตามแบบฉบับวิธีคิดมาตรฐานของเราไง เพราะฉะนั้นการที่ผลลัพธ์มันออกมาไม่เท่ากัน ก็ต้องย้อนกลับไปดูที่ว่าวิธีคิดตั้งต้นของเราที่ถูกตั้งค่าไว้มันเป็นยังไง ถึงทำให้การทำงานของเราไม่ก้าวหน้าแบบที่มันควรจะเป็น วันนี้ผมเลยอยากจะเอาวิธีคิดบางอย่างที่ตัวผมเองเคยคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี กระทั่งพบว่าจริงๆแล้วมันกลับกลายเป็นสิ่งที่ยึดผมไว้ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้มาเล่าให้ทุกคนฟังซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อครับ!

1. คิดว่าตัวเองทำได้ดีตามมาตรฐาน

Mad-Men-05-16x9-1

ทำได้ดีตามมาตรฐานที่วางไว้ เอ๊า แล้วมันไม่ดียังไงวะ มันต้องดีสิ เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยไปมากกว่านี้ ผมขอพาคุณไปรู้จักกับคำว่ามาตรฐานของการทำงานจริง ๆ จัง ๆ ซักหน่อย ถ้าให้อธิบายให้เข้าใจเร็ว ๆ ง่าย ๆ ขอแปลความหมายของมาตรฐานในเชิงการทำงานว่า ขอบต่ำสุดของผลลัพธ์ที่คุณทำได้ แล้วไม่ทำให้บริษัทหรือลูกค้าเกิดความเสียหาย มาตรฐานไม่ได้หมายความว่าดีนะครับอย่าเข้าใจผิด มาตรฐานคือค่ากลางที่เอาไว้ใช้บอกทุกคนว่า อ่อ อันนี้โอเครับได้ ไม่ย่ำแย่จนเกินไป และเมื่อทุกคนเข้าใจว่ามาตรฐานหมายความว่าดี ทุกคนก็จะพยายามทำงานออกมาให้ได้แค่ที่ระดับมาตรฐานเท่านั้นซึ่งจริงๆคือไม่ใช่ไง

เป้าหมายของการทำงานที่ทำให้เราก้าวหน้าคือ เราต้องทำงานให้ได้สูงกว่ามาตรฐานเสมอ เมื่อทำงานได้สูงกว่ามาตรฐาน มันจึงแยกคุณออกมาจากคนที่บอกตัวเองว่าตั้งใจทำงาน และคิดว่าตัวเองทำได้ดีทั่วไป เพราะคุณตั้งค่าคำว่ามาตรฐานการทำงานไว้ไม่เหมือนกัน แทนที่จะเอาแต่ดีใจว่า ว้าว เราทำงานได้ตามมาตรฐาน อยากให้ลองมองหาว่าฉันจะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีกว่านี้ได้ยังไง นี่คือวิธีคิดใหม่ที่จะพาคุณไปไกลมากกว่าที่คุณเคยเป็น

2. ฉันทำทุกอย่างได้ด้วยตัวของฉันเอง

pics-for-gt-mad-men-wallpaper-hd-mad-men-wallpaper-for-android-wallpapers-free-mobile-phones-iphone-download-phone-pics-max-moxxi

ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่พยายามทำงานทุกอย่างให้ได้ด้วยตัวคนเดียว (ทั้งงานของตัวเองและงานของทีม) จะว่าเป็นสิ่งที่ดีก็ดีมาก ๆ จะว่าแย่ก็แย่มาก ๆ ข้อดีของการทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวคือ คุณจะเก่งและมีความเข้าใจงานที่หลากหลาย เรียกว่าเป็นคนครบเครื่อง แต่ความแย่คือคุณจะกลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวคุณเอง คุณจึงเก็บงานทุกอย่างไว้ที่ตัวเองคนเดียว ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณกลายเป็นคอขวดในการทำงานของทีมซะเองแล้ว คุณยังมีความเครียดจากการทำงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ผมพูดแบบนี้หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่า อ๋อ แปลว่าเราทำงานเฉพาะแค่ในหน้าที่ของเราก็ดีแล้ว ไม่ต้องไปก้าวก่ายงานของคนอื่น ไม่ต้องช่วยทีมทำงานใช่ไหม? ผมบอกว่าไม่ใช่ การพยายามทำทุกอย่างให้ได้ด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งรู้มาก ยิ่งเข้าใจภาพรวมของการทำงานมาก ยิ่งมีโอกาสเติบโตในการทำงานมาก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องเข้าใจคือ คุณไม่สามารถทำการใหญ่ด้วยตัวคนเดียวได้ แม้แต่ Steve Jobs เองยังต้องการ Steve Wozniak มาช่วยออกแบบคอมพิวเตอร์ให้ บริษัท Apple จึงเกิดขึ้นมาได้ สรุปง่าย ๆ คือ จะทำการใหญ่คุณต้องหัดเชื่อใจทีมงานของคุณให้เป็น ให้โอกาสทีมงานของคุณได้แสดงศักยภาพด้วย เก่งหลายคนยังไงก็ดีกว่าเก่งคนเดียวเสมอครับ

3. ทุกอย่างต้องเพอร์เฟค

160724-business-2

นิยามคำว่าแฟนที่เพอร์เฟคที่สุดสำหรับคุณเป็นแบบไหน? สำหรับผมเธอจะต้องเป็นคนดี นิสัยน่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข รับข้อดีและข้อเสียของกันและกันได้ และคอยอยู่เคียงข้างกัน เป็นกำลังใจให้กันในเวลาที่เราต่างคนต่างมีปัญหา นี่น่าจะเป็นนิยามคำว่าผู้หญิงที่เพอร์เฟคสำหรับผม (นี่เรื่องสมมุตินะครับ 555)

คราวนี้ถึงตาคุณบ้าง ลองสาธยายมันออกมาให้ได้แบบผมดูครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่านิยามคำว่าแฟนที่เพอร์เฟคของคุณจะไม่เหมือนกับผมแบบ 100% แน่นอน บางคนอาจจะขอแบบ ขาว สวย หมวย อึ๋ม 34 24 35 หรือหล่อขาวตี๋ สูง 185 อะไรก็ว่ากันไป ผมพูดเรื่องนี้ให้ฟัง ผมต้องการจะบอกอะไรครับ?

ผมต้องการจะบอกคุณว่า ความสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องส่วนบุคคล เพอร์เฟคของผมก็แบบหนึ่ง เพอร์เฟคของคุณก็อีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องแฟน การทำงานก็เช่นเดียวกัน การที่ทุกคนพยายามทำงานที่ออกมาให้สมบูรณ์แบบจึงแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับใครบางคนเสมอ ดังนั้นการมานั่งโฟกัสว่าเราจะต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนจึงเป็นเรื่องที่เสียเวลาเกินจำเป็น

คนที่สร้างผลลัพธ์ได้มากๆเขาไม่ได้สนใจความสมบูรณ์แบบในทุก ๆ อย่างครับ สิ่งที่เขาสนใจคือ จะทำยังไงให้ทำแต่สิ่งสำคัญให้ได้ดีที่สุด เมื่อไม่ได้สนใจจะสร้างทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ เขาจึงมีเวลาไปทำสิ่งสำคัญให้ดีที่สุดได้มากยิ่งขึ้นไปอีกไงหละ ทำให้ดีที่สุดในเวลาที่มี เฉพาะเรื่องที่จำเป็นจริงๆก็พอครับ

และนี่คือ 3 วิธีคิดตั้งต้นที่ใครหลายคนคิดว่าดี แต่ดันเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการทำงาน คุณไม่ได้จำเป็นต้องเชื่อผมไปหมดทุกอย่าง แต่อยากให้คุณลองไปนั่งคิดดูดี ๆ ว่าสิ่งที่ผมพูดมานี้ส่งผลให้คุณทำงานได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น กระทั่งสร้างผลลัพธ์ไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะได้จริงหรือไม่ ถ้าการคิดแบบเดิมมันไม่ทำให้เราก้าวไปไหน คงไม่เสียหายอะไรถ้าจะลองตั้งค่าความคิดเริ่มต้นของคุณใหม่ แล้วลองใช้มันดูซักตั้ง ไม่แน่ว่ามันอาจจะทำให้การงานของคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าจนฉุดไม่อยู่ก็เป็นได้ครับ

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่   Thinkต่าง by เธมส์ DECgeneration

170107-business-1

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line