Entertainment
เบื้องหลังความสำเร็จคลิปดัง “Risk Today เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว” ผลงานกำกับโดย มอร์ Ten to Twelve
By: Chaipohn May 30, 2016 34460
เบื้องหลังความสำเร็จคลิปดัง “Risk Today เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว” ผลงานกำกับโดย มอร์ Ten to Twelve
By: Chaipohn May 30, 2016
เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้โคจรมาเจอและนั่งพูดคุยกับ “มอร์ – วสุพล เกรียงประภากิจ” อีกครั้ง หลังได้รับชมผลงานจากฝีมือการกำกับคลิปสั้นล่าสุดของ Tiger beer ในแคมเปญ #Risktoday #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว ที่กำลังฮิตจะเป็นจะตายอยู่ตอนนี้ หลัง Tiger beer ปล่อยออกมาได้เพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ ก็มีคนดูเป็นจำนวนมากกว่า 2 ล้านครั้ง และคนแชร์อีกเกือบหนึ่งหมื่นครั้ง ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่เสกได้ง่ายๆ เลยในวงการนี้ จึงการันตีได้ว่า วีดีโอ #RiskToday ต้องมีเนื้อหาโดนใจวัยรุ่นอย่างสร้างสรรค์แน่นอน
เรารู้ดีอยู่แล้วว่าคุณมอร์เป็นคนทำอะไรหลายอย่าง ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง และมีผลงานอะไรใหม่ๆ ปล่อยออกมาแล้วบ้าง
“หลักๆ ตอนนี้ผมโฟกัสที่งาน 2 อย่างครับ คือเล่นดนตรี ก็คือวง Ten to Twelve ซึ่งเพิ่งจะปล่อย single ใหม่ออกมาชื่อเพลงว่า “โลกยังไม่แตก” และเป็นผู้กำกับโฆษณา เพิ่งทำคลิปออนไลน์กับทาง Tiger beer ไป ในคลิปชื่อ Risk Today เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว”
เราชอบอารมณ์ เนื้อหา และความหมายของคลิป #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว การมากำกับคลิปนี้มีที่มาที่ไปยังไง
“พอดีได้อ่านสคริปที่ทาง Tiger beer และ StoryTeller ส่งมาให้อ่านแล้วรู้สึกชอบ ชอบ script และ concept อันนี้มาก รู้สึกว่ามันมีความปรัชญาอยู่เยอะ มันมีการพูดถึงสิ่งที่ใหญ่มาก พูดถึงชีวิตมนุษย์ พูดถึงพลังของวัยรุ่น มันน่าจะไปบวกกับภาพที่มันวัยรุ่นมากๆ น่าจะสนุกดีครับ”
#Risktoday #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว คือปรัชญาการใช้ชีวิตของมอร์อยู่แล้วหรือเปล่า? เพราะดูจากการใช้ชีวิตแล้ว เป็นคนที่ทุ่มเททำในทุกอย่างที่อยากทำ / ถ้าใช่ มีส่วนช่วยให้การคิดงาน การถ่ายทำในฐานะผู้กำกับง่ายขึ้นหรือไม่
“มันเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างตรงกับตัวเราอยู่แล้ว เราเป็นคนทำอะไรเต็มที่มากในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะด้านดนตรี ทำเพลง ทำโฆษณาแต่ละชิ้น เราก็คิดว่าต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถ มันสมอง และร่างกายของเราจะทำได้ ณ ตอนนี้”
“เมื่อทุกอย่าง Sync กันอยู่แล้ว ผมก็ทำงานง่ายขึ้นเยอะครับ ด้วยสคริปที่มันมีความเป็นวัยรุ่น และตัวผมเองก็ยังไม่ไกลจากความเป็นวัยรุ่นมั้ง (หัวเราะ) ก็เลยมีความเชื่อหลายๆ อย่างเหมือนในคลิปอยู่ครับ เราเติบโตมา ผ่านช่วงวัยรุ่นแบบในคลิปนี้อยู่แล้วด้วย เรามีความซ่า เรามีความกล้า มันเหมือนเราย้อนกลับไปดูตัวเองตอนช่วงวัยนั้น เหมือนเอา Insight เอาประวัติศาสตร์ชีวิตตัวเอง ชีวิตเพื่อนมารวมกัน ออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้นี่แหละครับ”
คลิป #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว ในฐานะผู้กำกับงานและตีความหมายภาพทั้งหมดของงานชิ้นนี้ คุณมอร์ตีความหมายในคลิปนี้ว่าอะไร
“เพื่อให้สอดคล้องกับคำว่า #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว ผมเลยปรับให้มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนเดียวกับคนกลุ่มเดียว ความสนุก ความมันส์ ความเพี้ยน ความบ้าบอ ความเสียใจ อะไรทั้งหมด คนดูจะได้รู้สึกถึงการเดินทางของเรื่องราวจากวัยรุ่นกลุ่มนี้ตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าอีกวัน”
“เราอยากทำหนังวัยรุ่น ที่เป็นวัยรุ่นจริงมาก และไทยมากๆ แบบที่ฝรั่งก็ทำไม่ได้ ผมก็เลยเลือกใส่ความเป็นไทยในแบบที่ผมโตมาเข้าไปซ่อนเอาไว้ในคลิปนี้ เพราะผมอินกับความเป็นไทยมาก เช่นการเล่นโอฬารเรียกชื่อ หรืออารมณ์ท้ากันไปทะเลกลางดึก กินแมลงก็มีนะ”
มอร์มีหน้าที่อะไรในการผลิตคลิปนี้บ้าง?
“ถ้าพูดถึงหน้าที่หลักๆ เลย ก็คือการ Develop storyboard แล้วก็กำกับ ซึ่งโชคดีมากที่ทาง Agency และทาง Tiger beer เปิดโอกาสให้เรามาก ทำให้พวกเราได้ใช้ประสบการณ์ของเราและทีมงานทุกคนเข้าไปอยู่ในคลิปนี้ได้เต็มที่”
แสดงว่าตอนวัยรุ่นต้องปาร์ตี้หนักพอสมควร?
“ไม่หรอกครับ ไม่ได้ปาร์ตี้หนักขนาดนั้นตลอดเวลา แต่ผมเข้าใจ feeling นั้นดี จริงๆ แล้วผมเป็นสายชิ่งครับ ถ้าดึกๆ ขอตัวเข้าห้องน้ำนี่แสดงว่าผมจะหนีกลับละ (หัวเราะ)”
น้องนักแสดงนี่เป็นมืออาชีพ หรือรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า เพราะทั้งตัวแสดงและบรรยากาศดูจริงมาก หรือมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ทุกอย่างออกมาดูเป็นธรรมชาติ
“นักแสดงทั้งหมดที่เห็นไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพครับ เนื่องจากเราอยากให้งานชิ้นนี้ออกมาจริงที่สุด และวัยรุ่นที่สุด การ Casting จึงต้องแหกกฏจากที่ทำกันมา เช่นปกติจากที่เรียกคนเข้าไปแคสในห้องสีขาว แล้วให้เค้าทำท่าสนุกให้ดูหน่อย ซึ่ง Acting ที่ได้มันจะดูไม่จริงไง เราเลยใช้วิธี Casting อีกแบบคือ เอาคนที่อยู่ในวงโคจรเดียวกันและเป็นเพื่อนกันมาจับกลุ่ม แล้วมานัดกินข้าวกับเรา นั่งพูดคุยกันชิวๆ เป็นการใช้ sense ว่าคนนี้มีเคมีเข้ากับการทำงานของเราได้ไหม คุยกันก็พอจะรู้ได้ว่าคนนี้เป็นคนมันส์จริงหรือเปล่า”
“แม้กระทั่งฉากที่มีการเล่นคอนเสิร์ตในร้าน แล้วต้องมีวัยรุ่นคนนึงขึ้นไปแจมกีตาร์ แทนที่จะใช้ extra ขึ้นมาทำท่าเล่นดนตรี ผมจัดคอนเสิร์ตจริงในร้านจริงเลย จัดร้านจัดไฟเหมือนเล่นจริงเลย ผมเลือกวงที่เราชอบมาเล่นเลย แล้วก็ขอขึ้นไปแจม ทั้งหมดก็เลยออกมาดูจริงมากตามโจทย์ที่ตั้งไว้”
บรรยากาศตอนทำงานดูน่าสนุกดีนะ
“งานนี้จะดูไม่จริงเลย ถ้าผมทำตัวเป็นผู้กำกับ นั่งตะโกนสั่งว่าจะเอาอะไรผ่านวอกกี้ทอกกี้อยู่หลังมอนิเตอร์ใหญ่ๆ ไกลออกไป 20 เมตร แต่พวกผมและทีมงานพยายามสร้างบรรยากาศกองให้ไม่เหมือนการทำงาน เหมือนมาเล่นกัน ทำตัวเป็นแก๊งค์เดียวกับพวกวัยรุ่น เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในหนังเท่านั้นเอง”
เราเชื่อว่าทุกวันนี้ หลายคนต้องเคยเจอ “วันที่เป็น Zero” คุณมอร์เคยมี Moment แบบวันที่เป็น Zero หรือเปล่า และมีวิธีในการทำให้ Zero กลายเป็น Hero อย่างไร คำแนะนำนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับหลายคนแน่นอน
“จริงๆ ก็เหมือนทุกคนนะครับ ผมเองก็มีวันที่มีขึ้นมีลง มีช่วงสว่างกับช่วงดาร์คอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องงาน ผมเองก็เป็นคนที่เครียดบ่อย ซึ่งมันเป็นที่มาของเพลง single ใหม่ชื่อ “โลกยังไม่แตก” ที่ผมเขียนขึ้นมาเพื่อบำบัดตัวเอง เพลงนี้จะพูดถึงว่าจริงๆ แล้วความทุกข์ของเราก็ยังไม่ได้หนักหนาหนิหว่า มองฟ้าก็ยังเป็นฟ้า มองดินก็ยังเป็นดิน โลกก็ยังไม่แตกหนิหว่า ในวันที่เราแพ้ ก็ลองหัวเราะให้ตัวเองกันดูบ้าง เป็นเพลงจังหวะสนุกสนานที่มีเป้าหมายให้บำบัดตัวเอง เวลาเครียดผมก็จะเปิดเพลงนี้ร้องบนรถ แล้วสักพักผมก็จะดีขึ้น (หัวเราะ)”
“สิ่งที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่ปล่อย single นี้คือ การมีแฟนเพลงเดินมาบอกผมว่า “จริงๆ แล้ววันนั้นเค้ารู้สึกแย่มาก แต่พอฟังเพลงนี้ปุ๊บ เค้าก็รู้สึกดีขึ้นเลย” สำหรับเรา มันคือความสุขมากกว่าเพลงขึ้นชาร์ตอันดับ 1 อีก นี่แหละคือคุณค่าของเพลง คุณค่าของดนตรี ทำให้เรารู้สึกว่าเพลงของเรามันมีคุณค่า”
สุดท้ายนี้ ในเมื่อเรามีความเชื่อเหมือนกันว่า #เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว มีอะไรที่คุณมอร์ฝันว่าอยากจะเป็น อยากจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ และคิดว่ายังไงในชีวิตนี้ต้องทำให้ได้อีกบ้าง
“ยังไม่มีครับ (หัวเราะ) ตอนนี้คิดว่าอยากทำ 2 อย่างนี้ให้มันดีกว่านี้ ทำให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งที่มันสนุกที่สุดก็คือการที่เราได้เห็นตัวเองค่อยๆ โตขึ้น พัฒนาขึ้น อย่างเช่นด้านงานเพลงกับ Ten to Twelve เราก็อยากจะเขียนเพลง ทำเพลงให้มันดีกว่าเดิมไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับงานด้านโฆษณาครับ”
“ถ้าถามว่าเมื่อถึงจุดๆ นึงจะขยับไปทำหน้าที่อะไรอีกไหม? จริงๆ แล้วตัวผมไม่ใช่คนคิดมากขนาดนั้นครับ ผมสนุกกับทุกอย่างตอนนี้ครับ ผมทำมันเพราะมันสนุกดี ผมทำมันแล้วผมสนุกไปด้วย เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว แค่นี้ก็พอแล้วครับ”
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ LUKA BANGKOK
