APPS

Trend Watching : Solar Energy ถึงจุดเปลี่ยนแหล่งพลังงานในประเทศไทย เข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าและ Smart Living เต็มตัว

By: Chaipohn February 23, 2017

ถ้าเราลองย้อนกลับไปมองโลกในอดีตเมื่อสักประมาณสิบปีที่แล้ว เปรียบเทียบกับยุคนี้ จะเห็นว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตประจำวัน ที่เราไม่คาดคิดว่าจะมีอะไรมาแทนที่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี คงไม่มีใครคาดคิดว่า Apple จะผลิต iPhone ขึ้นมาเบียดให้ Nokia และ Blackberry ตกไปจากมือของพวกเราได้ หรืออีกตัวอย่างที่เคยฝังหัวพวกเราว่าพลังงานจะต้องมาจากโรงไฟฟ้า น้ำมัน หรือถ่านหินเท่านั้น แต่ทันทีที่โลกได้รู้จักกับ Elon Musk และ Tesla รถยนต์สมรรถนะสูงจากพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้คนเริ่มหันหลังให้รถยนต์ใช้น้ำมันในช่วงปี 2012 จากผังเมืองที่เตรียมแผนสำหรับปั้มน้ำมัน ต้องรื้อใหม่เพื่อเพิ่มจำนวนที่ชาร์จไฟให้รถยนต์ ทำให้เราต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเทรนด์พลังงานไปอย่างสิ้นเชิง

161020-the-niche-solar-4

บางคนอาจจะรู้จัก Elon Musk แค่ในมุมของ Tesla Motors CEO ผู้พลิกโฉมวงการรถยนต์ทั่วโลก แต่ที่จริงแล้ว Musk ยังเป็นผู้นำในการเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงแหล่งพลังงานในที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรอีกด้วย ภายใต้เก้าอี้ Chairman ของ SolarCity ที่เจ้าตัวเพิ่งจะจ่ายเงินซื้อหุ้นไป 22% เป็นจำนวนถึง 2.6 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นสัญญานที่ต้องการบอกว่านอกจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Musk ยังเดินหน้าปฏิวัติพลังงานไฟฟ้าในบ้านจากโรงงานผลิตไฟฟ้า หันไปโฟกัสที่แหล่งพลังงานหมุนเวียนทดแทนสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านการติดตั้ง Solar Cells บนหลังคาบ้านนั่นเอง

161020-the-niche-solar-1

หลักการคิดที่แหลมคมของ Musk คือการเปลี่ยนแหล่งพลังงานที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำมัน ผ่านการ Integrated แหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่าน Solar Roof เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ใน PowerWall solar storage battery สำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าในบ้านได้โดยตรง แถมยังใช้ชาร์จไฟฟ้าในแบตเตอรี่ของ Tesla ได้อีกด้วย นอกจากจะเป็น vision ที่กว้างไกลของ Musk ในการสร้าง Self-Sustainable Ecosystem ในชีวิตประจำวันครั้งยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นการลดการปล่อยมลพิษทางอาการตั้งแต่ต้นสายไปจนถึงปลายทางอีกด้วย

161020-the-niche-solar-5

อีกปฏิกิริยาเร่งที่ทำให้โลกหันมาใส่ใจพลังงานไฟฟ้าทดแทนจากแสงอาทิตย์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็คือความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสภาพอากาศ จากที่ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจในสภาวะโลกร้อน ก็ล้วนได้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญจากอุทกภัยต่างๆ ที่คาดเดาและรับมือได้ยากขึ้น หลายประเทศทั่วโลก อย่างในเยอรมัน ก็ผ่านร่างกฎหมาย “แบน” รถยนต์พลังงานน้ำมันให้หมดไปจากถนนภายในปี 2030 รวมถึงประเทศไทยก็มีการหยิบเรื่อง Solar Energy ขึ้นมาพูดถึงอย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะจากภาครัฐ ซึ่งเปิดให้ชาวบ้านติดตั้ง Solar Panels เพื่อใช้งานและเอาพลังงานไฟฟ้าที่เหลือกลับมาขายให้หน่วยงานรัฐได้

161020-the-niche-solar-6

ที่จริงแล้วพลังงานไฟฟ้าจาก Solar Energy ค่อนข้างเหมาะจะใช้งานในประเทศไทย ด้วยศักยภาพทางภูมิประเทศที่ได้รับพลังงานแสงอาทิตย์เฉลี่ยค่อนข้างสูงตลอดปี เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร รวมถึงนโยบายที่ประเทศไทยต้องการลดปริมาณการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ เพื่อให้เราได้ใช้ทั้งพลังงานที่ต้นทุนถูกขึ้น แถมยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้ในตัว ปัจจุบันเราจึงเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่หันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้จริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์

ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เด่นในด้านนี้ คงต้องเป็นเครือบริษัท SENA ที่มีการปรับ Port การทำธุรกิจ โดยมีการลงทุนในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้ชื่อบริษัท SENA Solar Energy เพิ่มเติมจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกด้านพลังงานแสงอาทิตย์ อย่าง BGrimmPower และ First Solar เพื่อ Integrated ความชำนาญทั้ง 2 ด้านให้กลายเป็นจุดเด่นที่สร้างคาแรคเตอร์แตกต่างจากแบรนด์อสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ในตลาด และยังช่วยต่อยอดเพิ่มมูลค่าสำหรับโครงการต่างๆ ของ SENA ได้เป็นอย่างดี

170125-theniche-2

จากการสร้าง Positioning และจุดขายที่ชัดเจน ในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้เป็นเลิศด้านพลังงานไฟฟ้า บ้านและคอนโดในโครงการใหม่ๆ ของ SENA จึงมีการติดตั้ง Solar Roof เข้าไปเป็นมาตรฐาน อย่างเช่นในโครงการคอนโดล่าสุด The Niche Mono Sukhumvit 50 ก็มีการติดตั้ง Solar Cells เพื่อรับพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในโครงการ ช่วยให้ลูกบ้านประหยัดเงินค่าส่วนกลางได้ไม่น้อย

ไม่ใช่แค่ไฟฟ้าในโครงการที่ลูกบ้าน SENA ได้ประโยชน์ แต่สำหรับคนที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็สามารถใช้งาน SENA Solar Station ที่จับมือกับ ABB บริษัทที่โด่งดังด้านผู้ผลิตอุปกรณ์แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นไฟฟ้า ติดตั้งเครื่อง EV Charger สร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถ Electric Vehicle ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ซึ่งการที่ SENA พยายามใช้ Solar Power ในโครงการมากเท่าไหร่ นอกจากลูกบ้านจะได้ประโยชน์แล้ว ทาง SENA เองก็ได้รับประโยชน์จากต้นทุกที่ลดลง สุดท้ายก็จะส่งผลดีกลับไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการแบบ win-win อีกด้วย

แถมยังขยี้ภาพความเป็นแบรนด์ Hi-Tech ด้วยการลงทุนผลิต SENA 360’ Service smartphone application ที่ถูกสร้างเป็นช่องทางบริการหลังการขายสำหรับลูกบ้าน SENA สามารถแจ้งซ่อมแซมดูแล แจ้งส่วนกลาง หรือใช้ประกาศฝากขายฝากเช่า ก็สามารถทำผ่าน Application SENA 360’ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเช็คเปรียบเทียบรายละเอียดการประหยัดไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโครงการได้อีกด้วย

sena-power-360-app

อีกจุดนึงที่เราคิดว่า SENA ทำได้ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร เป็นไอเดียที่ช่วยแก้ปัญหากลุ่มผู้อยู่คอนโดได้อย่างเข้าอกเข้าใจ คือการสร้างบริการพิเศษ Communal Locker Room พื้นที่เก็บของให้เช่ารายเดือนที่มีอยู่ในโครงการ The Niche Mono Sukhumvit 50 ช่วยให้คนที่พื้นที่ห้องไม่ใหญ่มาก สามารถนำข้าวของชิ้นใหญ่ๆ มาเก็บไว้ที่นี่ได้ ซึ่งของหลายชิ้นมักจะถูกเก็บไว้ในห้องโดยไม่ค่อยได้ใช้งาน ทำให้เสียพื้นที่อยู่อาศัยไปโดยเปล่าประโยชน์

ต้องยอมรับว่า SENA เป็นโครงการที่มีแนวคิดที่น่าสนใจ และเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เน้นภาพอสังหาริทรัพย์ ที่เน้นผสมผสานเรื่องของพลังงานสะอาดทดแทนไปใช้อย่างเป็นรูปร่าง จนกลายเป็นจุดเด่นที่มีเสน่ห์ได้สบายๆ ที่เหลือต้องลองดูกันว่าอนาคต Solar Energy ของเมืองไทยจะก้าวไปอยู่ตรงจุดไหน แต่ดูจากการขยับตัวของ SENA Development ที่ริเริ่มกับ The Niche Mono Sukhumvit 50 และอีกหลายๆ โครงการในเครือแล้ว ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นก้าวแรกที่ดีและน่าจับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์มากจริงๆ

170125-theniche-3

170125-theniche-4

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ The Niche Mono Sukhumvit 50 ได้ที่ :

Website:   http://www.sena.co.th/th/condominium/theniche-mono-sukhumvit50
Facebook:   https://www.facebook.com/senadevelopmentplc/

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line