ด้วยจำนวนงานเทศกาลดนตรีเจ๋งๆ และปาร์ตี้สุดตื๊ดที่ถูกจัดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ช่วงนี้ UNLOCKMEN มีโอกาสได้รับเชิญไปปลดปล่อยอารมณ์กับหลากหลาย Event ที่ถูกจัดขึ้น ซึ่งงานไหนโดนใจเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศเด็ดๆ ของงานมาฝากกัน อย่างล่าสุดกับ BLEN FES ที่ Mega Bangna ถือเป็นอีกงานที่มีดีกรีความมันส์ขั้นร้อนระอุ เข้ากับช่วงซัมเมอร์แบบนี้เหลือเกิน สำหรับโชว์ภายในงาน เราบอกได้เพียงว่ามันคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความมันส์กระแทกอารมณ์ด้วยดนตรีสดจากศิลปินชื่อดัง และความสนุกสนานของบีทดนตรีอิเลคทรอนิกส์สุดเร้าใจจากดีเจระดับโลก ตามแนวคิด ‘สุดไปอีกขั้นกับส่วนผสมความมันส์ทางดนตรี’ และไม่ได้มีเพียงแค่ความมันส์ขั้นสุดจากบนเวทีเท่านั้น เพราะพื้นด้านล่างเวทีได้ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เราสัมผัสได้ถึงความสนุกที่กระจายตัวไปทั่วงาน ด้วยการแบ่งเป็นโซนต่างๆ เริ่มจาก Gate Entrance: ปลุกอารมณ์ความสนุกตั้งแต่ทางเข้างาน ด้วย Illumination Tunnel ยาวกว่า 14 เมตร ที่ใช้เทคนิคไฟ และกระจก infinity mirror สร้างมิติใหม่ที่แตกต่าง เป็นจุดที่หลายคน (รวมทั้งเรา) แวะถ่ายรูปเท่ๆ เช็คอินบน IG ก่อนเข้างาน Landmark: ดึงดูดทุกสายตากับ Dynamic Space พีระมิดกระจกขนาดใหญ่ รวมร่างกับไฟ LED ที่มีจังหวะการกระพริบหรือเปลี่ยนสีไปตามบีทของดนตรีบนเวที คอยสร้างสีสัน
หนุ่ม ๆ อย่างเราคงเคยได้เห็นภาพชายแก่สุดเท่บนอินเตอร์เน็ต แล้วแอบคิดในใจว่า ‘ถ้าแก่ตัวลงไปแล้วเท่ได้แบบนี้ก็คงจะดี’ แต่คิดได้เท่านั้นแล้วก็ปล่อยผ่านไป ด้วยกำแพงความคิดที่ว่านั่นคือนายแบบ นั่นคือชาวยุโรป ที่อายุยิ่งมากยิ่งดูดี ซึ่งจริง ๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเชื้อชาติยุโรป หรือเป็นนายแบบหุ่นดี หน้าตาดี เราก็สามารถดูดีในแบบของเราได้ นอกจากนี้ หากพูดถึงความแก่ เชื่อว่ามีน้อยคนนักที่ใจจดใจจ่อ เฝ้านับวันรอความแก่ที่คืบคลานเข้ามาด้วยความยินดี แน่นอนว่าไม่มีใครที่อยากจะมีสภาพร่างกายเสื่อมโทรม สภาพจิตใจห่อเหี่ยว ด้วยฮอร์โมนที่แปรปรวน และโรคภัยที่รุมเร้าเข้ามาได้ง่ายกว่าคนวัยหนุ่ม ซึ่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถือเป็นสัจธรรมของชีวิตที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ แต่เรายังสามารถเตรียมพร้อมที่จะเป็นคุณพ่อ คุณลุง หรือคุณปู่สุดเฟี้ยว ของลูก ๆ หลาน ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ปลายทางของการเป็นคนแก่ที่ดูดีตั้งแต่ภายนอกไม่แพ้ไอคอนสุดเท่ที่ได้เห็นจากอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการมีอารมณ์ และทัศนคติที่ดีจากภายในคงไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยบทความจากทีมงาน UNLOCKMEN ที่เรารวบรวมมาให้ได้ศึกษา และ ปฏิบัติตาม ทั้งในส่วนของการดูแลสุขภาพกาย และ สุขภาพใจ PART 1 : สุขภาพกาย ปัจจัยแรกในการที่จะแก่แบบดูดี และมีความสุข คงหนีไม่พ้นเรื่องของการดูแลสุขภาพกาย
เมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ สิ่งแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นเรื่องของอากาศที่ร้อนแสนสาหัส แต่ภายใต้ความร้อนระอุเหลือทน ยังมีเรื่องดี ๆ อย่างวันหยุดยาวให้เราได้พอชุ่มฉ่ำหัวใจกันบ้าง และนี่ก็คือช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มมองหาทริปท่องเที่ยวอีกครั้ง แค่ได้วางแพลนท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้จินตนาการถึงกิจกรรมมันส์ ๆ ที่กำลังจะได้สนุกสุดเหวี่ยงไปกับก๊วนเพื่อนที่รู้ใจเท่านี้ก็แทบจะอดใจให้ถึงวันหยุดที่รอคอยไม่ไหว แต่เราขอเตือนว่าหลังจากจัดทริปหาที่เที่ยวเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบฝันหวานไปถึงช่วง Holiday ที่กำลังจะมา จนลืมเตรียมข้าวของที่จำเป็นต้องติดตัวไปด้วยในทริป ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องหมดสนุกเพราะต้องมัววิ่งหาซื้อสิ่งของที่ลืมไว้ แทนที่จะได้พักผ่อนให้เต็มที่ในวันหยุดยาวแบบนี้ และเมื่อพูดถึงของจำเป็นสำหรับการออกทริปกับเพื่อนฝูง สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกทริปสำคัญ คงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่พกพาสะดวก สำหรับสร้างบรรยากาศให้กับเราในทุก ๆ ทริป และด้วยเหตุนี้เอง สิงห์จึงเข้าใจไลฟ์สไตล์ และเข้าใจ Insight ของเราทุกคน ว่าการจะไปต่างจังหวัด หรือออกทริปใด ๆ นั้น ความสะดวก และความคล่องตัวคือสิ่งสำคัญ จึงได้ออกแพคเกจใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Singha Ice Pack ซึ่งสามารถทำให้เราพกพาความเย็นไปได้ทุกที่ !! Singha Ice Pack ที่ทางสิงห์ได้ออกแบบมานั้น ได้เปลี่ยนแพคเกจแบบเก่าให้กลายกล่องน้ำแข็ง เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบใหม่ที่สิงห์ได้ปรับให้ตอบสนองทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ของพวกเราเป็นอย่างดี แถมยังตอบโจทย์ในทุก ๆ ทริป ไม่ว่าจะท่องเที่ยวแบบไหนก็ตาม
ในโลกปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนมีความเป็นปัจเจก เส้นสมมติที่เคยขีดรอยทางให้เราต้องดำเนินชีวิตตามกระแสหลักที่ใคร ๆ ต่างก็ว่าดี มันค่อย ๆ จางลง มีพื้นที่ซึ่งเปิดกว้างให้เรามีอิสระที่จะคิด ที่จะแสดงออกความเป็นตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น หากมองในแง่การตลาด นี่คือโจทย์ยากที่จะสร้างแบรนด์ให้สามารถครองใจผู้บริโภคได้ในปัจจุบัน แต่ยังมีอยู่หนึ่งก้อนความคิดที่สามารถสร้างจุดร่วมให้เกิดการยอมรับในตัวแบรนด์ นั่นคือ ‘ให้แบรนด์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความเป็นตัวตนที่แตกต่าง’ ซะเลย ด้วยแนวคิดนี้ ทำให้ในปัจจุบันเราได้เห็นสื่อโฆษณา รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใส่ความสนุก และกล้าที่จะแตกต่าง ลงไปในตัวงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีในแง่ของการจุดประกายไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นอกเหนือจากการโฆษณาเพียงอย่างเดียว ซึ่ง U BEER ถือเป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามอง ด้วยความโดดเด่นในการนำแนวคิดที่เป็นตัวแทนของความแตกต่างมาใช้ได้อย่างชัดเจน ด้วยการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ พิสูจน์ได้จากกระแสโซเชียลที่ร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปีก่อน และหลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์ขวดไปแล้ว ล่าสุด U BEER ยังได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบกระป๋อง ตอกย้ำภาพลักษณ์ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ของแพ็คเกจที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเท่ โดดเด่นด้วยโลโก้ตัว U สีดำ ตัดกับกระป๋องสีเหลืองตัวแทนของความสนุกสดใส และการสร้างจินตนาการอย่างไม่หยุดยั้ง และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ ยังคงแนวคิดของ U BEER เอาไว้อย่างชัดเจน ด้วยความมุ่งหวังที่ต้องการให้แบรนด์ U เป็นแบรนด์ของ YOU หรือพวกเราทุกคน
หากผู้ชายอย่างเราจะต้องเลือกนาฬิกาข้อมือคู่ใจสักเรือนหนึ่ง ปัจจัยหลัก ๆ ในการตัดสินใจคงหนีไม่พ้นเรื่องของงานดีไซน์ที่เข้าตา ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ชื่อเสียงและประวัติความเป็นมาของแบรนด์ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่เรามองข้ามไปไม่ได้ เพราะประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ย่อมมีผลต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพการใช้งาน อีกทั้งยังส่งผลต่อความภาคภูมิใจหากนาฬิกาบนข้อมือเรานั้นคือผลผลิตจากแบรนด์ที่มีจุดร่วมสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลกมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่เราเชื่อว่าต้องเป็นที่รู้จัก เป็นที่หมายปองของเหล่าชายชาตรี คงหนีไม่พ้นแบรนด์ OMEGA และยิ่งเป็นรุ่นที่อยู่ในตระกูล Speedmaster ซึ่งมีเรื่องราวเท่ ๆ มากมายบนหน้าประวัติศาสตร์โลก กับจุดเริ่มต้นในการเป็นนาฬิกาสำหรับนักแข่งรถ และก้าวข้ามไปสู่ภารกิจบนอวกาศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายแทบทุกคนใฝ่ฝันจะได้เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ OMEGA Speedmaster จะถูกเลือกให้เป็นเรือนเวลาที่ประดับอยู่บนข้อมือของใครหลายต่อหลายคน และเนื่องในโอกาสที่ OMEGA Speedmaster ได้เดินทางผ่านกาลเวลา และประวัติศาสตร์บทสำคัญมาจนครบรอบ 60 ปี UNLOCKMEN จึงขอเลือก 10 รุ่นสุดประทับใจ ที่เรามองว่ามันเปรียบเสมือนตัวแทนความสำเร็จ และเป็นหลักไมล์สำคัญในการพัฒนาของ OMEGA Speedmaster มาแนะนำให้ได้รู้จักเรื่องราวความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาของแต่ละรุ่น หรือใครที่เป็นนักสะสมนาฬิกาตัวยง อยากจะใช้ลิสต์นี้เป็นตัวช่วยในการออกตามล่า Speedmaster รุ่นหายากมาเก็บเอาไว้ในคอลเลคชันส่วนตัว เราก็ยินดี 1957 “BROAD ARROW” : The first Speedmaster สำหรับรุ่นแรกที่เราเลือกมาคงจะเป็นเรือนไหนไปไม่ได้ นอกจากต้นกำเนิดตำนานของตระกูล Speedmaster
หากใครมีโอกาสได้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งนาฬิกาข้อมือ คงพอจะรู้ว่านิยามของมันถูกขยายขอบเขตกว้างออกไปมากกว่าการเป็นแค่เครื่องบอกเวลา เพราะมันยังถือเป็นเครื่องประดับที่สามารถบ่งบอกตัวตน และความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ได้ในหลายแง่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมูลค่า ความยากลำบากในการเสาะหามาเป็นเจ้าของ ความแม่นยำของกลไกบอกเวลา รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตที่มีความประณีต และละเอียดพิถีพิถันในระดับงานฝีมือ ซึ่ง Grand Seiko เป็นแบรนด์นาฬิกาที่เรามองว่าสามารถเป็นอีกหนึ่งตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี เพราะในวงการนาฬิกาต่างรู้ดีว่า เหตุผลหลักสำหรับผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของนาฬิกาไฮเอนด์ จากญี่ปุ่นแบรนด์นี้ จะต้องเกิดจากการค้นคว้าข้อมูลลงลึกไปถึงเรื่องราวความเป็นมาจนก่อเกิดเป็นความหลงใหลในตัวตนของ Grand Seiko กับงานฝีมือระดับสูง และเทคโนโลยีกลไกบอกเวลาชั้นนำ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้รูปลักษณ์อันเรียบง่าย เสมือนความตั้งใจที่จะเก็บความสุดยอดนี้เอาไว้เป็นความภาคภูมิใจที่รู้กันเฉพาะช่างนาฬิกาผู้ให้กำเนิด และผู้สวมใส่ที่รักความเป็น Grand Seiko อย่างแท้จริง โดยเรื่องราวความเป็นมาของ Grand Seiko ต้องย้อนกลับไปในปี 1960 ซึ่ง Seiko แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น มีแนวคิดที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาในอุดมคติสำหรับคนรักนาฬิกาข้อมือระดับ Hi-end ที่เน้นความเรียบง่ายของฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่เต็มเปี่ยมด้วยความสมบูรณ์แบบทั้งความพิถีพิถันในงานขัดแต่งตัวเรือนภายนอก และการพัฒนาความเที่ยงตรงในการบอกเวลาของ Movement ภายในภายใต้ชื่อ Grand Seiko และตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา Grand Seiko ได้พิสูจน์ความตั้งใจที่มีมาแต่เริ่ม โดยยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความเที่ยงตรงของกลไกบอกเวลา ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของนาฬิกาในอุดมคติของผู้สวมใส่ ที่ต้องการใช้นาฬิกาที่มีความผิดเพี้ยนของเวลาน้อยที่สุด และปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมากสำหรับผู้ผลิต Mechanical
เรื่องราวของค่าใช้จ่ายในการปาร์ตี้ สังสรรค์ Hangout กับเพื่อนฝูง รวมถึงการพาสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณแฟนสุดที่รัก หรือในกรณีหนุ่มโสดก็คือการพาหญิงที่เราหมายปองไปออกเดทกระชับความสัมพันธ์ ถือเป็นสิ่งที่หนุ่มๆ ทั้งหลายยากจะหลีกเลี่ยง ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ จิปาถะ ที่กระหน่ำเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว หากใช้จ่ายเพลินโดยไม่ได้วางแผนรับมือเอาไว้ให้ดี เมื่อรู้ตัวอีกที ‘วิกฤติปลายเดือน’ ก็มาถามหาอยู่ที่หน้าประตูเสียแล้ว หากจะดำเนินชีวิตต่อไปโดยวินัยทางการเงินเละเทะ ขาดการตั้งเป้าหมาย ละเลยที่จะวางแผนในการใช้จ่าย คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จึงขออาสาแนะนำ Tips สำหรับควบคุมค่าใช้จ่ายแบบสบายๆ ไม่ได้เข้มงวดถึงขั้นต้องงดใช้จ่ายกับทุกสิ่งอย่าง แต่จะมาในทางสายกลาง ให้เราสามารถคงไว้ซึ่ง Lifestyle ที่ดี แค่เพิ่มเติมความมีวินัยเข้ามา จะได้ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตารัดเข็มขัด ประหยัดกันแทบตายในช่วงปลายเดือน ขั้นเริ่มต้น ประเมินรายรับ : ก่อนจะเริ่มทำการควบคุมค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าเราจะต้องรู้จำนวนรายได้ของเราเสียก่อน โดยคำว่ารายได้นี้จะต้องครอบคลุมไปถึงรายรับจากทุกช่องทาง ทั้งจากเงินเดือน, รายได้จากการทำธุรกิจ รวมถึงรายได้เสริมอื่นๆ ที่มี จะต้องนำมาลงรายการไว้ให้หมด เบื้องต้นเราแนะนำให้ทำลิสต์รายได้ต่อเดือนออกมา เพื่อง่ายต่อการวางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นเดือนๆ ไป คำนวณรายจ่าย : เมื่อรู้จำนวนรายได้ทั้งหมดต่อเดือนของเราแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาโฟกัสไปที่รายจ่าย ว่าต่อเดือนเราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ซึ่งในส่วนของค่าใช้จ่ายประจำ (ผ่อนบ้าน, ผ่อนรถ,
สมญานาม The Chosen One ไม่ใช่อะไรที่ได้มาง่ายๆ การเป็นอันดับหนึ่งของผู้ถูกเลือก จะต้องมีอะไรที่โดดเด่น และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ซึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ Sneaker ตระกูล Nike Air Max 1 นั้นมีรองเท้าอยู่หนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่ตำแหน่ง The Chosen One นั่นคือ Nike Air Max 1 atmos Elephant ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย และมีมติเป็นเอกฉันท์จากเหล่า Sneakerhead ทั่วโลก Vote Back เรียกร้องการกลับมาของ ‘ช้างฟ้า’ คู่นี้ ด้วยความนิยมขั้นสุดซึ่งพิสูจน์ได้จากผล Vote ทาง Nike จึงได้นำ Air Max 1 atmos Elephant กลับมาขึ้นไลน์ผลิตและวางจำหน่ายอีกครั้ง พร้อมเปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ Air Max x Carnival
หากเอ่ยถึงนาฬิกา แทบทุกคนจะต้องนึกถึงเครื่องบอกเวลาคู่กายมนุษย์ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่สำหรับแบรนด์นาฬิการะดับโลกที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน หน้าที่ของมันย่อมมีมากกว่าการบอกเวลา ด้วยโอกาสในการได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ทำหน้าที่แสดงช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวเหล่านั้นจะได้รับการถูกกล่าวขานต่อไปไม่รู้จบ Speedmaster เป็นซีรี่ส์แห่งเรือนเวลาจากแบรนด์ Omega ที่มีโอกาสได้ผ่านเรื่องราวสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 60 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นในการเป็นนาฬิกาสำหรับนักแข่งรถ ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านความแข็งแกร่งทนทาน และมาตรฐานการบอกเวลาที่แม่นยำ ส่งผลให้ Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาเรือนเดียวที่ผ่านการทดสอบของ NASA จนได้ครอบครองพื้นที่บนข้อมือของนักบินอวกาศทุกรายในโครงการ Apollo นับตั้งแต่ปี 1965 เป็นต้นมา ช่วงเวลาที่ทำให้ชื่อของ Omega Speedmaster ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก คงหนีไม่พ้นวินาทีที่ยาน Apollo 11 ลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ในวันที่ 20 กรกฏาคม ปี 1969 ซึ่ง Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาที่สองนักบินอวกาศ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin สวมใส่ขณะนำก้าวเล็กๆ อันแสนยิ่งใหญ่ของมวลมุษยชาติขึ้นไปฝากรอยประทับเอาไว้บนดวงจันทร์ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ The Moon Watch สมญานามแห่งความภาคภูมิใจที่ Omega
หากเอ่ยถึง Sneaker ระดับตำนานของ Nike เราเชื่อว่าชื่อของ Air Max 1 จะต้องติดอยู่ในลำดับต้นๆ ของการจัดอันดับ และไม่ใช่เพียงแค่ Air Max 1 OG สีดั้งเดิมเท่านั้นที่ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนาน เพราะจริงๆ แล้วยังมีรุ่นอื่นอีกหลายรุ่นในตระกูล Nike Air Max 1 ซึ่งเป็นที่หมายปองของเหล่า Sneakerhead ทั่วโลก และในโอกาสที่ Sneaker ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการฉีกกรอบให้กับผู้คนมากมาย อย่าง Nike Air Max 1 ได้สืบสานตำนานจากรุ่นสู่รุ่น มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ความพิเศษในการนับถอยหลังเข้าสู่ Nike Air Max Day ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม นี้ จึงไม่ได้หยุดไว้เพียงแค่การเปิดตัวรองเท้ารุ่น Nike Air Max 1 Anniversary เพราะไนกี้ประเทศไทย ภูมิใจนำเสนอ Nike Air