รับสมัคร AE ทีมีใจรักการทำงาน อึก ถึก ทน มาร่วมทีมสนุกๆ ด่วน
การทำธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยตัวคนเดียวนั้น พูดได้เลยว่ามันไม่ง่าย
เฟอร์นิเจอไม้ดีไซน์สวยๆ จะช่วยให้บรรยากาศในบ้านคุณดูดี น่าอยู่ขึ้นมากเลยทีเดียว
ถ้าพูดถึง CEO ไฟแรงที่น่าจับตามองในขณะนี้ สปอตไลท์คงต้องส่องไปที่ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ หรือพี่แท๊ป ผู้บริหารไฟแรง แห่งบริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เจ้าของเพจ Mission to the moon ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 300,000 คน เจ้าของ Podcast ชื่อดังอย่าง Superproductive Podcast และหนังสือติดอันดับมากมายอย่าง Marketing ลิงกลับหัว, คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแค่ปากซอย, Superproductive และอีกหลายเล่มที่คุณต้องไปติดตาม เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว เราคงไม่พลาดที่จะมาเจาะลึก สูตรสำเร็จในการบริหารจัดการสไตล์พี่แท๊ปกันว่า มีเคล็ดลับการบริหารจัดการอย่างไรให้ประสบความสำเร็จทั้งด้านการทำงาน รวมถึงการได้ทำสิ่งที่ตนเองรักอีกด้วย วิธี Motivate ตัวเอง ให้เป็นคนที่ Superproductive ตลอดเวลา สม่ำเสมอโดยไม่ท้อไม่หมดแรง พี่แท๊ป : จริง ๆ ต้องบอกว่าก็ไม่ได้ productive ตลอดเวลาขนาดนั้น ก็มีวันที่หนืด ๆ นอนเฉย ๆ
กลุ่ม “TalentSmart” ได้ทำการทดสอบประชากรมากกว่าล้านคน และพบว่าร้อยละ 90 ของผู้บริหารที่มีตำแหน่งระดับสูงมักเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) สูงกว่าพนักงานหรือผู้บริหารในตำแหน่งอื่น อีกทั้งมีข้อมูลที่น่าสนใจว่าคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะระมัดระวังที่จะไม่ทำพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ตัวเองมีสติ และไม่ตกหลุมพรางที่คนอื่นวางไว้ และนี่คือ 9 พฤติกรรม ที่ผู้นำใช้เพื่อเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์และประสิทธิภาพการทำงาน 1. มั่นคงทางอารมณ์ ไม่ตัดพ้อ ไม่เปรียบเทียบ หากความสุขและความพึงพอใจของคุณเกิดจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น คุณก็จะไม่มีความสุขที่แท้จริง คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์เมื่อพวกเขาเกิดความรู้สึกที่ดีในสิ่งที่ทำ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ความคิดเห็นหรือความสำเร็จของคนอื่นมาทำให้ตัวเองหมดความสุข แน่นอนที่สุดมันมันเป็นเรื่องยากที่จะไม่ตอบโต้กับสิ่งที่ใครต่อใครพูดถึงคุณ อย่าไปสนใจคำพูด/ความเห็นของคนอื่น และอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะว่ามันไม่สำคัญว่าคนอื่นคิดอย่างไรกับคุณ ยังไงคุณก็ไม่เคยดีหรือแย่อย่างที่คนอื่นบอกอยู่แล้ว 2. ให้อภัย ปล่อยวาง และจดจำ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะให้อภัยคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาลืม การให้อภัยคือการรู้จักปล่อยวางในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเดินหน้าต่อไป และมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณให้โอกาสคนที่ทำพลาด แต่คนที่ฉลาดทางอารมณ์ไม่อยากจะจมอยู่กับความพลาดของคนอื่นโดยไม่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางอย่างรวดเร็วและมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง 3. ต้องรอดในสนามรบ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์รู้ดีว่ามันสำคัญเพียงใดที่จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อต่อสู้ในวันต่อไป ในความขัดแย้ง เมื่อเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็ยิ่งทำให้เกิดการสู้รบที่อาจทำให้เราบาดเจ็บแสนสาหัส ดังนั้นเมื่อคุณอ่านและตามทันอารมณ์จนสามารถควบคุมมันได้ คุณก็สามารถเลือกการต่อสู้ได้อย่างชาญฉลาดและยืนหยัดได้อย่างสง่าผ่าเผย 4. ไม่เรียกร้อง ‘ความสมบูรณ์แบบ’ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ไม่ได้มองหาความสมบูรณ์แบบ เพราะพวกเขารู้ว่า ‘ความสมบูรณ์แบบ’
ตลาดหุ้นช่วงนี้ถือเป็นช่วงนี้เล่นยากมากพอสมควร เนื่องจากปัจจัยรุมเร้าจากหลายอย่าง นักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุนเป็นพิเศษ หลายคนมีคำถามว่าลงทุนอย่างไรดีให้รอดในช่วงภาวะโควิด 19 ทีมงาน UNLOCKMEN จึงไม่พลาดที่ไปขอคำแนะนำดี ๆ จากคุณแมน อัครพงศ์ ขวงธนะชัย เจ้าของเพจ Stockmanday มาเล่าแนวทางการลงทุนในช่วงนี้กัน มุมมองต่อตลาดหุ้นในขณะนี้ ด้วยว่าก่อนหน้านี้ SET ขึ้นทำ New high ในช่วงเริ่มต้นปี2561 หลังจากนั้นก็มีแรงเทขายออกมาตลอดปี แต่เพราะนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นอยู่ จึงรู้สึกเหมือนแค่ว่าเป็นการย่อตัวเพื่อปรับฐาน เมื่อเข้าสู่ปี 62 SET ไม่สามารถกลับขึ้นเบรกทำ New high ได้ ทำให้ SET มีโอกาสเข้าสู่ขาลง เหลือแค่จุดต่ำสุดของปี 62 เท่านั้นที่พอจะเป็นแนวรับพยุง SET ไว้ได้ จนกระทั่งต้นปี 63 ที่ผ่านมา ก็เกิดวิกฤตโควิด19 ทำให้ SET เข้าสู่ขาลงอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่เทขายกันอย่างหนัก แต่ก็อย่างที่รู้ครับ ธรรมชาติของการเทขายอย่างหนักในครั้งแรกมักมีแรงซื้อกลับเสมอ โดยแรงซื้อกลับนี้มาจากกองทุนไทยที่ได้รับสัญญาณบางอย่างจากกระทรวงการคลังเกี่ยวกับกองทุนพยุงหุ้น บวกกับการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดและรวดเร็วของคุณภากร ปีตธวัชชัย (กรรมการผู้จัดการตลท.) ที่ออกคำสั่งห้ามขายชอร์ตที่ราคาปัจจุบัน
เวลาเราพูดคำว่า “วิกฤต” มันฟังดูแย่ หดหู่ ไม่มีดีเลยนะ อย่างตอนนี้เป็นวิกฤตโควิท-19 เล่นเอาตลาดหุ้น ที่ดีดขึ้นมาสวย ๆ ตั้งแต่ช่วงธันวาฯ ปีที่แล้ว ขึ้นมาเทส 1600 เอาจริง ๆ ตอนนั้นมองว่าโอกาสกลับตัวขึ้นไป มีสูงเลย พอเจอข่าวอู่ฮั่นปิดเมืองเข้า โดดลงเลย 45 จุดมั้ง เป็นครั้งแรกที่เห็นตลาด เปิดแกปโดดลงระดับ 40-50 จุดในรอบหลาย ๆ ปีเลย ถามว่า “เจ็บมั้ย” ตอนนั้นก็เจ็บเหมือนกัน เพราะพอร์ทพี่ปูทางขึ้นไว้ แต่ดีที่ยังไหวตัวทัน และหลังจากนั้นมันก็ดิ่ง ๆ มาเรื่อยๆ จนการเหวี่ยงวันละ 30-70 จุด เป็น New Normal ของตลาดไปเลย ลองคิดดูจาก 1600 จุด ลงมาหลุด 1000 จุด ในชั่วเวลาไม่กี่สัปดาห์ เล่นเอาทุกคนร้องกันไปตามๆ กัน เพราะในความเหวี่ยง มันมีทั้งเหวี่ยงขึ้นรับข่าวบวก และเหวี่ยงลงต่อแรง ๆ
ในช่วงภาวะวิกฤต COVID-19 นี้ เราเชื่อว่าหลายธุรกิจ หลายบริษัท หลายแบรนด์ต่างงัดทุกกลยุทธ์มาต่อสู้กับสถานการณ์ที่ไม่ปกติในขณะนี้ และ อีกหนึ่งสกิลที่ทุกแบรนด์ต้องมีคือการทำ PR โปรโมทแบรนด์และสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับทางแบรนด์ ทีมงาน UNLOCKMEN จึงไม่พลาดที่จะพาทุกท่านไปเปิดรับสาระดี ๆ พร้อมกลยุทธ์จากเจ้าแห่งวงการ PR กับคุณจักรพงษ์ คงมาลัย หรือคุณปอง ผู้ก่อตั้งบริษัท มูนช็อท ดิจิทัล จำกัด ผู้นำทางด้าน Digital PR & Content ที่ขับเคลื่อนวงการเอเจนซี่และอุตสาหกรรมการตลาดบนโลกดิจิทัลของเมืองไทย ภาพรวมการทำ PR และมุมมองการทำ PR ที่เปลี่ยนไปหลังวิกฤต COVID-19 เป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่า “COVIDSRUPTION” เป็นวิกฤตการณ์ที่หนักหนาสาหัสกว่า Digital Disruption และวิกฤตการณ์ครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมา ช่วงนี้ทุกคนก็เลยต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด อาทิตย์ต่ออาทิตย์ เพราะเอาเข้าจริงๆ ไม่มีใครรู้อะไรแน่นอนหรอกครับ ในบ้านเราเหมือนสถานการณ์มันจะคลี่คลายขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะมันเป็นปัญหาระดับโลก ปัจจัยและตัวแปรว่าจะพ้นไปเมื่อไหร่ไม่ได้มีแค่ในบ้านเรา
สถานการณ์ Covid-19 ในตอนนี้ ส่งผลต่อธุรกิจทุกแขนงไม่มากก็น้อย อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดนผลกระทบจากวิกฤตนี้ เราและหลายคนคงมีคำถามว่า เศรษฐกิจแบบนี้ มันคือโอกาสในการลงทุนหรือไม่ ทีมงาน UNLOCKMEN เลยไม่พลาดที่จะไปหาคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงอย่าง คุณท๊อป สุธาทร สุทธิสนธิ์ Co-Founder แห่ง Prop2morrow สื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่คุณต้องติดตาม ในมุมมองของ Prop2morrow คิดว่าเศรษฐกิจในช่วง Covid-19 มันเป็นโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวหรือไม่ ถ้าใช่โอกาสการลงทุนตอนนี้คืออะไร วันนี้เรากำลังเข้ายุคของ World War C ผมมองว่าวันนี้เรากำลังเหมือนเดินเข้าสู่ยุคของสงครามโลกครั้งใหม่ ที่เราไม่ได้สู้รบกันเอง เรากำลังรบกับเชื้อโรคตัวเล็ก ๆ ที่เราแทบที่จะไม่รู้จักมันเลย เราไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของมันคืออะไร แต่หลังจุดของการแพร่ระบาดกระจายตัวออกไปทั่วโลก เรารู้กันดีว่าการสู้รบครั้งนี้ ไม่น่าที่จะจบลงได้ง่าย ๆ เมื่อเข้าสู่ภาวะสงครามแน่นอน การดำเนินชีวิต เศรษฐกิจต่างชะลอตัว เราได้เห็นได้อย่างชัดเจนวันนี้ว่า ไม่ใช่แค่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก การท่องเที่ยว และการเดินทางเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่มันลามไปเกือบทุก ๆ ธุรกิจโดยทั่วถึง วิกฤตเศรษฐกิจถ้านับตั้งแต่ต้มยำกุ้งเมื่อ 23 ปีก่อน มาจนถึง วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ เมื่อ 13
ในภาวะที่ตลาดหุ้นการลงทุนแปรปรวนแบบนี้ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนมากมาย นักลงทุนทุกคนควรศึกษา และหาความรู้ให้เพียงพอก่อนการตัดสินใจในการลงทุน วันนี้ INVESTOR’S VIEWPOINT จะพาท่านมาเปิดไอเดียการลงทุนกับคุณ Tar Kawin แห่ง AOM MONEY ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในรูปแบบของ DCA ( Dollar Cost Averaging) ก่อนอื่น ถ้าถามว่าการลงทุนแบบ DCA เป็นรูปแบบการลงทุนอย่างไร ต้องบอกว่า DCA หรือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน คือ การกำหนดเงินลงทุนเป็นจำนวนคงที่ทุก ๆ งวด งวดละเท่า ๆ กัน อาจจะเป็นการลงทุนแบบรายเดือน รายไตรมาส เพื่อลงทุนในหุ้นที่ดี มีคุณภาพโดยไม่สนใจราคา แต่มองอนาคตการเติบโต โดยให้เรามองว่า การกำหนดเงินจำนวนเท่า ๆ กันในการซื้อหุ้น เป็นการซื้อแบบเฉลี่ยต้นทุน ถ้าในมุมที่พี่ต้าร์จะบอกบ่อย ๆ ก็คือ เป็นวิธีการที่ทำให้หุ้นขึ้นก็มีความสุข หุ้นลงก็มีความสุขได้ ถามมุมมอง TAR KAWIN ต่อตลาดหุ้นในขณะนี้ มุมมองตอนนี้ พี่คิดว่าประเด็นปัญหาคือเรื่องไวรัสที่ยังไม่มีไวรัสรักษาได้ จึงยังคงเป็นความเสี่ยงครับ