“ผมเชื่อในมนุษย์ต่างดาว 100% ผมแน่ใจว่าทั้งจักรวาลเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกมาก” Chris Martin นักร้องนำจากวง Coldplay คือหนึ่งในคนที่เชื่อ และหลงใหลกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาว นั่นทำให้เราได้เห็นมนุษย์ต่างดาวเต็มไปหมดในผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็นเพลง U.F.O. เนื้อเพลงเปรียบเทียบการเดินทางของชีวิต ที่เหมือนกับ U.F.O. เพลง Aliens ที่เราจะได้เห็น Official Video ใน Theme มนุษย์ต่างดาว ภาพวาดมนุษย์ต่างดาวสุดจริงจังประกอบเรื่องราวมนุษย์ต่างดาวที่ศูนย์เสียบ้าน เดินทางอพยพไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในจักรวาล เพื่อหวังว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้กลับบ้าน เป็นการเปรียบเทียบเรื่องราวของผู้อพยพที่ตกอยู่ในอันตรายในทะเล ซึ่งเขาทำเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อตั้งใจที่จะนำรายได้ไปมอบให้กับมูลนิธิ MOAS ในการช่วยเหลือผู้อพยพในทะเลนั่นเอง Alien Radio โปรเจกต์เปิดตัวเพลง Higher Power ที่กลายเป็นปริศนาชวนสงสัย เมื่อ Coldplay ได้แชร์คลิปสั้น ๆ เป็นภาพสัญลักษณ์ลึกลับสีม่วง ท่ามกลางเสียงสัญญาณวิทยุ พร้อมกับเชิญชวนแฟน ๆ ให้ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ AlienRadio.FM ที่ Coldplay ทำขึ้นมาโปรโมทอัลบั้ม Music of the
นี่คือรถในฝันของคนกล้าที่จะฝันจาก Porsche ที่ได้เปิดตัว Mission X โปรเจกต์ใหม่ที่ต้องการสร้างไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเร็วที่สุดในโลก ให้สามารถใช้งานได้จริงบนท้องถนน เพื่อฉลองความยิ่งใหญ่ของ Porsche ในวันครบรอบ 75 ปี การเปิดตัว The 356 “No.1” Roadster รถยนต์คันแรกของ Porsche ในปี 1948 Mission X คือโปรเจกต์การคิดค้นเทคโนโลยีสำหรับรถสปอร์ตแห่งโลกอนาคต ที่เหนือชั้นกว่าที่เคย มันเปรียบเสมือนความสำเร็จอีกขั้นของรถสปอร์ตตัวท็อปในทศวรรษที่ผ่านมา เช่น 959, Carrera GT และ 918 Spyder ด้วยแนวคิดที่ว่า “ความกล้าที่จะฝัน และรถยนต์ในฝันเป็นเหรียญสองด้านสำหรับเรา ปอร์เช่ยังคงเป็นปอร์เช่ได้ทุกวันนี้ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง” โดยในด้านดีไซน์ของ Mission X นั้นก็หลุดโลกไม่แพ้แนวคิดของมัน ในรูปทรงโฉบเฉี่ยวพลิ้วไหว เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ดูแปลกตากว่าที่เคยมีมา มาพร้อมกับหลังคาทรงโดมที่ทำจากกระจกคาร์บอนบางเบา ประตูแบบ Le Mans-style เพิ่มความเท่หรูหราไปอีกระดับ ไฟหน้าทรงสูงแนวตั้งที่มีหน้าตาล้ำยุคไม่ซ้ำใคร ตัวรถมีขนาดที่กะทัดรัดกว่า Carrera GT และ 918 Spyder
ZP Collection ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อฉลองชัยชนะ จากการแข่งขันของรถ E-Type ที่เกิดขึ้นหลังจากเปิดตัวในปี 1961 ได้เพียงเดือนเดียว ในโปรเจกต์การแข่งขันที่ชื่อว่า ZP โดย ‘ECD 400’ รถเปิดประทุนสี Indigo Blue คันที่ชนะ ขับโดย Graham Hill และ ‘BUY 1’ รถสี Pearl Grey ที่เข้าเส้นชัยอันดับสาม ขับโดย Roy Salvadori จึงทำให้ ZP Collection นี้มาเป็นคู่ประกอบด้วย Oulton Blue drophead coupe ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘ECD 400’ รุ่นดั้งเดิม และ Crystal Grey fixed-head coupe ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘BUY 1’ โดยผลิตออกมาเพียง 7 คู่เท่านั้น สำหรับ Oulton
Digital Watch หน้าตาล้ำยุคราวกับหลุดมาจากโลกอนาคต Casquette 2.0 เกิดจากความตั้งใจของ Creative Director ของ Saint Laurent เขาเลือกที่จะประทับตรา Saint Laurent ลงบนนาฬิกาหรูอย่าง Girard-Perregaux ด้วยความต้องการที่จะสำรวจตลาดแปลกใหม่ต่อไป หลังจาก Saint Laurent ประสบความสำเร็จในการทดลองขายสินค้าแปลกใหม่มามากมายตั้งแต่ Happy Meal boxes ไปจนถึงจักรยาน ซึ่ง Casquette 2.0 นั้นอัปเกรดมาจากนาฬิการุ่น Casquette ของ Girard-Perregaux ซึ่งเป็นนาฬิกาในยุค 70 ที่มีหน้าตาล้ำยุคจน Disrupt วงการนาฬิกาในยุคนั้น ราวกับหลุดมาจากโลกอนาคต ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่อง มีขนาดกะทัดรัด พร้อมหน้าจอ LED ขนาดเล็กที่ถูกดีไซน์ให้อยู่ด้านข้างซึ่งนี่คือความแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน โดยดีไซน์ของ Casquette 2.0 ถูกอัปเกรดมาในตัวเรือนที่ทำจากเซรามิก และไททาเนียมเกรด 5 เคลือบ PVD สีดำ ตัวเรือนมีน้ำหนักเบา โค้งรับกับสรีระรอบข้อมือ มาพร้อมสายนาฬิกาเซรามิกที่ด้านในเป็นวัสดุยาง
วันนี้เราจะพาทุกคนไปดื่มกาแฟชื่อแปลก ในอาคารสีดำ และความทรงจำต่อสถาปนิกที่เสียชีวิตไปแล้ว! Modernism Café แห่งนี้คืออาคารสีดำที่สร้างด้วยไม้เผา ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Modern Architecture และเหล่าสถาปนิกระดับปรมาจารย์ ตำนานที่ไร้ลมหายใจแต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคน จนชื่อของพวกเขากลายมาเป็นกิมมิคอยู่ในชื่อเมนูกาแฟ อีกทั้งแนวคิดของพวกเขายังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบร้าน ที่เท่ และแฝงไปด้วยรายละเอียดอันน่าค้นหาแห่งนี้ ซึ่งเมนูชื่อแปลกที่ว่านั้นคือชื่อของสถาปนิกในตำนาน ที่ถูกนำชื่อมาดัดแปลงเป็นชื่อเป็นเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่ร้านอย่างเมนู Le Corbuccino เป็นกาแฟคาปูชิโน่ ที่มาจากชื่อของ Le Corbusier สถาปนิกชาวสวิส – ฝรั่งเศส ผู้บุกเบิกคนสำคัญของ Modern Architecture จึงมีการตกแต่งลวดลายบนแก้วกาแฟเป็นรูปแว่นตาของ Le Corbusier อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา หรือเมนู Mocar Niemeyer เครื่องดื่ม Mocha Latte ที่มาจากชื่อของ Oscar Niemeyer สถาปนิกชาวบราซิลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในการพัฒนา Modern Architecture อีกทั้งภายในร้านยังมีการนำ Quote จากสถาปนิกชื่อดังมาติดไว้ตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าหน้าร้าน บันไดขึ้นสู่ชั้น 2 หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำ เรียกได้ว่า Architect ที่ออกแบบที่นี่นั้น
น่าตื่นเต้นมาก ๆ สำหรับโลก AR/VR ในตอนนี้ หลังจาก Meta ชิงเปิดตัวแว่น VR Quest 3 ตัวใหม่ออกมา ตอนนี้ Apple ได้เปิดตัว Vision Pro AR ที่หลายคนรอคอยมานานออกตามมาติด ๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในราคาแสนกว่าบาท ซึ่งแพงกว่า Quest 3 หลายเท่าตัว! และล้ำหน้ากว่าทุกเจ้าในตอนนี้ โดย Apple ได้เปิดเผยว่า เจ้า Vision Pro ตัวนี้นั้นใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 7 ปี จุดขายของมันคือความล้ำของกล้อง 12 ตัว และเซ็นเซอร์ 5 ตัว ที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของตา มือ และนิ้วของผู้ใช้ในการควบคุมได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานด้วยสายตา หรือนิ้วมือได้ โดยที่ไม่ต้องถืออุปกรณ์ควบคุมอยู่ในมืออีกต่อไป นี่คือความล้ำอย่างเหนือชั้นในตอนนี้ ตามมาด้วยฟีเจอร์ FaceTime อีกหนึ่งจุดขายที่ล้ำหน้าเจ้าอื่น Vision Pro สามารถแสดงภาพคนขนาดเท่าตัวจริง
ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับศิลปินเพลง pop สัญชาติอเมริกันชื่อ JVKE นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ bedroom studio เจ้าของเพลง “Golden Hour” เพลงที่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำให้เขาได้ขึ้นไปอยู่อันดับ 11 ใน Billboard Chart เลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะเป็น JVKE ผู้สร้างช่วงเวลาต้องมนตร์สีทองอย่างทุกวันนี้ เบื้องหลังชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้เต็มไปด้วยการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสนใจ ที่พิเศษไม่แพ้กับผลงานของเขาเลย UNLOCKMEN ขอพาทุกคนเข้าสู่ช่วงเวลานั้นไปด้วยกัน การเดินทางของนักร้องหนุ่ม JVKE เกิดวันที่ 3 มีนาคม ปี ค.ศ 2001 เกิดและโตมากับครอบครัวนักดนตรี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีหัวด้านความสร้างสรรค์อย่างมาก คุณแม่ของเขาเป็นครูสอนดนตรี ส่วนคุณพ่อเป็น “ศิษยาภิบาล” หรือ “อธิการโบสถ์” ทำให้เขาได้เรียนทั้งเปียโนสำหรับบรรเลงเพลง การแต่งเพลง รวมไปถึงร้องเพลงที่โบสถ์ประจำของเขาอีกด้วย ต่อมาเขาก็ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนคาทอลิก และช่วงมัธยมปลายก็เรียนโรงเรียนประจำรัฐในเมืองที่อาศัยอยู่ จากนั้นก็ได้มาลงทะเบียนเรียนที่วิทยาลัยชุมชน ประมาณ 1 ปีครึ่งก่อนที่จะดรอปออกมาเพื่อที่จะมาเป็นศิลปิน จุดเริ่มต้นของ JVKE ความสร้างสรรค์ผ่านความผูกพันธ์ เส้นทางการมีชื่อเสียงของเขามันช่างเรียบง่าย ไม่มากมายนัก เขาเริ่มต้นมาจากการอัปโหลดคลิป
เลิกงานเหนื่อยๆ อยากไปนั่งเรื่อยเปื่อยที่ไหนสักแห่ง นี่คือที่มาของร้าน “ลาบเสียบ” ร้านปิ้งย่างลูกอีสานสไตล์คนเมือง ที่ต้องการเป็นแหล่งพักพิงของผู้คนหลังเลิกงาน ซึ่งเจ้าของร้านเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทลัยสายอาร์ต ผู้เบื่อหน่ายกับงานประจำเขาจึงลาออกมาปั้นร้านลาบเสียบ โดยตั้งใจกำหนดบรรยากาศ และสร้าง Expreience ให้คนที่มาทานอาหาร ได้มานั่งกินดื่ม พูดคุย คลายเหนื่อยกันแบบชิล ๆ กับอาหารที่เขาใส่ใจทั้งใจของเขาลงไป โดยชื่อร้าน “ลาบเสียบ” นั้นมาจากเมนู “ลาบเสียบ” ไม้ ลูกหลานของลาบ ที่ต้องการเอาชนะหมาล่า พี่ฝ้าย(เจ้าของร้าน) เล่าถึงที่มาที่ไปของเมนูนี้ให้เราฟังว่า เขาคิดเมนูนี้มาจากความต้องการที่อยากจะก้าวข้ามหมาล่าไปให้ได้ เพราะเขามองว่าวัตถุดิบของบ้านเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หรือข้าวคั่วนั้น ล้วนเป็นวัตถุดิบที่รสชาติดี จับคู่กับอาหารอะไรก็อร่อย แถมยังมีราคาถูก ก็เลยอยากลองนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และสร้างความนิยมได้ไม่แพ้หมาล่า เขาจึงคิดค้นเมนู ‘ลาบเสียบ’ ขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่อยากจะเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กับอาหารอีสาน โดยการนำอาหารอีสานไปผสมผสานกับอาหารอื่น ๆ บนโลกใบนี้ “ผมเบื่อคำว่าอีสานแท้ ไทยแท้ มันดูยกตัวเองเป็นศูนย์กลางเกินไป ทำไมเราไม่มองว่าเราจะไปจอยกับใครได้บ้าง ให้อีสานเป็นประสบการณ์ที่ฝังอยู่ในใจเท่านั้น แล้วนำมันไปจอยกับ Culture อื่น ๆ”
aespa (เอสป้า) วงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปจากค่าย SM Entertainment เดบิวต์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 แนวเพลงเป็น เคป็อป ฮิปฮอป อีดีเอ็ม แทร็ป และไฮเปอร์ป็อป ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์แปลกใหม่ ที่ทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจอย่างมาก พร้อมกับเพลงท้อปฮิตติดชาร์ตอีกหลากหลายเพลง โดยชื่อวง aespa มีที่มาจาก Avatar (อวตาร) X Experience (ประสบการณ์) รวมกับคำว่า aspect (แง่มุม) ที่มีความหมายว่า “การสัมผัสกับประสบการณ์โลกใบใหม่ด้วยเหล่าอวตารที่เป็นตัวตนในอีกด้านหนึ่งของพวกเธอ” โดยมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน คือ KARINA (คาริน่า) / GISELLE (จีเซล) / WINTER (วินเทอร์) และ NINGNING (หนิงหนิง) ซึ่งแต่ละคนก็จะมีอวตารของตัวเองด้วย (และเหตุผลที่ตัวอวตารเหมือนพวกเธอมาก เพราะการอัปโหลดข้อมูลต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียทำให้อวตารสามารถศึกษาข้อมูลของพวกเธอได้) ได้แก่ æ-karina/æ-giselle/æ-winter/æ-ningning และมีตัวละครลับในวงอย่าง Nævis
ในสังคมยุคปัจจุบันที่เราได้เห็นชีวิตสวยหรูใน Instagram ได้เห็นความสำเร็จแบบอายุน้อยร้อยล้านใน YouTube ทำให้ใครหลาย ๆ คนอยากจะเป็นคนพิเศษแบบนั้นบ้าง เพราะมนุษย์เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ต้องการการยอมรับ อยากให้คนอื่นมองเราในทางบวก ซึ่งความต้องการเหล่านี้นั้นอาจทำให้เราสร้างตัวตนที่ดีที่สุดออกมาให้คนอื่นรู้จักแทน เนื่องจากตัวตนที่แท้จริงของเราอาจไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของสังคม จนบางครั้งเราลืมไปว่าแท้จริงแล้ว ชีวิตเราไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ความสุข ความสงบ มีชีวิตที่เรียบง่ายก็เท่านั้นเอง วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปเปิดมุมมองของ “เติ้ล Buffet” คนพิเศษ(คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายตลก) ผู้มีความสามารถในการ Improvise มุก ที่นิยามตัวเองว่า “ผมเป็นคนธรรมดาทั่วไป” ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนพิเศษในสายตาคนอื่น แต่ตัวของเขาเองกลับไม่เคยมองว่าตัวเองพิเศษเลย ทั้งยังใช้ชีวิตแบบธรรมดาของเขา ได้อย่างมีความสุข และเป็นตัวเองแบบสุด ๆ ด้วย ไปหาคำตอบกันว่าอะไรที่ทำให้เขามองว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา ความธรรมดาที่ว่านั้นของเขามันเป็นอย่างไร เชื่อว่าบทชีวิตของคนธรรมดาที่พิเศษคนนี้ จะทำให้ใครหลาย ๆ คน ได้เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตแบบธรรมดาให้พิเศษ และมีความสุขได้อย่างแน่นอน คนธรรมดาที่เคยเป็นเด็กเกเร ก่อนอื่นเราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักเติ้ล และที่มาที่ไปที่ทำให้เขามาอยู่ในวงการตลกจนถึงทุกวันนี้ “เติ้ล Buffet” ที่เรารู้จักนั้นเขาเคยเป็นเด็กเกเรจนโดนไล่ออกจากโรงเรียนอัสสัมฯ มาก่อน เขาจึงเรียนกศน. ก่อนที่จะมาเอ็นท์เข้าคณะนิเทศฯ ม.กรุงเทพ ด้วยความชอบไวป์ในกองถ่ายหนังรักแห่งสยามที่เขาเคยเล่น ชอบการทำงานเป็นทีมในกองถ่าย และด้วยความที่ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าเรียนจบมาจะเป็นอะไร เขาจึงเลือกเรียนสาขาฟิล์ม