ใครที่ทำงานอยู่บ้านแล้วนั่งทั้งวัน ไม่ได้ออกกำลังกายเลยเพราะงานยุ่ง ตอนนี้มีตัวช่วยใหม่ที่ทำให้เราสามารถทำงานไปด้วยและมีสุขภาพที่ดีขึ้นไปด้วย ตัวช่วยนี้มีชื่อว่า Walkolution เป็นลู่วิ่งไม้แบบไม่ใช่ไฟฟ้าที่ทำให้เราวิ่งหรือเดินไปพร้อมกับการทำงานหน้าคอมได้ นวัตกรรมนี้ได้รับการออกแบบโดย Dr.Eric Söhngen และ Frank Ackermann จากประเทศเยอรมัน และช่วยให้คนทำงานสามารถเอนจอยกับการวิ่งได้แม้ในตอน meeting ออนไลน์ เพราะมันเป็นลู่วิ่งอนาล็อกจึงทำให้เกิดเสียงเบามาก แถมตัวลู่วิ่งยังมาพร้อมกับดีไซน์พิเศษที่มีลักษณะเหมือนที่พิงหลัง ช่วยให้เราสามารถพิงหลังได้อย่างสบาย แถมยังช่วยแก้โรคปวดหลังและปวดอกอีกจากการนั่งเป็นเวลานานอีกด้วย นอกจากนี้ การใช้งานลู่วิ่งยังไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้ากีฬา เพราะที่พื้นมีแผ่นบานเกล็ดที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความยืดหยุ่นคล้ายสปริง เวลาวิ่งบนเครื่องจะให้ความรู้สึกเหมือนเหยียบพื้นป่าอ่อน ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การกระดอนกลับและความแข็งหลายระดับของพื้น ยังช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อและเกิดความผ่อนคลายอีกด้วย สิ่งนี้ช่วยป้องกันการเกิดการเจ็บปวดที่เดิมซ้ำ (Repetitive Strain Injury: RSI) ไปพร้อมกับการช่วยพัฒนาการประสานงานและสมดุล แถมพอเราซื้อสินค้า เราอาจมีส่วนช่วยโลกด้วย เพราะเมื่อขายสินค้าได้แต่ละชิ้น ทางบริษัทจะมีการปลูกต้นไม้ทดแทน 10 ต้น เพื่อชดเชยการนำวัสดุไปใช้และการปล่อยก๊าซในขั้นตอนการผลิด ความพิเศษของตัวลูวิ่งยังมีอีก คือ เราไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามัน แถมยังไม่ต้องทาน้ำมัน หรือ หล่อลื่นอีกด้วย ตัวลู่วิ่งทำมาจากบีชและไม้อัดเบิร์ช ส่วน inner frame ทำมาจากเหล็กแข็งที่รองรับน้ำหนักได้มากกว่า 160 กิโลกรัม
ตลาด Non-Fungible Token (NFT) ยังคงเป็นพื้นที่ให้ศิลปินได้แสดงตัวตนผ่านงานศิลปะอย่างไร้กรอบจำกัด ทำให้ศิลปินหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ทั้งศิลปินในหลากหลายวงการ อย่างนักเขียนการ์ตูน นักวาดภาพประกอบก็กระโดดเข้ามาในโลก NFT เช่นกัน วันนี้ UNLOCKMEN ขอรวบรวม 10 ศิลปินไทยที่มีผลงานน่าสนใจให้เหล่าบรรดานักสะสมงานศิลปะดิจิทัลได้ติดตาม The Duang THE DUANG (เดอะ ดวง) หรือ วีระชัย ดวงพลา นักวาดการ์ตูนไทยที่หลายคนรู้จักกันผ่านผลงานรวมเล่มอย่างการ์ตูน Innocent Side Stories, เด็กชายตุ๊กตา : The Lesson of a Doll Boy หรือ การ์ตูน Around the Duang Artwork สำหรับในตลาด NFT เดอะ ดวง ปล่อยคอลเลกชัน Gangster All Star ซึ่งเป็นการ์ดตัวละครมุมหันข้างคาแรกเตอร์สายบู๊ที่หลายคนบอกว่าสุดเท่และเขาเองก็มั่นใจว่าเท่มาก ๆ คอลเลกชันนี้ขายหมดไปแล้วทั้ง
คนที่เคยดูซีรีส์เกาหลีชื่อดังอย่าง “It’s okay to not be okay” อาจคุ้นเคยกับวิธีบำบัดที่ชื่อว่า Butterfly Hug หรือ การกอดตัวเองโดยการเอามือทาบไว้ที่หน้าอกจนมีลักษณะเหมือนปีกผีเสื้อกันบ้างแล้ว ในบทความนี้ UNLOCKMEN อยากมาแนะนำวิธีการกอดตัวเองอีกแบบหนึ่งชื่อว่า Havening ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดความเครียดให้เราได้เป็นอย่างดี Havening คือ อะไร ? สมองของเราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ (emotional brain) และส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิด (thinking brain) ซึ่งการทำงานของสมองเหล่านี้ถูกควบคุมโดยอะมิกดาลา (กลุ่มนิวเคลียสประกอบด้วยโครงสร้างต่าง ๆ มีหน้าที่สร้างความรู้สึกกลัว วิตกกังวล) หากมันพบเจอเหตุการณ์ที่ดูเป็นภัยคุกคามแก่ชีวิต มันจะสร้างความเครียดให้เรา และเร่งให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า fight-or-flight เช่น การวิ่งหนีโจรผู้ร้าย หรือ การเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ อย่างไรก็ดี สมองของเรามักคิดไปเองว่ากำลังเจอภัย โดยเฉพาะสมองของคนที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไป (generalized anxiety) โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง ( post-traumatic stress disorder) และ
ใครกำลังมองหาซีรีส์รักโรแมนติกไว้ดูรับวาเลนไทน์ แน่นอนว่าคงพลาดซีรีส์เด็ดจากเกาหลีไปไม่ได้! เพราะพูดถึงซีรีส์เกาหลีทีไรก็ต้องนึกถึงบรรยากาศรักโรแมนติก และอารมณ์สุขเศร้าเคล้าน้ำตาที่มากับบทละครที่ตราตรึงใจ แต่จริง ๆ แล้ว ซีรีส์เกาหลียังมีอีกหลายอารมณ์ หลากรสชาติที่บางคนอาจยังไม่เคยได้ลิ้มลอง วันนี้เราขอต้อนรับเทศกาลแห่งความรักกันด้วยลิสต์ซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลี ที่มัดรวมความรักหลากหลายรูปแบบมาไว้ด้วยกัน บรรจงคัดสรรมาจากทั้งซีรีส์คุณภาพที่ครองฟีดโซเชียลในปีที่ผ่านมา ไปจนถึงซีรีส์และภาพยนตร์ที่กำลังต่อคิวพรีเมียร์ให้ได้รับชมกันทาง Netflix ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ #รักรสหวานปานน้ำผึ้ง วัยใสๆ หัวใจสุดเปิ่น (So Not Worth It) ซีรีส์ซิตคอมที่เล่าถึงเรื่องราวหลากสีสันของก๊วนเพื่อนนักศึกษาในหอพักนานาชาติของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น ตัวละครน่ารักสดใส ความโรแมนติกหัวใจพองโต รวมถึงเรื่องราวของการก้าวผ่านความเจ็บปวดและเติบโตตามประสาวัยรุ่น กลมกล่อมด้วยรักหวานๆ และความสนุกสนานสไตล์ซิตคอม นำแสดงโดยบรรดานักแสดงดาวรุ่ง พร้อมนักแสดงรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์! รับชมได้แล้ววันนี้ที่ Netflix ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (Twenty Five, Twenty One) ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (Twenty Five, Twenty One) รักโรแมนติกที่ก่อตัวขึ้นในกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นยุค 90 ที่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 1998 ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียความฝันและเผชิญกับสถานการณ์ไร้ทางออก พวกเขาเรียกชื่อกันครั้งแรกเมื่ออายุ 22 และ 18 ปี
มังงะญี่ปุ่น เป็นวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ผู้ชายอย่างเราได้เรียนรู้ความเป็นลูกผู้ชายจากการ์ตูนสไตล์ High school delinquent manga หรือนักเรียนนักเลงสายต่อยตี แย่งชิงความเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่นมามากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กยันโต ภายใต้ความรุนแรงนั้น ก็มีเรื่องของศักดิ์ศรี ความเป็นผู้นำ ความรักพวกพ้อง ที่ล้วนแลกมาด้วยกำปั้น บาดแผล และน้ำตา สิ่งที่ปัจจุบันแถบจะหาในชีวิตจริงไม่ได้ วันนี้เราจึงขอหยิบตัวละครบางตัวที่เราชอบมากที่สุด มาตีแผ่ความเป็นลูกผู้ชายที่เราสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง จากมังงะนักเรียนนักเลงโคตรมันส์ระดับคลาสสิคที่หยิบมาเมื่อไหร่ก็อ่านได้ยาว ๆ ทุกครั้ง BOUYA HARUMICHI – CROWS “Crows” หรือชื่อภาษาไทยว่า “เรียกข้าว่าอีกา” มังงะแนวโชเน็นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนถูกต่อยอดไปอีกภาค ไม่ว่าจะเป็น “Worst” เรื่องย่อยที่เจาะตัวละครอย่าง “Linda Man” รวมไปถึงต่อยอดเป็นภาพยนตร์ Live Action และซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้มังงะเลยแม้แต่น้อย “โบยะ ฮารุมิจิ” เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาสู่โรงเรียนซูซูรันกลางคัน โรงเรียนอีกาที่ไม่เน้นเรื่องเรียน แต่พากเพียรเรื่องต่อยตี มันเปรียบเสมือนการเข้าสู่สมรภูมิแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของโบยะ เพราะเขาเริ่มปะทะเบา ๆ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียนจนถูกพักการเรียน หลังจากนั้นสหะบาทาก็พุ่งเข้าหาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน แต่ก็ไม่มีใครหยุดยั้งความเก่งกาจของโบยะลงได้ ทำให้เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงมีชีวิตดี ทำธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางคนทำอะไรก็ให้ผลตอบแทนไม่งอกเงยเท่าที่ควร มีผลวิจัยทำสถิติระบุว่า เรื่องนี้อาจอยู่ที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตและมุมมองวิธีคิดของแต่ละคน เช่นคนที่มักจะรายล้อมตัวเองด้วยคน Toxic หรือมองความท้าทายเป็นปัญหาที่ไม่กล้าจะก้าวเท้าออกไปเผชิญหน้ากับมัน วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากมาแนะนำพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน เพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะมีอิทธิพลต่อความสำเร็จมากกว่าที่เราคิด ถ้าเราอยู่ร่วมกับคนเก่ง เราจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้น ถ้าเราอยู่กับคนขี้แพ้ เราอาจกลายเป็นคนขี้แพ้ไปด้วย งานวิจัยที่ใช้เวลากว่า 25 ปีของ Dr. David McClelland อาจารย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า ปัจจัยนึงที่ส่งผลต่อความสำเร็จของเราได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ กลุ่มอ้างอิง (reference group) หรือกลุ่มคนที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วย พูดคุยด้วย หรือ ทำงานร่วมกันเป็นประจำ คนกลุ่มนี้ส่งผลต่อตัวเราทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่เราเลือกคบนั้นจะมีอิทธิพลต่อเราในทุกด้าน Warren Buffet เคยพูดว่าความสำเร็จเกิดขึ้นจากการใช้เวลาร่วมกับคนที่ดีกว่าตัวเอง เลือกเพื่อนที่มีพฤติกรรมดีกว่าเรา เราจะอยากผลักดันตัวเองให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นไปด้วย ดังนั้น เราควรมีเพื่อนเก่ง ๆ อย่างน้อยสักหนึ่งคนที่สามารถขอคำแนะนำหรือคำปรึกษาในยามที่เกิดปัญหา ในขณะเดียวกัน ตัวเราเองก็ต้องมีความพร้อมในการมองเห็นและยอมรับปัญหาของตัวเอง เพื่อที่จะได้พัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้นได้แบบ inside-out เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ คนที่ประสบความสำเร็จมักจะหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีและความรู้ในโลกเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ในหนัง Leon: The Professional หนังสุดคัลท์ของผู้กำกับ Luc Besson หลายคนอาจจะนึกถึงบุคลิกอันแสนแปลกแยกของนักฆ่าแปลกแยกผู้เงียบขรึมที่รับบทบาทโดย Jean Reno หรือบทบาทแรกของ Natalie Portman ในบทสาวน้อยที่อยู่ท่ามกลางดงกระสุนและควันปืน แต่ยังมีอีกบทบาทหนึ่งในหนัง ที่ผู้คนไม่เคยลืมเลือนเลย นั่นคือบทบาทของตำรวจสุดโฉด Norman Stansfield ที่รับบทบาทโดย Gary Oldman ที่หลายคนติดตาในความเลือดเย็นและโหดเหี้ยมถึงขีดสุดของเขา Villain with Love ครั้งนี้ จึงขอเสนอความโหดร้ายของตัวละครสุดโฉดคนนี้กัน หนังนักฆ่าที่แสวงหาความแตกต่าง หลังจากที่ Luc Besson ทำหนัง La Femme Nikita (1990) หนังนักฆ่าหญิงที่แปลกและแตกต่างจากขนบหนังแอ๊คชั่นทั่ว ๆ ไป กลิ่นเขม่าดินปินยังคงคุกรุ่นในความทรงจำของเขา จนผลักดันเป็นโปรเจกต์ของนักฆ่าคนใหม่ที่ว่า Leon ขึ้นมา ยังคงเป็นการตั้งคำถามถึงคุณธรรมท่ามกลางอาชีพนักฆ่าอยู่เช่นเดิม ผ่านตัวละครผู้เงียบขรึมและเปลี่ยวเหงา นักฆ่าที่ฝังตัวอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความมีระเบียบแบบแผน และมีคุณธรรมเหนือสิ่งอื่นใด แต่นอกจากการดีไซน์คาแรคเตอร์ตัวนำที่โดดเด่นและแตกต่างแล้ว ตัวร้ายก็ถือเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจไม่ต่างกัน เมื่อ Luc ได้ออกแบบตัวละครที่อยู่คนละขั้วของกับตัว Leon อย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่ปีที่แล้ว เราเห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการรถยนต์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์บินได้ หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดของยานพาหนะชนิดนี้ วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากแนะนำเทรนด์รถยนต์ (Automotive Trends) ที่คาดว่าจะมาแรงและน่าจับตามองในปี 2022 ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว เรากำลังเดินทางเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ต้องใช้หมอดูก็เห็นอนาคตที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมาแทนที่เครื่องยนต์เผาไหม้แน่นอน เพราะตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่วางขายในตลาดมีคุณภาพไม่แพ้เครื่องยนต์เผาไหม้เลย เช่น Tesla Model 3 หรือ Hyundai Kona Electric ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และยังมีสตาร์ทอัพหลายแห่งที่เริ่มหันมาผลิต EV กันมากขึ้น เช่น Aptera ของ Aptera Motors หรือ Canoo Pickup ของ Canoo รวมถึงคู่แข่งที่พร้อมจะล้ม Tesla และน่าจับตามองอย่าง Rivian, Lucid Air รวมถึงค่าย gadgets อย่าง Sony
เวลาใช้งานคีย์บอร์ด ปัญหาที่เราพบเจอกันบ่อย คือ มันมีขนาดที่ใหญ่เกินไปจนขาดพื้นที่ในการวางเม้าส์ แถมคีย์บอร์ดบางยี่ห้อยังทำให้เราเกิดอาการปวดมือได้ง่ายอีกด้วย ตอนนี้มีสตาร์ทอัพที่พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยการทำให้คีย์บอร์ดสามารถพกพาไดง่ายขึ้น และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น MoErgo สตาร์ทอัพในประเทศ New Zealand ได้พัฒนา Glove 80 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดแบบแยก (split keyboard) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถุงมือ โดยคีย์บอร์ดอันนี้มาในดีไซน์แบบเออร์โกโนมิคส์ (ergonomic) และเลย์เอาท์ (layout) ที่สอดคล้องกับรูปมือมนุษย์ ผู้พัฒนาเผยว่า พวกเขาใช้เวลาพัฒนาคีย์บอร์ดนี้มานานกว่า 6 ปี โดยมีการทำ comparative A/B testing มากกว่า 500 ครั้ง จน Glove 80 ออกมาเป็นคีย์บอร์ดที่มีปุ่มกดที่เหมาะสมกับปลายนิ้วมือของเรา มันมาพร้อมกับปุ่มกด 80 คีย์ (ข้างละ 40 คีย์) และมีรูปร่างเหมือนถุงมือ พร้อมด้วยที่พักฝ่ามือ และขาคียบอร์ดแบบปรับแต่งได้ เพื่อให้คีย์บอร์ดสามารถปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ ดีไซน์ของคีย์บอร์ดยังช่วยให้ ข้อมือ แขน และไหล่อยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เวลาใช้งานจึงเกิดความเหนื่อยล้าน้อยลง
ปัญหาของการพัฒนาอุปกรณ์ VR คือ ผู้ใช้งานมักแยกพื้นที่ในโลกแห่งความเป็นจริงและพื้นที่ในโลกเสมือนไม่ออก จนทำให้เวลาท่องโลกเสมือนซึ่งมีความไร้ขอบเขตไม่เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ใช้งาน VR อาจเดินชนประตู กำแพง ข้าวของ หรือ สิ่งกีดขวางที่อยู่ในบ้านของตัวเองก็เป็นได้ มีผู้พัฒนาหลายคนพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ อย่างตอนนี้ก็มีสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งชื่อว่า Ekto VR ที่ออกแบบรองเท้าสุดเท่ที่มีดีไซน์ออกแนว Cyberpunk โดยรองเท้าคู่นี้มีชื่อว่า Ekto One ซึ่งเป็นรองเท้ากลไกขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษทำให้ผู้ใช้งานท่องโลก Metaverse ได้โดยไม่เดินชนสิ่งกีดขวางในโลกความเป็นจริง Ekto One เป็นรองเท้าที่ทำจากวัสดุแข็งแรงอย่าง คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) และช่วยให้เรารู้สึกเหมือนการเดินเท้าบนดวงจันทร์ โดยที่ฝ่าเท้าของรองเท้าจะมีการติดตั้งล้อมอเตอร์ที่หมุนไปในทิศตรงข้ามกับการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าของผู้สวมใส่ ทำให้เวลาเดินเหมือนเดินอยู่บนลู่วิ่ง คือ ผู้ใช้งานเดินอยู่กับที่ สำหรับการใช้งาน Ekto One ต้องใช้ร่วมกับหูฟังวีอาร์ (VR headset) ซึ่งเป็นตัวช่วยในการมองภายของโลกเสมือน เมื่อใช้อุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างนี้ร่วมกันแล้ว เราจะท่องโลก Metaverse ได้เหมือนกับท่องโลกในชีวิตจริงเลย เป้าหมายเริ่มต้นของรองเท้าคู่นี้ คือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ใน training simulation หรือ สิ่งแวดล้อมจำลองสำหรับการฝึกฝนบุคลากรในด้านต่าง