ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวข้างหน้าไปทุกวัน ช่องทางการหาคู่เดทสมัยนี้ง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วแตะเปิดสารพัดแอปพลิเคชันหาคู่ขึ้นมาก็มีโอกาสได้เจอสาวมากหน้าหลายตาให้เลือกคุยกันแล้ว ถึงแม้จะเฟิล์ทสาวได้สะดวกแค่ไหน แต่สิ่งที่อย่าลืมเด็ดขาดคือความเป็น Gentleman ทั้งในจอและชีวิตจริง นอกจากดูดีแบบสุด ๆ แล้วยังช่วยเรียกคะแนนจากสาว ๆ ได้อีกด้วย วันนี้ UNLOCKMEN นำเทคนิคดี ๆ ช่วยเพิ่มความเป็น Gentleman ให้คุณได้ออกเดทกับสาวแบบมือโปรกัน 1. อย่าขายของไม่ตรงปก! แม้จะเคยเป็นหนุ่มเฮล์ทตี้กล้ามแน่น เข้ายิมเช้าเย็นมาก่อน แต่หากตอนนี้คุณกลายเป็นซานต้าคลอสบวมเบียร์ก็ควรใช้รูปที่ตรงปกและเป็นปัจจุบันที่สุด อัพรูปไลฟ์สไตล์ที่ทำตอนนี้ จะดูดีกว่าอัพรูปตอนปีนเขาเมื่อสามปีที่แล้วที่ไม่คิดจะกลับไปแตะมันอีก ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่เท่ ไม่หล่อ ไม่ attractive แล้วจะมีคู่ไม่ได้ แค่การใช้รูปที่มันไม่เป็นตัวเองตอนนี้เอาซะเลยมันก็ไม่ต่างอะไรกับการหลอกขายของแบบไม่ตรงปก นึกถึงใจสาวเวลาเจอตัวจริงแล้วแทบหงายหลัง การโกหกกันตั้งแต่เริ่มดูจะไม่ใช่การเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีซักเท่าไหร่หรอกนะ 2. ให้เรื่องที่ชอบ คอยปลุกปลอบช่องว่างระหว่างการคุย ไม่ต้องพะวงเกินไป หากคุณเริ่มต้นสานสัมพันธ์ด้วยการชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียว หรือการที่สาว ๆ ช่างตอบมาน้อยเสียเหลือเกิน เป็นปกติมากหากจะเกิดช่วงเวลา awkward เวลาเริ่มต้นคุยกับใครใหม่ ๆ สาว ๆ เองก็อาจเป็นแบบนั้นเหมือนกัน บางครั้งเธออาจนิ่งเพื่อรอดูท่าที หรือกำลังประหม่ากับการคุยกับใครใหม่ ลองถามถึงความชอบของเธอ เพื่อจะได้มีเรื่องที่ชอบเหมือนกันแล้วคุยกันได้แบบยาว ๆ การที่อีกฝ่ายเห็นว่าเรามีรสนิยมเดียวกัน ยิ่งเป็นการบวกคะแนนให้แบบฟรี
วงการแฟชั่นโลกในปัจจุบันถือว่าเปิดกว้างอย่างมาก คำว่าขอบเขตได้จางหายไปเรื่อย ๆ บรรดาแฟชั่นกูตูร์ สามารถลงมาเจอกับแฟชั่นสตรีทแวร์ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ การรวมร่างของสตรีทแวร์กับตัวละครการ์ตูนวัยเด็กก็ฮิตกระจาย การนำเสื้อผ้ากีฬาต่าง ๆ มาใช้ในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นสไตล์ใหม่ ๆ อย่าง Athleisure หรือ Minimore Sportwear ก็มีให้เห็นมาแล้ว บวกกับกระแส Sportwear ที่ร้อนแรง และมีความใกล้ชิดกับคนมากขึ้น ทำให้เรื่องของสไตล์การแต่งตัวที่ได้รับอิทธิพลมาจากกีฬาไม่ไกลตัวเราอีกต่อไป วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอเสนอการนำแรงบันดาลใจจากไอเทมสปอร์ตแวร์ มาปรับใช้ให้เท่ และเข้ากับชีวิตประจำวันได้ Track Jacket สำหรับไอเทมชิ้นแรกที่เราจะนำมาพูดถึงก็คือ Track Jacket หรือเสื้อวอร์มนักกีฬาฟุตบอล ซึ่งเป็นไอเทมที่เกิดจากกีฬามหาชนที่ผู้ชายทุกคนหลงใหล โดยไอเดียนี้ต้องย้อนไปไกลถึงยุค 60s เมื่อบริษัท adidas มีความต้องการที่จะใส่ความเป็นไลฟ์สไตล์ลงไปในเกมลูกหนัง จึงออกแบบเสื้อวอร์มที่มีลักษณะสวยงามให้กับนักฟุตบอลเวลาลงฝึกซ้อมในวันปกติ รวมถึงใช้ใส่ระหว่างเดินเข้าสู่สนามแข่งขัน แต่ด้วยความเท่ น้ำหนักเบา ผ้าที่ไม่ได้หนามากจนใส่ยากเกินไป ทำให้เสื้อกีฬาประเภทนี้ได้รับความนิยมไปสู่คนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มแฟนบอลในประเทศอังกฤษ จนเป็นนิยามการแต่งตัวแบบ brit pop ช่วงยุค 90s ซึ่งเสื้อ Track Jacket ในเวลานั้นก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ
หลายครั้งที่ปกอัลบั้มของศิลปินเป็นภาพที่คุ้นตา โด่งดังไปทั่วโลก จนเป็นเหมือนงานอาร์ตอีกชิ้นนึง ทำให้ปกอัลบั้มเป็นมากกว่าสิ่งพิมพ์หรือบรรจุภัณฑ์ของอัลบั้ม มันคือการสื่อความหมายของศิลปินผ่านปกอัลบั้ม วันนี้ UNLOCKMEN เอาเรื่องราวเบื้องหลัง ที่มาที่ไป ของปกอัลบั้มที่เราทุกคนต้องคุ้นตาจากศิลปินดังอย่าง Pink Floyd, Radiohead, Nirvana, Joy Division และ Coldplay มาบอกเล่าเอาไว้คุยกับเพื่อนแบบเท่ ๆ อย่างคนรู้จริง Nevermind จาก Nirvana ภาพสุดดังคุ้นตานี้เป็นภาพของเจ้าหนูน้อย Spencer Eldren ที่อายุเพียงสี่เดือนในตอนนั้นและเป็นการว่ายน้ำครั้งแรกของเขาด้วย โดยการถ่ายทำปกอัลบั้มนี้เกิดขึ้นที่ Pasadena public pool ที่มีเด็กที่เพิ่งโผล่ออกมาดูโลกได้ไม่นานมาออดิชั่นอีกหลายคน แต่ Kurt ประทับใจรูปของเด็กคนนี้มากที่สุด แต่ยังรู้สึกว่ามันใส่อะไรเข้าไปได้อีก เขาพูดติดตลกให้ใส่เบ็ดตกปลาลงไป ซึ่งนั่นทำให้ทีมงานต่อยอดไอเดียออกมาเป็นปกสุดเจ๋งที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ แม้ว่า Kurt เองจะไม่ได้บอกถึงความหมายจริง ๆ ว่ามันหมายถึงอะไร แต่ดีไซเนอร์ของภาพนี้อย่าง Robert Fisher ได้สันนิษฐานไว้ว่า เด็กเป็นตัวแทนของความไร้เดียงสาของเขา ส่วนเบ็ดนั้นหมายถึงการเข้าสู่วงการเพลงของเขานั่นเอง A Rush of
เรารู้ว่าว่ามันยากที่จะใช้ชีวิตโสด ๆ ผ่านช่วงเทศกาล แถมอีกไม่นานก็จะวันวาเลนไทน์แล้ว ความเหงามันก็เริ่มเร้าเข้ามา เวลาไปแฮงเอาท์หรือออกทริปเขาก็ไปเป็นคู่ ส่วนเราก็กลายเป็นคี่ที่โดดเดี่ยวในจักรวาล แบบนี้รีบหาใครสักคนเลยดีไหม ? นี่คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะการมุ่งมั่นหาแฟนใหม่มาแทนที่คนเก่ามันอาจทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลง แม้จะหาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่คุณก็จะพบว่าความเปลี่ยวมันไม่สามารถหายได้เลยในทันที ถ้างั้นแทนที่จะพยายามเอาชนะความโสดบนโลกใบนี้ เรามาโฟกัสกับวิธีการทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างยั่งยืน และมีความสุขกับชีวิตโสดด้วยวิธีเหล่านี้กันดีกว่า ถามตัวเองว่าต้องการอะไร มันจะยากหน่อยนะถ้ายังเศร้าอยู่ แต่อยากให้ลองตั้งสติและตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะทำอะไรต่อไป ? เราจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ? อะไรที่เราทำแล้วมันจะสร้างความสุขความมันส์ให้กับเราในตอนนี้ ? และก้าวต่อไปทางไหนดีที่จะทำให้ชีวิตเรามันเจ๋งขึ้น ? พอได้คำตอบแล้วก็ทำมันซะตั้งแต่ตอนนี้ ชีวิตของพวกเราเกิดมาเพื่อพัฒนาตนเองให้คุ้มกับที่ลืมตาดูโลกมา ไม่ใช่แค่การมองหาแต่คู่เดท เอ้า เริ่มได้ ! ใส่ใจคนรอบข้าง ตอนเรามีคู่ เรามักจะคาดหวังให้ผู้หญิงข้าง ๆ เป็นแทบทุกอย่างในชีวิต ทั้งคนรัก, เพื่อน, กำลังเสริม, คนคอยเตือน, คนให้กำลังใจ และคู่นอน จริงอยู่ว่าความต้องการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่ยิ่งตั้งความหวังยิ่งทำให้เครียด และทำให้เราเริ่มห่างหายจากคนรอบข้าง ในฐานะที่โสดโอกาสนี้แหละที่เราจะให้ความสำคัญกับครอบครัวและบรรดามิตรสหายที่พร้อมจะอยู่กับเราเสมอ อย่างที่เขาว่ากันว่า “ที่ตรงไหนเหมาะกับเรา สังเกตง่าย ๆ ที่ตรงนั้นเราจะมีตัวตน” แล้วเราจะรู้สึกเติมเต็ม แฮปปี้ สุขภาพจิตดี
หลังจากที่เราทำคอนเท้นท์เกี่ยวกับเรื่องสไตล์มาอย่างมากมาย แต่เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนก็ยังคงตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใด UNLOCKMEN จึงต้องมานั่งพูดเรื่องสไตล์การแต่งตัวกันนักหนา รวมถึงมันมีความสำคัญอย่างไร ทำไมจะต้องแต่งตัวให้มันดูยุ่งวุ่นวายใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาก็พอแล้ว แต่เคยมีคำกล่าวของชาวตะวันตกที่บอกว่า “คุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่จะทำให้คนอื่นประทับใจใน first impression ซึ่งคุณสามารถทำได้ผ่านการแต่งกาย” ดังนั้นลองมาดูกันว่าเพราะเหตุใดชาว UNLOCKMEN ถึงควรใส่ใจการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อโอกาสดี ๆ ที่จะตามมา การแต่งตัวช่วยเพิ่มความสนใจในแง่บวกเมื่อครั้งแรกพบ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์มักตัดสินคนอื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะประเมินจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเสื้อผ้าก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราถูกนำมาตัดสินอย่างเลี่ยงหลีกไม่ได้ แม้ว่าอันที่จริงแล้วเราไม่ควรตัดสินคนอื่นจากเพียงแค่ เสื้อผ้า การแต่งตัวก็ตาม เราขอยกตัวอย่างการตัดสินใจคนจากภายนอก และสามารถเห็นได้ชัดที่เคสหนึ่ง อย่างเช่น ตอนสัมภาษณ์งานลองคิดดูเวลาที่ไปสมัครงานระหว่างคนที่ไม่สนใจเรื่องของเสื้อเลยกับอีกคนที่แต่งกายสุภาพเรียบร้อยแบบไหนดูภาษีจะได้รับงานมากกว่ากัน แม้ว่าอันที่จริงแล้วคนที่ไม่แต่งตัวอาจจะทำงานเก่งกว่าก็เป็นได้ การแต่งตัวแสดงออกถึงวุฒิภาวะ การที่คุณรู้จักแต่งตัวให้เหมาะสมนอกจากจะช่วยในเรื่องความน่าเชื่อถือแล้ว ยังแสดงออกถึงความมีวุฒิภาวะอีกด้วย ลองคิดภาพผู้ชายที่ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ลากรองเท้าแตะหรือผ้าใบเก่า ๆ ไม่ว่าจะไปงานใดก็ตาม กับผู้ชายอีกคนที่รู้จักว่างานประเภทไหนควรจะแต่งกายอย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ มีการแบ่งแยกชัดเจนระหว่างชุด Formal และ Casual แบบไหนที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ และน่าได้รับการเคารพยอมรับมากกว่ากัน การแต่งตัวช่วยบ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่รักตัวเอง หลายคนที่มองข้ามประเด็นการแต่งตัว และคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสละสำคัญอะไรในชีวิต แต่เราอยากจะบอกว่าการที่คุณใส่ใจแม้แต่เรื่องเสื้อผ้าการแต่งกายนั่นสะท้อนให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจตัวเองแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย อีกทั้งยังแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์รู้จักที่จะพลิกแพลง มีชั้นเชิงในการทำตัวเองให้ออกมาดูดี การแต่งตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง มีบทวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ชัดว่าการแต่งตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินราคาแพงเพื่อซื้อของแบรนด์เนมหรือวิ่งตามแฟชั่นให้มันเหนื่อยแล้วหมายถึงการแต่งตัวดี
ถือว่าเป็นเมกาโปรเจคตั้งแต่ต้นปี เมื่อ adidas ประกาศว่าจะปล่อยคอลเลคชั่นรองเท้าสุดพิเศษ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับการ์ตูนในตำนานอย่าง Dragonball โดยก่อนหน้านี้ทีมงาน UNLOCKMEN ก็มีการนำเสนอภาพตัวอย่างรองเท้า 3 รุ่นที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการไปแล้วบางส่วน และกระแสตอบถือว่าดี ๆ มาก จนหลายคนที่แม้จะไม่ใช่ sneakerheads เองต่างอยากรู้ว่าบรรดาโมเดลที่เหลือจะเป็นงาน collab ระหว่างตัวละครอะไร ล่าสุด adidas original ก็ได้คอนเฟิร์มรองเท้าทั้ง 8 รุ่นเป็นที่เรียบร้อยว่าจะใช้โมเดลรุ่นใดบ้าง ดังนั้นในวันนี้เราจะขอนำภาพหน้าตาของแต่ละรุ่นที่เปิดตัวออกมาให้ทุกท่านได้ดูกันแบบครบเซ็ท Goku – ZX 500 RM ถือว่าผิดคาดเล็กน้อย เพราะตอนแรกหลาย ๆ ฝ่ายต่างคิดว่าตัวละครพระเอกของเรื่องอย่าง โงกุน จะต้องได้โมเดลรองเท้ารุ่น hype อย่าง NMD แต่กลับกลายเป็นว่า adidas ได้เลือกรองเท้าวิ่งรุ่นเก๋าอย่าง adidas ZX 500 มาใช้ในการ collab นี้ ซึ่งตัวรองเท้าก็จะมีการเล่นสีประจำตัวอย่าง ส้ม น้ำเงิน แดง พร้อมตัดสลับด้วยพื้นกลางสีขาวที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นวัสดุ boost
คำหนึ่งคำบางทีก็มีหลายความหมาย เราเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ เอ๊ะ! ทำไมคนอื่นเข้าใจอีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะนักการเมืองเอย ทหารเอย ตำรวจเอย ราชการประจำเอย ชอบมีคำเดิม ๆ แต่ให้ความหมายใหม่ ๆ แบบไร้เดียงสามาให้ผู้ชายอย่างเราได้เลียนแบบ เอ้ย เรียนรู้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน จริง ๆ แล้วพวกเขาไร้เดียงสาขนาดนั้นไหม ทำไมความหมายง่าย ๆ ที่คนทั้งโลกรู้ แต่เขาไม่เข้าใจ วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาดูคำพูดสไตล์เจ้าหน้าที่รัฐไทย ว่ามีความโดดเด่น ยูนีค (ทำเป็น)ไร้เดียงสา หรือว่าย้อนแย้งกันแค่ไหน หากกลัวเสียเวลาอนุญาตให้ยกนาฬิกาที่ยืมเพื่อนมาดูเวลาตลอดการอ่านได้ (ถ้า UNLOCKMEN โดนปิดหายไปก็ขอให้ไปเยี่ยมกันด้วย คิดถึง) “ค่าอาบน้ำ” สไตล์ สน.วังทองหลาง ปกติก็เห็นอาบน้ำเองกันได้ แต่ถ้าวันไหนนึกครึ้มอกครึ้มใจพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อาจจะเหนื่อยเหน็ดจนมือไม้หมดเรี่ยวแรง โดยวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา สถานบริการอาบอบนวด “วิคตอเรียซีเครท” ย่านถนนพระราม 9 ก็พบใบเสร็จลดราคา “ค่าอาบน้ำ” 100%
เสียงเพลง ดนตรี ความหมาย สามารถช่วยชีวิตคนได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เพราะเสียงเพลงสามารถส่งผลถึงอารมณ์ได้จริง เราเคยนำเสนอบทความเรื่อง “ฟังเพลงดี มีผลให้คนฟินได้ไม่ต่างจาก SEX” ไปแล้วก่อนหน้านี้ หลายเพลงมีความหมายสะกิดใจให้เราคิดบางอย่างได้ หลายเพลงก็ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว วันนี้ UNLOCKMEN ขอจัดเพลย์ลิสต์เพลงความหมายดี ๆ เอาไว้ให้กำลังใจตัวเองในวันที่หมดไฟ ไม่ให้ท้อถอยกับปัญหา ปล่อยวางมันไปกับเสียงเพลง ให้เราได้ผ่อนคลาย และอาจจะได้ทางออกจากเพลงสักเพลงในนี้ก็ได้ Paradise – Coldplay เพลงนี้เปรียบชีวิตเราหมือนกับสาวน้อยไร้เดียงสาคนนึง ที่ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายในชีวิต แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป โดยที่มีสวรรค์เป็นตัวแทนที่พึ่งพิงทางจิตใจ จริง ๆ แล้วแต่ละคนก็อาจมีสิ่งอื่นที่คอยเติมกำลังใจให้ตัวเอง เหมือนกับเด็กน้อยในเพลงที่มีสรวงสวรรค์คอยให้เธอพักพิงนั่นเอง Iridescent – Linkin Park หลายคนอาจคุ้นหูกันบ้างกับเพลงนี้จาก Linkin Park เพราะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Dark of The Moon แต่ยังคงแฝงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวงได้แบบเนียน ๆ เนื้อเพลงพูดถึงความท้อแท้ ความผิดหวังในชีวิต ที่มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะต้องเจอ แต่ก็อยากให้ทุกคนลุกขึ้นสู้และปล่อยทุกความเศร้าหมองนั้นทิ้งไปซะ ฟังจบแล้วจะรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้โยนทิ้งปัญหา
เช้านี้ลืมตาตื่นลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ก็ได้เจอกับข่าวน่าใจหายกันอีกครั้ง กับการจากไปของ Iconic Frontwomen อย่าง ‘Dolores O’Riordan’ แห่งวง The Cranberries ด้วยวัยเพียง 46 ปี ถึงแม้ว่า การเสียชีวิตของ Dolores O’Riordan จะยังคงไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด แต่เราเชื่อว่า มีชาว UNLOCKMEN จำนวนไม่น้อยที่กำลังโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของศิลปินที่เราเติบโตมาพร้อมกับน้ำเสียงของเธอ จากบทเพลงของวง The Cranberries ที่คุ้นเคย แม้ว่าสำหรับบางคนเมื่อพูดถึงวง The Cranberries หรือชื่อ Dolores O’Riordan อาจจะทำท่าเกาหัวงง ๆ แต่ถ้าหากพูดชื่อเพลง ‘Zombie’ ขึ้นมาล่ะก็ รับร้องว่าร้องอ๋อกันทั้งนั้น ในความเป็นจริงแล้ว เพลงของ The Cranberries นั้น มีเพลงเพราะ ๆ อยู่อีกหลายเพลงเลย อย่างเช่นเพลง “Ode To My Family” ที่โดยส่วนตัวแล้ว หากได้ฟังทีไรจะรู้สึก เหมือนโดนเสียงของ ‘Dolores O’Riordan’ สะกดจิตให้ร่างกายมันย้วยอ่อนระทวยไปทุกที น่าเสียดายที่ต่อจากนี้ พวกเราจะไม่ได้ยินเสียของเธอคนนี้อีกต่อไป
ถ้าพูดถึง Hugh Hefner (content) เจ้าพ่อ Playboy ผู้ล่วงลับ หลายคงมองเห็นภาพชายผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หนุ่ม ๆ ต้องอิจฉา เพราะเขาได้อยู่ภายใต้ชายคาบ้านในฝันอย่าง Playboy mansion ซึ่งรายล้อมไปด้วยสาว ๆ สวย ๆ มากมาย จนทำให้เขานั้นกลายมาเป็นต้นแบบของหนุ่มเจ้าสำราญทั่วโลก ถึงแม้ว่าวันนี้ Hugh Hefner จะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ Playboy ที่ดูจะซบเซา และอาจปิดตัวลงในเร็ววันนี้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นคนสำคัญอย่าง Ben Koh กำลังมองหาทิศทางใหม่ในการทำ Brand Partnerships ที่เน้นขายลิขสิทธิ์เพื่อทำเงิน จนส่งผลให้อาณาจักร Playboy ที่ Hugh Hefner ปลุกปั้นมากับมือ ดูเหมือนว่ากำลังจะล่มสลายลงไปตามกาลเวลา แต่ใครจะรู้ว่ายังมีมรดกอีกหนึ่อย่างที่ Hugh Hefner ได้ทิ้งเอาไว้ และดูเหมือนว่ากาลเวลาจะไม่สามารถทำลายลงได้นั้นก็คือ Playboy Jazz Festival Playboy Jazz Festival คือเทศกาลดนตรีที่มาจากผลพวงความหลงใหลในเสียงเพลงของ Hugh