ถ้าหากให้นึกถึงแบรนด์รถที่ค่อนข้างหายากในบ้านเราน้อยคนนักที่จะนึกถึงแบรนด์อย่าง Alfa Romeo แต่หากใครรู้จักรถยนต์แบรนด์นี้จะรู้ดีว่า เรื่องของชื่อเสียง โดยเฉพาะในด้านรูปลักษณ์นั้น สามารถพูดได้เลยว่าไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว ดังนั้น วันนี้หลังจากที่เราได้ข่าวการเคลื่อนไหวของ Alfa Romeo ซึ่งนาน ๆ จะมีมาสักทีหนึ่ง เราจึงได้นำเอาประวัติ พร้อมกับข่าวคราวของค่ายรถยนต์ค่ายนี้มาอัพเดทให้แฟน ๆ ได้ทราบกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ หากใครชอบ หรือกำลังเล็ง ๆ Alfa Romeo อยู่ บทความนี้ จะทำให้ คุณได้รู้จักกับ แบรนด์ Alfa Romeo เจ้าของสโลแกน “La Meccanica Delle Emozioni” ที่แปลจากภาษา Italy มีใจความว่า “The Mechanics of Emotions” เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน History of Alfa Romeo ผู้ก่อตั้ง Alfa Romeo ขึ้นนั้นมีทั้งหมด 3
ในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าเราคงเคยได้ยินใครหลายคนแนะนำวิธีการที่จะทำให้ชีวิตก้าวหน้า ด้วยการพัฒนาตัวเองในการทำงานโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ซึ่งหลาย ๆ ครั้งพอเอามาใช้ก็พบว่า เอ๊ะ มันก็ดีขึ้นนะ แต่มันไม่สุดซักที มันมีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่า วันนี้เราเลยอยากเอาหัวข้อการพัฒนาตัวเองในการทำงานยอดฮิต 6 ข้อ มาตีแผ่ให้ฟังแบบลงลึกมากขึ้น ทุกคนจะได้เข้าใจ และนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้ถูกต้องและเห็นผลมากขึ้นนั่นเอง 1. การตั้งเป้าหมายใหญ่ คนสำเร็จในชีวิต คนที่สร้างผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ได้ ร้อยทั้งร้อยเป็นคนคิดใหญ่ครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ก้าวหน้า คุณต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่นั่นถูกต้องแล้ว คำถามคือแล้วจุดตายของการตั้งเป้าหมายใหญ่มันอยู่ตรงไหน? คำตอบคือเป้าหมายใหญ่เกินไปคุณเลยไม่เห็นทางข้างหน้า และรู้สึกท้อทุกที ดังนั้นถ้าให้ดี คุณควรเลือกตั้งเป้าหมายที่ขยายขีดความสามารถของตัวเองในระดับที่ “challengeable, not fantasy” หมายความว่าพอเป็นไปได้เมื่อเทียบกับระดับความสามารถในปัจจุบัน และไม่เพ้อเจ้อเพ้อฝันจนเกินไป ยังครับ ยังไม่หมด จุดตายอีกจุดอยู่ตรงที่ “คุณไม่รู้จักซอยย่อยเป้าหมายออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ” การซอยให้เล็กจะทำให้คุณเห็นว่ามันมีงานง่ายเยอะแยะมากมาย มันไม่ได้ใหญ่อย่างที่คุณคิด! และนี่แค่ข้อแรกเท่านั้นครับ 2. การวางแผนล่วงหน้า อยากบริหารงาน บริหารชีวิตได้ คุณต้องรู้จักการวางแผน การวางแผนจะช่วยลดงานไม่เร่งด่วนของคุณได้อีกมากซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆครับ แล้วความเข้าใจผิด ๆ ในการวางแผนอยู่ตรงไหน คำตอบคือ การวางแผนน้อยเกินไปในเรื่องที่ควรวางแผนให้มาก และวางแผนมากเกินไปในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความลึกในการวางแผนขนาดนั้น
อีกกี่ปีรถถึงจะบินได้แบบในหนัง? เป็นคำถามที่ตัวผมเองตอนเด็ก ๆ เฝ้ารอมานาน ทุกครั้งที่ได้ดูหนังเกี่ยวกับ Sci-fi ล้ำเทคโนโลยี เห็นรถบินอยู่ในฉาก แต่เมื่อโตขึ้นมาหน่อย เรารู้ว่าสิ่งเหล่านี่มันความเป็นไปได้มันน้อยมาก ๆ (แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้) และคงไม่ใช่ในยุคชีวิตของเราที่อยู่แน่นอน ทำให้ตัดใจและมองแนวความคิดต่าง ๆ แค่เรื่องของขายฝัน แต่ในตอนนี้มีข่าวอัพเดทที่เรียกว่ากำลังทำให้ฝันของผมและใครหลายคนเห็นมันเป็นรูปร่างมากขึ้น เมื่อทาง AeroMobil ได้ประกาศเปิดตัวรถบินได้ที่ใช้งานได้จริง ๆ แล้ว การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Frankfurt Motor Show สำหรับรถบินได้จากค่าย AeroMobil ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านเหรียญ กำลังจะมาปฏิวัติวงการขนส่งในอนาคตอย่างเต็มตัว แอโร่โมบิล (Aeromobil) เป็นบริษัทผู้พัฒนารถยนต์บินได้จากประเทศสโลวาเกีย ที่เริ่มทำตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งใช้เวลาการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 27 ปีมาแล้ว Flying Roadster – AeroMobil 4.0 จะเป็นยานพาหนะแบบพิเศษ รูปร่างเหมือนรถ Supercar คันหรูแต่ติดปีกบินสูง มีความยืดหยุ่นให้เราเลือกใช้งานถนนหรือทางอากาศ ได้ตามสถานการณ์ และด้านประสิทธิภาพ สามารถบินได้ไกล 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
Warren Buffett คือมหาเศรษฐีระดับโลกอีกคนหนึ่งที่ใคร ๆ ก็อยากประสบความสำเร็จให้ได้อย่างเขา ปัจจัยความสำเร็จของคนคนหนึ่งย่อมมีมากมาย แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปถอดรหัสนิสัยทางการเงินของ Warren Buffett โดยเฉพาะ มาดูกันว่ารวยขนาดนี้มีนิสัยทางการเงินอย่างไร เพื่อให้ผู้ชายชาว UNLOCKMEN ได้เก็บไปทำตามกันแบบหล่อ ๆ (แถมอาจรวยเพิ่มขึ้นอีก) คิดให้ได้อย่างนักลงทุน เราคิดเรื่องภาษีครั้งแรกกันตอนอายุเท่าไหร่? เรารู้เรื่องการขอคืนภาษีตอนไหน? ไม่ว่าจะจำได้หรือจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เราแค่อยากจะบอกให้รู้ว่า Warren Buffett คิดเรื่องการขอคืนภาษี ตั้งแต่อายุ 13! เรียกว่าสายเลือดแบบนักลงทุน ผู้ประกอบการไหลเวียนอยู่ในร่างตั้งแต่ยังไม่โตเลยทีเดียว ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเขามักจะมองหาโอกาสที่จะทำกำไรจากสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ เช่น การที่เขาขายน้ำอัดลมและหมากฝรั่ง แม้จะต้องขายแบบเคาะประตูตามบ้านก็ตาม ใช้ให้น้อยกว่าที่ได้ นิสัยทางการเงินที่สำคัญอีกอย่างที่เราสามารถเรียนรู้จาก Warren Buffett คือการเลือกใช้เงินให้เหมาะสมกับปริมาณรายได้ที่เรามี แม้จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง Warren Buffett แต่ในช่วงที่เขารู้สึกว่าเขาอยู่ในขาลง เขาก็จะเลือกเซ็ตอาหารเช้าในแมคโดนัลด์ ชุดที่ประหยัดกว่าชุดอื่น เราอาจไม่ถึงขั้นต้องทำตามเขาขนาดนั้นถ้ารู้สึกอึดอัดใจ แค่ระลึกไว้ว่าเรามีรายรับเท่าไหร่ และใช้ให้น้อยกว่ารายรับและพยายามมีเงินเหลือเก็บไว้บ้างเป็นดี การเก็บเล็กผสมน้อย Warren Buffett มักเล่าเรื่องราวของชายผู้ที่ทำให้กษัตริย์ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว โดยการขอเมล็ดข้าวสาลีจำนวนไม่มาก
บรรดาคนมีชื่อเสียงและสร้างสรรค์ระดับโลกหลายต่อหลายคน มักเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงด้านการดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนชื่อดังอย่าง Ernest Hemingway และ Hunter S Thompson ไปยันนักแสดงและนักดนตรีชื่อก้องอย่าง Oliver Reed และ Jim Morrison แม้จะไม่ค่อยแฟร์ถ้าจะบอกว่าคนพวกนี้ขี้เมาถึงได้คิดอะไรเจ๋ง ๆ ได้ (เพราะพวกเขาก็ต้องเจ๋งด้วยตัวเองอยู่แล้ว) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าความคิดสร้างสรรค์มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้างแหละน่า เพื่อไม่ให้เราต้องงุนงงสงสัยให้ปวดตับกันอีกต่อไป ก็มีนักวิจัยใจดี (หรือบางทีก็อาจจะเอาผลการวิจัยไว้อ้างเหมือนกับเราก็ได้) เขาศึกษาเรื่อง Creativity on tap? Effects of alcohol intoxication on creative cognition โดยงานวิจัยที่ว่านี้ก็ชี้ออกมาชัด ๆ เลยว่าเบียร์ส่งเสริมสมองด้านความคิดสร้างสรรค์จริง! แต่ต้องในปริมาณที่เหมาะสมนะ คือ ผู้ชายจะเหมาะสมที่ปริมาณ 500 มิลลิลิตร ในขณะที่ผู้หญิงคือ 350 มิลลิลิตร รู้อย่างนี้ก็แวะชนเบียร์สักแก้วก่อนกลับบ้านหน่อยแล้วกัน เอ้า ชน! แต่ก่อนที่จะไปเมาเบียร์ เรามาดูงานวิจัยที่ว่านี้กันก่อน โดย Creativity on
Polaroid ไม่มีวันหายไป คำพูดนี้กลับกลายเป็นจริงไปซะได้ ตอนแรกใครต่อใครที่ได้ฟังอาจรู้สึกตลกกันนิดหน่อย เพราะในขณะที่โลกเดินไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง กลับมีเทคโนโลยีภาพถ่ายอย่าง Polaroid ที่ยังคงอยู่มาเสมอ ไม่ว่าจะยุคสมัยเก่าหรือในปัจจุบันก็ตาม ตอนนี้หลายคนคงเห็นกล้อง Polaroid หลายเจ้าเริ่มวางขายเต็มท้องตลาดกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำของเล่นใหม่สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ Polaroid แบบที่ไม่ต้องหิ้วกล้องเพิ่มให้วุ่นวาย แถมทำเป็นแบบวิดีโอได้อีก จะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกัน PRYNT POCKET เคสโทรศัพท์ Polaroid ตัวใหม่ที่เจ๋งจนต้องยกนิ้วให้ จากการต่อยอดของ PRYNT รุ่นแรก ที่ได้ออกวางขายตั้งแต่ช่วงปี 2015 มาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคราวออกตัวใหม่ที่ปรับปรุงข้อด้อยด้านต่าง ๆ มาซะเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใหญ่พกยากหรือแบตหมดไวก็ตาม โดยรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม แค่เพียงหยิบมือ และออกแบบสีสันให้โดยใจวัยรุ่นยกใหญ่ ไม่ว่าจะสีแนวพาสเทล หรือโทนขาวดำ คุณสมบัติภายในก็รื้อใหม่ ทำเอาใจยุคสมัยนี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถปรินท์ภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนเสมือนกล้องโพลารอยด์ได้เช่นเดิม และใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Prynt ได้มากมายหลายฟังก์ชั่น เช่นสามารถแต่งภาพ เพิ่มข้อความ หรือใส่สติ๊กเกอร์ในภาพถ่ายก่อนปรินท์ได้ รวมถึงแชร์ไปยัง Social อวดคนอื่นได้ตามต้องการ ถ้าบอกว่ามีแค่นี้จะดูน้อยเกินไปสักหน่อย เพราะความจริง Prynt
คงไม่มีใครอยากจะตีบตันไอเดีย ตีบตันความคิด ไร้แรงบันดาลใจ ทนนั่งทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ หรือในออฟฟิศที่แสนจะวุ่นวายหรอกใช่ไหมครับ บางครั้งการเอาตัวเองออกไปเจออะไรใหม่ ๆ อย่างการเปลี่ยนสถานที่นั่งทำงาน ก็ช่วยปลดล็อกความคิดให้พุ่งฉลุยได้ไม่เลวเหมือนกัน UNLOCKMEN จึงอยากให้ทุกคนมีไอเดียเปิดกว้าง แบบที่ต่างประเทศเขาเริ่มทำกันแล้วคือ Work from Everywhere ที่ได้รับการยอมรับจากพนักงานส่วนใหญ่ว่ามีความสุขและงานออกมาดีมากขึ้นกว่าเก่า เราจึงรวบรวม 5 Co-Working Space ในกรุงเทพ ไว้ให้ทุกท่านได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศและดันไอเดียการทำงานให้พุ่งทะยาน Maven Mesh ใครที่หลงรักบรรยากาศสบาย ๆ ดันไอเดียความคิดอยู่กับธรรมชาติ ไม่ยึดติดกับความล้ำสมัยหรือไฮเทคและความวุ่นวาย ที่ Maven Mesh เป็น Co-Working ที่ที่น่าจะตอบโจทย์ใจได้ไม่ยาก Maven Mesh ตั้งอยู่ใจกลางลาดพร้าว เข้าไปจะรู้สึกแทบหลุดออกไปอีกโลก จัดตกแต่งสไตล์บ้านพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ชั้นล่างเป็นพื้นที่ร้านกาแฟ เบเกอรี่ และ อาหารจานเดียว ส่วนพื้นที่ Work Space จะอยู่ชั้น 2 เงียบสงบ และ มีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมี Open Space
บางคนมักจะมีปัญหากับกระเป๋าเดินทางอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเรื่องของการที่กระเป๋ามีน้ำหนักเกิน หรือโดนคนอื่นหยิบกระเป๋าผิดไป ไม่ก็เราหยิบผิดเอง เนื่องจากหน้าตาของกระเป๋าเดินทางส่วนมากคล้ายกันไปหมด หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ บวกกับกำลังมองหากระเป๋าเดินทางใบใหม่อยู่พอดี วันนี้เรามีกระเป๋าเดินทางดี ๆ มาแนะนำ อีกทั้งยังรับประกันได้เลยว่า ปัญหาทุกอย่างที่คุณเจอมาจะหมดไป เพียงแค่คุณได้ลองใช้ “Freitag Zippelin” ใบนี้ หลายคนคงรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Freitag” กันบ้างอยู่แล้ว อาจจะด้วยความโดดเด่นของวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าอย่างผ้าใบรถบรรทุกที่ผ่านการรีไซเคิล หรือว่าจะเป็นถุงผ้าใบที่มีภาพพิมพ์ดีไซน์เท่ ๆ ทำให้กระเป๋าจากแบรนด์ “Freitag” นั้นมีข้อดีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของลวดลายที่ไม่มีใครเหมือน และความสามารถในการกันน้ำได้เป็นอย่างดีจากการที่ใช้ผ้าใบเป็นวัตถุดิบหลักในการทำกระเป๋า “Freitag” ทำกระเป๋าหลากหลายรูปแบบออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ รวมไปถึงกระเป๋าเดินทางอย่าง “Freitag Zippelin” ที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นพิเศษในวันนี้ด้วย “Freitag Zippelin” เป็นกระเป๋าเดินทางขนาดความจุ 85-Liter ที่มีการผสมผสานกระเป๋าเดินทางแบบ Duffel กับ Rolling Suitcase เข้าด้วยกัน โดย “Freitag Zippelin” ใบนี้ มีการติดตั้งล้อมาให้เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมันมีขนาดความกว้าง 16.5 นิ้ว สูง
“ไม่ได้อยากให้ทุกคนแค่ซื้อสินค้ามาใช้ แต่อยากให้ทุกคนรู้สึกอุ่นใจที่มีมูจิอยู่ในไลฟ์สไตล์” คือประโยคจากปากของนาโอโตะ ฟุคาซาวะ หลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อของเขาเป็นครั้งแรก แต่ในระดับโลกชื่อของนาโอโตะ ฟุคาซาวะ ได้รับการยอมรับในฐานะดีไซน์เนอร์ที่เคยร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกทั้งในอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน รวมทั้งในเอเชีย นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังครองตำแหน่งคณะกรรมการที่ปรึกษางานดีไซน์ของมูจิ แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่นที่ดึงดูดและครอบครองใจคนไปทั่วโลก ในโอกาสฉลอง “70 ปี ห้างเซ็นทรัล” มูจิ จึงจัดนิทรรศการ “What is MUJI?” นิทรรศการที่จะทำให้เรารู้จักแก่นแท้งานดีไซน์ของสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครองใจคนจำนวนมาก รวมถึงเปิดโอกาสให้ UNLOCKMEN ได้ร่วมพูดคุยกับ นาโอโตะ ฟุคาซาวะ ดีไซเนอร์คนสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้ มูจิ โด่งดังไปทั่วโลกด้วย ดีไซน์เป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชั่นเรื่องสำคัญของมูจิ “การออกแบบสินค้ามูจิแต่ละชิ้นจะมองที่ฟังก์ชั่นเป็นหลัก เพราะดีไซน์พยายามที่จะทำให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้” นี่คือคำตอบจากนาโอโตะ ฟุคาซาวะเมื่อถูกถามถึงงานออกแบบของมูจิที่แม้เราจะเห็นว่าออกมาเรียบง่าย แต่ก็ดึงดูดใจ ใครจับจองเป็นเจ้าของไปแล้วมักไม่เคยหยุดที่ชิ้นเดียว แต่เขาก็ยืนยันหนักแน่นว่าสินค้าทุกชนิดของมูจิ ให้ความสำคัญกับการใช้งานมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ละเลยเรื่องการดีไซน์และพยายามย้ำกับเราว่า “แต่ก็พยายามให้ดีไซน์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชั่นด้วย” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สินค้าของมูจิแต่ละชิ้นทั้งใช้งานได้ และมีดีไซน์น่าใช้จนใคร ๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ Wahat is MUJI: อบอุ่นใจ เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ มูจิไม่ใช่แค่สินค้า