ผ่านพ้นไปที่เรียบร้อยสำหรับงาน MTV Video Music Awards ประจำปี 2018 ซึ่งถือเป็นเวทีใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมเพลงทางฝั่งอเมริกา สำหรับเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยอิน แล้วสงสัยว่า MTV เพราะเกิดมาในยุคที่วิดีโอทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ใน YouTube หรือ Vimeo แต่ทว่าคนวัย 25 อัพล้วนเติบโตมากับยุคของ MTV ที่ต้องเฝ้ารอมิวสิควิดีโอจากศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ โดยในปีนี้ศิลปินที่เข้าชิงรางวัลมากที่สุดได้แก่ Cardi B ด้วยจำนวนทั้งหมด 13 รางวัล ซึ่งงานนี้ถือเป็นการปรากฎตัวครั้งแรกต่อสาธารณะชน หลังจากเธอให้กำเนิดลูกสาวเมื่อเดือนกรกฎามที่ผ่านมา วันนี้ UNLOCKMEN ขอนำเสนอ Music Video ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาต่าง ๆ มาให้ทุกคนได้ติดตามกัน Video of the Year Camila Cabello (featuring Young Thug) — “Havana” Artist of the Year Camila Cabello Song of the
คนรวย คนไม่รวยวัดกันที่ตรงไหน? ถ้าบอกว่าวัดกันที่การแต่งกาย ของใช้ที่มองเห็นภายนอกนี่อาจจะเป็นวิธีวัดที่เก่าไปแล้ว เพราะสำหรับเรื่องล่าสุดที่เพิ่งมีงานวิจัยออกมาเผยแพร่คือเขาสามารถใช้สิ่งที่มองไม่เห็นอย่างเสียงเพลง หรือแนวเพลงที่เราชื่นชอบนำมาใช้จำนวนวัดเงินในกระเป๋าของเราได้ แต่ก่อนจะไปอ่านผลวิจัย…ลองซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยการคิดคำตอบในใจกันก่อนว่าคุณชอบฟังเพลงแนวไหน และเมื่ออ่านจบอย่าลืมบอกเราอีกครั้งด้วยว่าตรงหรือเปล่า เริ่มต้นที่เศรษฐีอเมริกันส่วนใหญ่มักจะฟังเพลงคลาสสิก ซึ่งแน่นอนว่ายังคงมีศิลปินไม้ตายอย่าง บีโทเฟน โมสาร์ต และบาช อยู่ใน track ที่เปิดเสมอ งานนี้แม้พวกเราอ่านไปแล้วจะเริ่มส่ายหน้าเพราะฟังดูเหมือนเรื่องอุปโลกน์ที่เดาขึ้นมาแบบส่ง ๆ แต่มันก็เป็นจริงแล้ว และรับรองได้ มาจากผลการสำรวจของกลุ่มคน millennials จำนวน 1,500 คนที่จัดทำขึ้นโดย TDAmeritrage งานนี้แม้จะเป็นการสำรวจจากกลุ่มคนจำนวนไม่มากเพียงช่วงวัยเดียว แต่เหล่านักวิจัยก็ยังยืนยันว่าผลลัพธ์สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบกับช่วงวัยอื่นได้ รักเพลงแนวไหน รายได้เท่าไหร่ หลายคนคงเริ่มอยากรู้แล้ว ลองดูกันว่าแนวเพลงที่เราชอบกันหน่อย ว่าตรงกับสิ่งนี้ไหม แนวเพลงคลาสสิก – $114,000 หรือ 3,730,071.29 บาท แนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ – $92,000 หรือ 3,010,232.97 บาท แนวเพลงแร็ป / ฮิปฮอป – $69,000 หรือ 2,257,674.73 บาท แนวเพลงยุค 80 และ 90 – $67,000 หรือ 2,192,234.88
นั่งทำงานไปนาน ๆ ก็ออกจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ลุกขึ้นไปยืดเส้นยืดสาย บุหรี่ยามบ่ายสักตัว และถ้าได้ฟังเพลงปลุกพลังสักหน่อยคงจะช่วยให้สดชื่นขึ้นไม่น้อย สำหรับใครที่เป็นสายปลุกพลัง เพลงมันส์ ๆ เร้าใจ เราขอแนะนำ WAKE UP YOUR PASSION PLAYLIST : 10 เพลงปลุกไฟให้ลุกพรึบสำหรับปั่นงานให้หมดโต๊ะ แต่สำหรับใครที่สายชิล อยากจะได้เพลงชวน Keep Calm ยามบ่าย ปลุกไฟด้วยความชิล ลองกด PLAY กับเพลย์ลิสต์นี้กันสักหน่อย แล้วปล่อยสมองให้โลดแล่นไปกับเสียงเพลง สำหรับใครที่สะดวกฟังบน Spotify เราจัด Playlist ไว้ให้ฟังกันง่าย ๆ เหมือนเดิม Elliott Smith – Say Yes Iron and Wine – Time after Time Bon Iver – Holocene Fleet Foxes – If You
ย้อนกลับไปในยุคที่คำว่า indie หรือ indy เป็นคำที่โคตรเท่เเละศักดิ์สิทธิ์สุดขีดสำหรับใครหลาย ๆ คน ในยุคนั้นความอินดี้แทบจะเป็น Culture หลัก ๆ ของคนกลุ่มใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นสภาพเเวดล้อมไปจนถึงวัฒนธรรมที่เคยฮิตก็เลือนหล่นจางหายไปตามกาลเวลา ปัจจุบันคำว่า “อินดี้” ดูจะเป็นคำเอาไว้เเซะคนอื่นมากกว่าจะเป็นคำที่เอาไว้พูดในเชิงชื่นชมอย่างเมื่อ 9 – 10 ปีที่เเล้ว ในห้วงเวลาปัจจุบันที่วงดนตรีอินดี้เกิดขึ้นใหม่เยอะมาก วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวงดนตรีอินดี้สุดฮอตในขณะนี้ temp. วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นที่มาพร้อมแนวดนตรีที่พวกเขานิยามว่ามันคือ “Tropical Pop” กลิ่นดอกไม้สายลมเเละแสงแดด UNLOCKMEN จะพาไปเจาะลึกเรื่องราววงการเพลงยุคอินดี้เฟื่องฟูถึงยุคปัจจุบันจากมุมมองของวงอินดี้อย่างพวกเขา temp. มีสมาชิก 5 คนวันนี้เราขาด อุณ (มือกีต้าร์) เพราะติดธุระ เราเลยได้เจอเเค่ นิค (ร้องนำ, กีต้าร์) แปม (กลอง) น๊อต (เบส) เเละ แดน (ทรัมเปต) วง temp. โด่งดังจาก single “Moonshine” ความละมุน ละไม ของเสียงร้องเเละดนตรีที่เย้ายวน ชวนให้อยากทำอะไรบางอย่าง
การฟังเพลงในรถเป็นอีกกิจกรรมที่ผู้ชายอย่างเราทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ เป็นอันต้องเอื้อมมือไปเปิดเพลงทุกครั้งไป ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับ Music Streaming ในสมาร์ทโฟน หรือยังฟังบน Platform อื่น ๆ อยู่ก็ตาม แต่สิ่งที่ทุกคนมีร่วมกันก็คือความรักในเสียงเพลง UNLOCKMEN มี PLAYLIST เพลงจากภาพยนตร์ BABY DRIVER ที่ได้มาสร้างกระแสฮือฮาในบ้านเราอยู่พักหนึ่ง นอกจากความเจ๋งของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ยังมีเพลงในเรื่องนี่แหละ ที่เจ๋งไม่แพ้กัน สำหรับใครที่สะดวกฟังใน Spotify เราจัด PLAYLIST ไว้ให้เหมือนเดิมแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ หากใครยังไม่ได้ดูเราขอแนะนำแบบติดดาว แม้จะไม่ได้คะแนนเต็มในแง่หนังดี แต่ในแง่หนังบันเทิง เราให้คะแนนแบบทะลุปรอท กับความมันส์ของเนื้อเรื่อง ความเท่ของคอสตูม และเพลงเจ๋ง ๆ ที่โผล่มาให้ฟังในแต่ละซีน เรื่องราวของหนุ่มน้อยติดไอพอดอย่างเบบี้ ที่จับพลัดจับผลูมาเป็นคนพาโจรปล้นธนาคารหลบหนี และเรื่องราวของสาวที่เขาปิ๊ง เข้ามาเพิ่มสีสันให้เรื่องนี้อีกด้วย รับรองเลยว่าดูจบแล้ว เราจะอยาก Go Back To The Past หยิบไอพอด เสียบหูฟัง และขับรถเกียร์กระปุกแบบเบบี้บ้างแน่นอน The Detroit Emeralds – Baby
ดนตรีเป็นหนึ่งใน Culture ที่คอยจรรโลงโลกใบนี้มาแสนนาน ตั้งแต่มนุษย์เราเริ่มรู้จักเคาะอะไรสักอย่างให้มันเกิดเสียง และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนเป็นการเคาะที่มีจังหวะ พัฒนามาเป็นเครื่องดนตรี ดนตรีที่เป็นมากกว่าสิ่งที่ให้ความบันเทิง ตอนนี้เรามีดนตรีที่แตกแขนงไปหลากหลายแนวนับไม่ถ้วน แต่ถ้าจะให้ยกขึ้นมาสักแนว ที่ Express อารมณ์ของทั้งคนฟังและคนเล่นได้อย่างดุเดือด ที่ดึงเอาสัญชาตญาณดิบของเราออกมาได้แบบหมดเปลือก “Metal” เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน UNLOCKMEN จะพามาทำความรู้จักกับดนตรีที่ดุเดือดอย่าง “Metal” ในเมืองไทยในมุมมองของคนฟัง เบื้องหลังภาพลักษณ์ดุดัน ก้าวร้าว รุนแรง จากเพลง ปกอัลบั้ม คอนเสิร์ต เสื้อวงสีดำ อะไรที่ทำให้พวกเขาหลงรักเมทัล เป็นเมทัลแล้วจำเป็นต้องดุดันก้าวร้าวอย่างเดียวหรือเปล่า ? ฟังเมทัลแล้วเป็นหนุ่มเนิร์ดได้มั้ย ? สารพัดดราม่าในที่อยู่คู่กับวงการเมทัลไทยมานาน มาดูกันว่ากลุ่ม Metalhead ต้องเจออะไรกันบ้างกับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HEADBANGKOK เว็บฯของชาวเมทัลไทยที่ทำขึ้นเพื่อตอบสนองความชอบของตัวเองล้วน ๆ มาพูดคุยกันในฐานะของคนฟังที่เรียกว่า Metalhead ที่ติดตามวงการนี้มานาน จุดเริ่มต้นของความรักใน Metal เว็บไซต์ HEADBANGKOK เกิดจากความชอบในดนตรีเมทัลของ “โจ้” และ “เจต” ที่เริ่มสังเกตแล้วว่าสื่อเกี่ยวกับเมทัลอย่างพวกนิตยสารเริ่มล้มหายตายจากไปทีละหัวอย่าง Music Express, Metal
ถ้าจะให้พูดถึงหนึ่งในแนวเพลงที่คุณผู้อ่าน UNLOCKMEN ต้องเคยโยกกันหัวแทบหลุด เชื่อว่าแนว Nu-metal ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น แถมเคยมีอิทธิพลกับวัยรุ่นยุค 90’s ถึง 2000 มาแล้ว ด้วยภาคริธึ่มที่หนักหน่วงไปด้วยโทนต่ำ มืดหม่น ถ่ายทอดอารมณ์ได้โคตรมันส์ เสียงสำรอกสุดสะใจ พร้อมเนื้อหาหาที่โดน insight การเผชิญปัญหาของมนุษย์ มันจึงมีเสน่ห์แบบแมน ๆ และเข้าถึงผู้ชายอย่างเราได้ง่าย ใครได้ฟังก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยความอัดอั้นของตัวเองออกมา โดยวงดนตรีที่เปิดศักราช nu-metal ในขณะนั้น และยังอยู่มีงานใหม่อย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ก็มีอย่าง Korn, Slipknot และ Deftones เป็นต้น แม้ว่ากระแสของแนวนี้จะซาลงไปเยอะแล้ว ด้วยกาลเวลา และเทรนด์ที่เปลี่ยนไป แต่ทุกครั้งที่ได้กลับไปย้อนฟังเพลงจากยุคที่ nu-metal เฟื่องฟูนั้น ก็อดโยกหัวและร้องตามไม่ได้ทุกที UNLOCKMEN จึงขอแนะนำอัลบัมเพลงแนว nu-metal ที่เรารู้สึกว่าต้องฟังให้ได้มาฝากกัน (*ขอเน้นย้ำว่าเป็นการแนะนำจากมุมมองทีมงานเท่านั้น อัลบัมใดที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีแต่อย่างใด) Korn – Korn (Immortal/Epic, 1994) “Are…you…ready !?” นี่คือประโยคแรกที่ Jonathan Davis สำรอกให้เราได้ยินจากเพลง Blind ซิงเกิ้ลแรกของวง
วันเวลาที่บังคับให้ชีวิตเดินไปข้างหน้าแบบไม่มีหยุดพัก แม้จะชั่วโมง นาที หรือวินาที เราและโลกใบนี้ที่ก้าวไปพร้อมกัน เคยสังเกตไหมว่าในตอนเริ่มเดินทาง เรามีสิ่งที่ติดตัวมาเท่าไหร่ พอเดินทางมาได้สักพักแล้ว เราเหลืออะไรอยู่กับเราบ้าง ไม่ว่าการเดินทางของคุณจะเป็นยังไง วันนี้เพื่อนในวันวานที่หายไประหว่างทางอย่าง “CLASH” ได้กลับมาเดินทางพร้อมกันทั้งห้าคนอีกครั้ง แม้เขาจะหยุดพักระหว่างทางไปถึง 7 ปี แต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปเลยแม้จะหยุดเดินทางนั่นคือ “มิตรภาพ” ของพวกเขา เป็นสิ่งที่ยังคงเหนียวแน่นและไม่เคยจางหายไปตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ครั้งนี้ไม่ได้กลับมารวมตัวกันเฉย ๆ เท่านั้น แต่พวกเขากลับมาอีกครั้งเพื่อคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปีของพวกเขาในคอนเสิร์ต “Leo Presents CLASH AWAKE Concert” วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561 เวลา 20:00 น. มาดูกันว่ากว่าจะกลับมารวมตัวกัน เรื่องราวระหว่างทาง มิตรภาพที่ยังเหนียวแน่น และเสียงเพลงที่ยังคงยึดพวกเขาไว้ด้วยกัน จากวันนั้นจนถึงวันนี้พวกเขาเดินทางมาไกลแค่ไหนกันแล้ว ช่วงเวลาที่หายไป เมื่อช่วงต้นปี 2554 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แฟน ๆ เพลงหรือแม้จะไม่ใช่แฟน ๆ ก็ตามต่างต้องช็อกกับข่าวคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของวง CLASH อย่าง “CLASH
ช่วงหยุดยาวแบบนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมที่หนุ่ม ๆ สายแอดเวนเจอร์อย่างเรามักจะทำคือการออก road trip ขับรถตะลอนทัวร์กับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือไม่ก็คนเดียวเปลี่ยว ๆ ซึ่งสิ่งที่จะสร้างความบันเทิงในการเดินทางได้ดีก็คือเพลงเยี่ยม ๆ ที่ทำหน้าที่มอบความมันส์ระหว่างทาง และช่วยให้เราไม่ง่วงง่าย ๆ ลดอัตราเสี่ยงอันตรายจากการขับรถทางไกลได้พอสมควร นักวิทยาศาสตร์บอกไว้ว่า เพลงที่จะเหมาะกับการนำมาฟังขณะขับรถทางไกลนั้นควรจะมีเมโลดี้ที่ติดหู มีริฟฟ์กีตาร์มันส์ ๆ ไลน์กลองหนักแน่นกระทุ้งอารมณ์ ทำให้ร่างกายของคุณหลั่งอะดรีนาลีนออกมาให้รู้สึกตื่นตัวตลอดทางหลังจากสตาร์ทเครื่อง ด้วยเหตุนี้ UNLOCKMEN จึงขอนำเพลงที่เราคิดว่าเหมาะกับ road trip เป็นอย่างยิ่งมาให้ฟังกัน โดยเพลงเหล่านี้พิสูจน์ตัวเองมาหลายกิโลฯ หลายปีแล้ว และก็ยังคงอยู่ในใจของคนที่ทำหน้าที่คุมพวงมาลัยประจำทริปตลอดมา Home – Edward Sharpe and the Magnetic Zeros แม้ว่า Home จะเป็นเพลงรัก แต่ก็มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกลับบ้านสมชื่อ เหมาะกับเอาไว้ฟังขณะเดินทางสู่บ้านเกิด ด้วย upbeat ฟังสนุกในท่อน verse บวกกับท่อน hook ติดหู ทำให้เราคิดไปก่อนแล้วว่าถึงบ้าน Don’t
อีกหนึ่งความคลาสสิกที่หยิบเอามาฟังได้ตลอดกับเพลงจากวงอังกฤษ ที่จะมีเอกลักษณ์ของเขาเองจนเกิดเป็นคำเฉพาะที่เรียกกันว่า “Britpop” เราอาจคุ้นเคยกับรุ่นใหญ่อย่าง Pulp, Elastica, Blur, Oasis, The Smiths อะไรทำนองนั้น แต่วันนี้เราขอหยิบยก Britpop ที่เป็นยุคใหม่ขึ้นมาหน่อย อาจจะมีเพลงเก่าปะปนไปบ้าง เพราะเราเข้าใจดีว่าชาว Britpop มักจะคุ้นเคยกับเพลงจากวงรุ่นใหญ่มากกว่า มาฟังเพลงรุ่นใหญ่ที่ฮิตกันสุด ๆ ช่วงแรก และฟังเพลงจากวงอังกฤษในยุคถัดมาในช่วงหลังที่เจ๋งไม่แพ้กัน สำหรับ Britpop รุ่นใหญ่เจอกันในคอนเทนต์หน้า สำหรับใครที่สะดวกฟังใน Spotify เราจัด Playlist มาให้แล้ว Supergrass – Alright มาเริ่มกันด้วยเพลงนี้ จากอัลบั้มเดบิวต์ที่ทำให้พวกเขาดังเปรี้ยงขึ้นมา ที่กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตในหลายที่โดยเฉพาะในอังกฤษเอง Suede – Metal Mickey เพลงจากอัลบั้มเดบิวต์ชื่อเดียวกันกับชื่อวง ซึ่งเพลงนี้ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมายในบริตอะวอร์ด และเป็นอีกเพลงที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของ Britpop ได้แบบชัดเจน Oasis – Supersonic คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก กับวงระดับตำนานอย่าง Oasis ที่เพลงฮิตมากมายของพวกเขา สามารถแทรกตัวเข้าไปได้แทบจะในทุก Playlist เลยด้วยซ้ำ Blur – Parklife Oasis มาแล้ว
เครียดมาทั้งวัน อยากจะผ่อนคลายกับคนข้างกาย ด้วยความแรงดีไม่มีตกของเรา เตียงเจ้ากรรมส่งเสียงดังไม่พอ สาวเจ้าเองก็เสียงไม่ได้เบาไปกว่าเตียงเลย กว่าจะจบกิจกรรมแต่ละครั้ง รู้กันไปสามบ้านแปดบ้าน แม้ฟังดูจะเป็นเรื่องขำขัน แต่ถ้ามันบ่อยครั้งเข้า หรือรบกวนความสงบของคนอื่น เราก็ควรหาทางออกให้วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย UNLOCKMEN ขอแนะนำ PLAYLIST ที่เริ่มเปิดได้ตั้งแต่เล้าโลม กับ 20 เพลงปลุกไฟรักให้ลุกโชนในช่วงแรก ส่วนช่วงหลังสามารถเพิ่ม Volume กลบเสียงกิจกรรมบนเตียงได้ด้วย หลายคนอาจมีเพลงที่เปิดประจำกันอยู่แล้ว ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงที่เราเลือกมาให้กันบ้าง ถือว่าเป็นการแลกเพลงกันฟัง ซึ่ง PLAYLIST นี้จะไม่ได้เป็นเพลงร็อกหนัก ๆ หรือเพลงเร็วร้อนแรงอะไรทำนองนั้น เพราะเผื่อเอาไว้ว่ากิจกรรมนี้ส่วนมากจะโผล่มาตอนดึก การเปิดเพลงดังมากซะจนรบกวนคนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงคงไม่ดีนัก สำหรับใครที่สะดวกฟังใน Spotify เราจัด PLAYLIST ไว้ให้เหมือนเดิม The 1975 – fallingforyou เพลงฟุ้ง ๆ จาก The 1975 ที่ไม่ได้เซ็กซี่เพียงแค่น้ำเสียงของ แมตตี้ นักร้องนำเท่านั้น แต่เนื้อหาของเพลงยังชวนให้ยิ้มมุมปากตามอีกด้วย จะมองว่าเป็นเพลงรักใส ๆ ก็ได้ หรือจะคิดลึกให้มันเซ็กซี่ก็ไม่ขัด The 1975 – Medicine ฟุ้งกันแบบต่อเนื่องไม่แพ้เพลงแรก เป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วชวนให้รู้สึกเซ็กซี่ไม่แพ้เพลงแรก
ถ้ามองวงการ Hip-Hop ในประเทศไทยเป็นพายุ ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาพายุลูกนี้ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ก่อนที่จะโหมซัดกระหน่ำเต็มที่ในปี 2018 นี้เอง เห็นได้จากรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับ Hip-Hop เต็มรูปแบบที่มาพร้อมกันถึง 2 รายการทั้ง The Rapper ทางช่อง Work Point และ Show Me the Money ทางช่อง True4U ถ้า UNLOCKMEN ต้องพูดคุยกับใครสักคนในประเด็นนี้ คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า กอล์ฟ Fukking Hero หรือ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก แรปเปอร์รุ่นใหญ่ที่อยู่คู่วงการ Hip-Hop ไทยมามากกว่า 10 ปี แต่ประเด็นที่ UNLOCKMEN พูดคุยกับเขา ไม่ได้มีแค่เรื่องในวงการเพลงเท่านั้น ยังมีเรื่องการเข้าไปอยู่ใต้ชายคาค่าย What The Duck และพร้อมเปิดตัวอัลบั้มแรกในฐานะศิลปินเดี่ยว และเส้นทางสู่การเป็นศิลปิน Hip-Hop ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก่อนอื่นมาอัปเดตกันก่อนว่าช่วงนี้มีผลงานอะไรให้เราได้ติดตามบ้าง? ตอนนี้ก็กำลังทำอัลบั้มเต็มอยู่ครับ คิดว่าอัลบั้มน่าจะออกมาได้ช่วงปลายปี