การรวมตัวของ Segway และ Skateboard เมื่อข้อดีจากทั้งสองสิ่งถูกรวมเข้าไว้ด้วยกัน ความมันส์ของ Skateboarding ที่ติดตรงต้องออกแรงไถไปตลอดทาง เจอทางลาดชันเมื่อไหร่ก็จบข่าว กับความง่ายจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Segway ที่แค่เอียงตัว ก็เคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่ต้องการได้อย่างสบาย ไม่ต้องออกแรงแม้แต่หยดเดียว เราคิดไว้ไม่ผิดว่าต้องมีคนเอา 2 สิ่งนี้มารวมกันเข้าสักวัน และมันก็เกิดขึ้นจริงแล้วในชื่อ ‘StarkBoard’ เหมือนได้แรงบันดาลใจมาจากความไฮเทคของ Tony Stark เราจะเรียก StarkBoard ว่าเป็น Skateboard อัจฉริยะก็ไม่ผิด เพราะรูปทรงของมันยังคงเป็น Skateboard อย่างชัดเจน แต่มีการเพิ่ม weight sensor และ motion sensor เข้าไป ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้จากการโน้มตัวเช่นเดียวกับที่ใช้ใน Segway ดังนั้นต่อให้เล่น Skateboard ไม่เป็นเลย ก็ไม่มีปัญหา เรียนรู้แค่ไม่กี่นาทีก็เพียงพอที่จะออกไปผจญภัยบนถนนได้ทันที StarkBoard เคลื่อนไหวด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง สามารถเดินทางได้ 20 km ซึ่งเหลือเฟือสำหรับการเดินทางไปมาในเมือง ด้วยความเร็วสูงสุด 32 km/h มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังสามารถส่งกำลังพาเราขึ้นทางลาดชันได้ถึง
ขึ้นชื่อว่ากล้อง Leica จะสะพายตัวไหนก็ดูกลายเป็นคนมีรสนิยมขึ้นมาได้ทั้งนั้น ถ้าตระกูล M จะหล่อมากเป็นพิเศษ แม้จะโฟกัสเองยากนิดหน่อยก็ตาม ตระกูล Q ก็ดูดี ชีวิตง่าย สำหรับสายยกถ่าย และก่อนหน้านี้ Leica ก็เปิดตัว TL2 กล้อง Mirrorless ตัวเล็ก ราคาย่อมเยา (สำหรับ Leica) ซึ่งก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แน่นอน เพราะมีคนใช้กล้องอยากได้ Leica ไว้ในครอบครองอยู่ไม่น้อย ว่าแล้วก็เลยจัดการแบ่งร่างอัพเกรดไลน์ใหม่ที่เหนือกว่า TL2 อีกขั้นเล็ก ๆ ในชื่อ CL พร้อมความสามารถระดับ 24.2-megapixel APS-C mirrorless เพิ่มเติมคือดีกรีถ่ายวีดีโอ 4K 30p จุดเด่นของ Leica CL คงเป็นเรื่องของรูปทรง body ที่ดูคลาสสิค สวยงาม ดูใกล้เคียงกับรุ่นพี่ Full Frame อย่าง M มากขึ้น โดยได้แรงบันดาลใจการดีไซน์จาก Leica IIIg (Leica
ว่ากันว่า ผู้ชายอย่างเราต่อให้โตแค่ไหนก็ยังคงมีความเป็นเด็กผู้ชายในอดีตติดตัวอยู่เสมอ อย่างตอนเป็นเด็ก ของเล่นที่เด็กผู้ชายโปรดปรานก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง อาจจะเป็นรถของเล่น หรือปืนของเด็กเล่น ที่ดูเหมือนว่าจะฝังอยู่ในจิตใจ ส่งผลให้ผู้ชายอย่างเราสนใจในของสองสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าในชีวิตประจำวันจะไม่จำเป็นต้องมีมันไว้ในครอบครองก็ตาม วันนี้เราจะพาผู้ชายทุกคนย้อนวัยไปในเรื่องของอาวุธอย่าง ปืนพก แถมยังไม่ใช่ปืนพกธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่มันเป็นปืนพกที่มาจากภาพยนตร์ชื่อดังที่ถ้าหากใครเคยดูก็คงจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กันว่า “เชร้ดด..ปืนอะไรทำไมโคตรเท่!?” นั่นก็คือ Romeo+Juliet นั่นเอง เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องของความรักที่เกิดขึ้นระหว่างสงคราม และความบาดหมางของ 2 ตระกูลดังอย่าง Capulet และ Montague โดยหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ก็มีคนมากมายที่มีอาวุธปืนเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ได้นำเอาอาวุธคู่ใจตรงดิ่งไปที่ร้านแต่งปืนเพื่อทำการ Custom ให้ปืนของพวกเขามีสภาพเหมือนในหนังกันมากมาย นั่นก็เพราะความสวยของปืนแต่ละกระบอกนั้น มันยากจะบรรยายจริง ๆ วันนี้เราจึงได้นำเอาปืนพกเจ๋ง ๆ ที่ปรากฎอยู่ในหนังมาให้ได้ดู และรู้จักกันว่า จริง ๆ มันมีชื่อมีหน้าตา รวมไปถึงมีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่มันจะถูกโมดิฟายจนสวยเฉียบขาดบาดตาอยู่ในหนัง ก่อนอื่นต้องขอบอกให้รู้เอาไว้ก่อนว่า Romeo+Juliet ในเวอร์ชั่นนี้นั้น ถูกดัดแปลงมาจากบทประพันธ์อมตะของ William Shakespeare และเข้าโรงภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1996 ดังนั้น มันจึงถูกประยุกต์ให้ทันสมัยใกล้เคียงโลกความจริงในปัจจุบัน
สำหรับผู้ชายที่พกพาไฟแช็คติดตัวเป็นประจำทุกวัน คงจะรู้สึกเหมือน ๆ กันว่า ไฟแช็คเป็น Gadget ชิ้นหนึ่งที่สำคัญมาก และหากถึงเวลาต้องใช้งานแล้วหาไม่ได้นี่ ถือเป็นอะไรที่เสียอารมณ์สุด ๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้พวกเราเคยสังเกตกันบ้างไหมว่า ไฟแช็คของเราทำไมมันหายบ่อย ๆ หรือไม่ก็โดนคนอื่นตบไปเป็นประจำ? นั่นอาจจะด้วยตัวเราเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่รักษา และมองว่าไฟแช็คอันละไม่กี่บาท ถ้าจะหายไปก็ไม่เสียดาย แค่เดินไปเซเว่นซื้อใหม่ก็จบ ด้วยปัจจัยเหล่านี้เองที่ทำให้คนบางกลุ่ม เลือกที่จะตัดปัญหาโดยการเปลี่ยนไปซื้อไฟแช็คดี ๆ มาพกไว้ใช้งานแทน ซึ่งแน่นอนว่า ข้อดีของมันก็คือ มันมีคุณค่า และราคา จึงทำให้คุณไม่กล้าที่จะปล่อยปะละเลยไม่สนใจมัน นอกจากนี้ข้อดีของมันก็ยังมีอีกมากมายเช่น ความไม่เหมือนใคร การที่มันเติมเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ และถ้าหากไฟแช็คนั้นเป็นของที่ดีมาก ๆ มันยังเป็นเหมือนเครื่องประดับแสดงถึงบารมีของผู้ใช้ ที่คนบนโลกนี้เขาเล่นนิยมใช้กันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณอีกด้วย นอกจากนี้ ไฟแช็คดี ๆ ยังเป็นเหมือนเครื่องประดับที่บ่งบอกรสนิยม บ่งบอกฐานะ และความเป็นตัวตนของคนเหล่านั้นได้ด้วย และถ้าพูดถึงไฟแช็คราคาแพง มีคุณค่านั้น เชื่อว่าหลายคนคงชินกับชื่อของ Zippo กันเป็นส่วนใหญ่อย่างแน่นอน แต่อันที่จริงแล้ว นอกจาก Zippo ยังมีไฟแช็คระดับตำนานอยู่อีกมากมาย ยกตัวเองเช่น S.T.Dupont ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในไฟแช็คที่มีทั้งราคา มูลค่า
หลังจากที่สำนักแต่งรถชื่อดังอย่าง AMG ได้เดินสายพานการผลิต AMG 6.3 มาตลอดระยะเวลา 10 ปีเต็ม สมรรถนะของเครื่องยนต์ V8 ไม่ว่าจะเป็นตระกูล C63, E63 หรือแม้กระทั่ง SLS ก็ได้แสดงความแรง และสมรรถนะอันยอดเยี่ยมให้เป็นที่ประจักษ์กันทั่วโลก วันนี้เราจึงได้นำเอา Mercedes-Benz AMG 6.3 V8 ที่ถูกยกย่องให้เป็น AMG เครื่อง 6.3 V8 ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มาให้ ชาว UNLOCKMEN รวมไปถึงสาวกของ Mercedes-Benz และ AMG ได้ดูกัน Mercedes-Benz C63 AMG นี่เป็น AMG 6.3 ที่สาวก AMG ควรจะจับจองไว้ในเมื่อยังมีโอกาส และถึงแม้ว่า C63 รุ่นนี้ จะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ 4.0 Bi-Turbo เหมือนกับตัวล่าสุด แต่นี่คือ C63 ที่เป็น Original และจะกลายเป็นความ
นอกจากดีไซน์ที่ถูกใจ กลไกการบอกเวลาที่เที่ยงตรง ปัจจัยการเลือกเรือนเวลาคู่ใจของเหล่าคนรักนาฬิกา คงหนีไม่พ้นเรื่องราว ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นาฬิกาไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์บอกเวลา หรือเครื่องระดับที่บ่งบอกฐานะ แต่มันเป็นสิ่งที่สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจให้กับผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Hamilton ถือเป็นอีกแบรนด์นาฬิกาที่มีหลากรุ่น หลายซีรี่ส์ที่มีเรื่องราวและประวัติอันยาวนาน ผ่านหน้าประวัติศาสตร์กว่า 125 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์ขึ้นที่เมืองแลงคาสเตอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย ในปี 1892 โดยเริ่มต้นจากการผลิตนาฬิกาพกคุณภาพสูงในจำนวนน้อย ๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนาฬิกามาตรฐานของการทางรถไฟของสหรัฐอเมริกาในฐานะ “Watch of Railroad Accuracy” และ “The Railroad Timekeeper of America” นอกจากนี้ความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตยังได้ส่งต่อถ่ายทอด DNA มาถึงคอลเลคชั่นปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาสำหรับกองทัพสหรัฐฯ ที่ Hamilton ผลิตในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ในรุ่น Khaki Field หรือคอลเลคชั่น Broadway ที่ตั้งชื่อมาจากนาฬิกาพกรุ่น Broadway ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับ Hamilton เมื่อครั้งอดีต และเมื่อพูดถึงคอลเลคชั่นเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hamilton ถ้าไม่พูดถึงรุ่น Ventura ก็คงไม่ได้
ไม่ว่าคุณจะชอบทานราเมงหรือก๋วยเตี๋ยวก็แล้วแต่ ในทุกครั้งที่คุณเดินเข้าร้านอาหารประเภทเส้นเหล่านี้ มักจะได้ยินเสียงหนึ่งดังสนั่นอยู่เสมอ นั่นก็คือ เสียงของ “การสูดเส้น” สำหรับบางคนหรือคนที่นั่งทานกันในหมู่คนสนิท เสียงสูดเส้นอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ก็มีคนบางกลุ่มเช่นกัน ที่ไม่พอใจกับเสียงซู้ดซ้าดสุดหิวโหยที่ดังสนั่นได้ ความจริงที่เราพูดอยู่นี้ บางคนยังนำไปเชื่อมโยงถึงมารยาททางสังคมที่มีการกล่าวเอาไว้ว่า การรับประทานอาหารเสียงดังนั้น เป็นกิริยาที่ไร้มารยาท แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ก็เส้นมันทั้งร้อน ทั้งลื่น แถมยาวอีกต่างหากถ้าไม่ให้ดูดแล้วจะให้ทานมันเข้าไปได้อย่างไร? แต่ปัญหาดังกล่าวนั้น คงจะทำให้เจ้าพ่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Nissin สะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกเข้าก็เป็นได้ หรือพวกเขาอาจจะคิดว่า พวกเขาก็เป็นต้นเหตุหนึ่งที่สร้างปัญหาเสียงสูดเส้นนี้ด้วยก็ไม่ทราบได้ พวกเขาจึงจัดการสร้างเครื่องมือที่จะช่วยขจัดปัญหามลพิษทางเสียงที่ว่านี้ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย Nissin ได้สร้างอุปกรณ์ที่ชื่อว่า “Otohiko” ขึ้น โดยมันมีลักษณะเป็นเหมือนส้อมที่มีด้ามขนาดใหญ่กว่าปกติ ซึ่งภายใน “Otohiko” ที่ว่านี้ เจ้าพ่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอ้างว่ามันอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาเสียงของการซัดบะหมี่ลงได้ และจะกลายเป็นเรื่องที่คนเคยมองว่าน่ารำคาญกลายเป็นความสนุกแทนอีกด้วย ประเทศญี่ปุ่นเองก็ถือเป็นประเทศที่ใคร ๆ ก็รับประทานอาหารประเภทเส้นกันทั้งนั้น และด้วยวิถีชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบ จึงทำให้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาค่อย ๆ เป่า รอเส้นให้หายร้อน และรับประทานอย่างช้า ๆ รวมไปถึงช่วงฤดูหนาวที่อุณภูมิลดต่ำลงมาก ๆ อาหารประเภทราเมงที่มีน้ำซุปร้อน ๆ ยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะร้อนมากแค่ไหน พวกเขาจึงไม่ค่อยจะเป่ามัน แถมยังมีคนอีกมากมายที่บอกว่า
ใครจะไปคิดว่าจินตนาการจากการ์ตูน Marvel อย่างชุดเกราะเหล็กบินขึ้นฟ้าแบบ Iron Man จะเป็นจริงขึ้นมาในอนาคตอันใกล้นี้ เหตุเกิดจากนาย Richard Browning หนุ่มชาวอังกฤษ จากเมืองเรดดิ้ง ที่กำลังอยู่ในชุดสูทหน้าตาประหลาดพยายามลอยตัวอยู่ในเหนือน้ำ เพื่อทำสถิติความเร็วจากการเหาะ โดยเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง และมีเจ้าหน้าที่จาก Guinness World Record รวมถึงสื่อมวลชนจำนวนมากให้ความสนใจรวมเป็นสักขีพยาน สำหรับโปรเจกต์นี้ Richard Browing กล่าวว่ามันเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ 3 ปี ก่อน เพราะตัวเขาเองต้องการจะสร้างชุดที่สามารถลอยตัวในอากาศได้ โดยเริ่มแรกเขาใช้ปีกและพัดลมก่อนที่จะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า จนสุดท้ายตัดสินใจยัดเครื่องยนต์เจ็ทรัดติดตัวไปกับเขาเองจนประสบความสำเร็จสามารถเหาะเหนือพื้นดินได้ Richard Browning ได้ให้ชื่อชุดเหาะนี้ว่า Daedalus มีลักษณะเป็น exoskeleton ขนาดเบาประกอบด้วย 4 เครื่องเจ็ตบริเวณแขนสองข้าง และอีก 2 ตัวบริเวณสะโพกทำให้ชุดของเขาสามารถทำสถิติความเร็ว 32 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็น World Record ในสาขา the fastest speed in a body-controlled jet engine
ปฎิเสธไม่ได้ว่า topic ที่เป็นกระแสพูดถึงมากที่สุดในบ้านเราขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นโปรเจ็คต์วิ่งเพื่อชาติของร็อกเกอร์หนุ่มชื่อดังอย่าง ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน Bodyslam ที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นคนไทยคนแรกที่สามารถวิ่งจากจุดใต้สุดไปยังจุดเหนือสุดของประเทศ เพื่อร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งในจุดนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ต้องขอคารวะและเอาใจช่วยให้ คุณ ตูน Bodyslam สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะต้องยอมรับว่าการที่คน ๆ หนึ่งจะลุกขึ้นมาใช้ร่างกายของตัวเองเสียสละเพื่อส่วนรวม มันเป็นการกระทำที่น่ายกย่องอย่างมาก แต่วันนี้เราจะไม่ขอมาพูดหรือถกเถียงเหมือนที่ในโลกโซเชียลจุดประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการวิ่งครั้งนี้ เพียงแต่เราจะมาเจาะลึกไอเทมต่าง ๆ ที่ ตูน Bodyslam สวมใส่ เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งของเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้ นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมของร่างกาย ทีมพยาบาลที่คอยสนับสนุน #Firstgear มาเริ่มกันที่ชิ้นแรกซึ่งเปรียบได้กับหัวใจสำคัญในการนำพา ตูน Bodyslam ไปให้ถึงยังแม่สายอย่างปลอดภัยนั่นคือ รองเท้าที่จะต้องทำหน้าที่ปกป้องเท้า ช่วยเซฟอาการบาดเจ็บต่าง ๆ จากการวิ่งระยะทางไกลกว่า 2,191 กิโลเมตร โดยทาง ตูน Bodyslam ได้เลือกใช้รองเท้า Nike Zoom Vaporfly 4%
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องกันในวันนี้ เราคงต้องขอแสดงความยินดีกับใครก็ตามที่มีความคลั่งไคล้ และชื่นชอบเรื่อง SEX อย่างจริงจัง ชนิดที่พูดได้ว่า หายใจเข้า หายใจออกมีแต่เรื่องเหล่านี้อยู่ในหัว เพราะในตอนนี้นั้น ทุก ๆ อย่างมันเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นไปทุกที สำหรับการที่โลกของเราจะมี Sex Robot ที่สามารถตอบสนองความต้องการอันเอ่อล้นได้ใกล้เคียงกับมนุษย์จริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่า มันจะไม่ได้แก้ปัญหาให้กับคนเหงาที่ไร้คู่เท่านั้น แต่มันจะช่วยแก้ปัญหาคนที่มีความเบื่อหน่าย หรือไม่ชอบเรื่องอย่างว่า จนเกิดกลายเป็นปัญหาระหว่างความสัมพันธ์ได้ วันนี้เราจะดูกันว่า Sex Robot ที่ใกล้จะเกิดขึ้นจริง ๆ บนโลกนี้ มีอะไรน่าสนใจ หรือมีอะไรที่โดนใจคุณบ้าง? ส่วนคนที่ชีวิตรักไม่ได้มีปัญหา แต่สนใจเพราะรู้ตัวดีว่า เป็นคนหมกมุ่นในกามตัณหาขั้นรุนแรง วันนี้เราคงต้องบอกกับผู้ชายทุกคนเอาไว้ก่อนเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีปัญหาเรื่อง SEX หรือใครก็ตามที่รู้สึกตัวว่าเป็นสายหื่นตัวจริงเสียงจริง เก็บเงินให้ไว และเตรียมอั้นรอกันได้เลย เพราะในไม่ช้า คุณจะพบกับสิ่งที่จะมาช่วยระเบิดความมันส์ให้พวยพุ่งในรูปแบบใหม่ของโลกกันแล้ว อย่างที่บอกไปว่า มันใกล้จะเกิดขึ้นเต็มทีแล้ว ดังนั้น ต่อไปคำพูดที่ว่า ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ คงจะไม่มีใครเอ่ยออกมาอีกแน่นอน เพราะวันนี้เราจะมาพาทุกคนดำดิ่งเข้าไปในโปรเจ็คต์สุดสยิวอย่าง “The Race to Build The World’s First
คิดว่าหลายคนคงได้เห็นนาฬิกา Smart Watch กันมากมายหลายรุ่นกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ไม่ว่านาฬิกาแบรนด์ไหนก็เริ่มหันหน้าพัฒนาออกมาอยู่เนือง ๆ เสมอ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังทำงานได้ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนเป็นหลักอยู่ดี จนไม่นานมานี้มีการเปิดตัวของ Apple Watch 3 ที่กำลังเริ่มนำเทคโนโลยี eSIM สำหรับการใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อกับสมาร์ทโฟนเข้ามาลุยในตลาด Smart Watch บ้างแล้ว ทางฝั่ง Android Wear 2.0 ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะล่าสุด Huawei ได้เปิดตัว Huawei Watch 2 Pro ที่ใช้งานเทคโนโลยี eSIM ได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าการปรับตัวของ Huawei ตั้งแต่สมาร์ทโฟน P9 เป็นต้นมา ได้สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ใช้ในตลาดเป็นอย่างสูง เพราะกระแสส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันแบบไม่มีตก อย่างการเปิดตัว Huawei Watch 2 Pro ตัวล่าสุดก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะทาง Huawei ได้พัฒนาให้นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้ สามารถใส่ซิมได้เหมือนมือถือทั่วไปและยังสามารถใช้งาน เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนอีกด้วย จากเดิมที่ตัวซิมการด์มีขนาดค่อนข้างใหญ่เกินตัวนาฬิกา ทำให้เสียพื้นที่ในการใช้งานไปเกินกว่าครึ่ง ทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาแก้เกมด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบ eSIM แทน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Designer อย่าง Maskim Burov ได้ทำการ Design รถจักรยานยน์ที่เขาใช้พลังฝีมือทั้งหมดปั้น 3D ขึ้นมา ให้กลายเป็น Concept Bike ภายใต้แบรนด์ Koenigsegg จนทำให้แฟนของแบรนด์ผู้ผลิต Hypercar สัญชาติ Swedish แอบลุ้นให้ทางบริษัทลองหันมาจับตลาดรถจักรยานยนต์กันเลยทีเดียว เนื่องจากทั้งความสวยงามที่ลงตัวแถมยังดูมีความเป็น Koenigsegg อยู่เต็มพิกัด ทำให้ภาพ Concept Bike ดังกล่าวนั้น ดังไปทั่วโลกภายในชั่วข้ามคืน และวันนี้ดูเหมือน Designer อย่าง Maksim Burov จะว่างจัด จึงทำการ Design Concept Bike ภายใต้แบรนด์ Koenigsegg ออกมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบอกเลยว่า แจ่มเลยทีเดียว หากใครที่เคยเห็นผลงานก่อนหน้านี้กันไปแล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า Koenigsegg Concept Bike คันล่าสุดที่ Maskim Burov ออกแบบมานั้น ยังถูกใจกันอยู่รึเปล่า? ผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจชิ้นล่าสุดของ Designer