3 สิ่งที่ควรทำ เพื่อจะช่วยคืนชีพแล็ปท็อปเครื่องเก่าให้ไวขึ้นแบบคุ้มทุนและใช้ต่อไปได้อีกสักพัก
ถ้าพูดถึงเฟสติวัลแห่งปีที่พลาดไม่ได้ คงไม่มีใครไม่พูดถึงงาน WONDERFRUIT เฟสติวัลระดับโลกโดยคนไทยที่เฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ลงตัวในด้านศิลปะ ดนตรีและไลฟ์สไตล์ได้พาทุกคนไปเปิดประสบการณ์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในปีนี้ก็เป็นอีกปีที่จัดเต็มจนเราเฝ้ารองานในปีต่อ ๆ ไป งานดีขนาดนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ไม่พลาดที่จะไปสัมผัสประสบการณ์จริงกับเหล่าวันเดอเรอร์กว่า 10,000 ชีวิตจากหลากหลายประเทศที่มารวมตัวกัน ซึ่งทำให้วันเดอร์ฟรุ๊ตในปีนี้กลายเป็นศูนย์รวมของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศในการเฉลิมฉลองไลฟ์สไตล์ ศิลปะ ดนตรี และอื่นๆอีกมากมาย ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้างานวันเดอร์ฟรุ๊ต สิ่งที่เรามองว่างานนี้ต่างจากเฟสติวัลอื่นๆ มากกว่าการเสพอรรถรสทางดนตรีจากสุดยอดศิลปิน แต่มันคือสุดยอดประสบการณ์ที่สร้างมาตราฐานใหม่สำหรับศิลปะ ดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม และการหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว โดยทุกสิ่งต่างถูกร้อยเรียงให้อยู่ในท่วงทำนองเดียวกันตามแนวคิดของการสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน DRESS like WANDERERS อีกหนึ่งความพีคของงานนี้คือ การแต่งตัวจัดเต็มของเหล่าเหล่าวันเดอเรอร์ กับความครีเอทที่ต้องบอกว่าเห็นแล้วต้องควักกล้องขึ้นมาถ่ายกับความจัดเต็ม The STAGEs จุใจกับความอลังการของดนตรี และไฮไลต์สำคัญของงานด้วยศิลปะ การตกแต่งโครงสร้างเวทีสุดอลังการแบบจัดเต็ม ยากที่จะปฏิเสธว่ายามพระอาทิตย์ขึ้นหรือกำลังจะลับขอบฟ้าคือภาพที่สวยที่สุดภายในวันเดอร์ฟรุ๊ต เหล่าวันเดอเรอร์ต่างมุ่งหน้าไปยังเวที Solar Stage เพื่อเติมความคึกคักไปกับพาเหรดสุดเร้าใจ มันส์สุดเหวี่ยงไปกับบรรดาดีเจอย่าง Wolf + Lamb, KMLN, Sabo และ Eric Volta ตามด้วยเวที Farm Stage กับผลงานการออกแบบและสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมของไทย