Lotus Cars Limited ค่ายรถสัญชาติอังกฤษเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Lotus Evora สายพันธุ์แรงไซซ์เล็กของค่ายที่มาพร้อมงานดีไซน์ใหม่บางจุดและน้ำหนักเบากว่าเดิม Evora คือรถสปอร์ตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ก่อนจะถูกพัฒนาและเริ่มผลิตครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมามีรุ่นรถย่อยออกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Evora S, Evora 400 และ Evora GT จนกระทั่งในปี 2018 โลตัสได้ปล่อย Evora GT410 Sport ลงสู่ตลาด ซึ่งมันได้เสียงตอบรับที่ดีในเรื่องความเร็วและความคล่องตัว แม้ยอดขายจะไม่ได้สูงมากเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังมองว่ามันไม่เหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน เรื่องนี้เป็นเหตุผลทำให้โลตัสต้องการปรับปรุงโมเดล Evora ให้เหมาะกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยการเพิ่มความหรูหราและเทคโนโลยีสนับสนุนการขับขี่เข้าไปจนออกมาเป็น Evora GT410 คันนี้ ดีไซน์ภายนอกของ Evora GT410 ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ส่วนใหญ่ที่เคยใช้ใน Evora GT410 Sport ยกเว้นแต่ส่วนกระจกด้านหลังของ Evora GT 410 ที่ใช้เป็นวัสดุกระจกมากขึ้น รวมถึงสปอยเลอร์ดีไซน์ใหม่ ทางด้านยางมาตรฐานติดรถจะเป็น Michelin Pilot
หากพูดถึงรถยนต์รุ่น DeLorean DMC-12 บางคนอาจไม่เคยรู้จัก แต่หลายคนคงรู้ว่านี่คือรถในตำนานที่เท่เหนือกาลเวลา โดยรถระดับตำนานรุ่นนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในยุค 80’s ก่อนที่กาลเวลาจะทำให้มันกลายเป็นของหายากที่หนุ่ม ๆ ทั่วโลกอยากครอบครอง ตอนนี้มีข่าวว่า DMC-12 เตรียมกลับมาอีกครั้งในปี 2021 ดังนั้นก่อนที่ DeLorean DMC-12 จะกลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง THE ICONIC CARS อยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก Timeless Car คันนี้ไปพร้อมกัน DMC-12 DMC-12 เป็นรถยนต์ที่ผลิตโดย DeLorean Motor Company ค่ายรถเมืองลุงแซมที่ John DeLorean เป็นผู้ก่อตั้ง โดย Prototype คันแรกของ DMC-12 ผลิตขึ้นในปี 1976 เป็นงานออกแบบของ Giorgetto Giugiaro นักออกแบบผู้ก่อตั้ง Italdesign สำนักออกแบบรถชื่อดังจากอิตาลี ก่อนต่อยอดพัฒนา Prototype จนกระทั่งปี 1981 DeLorean DMC-12 คันแรกก็ถูกส่งออกสู่ตลาด DeLorean
สำหรับ Car Guys หรือคนที่ชื่นชอบรถยนต์ เราเชื่อว่ารถยนต์ทุกคันล้วนมีเสน่ห์ มีความสวยงาม และเกิดมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของใครบางคนเสมอ วินาทีที่เราได้ยินราคาเปิดตัว 2,490,000 บาท ของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic (CBU) ในสมองก็เกิดการประมวลผลเปรียบเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกันทันที ไม่ว่าจะเป็น segment ที่ใหญ่กว่าอย่าง C 220d Avantgarde ตัวเริ่มต้น หรือที่ใกล้เคียงกันอย่าง GLA ที่มีพื้นที่เยอะกว่าค่อนข้างมาก หรือ CLA ที่ได้ความหล่ออารมณ์คูเป้ และอีกมากมายจากหลายแบรนด์ ว่า A-class คันนี้จะมีจุดเด่นอะไรให้หลายคนตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของ และทันทีที่เราได้ครอบครองมัน ประสบการณ์ที่ได้สัมผัส A 200 AMG Dynamic มา ก็พบว่ามีจุดเด่นที่น่าประทับใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสดใหม่ หน้าตาภายนอกและภายในที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่น หรูหรา สปอร์ต เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า และได้รถยนต์นำเข้าทั้งคันไปขับก่อนใคร ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงเหตุผลบางส่วน แต่ก็มากพอที่จะทำให้ใครหลายคนตัดสินใจครอบครองรถคันนี้ได้ไม่ยาก Mercedes-Benz A-class
ถ้าพูดถึงเรื่องรถยนต์หนุ่ม ๆ ในเมืองไทยคงคุ้นเคยดีกับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นจำนวนมากที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 1990 ช่วงเวลาที่มีรถญี่ปุ่นสร้างความยิ่งใหญ่ให้ทั่วโลกรู้จักกับคำว่า JDM Cars JDM ย่อมาจาก Japanese Domestic Market หมายถึงรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตขึ้นมาตามกฎหมายหรือสอดคล้องกับระเบียบรถยนต์และถนนในญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารถญี่ปุ่นจะถูกยกให้เป็น JDM เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ออกแบบเพื่อส่งขายต่างประเทศโดยเฉพาะ เพราะกฎหมายและระเบียบควบคุมเกี่ยวกับรถยนต์ของแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป รถหรือชิ้นส่วน JDM ถูกผลิตขึ้นมาภายใต้กฎข้อบังคับที่เข้มงวดซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบที่เรียกว่า Shaken (車検) ทำให้รถที่ใช้ภายในประเทศและรถสำหรับส่งออกมีจุดที่แตกต่างกัน บางคนบอกว่าคุณภาพสูงกว่า บ้างก็บอกว่าความสวยงามและความแรงโดยรวมเหนือกว่า ที่แน่ ๆ คือรถเหล่านี้สามารถปรับจูนให้แรงขึ้นด้วยงบประมาณไม่สูงเกินไป คนรักความเร็วทั่วโลกรวมถึงในไทยเองจึงชื่นชอบรถยนต์ JDM ไม่ว่าจะสั่งซื้อเข้ามาทั้งคัน เปลี่ยนอะไหล่หรือทำรถแบบลูกผสมก็แล้วแต่ความชอบและงบประมาณ ยุค 90’s ยังถือเป็นช่วงเวลาที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวและพัฒนารถยนต์ออกมาจำนวนมาก หลายคันกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยของค่ายโดยปริยาย กลายเป็นยุคสมัยที่นักเลงรถทั่วโลกอยากจะลองของแรงจากแดนอาทิตอุทัยสักครั้งในชีวิต เมื่อบวกกับอายุการใช้งานรถของคนญี่ปุ่นที่ค่อนข้างต่ำและไม่นิยมมีในครอบครองจำนวนมากเกินไป เพราะภาษีและค่าตรวจสภาพรถในญี่ปุ่นมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้มีรถมือ 2 สภาพดีและอะไหล่ JDM จำนวนมากถูกส่งออกไปทั่วทุกมุมโลก แต่ JDM CAR คันไหนถือเป็นที่สุดแห่งยุค 90’s มาย้อนชมโลกรถยนต์ไอคอนิกแห่งยุคสมัยไปพร้อมกัน MAZDA RX-7 เริ่มกันที่ตัวแรงจาก
ศิลปะ คือ ความพากเพียรของมนุษย์ ศิลปะ คือ ผลผลิตแห่งความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ คือ การปลดปล่อยอารมณ์และถ่ายทอดไปยังผู้ชม ไม่ว่านิยาม ‘ศิลปะ’ ของคุณจะเป็นแบบไหนหรือมีมากมายขนาดไหน คงต้องยอมรับว่าศิลปะนั้นเป็นสิ่งจรรโลงใจที่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้ทุกพื้นที่ และสืบเสาะหาศิลปินทุกผู้ทุกนามจนเจอเสมอ แต่ในยุคที่โลกกำลังเดินหน้าและดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดเฉกเช่นตอนนี้ นิยามของศิลปะในอดีตก็อาจถูกเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ผลงานศิลปะบางชิ้นถูกตัดสินว่าเก่าคร่ำครึและค่อนไปทางโบราณ บ้างถูกตีค่าว่าเป็นศิลปะยุคใหม่ที่ไร้ขนบ แล้วเชื่อว่าศิลปะทั้งสองอย่างนี้คงจะเลือนรางและจางหายไปในสักวัน จะมีก็แต่ ‘ศิลปะร่วมสมัย’ ที่คงอยู่จากรุ่นสู่ คงอยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนของยุคสมัย และอาจอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ๆ มาโดยตลอด ย้อนไปในปี 1975 นั่นเป็นครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่บริบทของศิลปะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนผืนผ้าใบหรือในพิพิธภัณฑ์อีกต่อไป หากสอดแทรกอยู่แทบทุกที่รอบตัวเรา แม้แต่บนหลังคา ปีก หรือฝากระโปรงของรถยนต์หรูก็ตาม BMW ART CAR โปรเจกต์ตำนานที่ผสาน ‘ศิลปะ’ เข้ากับ ‘ความเร็ว’ ของรถยนต์ จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ ‘BMW Art Car’ เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของ Hervé Poulain นักแข่งรถและนักประมูลรถชาวฝรั่งเศส ที่รวบรวมความรักทั้งสองด้านของเขาเข้าด้วยกัน หนึ่งคือศิลปะที่เขาหลงใหล สองคือความเร็วที่เขาหลงรัก ในปี 1975
อิตาลี เป็นประเทศที่โดดเด่นด้วยเรื่องของแฟชั่น และวัฒนธรรมที่มีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีความคลาสสิคที่ถูกผสมผสานจนกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนต่างหลงใหลกับดินแดนแห่งนี้ เท่านั้นยังไม่พอสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังได้ถูกถ่ายทอดมายัง “Lambretta” สกู๊ตเตอร์อิตาลีพันธุ์แท้ที่ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1947 พวกเขาสั่งสะสมประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุด “X300” ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปได้ไม่นาน “X300” ถูกเนรมิตขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของ Lambretta มาพร้อมกับคอนเซปต์ “Heritage To Future” มันคือการถ่ายทอดความงดงามในอดีตที่ส่งต่อมาสู่ปัจจุบัน หรือให้อธิบายเข้าใจง่าย ๆ ก็คือการคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความคลาสสิค แต่เติมเต็มด้วยความล้ำสมัยนั่นเอง ว่าแต่ความน่าสนใจของ “X300” มีอะไรบ้าง ทาง Unlockmen ขออาสาพาทุกคนไปสัมผัสกับมันกันครับ บอดี้รูปทรง DIAMOND LINES สัมผัสแรกที่เตะตาคงหนีไม่พ้นบริเวณบอดี้ของ “Lambretta X300” ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงคล้ายกับเพชรสุดเลอค่า ซึ่งมาจากการออกแบบลายเส้นบริเวณตัวรถอย่างสวยงามนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ “X300” ยังถูกดีไซน์มาให้ขับขี่ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยโครงสร้างของตัวรถแบบ Low & Long ช่วยลดปัญหาเท้าเหยียบไม่ถึงพื้นในขณะจอด อีกทั้งยังมีการบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยม หมดห่วงเรื่องการทรงตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว “Lambretta X300” ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 275 CC. มีระบบจ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่วนการสตาร์ทไม่ต้องเสียบกุญแจ แค่วางไว้ใกล้ตัวรถก็สามารถสตาร์ทได้ทันทีด้วยระบบ Smart Key
Nissan Leaf Nismo RC ต้นแบบรถแข่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 โชว์ความแรงในทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกที่ Circuit Ricardo Torno สนามแข่งรถในเมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน พร้อมพลังที่เพิ่มจากรถรุ่นแรกเกือบเท่าตัว Nissan Leaf Nismo RC รุ่นปี 2020 คือรถแข่งพลังไฟฟ้าที่มีพื้นฐานจาก Nissan Leaf (ZE1) โดยไม่ได้สร้างมาแค่จัดแสดงเท่านั้น แต่เป็นรถสำหรับทดสอบพัฒนาการของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของนิสสันในอนาคต ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ รวมถึง Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายถึง 450,000 คัน Leaf Nismo RC มาพร้อมดีไซน์ภายนอกแบบใหม่สไตล์ Racing ที่สร้างและพัฒนาโดย NISMO แผนกรถแข่งของค่าย ออกมาเป็น Nissan Leaf ลุค 2 ประตูแบบต่อท้าย มาพร้อมกับสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ระบบ Aerodynamic บนสนามแข่งที่ดีที่สุด
ยุโรปเป็นทวีปแรกที่ Toyota จะเปิดตัว Supra รุ่นพิเศษที่ชื่อ “Fuji Speedway Edition” มาพร้อมเครื่องยนต์ตัวใหม่ แม้พลังจะลดลงแต่ความสนุกหลังพวงมาลัยไม่น้อยลงแน่นอน “Fuji Speedway Edition” คือรุ่นพิเศษของ Supra ที่มีพื้นฐานมาจาก Supra (A90) รุ่นมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงดีไซน์บางจุด ไม่ว่าจะเป็นกระจกมองข้างแบบทูโทนสีแดงดำ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วแบบ 5 ก้านสีดำเงาและแดมเปอร์สีแดงสด ออกมาเป็น Supra คุมโทนสีขาว ดำ แดง ที่ลงตัว ห้องโดยสารของ Supra “Fuji Speedway Edition” ออกแบบมาให้คุมโทนเหมือนกับภายนอก ทั้งเบาะโดยสารสีดำ-แดงจากหนัง Alcantara และคอนโซลกลางสีแดงขนาดใหญ่ ในส่วนของทริมคอนโซลด้านหน้าใช้เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ด้านเทคโนโลยีภายในไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้วและลำโพง 4 ตัว ที่สามารถอัปเกรดแพ็คเกจพิเศษเป็นระบบเสียงสเตอริโอพร้อมลำโพง 12 ตัวจาก JBL รวมเครื่องชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายและระบบแสงภายในห้องโดยสายแบบใหม่ มาถึงเรื่องสำคัญของ Supra “Fuji
คุณยังจดจำการ์ตูนเรื่องโปรดได้ไหม? ยังจำรถยนต์ในฝันเมื่อตอนเป็นเด็กได้หรือเปล่า? TOFUYA Studio เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ คุณบุ๊ง ศิวกร Owner: Garage Cube/คาเฟ่ตึกแถว/นักจัดหานักแสดงสายงานโฆษณา, คุณกี้และคุณบอย Owner: Inner Car Dress Up, คุณวิท, คุณนัท ช่างภาพ และสมาชิกอีกหลายคนที่หลงใหลในสิ่งเดียวกันคือวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะการ์ตูน ภาพยนตร์ สถานที่สักแห่งในความทรงจำ รวมไปถึงรถซิ่งยุค 90 หากเราไม่บอกคุณว่าที่นี่คือ ประเทศไทย คุณคงคิดว่าภาพที่เห็นอยู่นี้คือ ประเทศญี่ปุ่น จากพื้นที่ที่เคยเป็นปั๊มน้ำมันร้าง ถูกเนรมิตให้กลายเป็นปั๊มน้ำมันสุดวินเทจที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของญี่ปุ่น คุณบุ๊ง: เราโตมากับการ์ตูน หนังที่เราดู อาหารการกิน การไปเที่ยว แล้วเราเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ เราชอบสะสมของ มันก็เลยถูกซึมซับและหล่อหลอมมาในสิ่งที่เราชอบ ตอนเด็ก ๆ เราไม่ได้เป็นครอบครัวที่มีเงินเยอะเป็นชีวิตปกตินั่นแหละ มันเหมือนฝังใจ พอเราทำงานหาเงินเองได้เราก็จะตอบสนองตัวเองในสิ่งที่เราต้องการ มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น มีโอกาสได้ซื้อของเล่น มีโอกาสได้ซื้อของสะสม เริ่มเล่นคนเดียว แต่งโรงรถคนเดียว จากการเริ่มต้นสะสมของ เริ่มแต่งโรงรถที่บ้านตัวเอง โรงรถของบ้านเพื่อน การเปิดคาเฟ่แห่งแรก คุณบุ๊ง: พอทำให้เพื่อนหลาย
Whoever Said Money Can’t Buy Happiness Just Never Bought the Right Car. Dream Car คือความฝันลูกผู้ชายทุกคน แต่ถ้าถามเรื่องการเงิน เรื่องกู้เงินมาซื้อรถ คนส่วนใหญ่อาจจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เราเป็นคนประเภทไหน เหมาะกับการกู้แบบไหน ถ้าไม่ได้มีเงินสดพร้อมโอน เราควรต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อรถได้ หรือจะดูยังไงว่าไหวไม่ไหว ใครที่อยากเตรียมตัวซื้อรถ หรือเล็ง ๆ ไว้อยู่ UNLOCKMEN ขอเปิดวิชาเป็นหนี้คร่าว ๆ ให้ทุกคนเรียนรู้กัน ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เป็นเศรษฐีเงินผ่อน แต่ถ้ามัวรอเงินก้อนกว่าจะซื้อ บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าความชราที่มาพร้อมเงินเฟ้อมันจะทำให้พวกเราหมดสิทธิ์มีรถในฝัน 3 คำเตือนต้องรู้ก่อนซื้อ ไม่ไหวอย่าบอกไหว คำเตือนข้อ 1: เห็นตัวเลขผ่อนน้อย ผ่อนยาว อย่าเพิ่งโดดไปผ่อนเพราะคิดว่าหักจากเงินเดือนก็ยังพอกิน หนี้มันไม่ได้จบแค่ตัวเลขที่มองเห็น แต่มันยังมีตัวเลขแฝงอื่นอีก ค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน เฉลี่ยใน กทม. ประมาณ 3,000 บาท / เดือน ขึ้นอยู่กับระยะทาง
ถ้าพูดถึง ‘ไบค์เกอร์’ หลายคนก็จะนึกถึงกลุ่มชายชาตรีหนวดเคราเฟิ้ม ใส่เสื้อหนัง สวมรองเท้าบู๊ท ขี่รถคันใหญ่ไปด้วยกันเป็นคาราวาน บางคนจะนึกถึงผู้คนที่ไม่อยู่ในกรอบและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ส่วนในต่างประเทศผู้คนมักพูดถึงแก๊ง Hell Angels, Outlaws, 69’rs หรือ Black Sabbath แต่ยังไม่ค่อยรู้จักแก๊งนักบิดชื่อว่า Motor Maids เท่าไหร่นัก UNLOCKMEN เคยเล่าเรื่องราวของชาวแก๊งนักบิดอยู่บ่อยครั้งทั้งแก๊ง Hell Angels หรือแก๊งนักซิ่งของฝรั่งเศส แต่เรายังไม่เคยเล่าเรื่องของสุภาพสตรีขี่บิ๊กไบค์จากยุค 40 ทั้งที่พวกเธอนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่งตัวจัดจ้านได้เท่ไม่แพ้ผู้ชาย และจะไม่ยอมอยู่ในกรอบที่ถูกเขียนไว้ว่า ‘ผู้หญิงต้องแต่งงาน เป็นเมียที่ดี เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ’ เพราะพวกเธอจะเป็นคนเลือกเส้นทางการใช้ชีวิตของตัวเอง ‘DOT ROBINSON’ สตรีหมายเลขหนึ่งแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ ย้อนกลับไปช่วงปี 40 ห้วงเวลาแห่งสงครามโลก มีหญิงสาวชาวออสเตรเลียคนหนึ่งชื่อว่า Dot Robinson เกิดปี 1912 เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการมอเตอร์ไซค์ของสหรัฐอเมริกา เธอมีความชอบแตกต่างจากหญิงสาวในยุคเดียวกัน เธอคลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์มากและหลาย ๆ คนคาดว่าเธอได้รับอิทธิพลมาจากพ่อตัวเองที่เป็นนักออกแบบรถแถมยังเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์อีก เธอชื่นชอบทุกอย่างเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ พออายุ 16 ปี ก็แวะเวียนไปยังร้าน Harley-Davidson
21,529,464 คัน คือยอดการผลิตทั้งหมดของรถยนต์ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (Volkswagen Beetle) ตลอดระยะเวลา 65 ปี ทำให้รถยนต์ที่เราเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า “โฟล์คเต่า” เป็นรถที่ออกแบบครั้งเดียว แต่สามารถทำยอดขายได้สูงสุด รวมถึงมีระยะเวลาการผลิตนานที่สุด ทว่าตัวเลขและยอดขายกลับไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ โฟล์คสวาเกน บีเทิล เป็นหนึ่งในความคลาสสิก เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างบีเทิลกับผู้คนทั่วโลกต่างหากที่ผลักให้โฟล์คสวาเกน บีเทิลคือหนึ่งในเรื่องราวคลาสสิกตลอดกาลแห่งโลกยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาเกือบ 70 ปีที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน บีเทิล ฝากความทรงจำอะไรเอาไว้ให้โลกใบนี้บ้าง? รถยนต์ของประชาชน หลายท่านทราบถึงจุดเริ่มต้นของโฟล์คสวาเก้น บีเทิล ในฐานะ “The People’s Cars” แนวคิดจาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำแห่งไรช์ที่ 3 หรือเยอรมนีในปัจจุบัน มองว่ารถยนต์ส่วนใหญ่นั้นหรูหราและฟุ่มเฟือยเกินไป จึงอยากให้มีการผลิตรถครอบครัวราคาถูกที่สมรรถนะดี แต่ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาไปในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นรถยนต์ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แนวคิดดังกล่าวถูกส่งต่อให้ แฟร์ดีนันท์ พอร์เชอ วิศวกรรถยนต์ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบรถที่โดดเด่นจำนวนมาก นำไปสู่การสร้าง Volkswagen Type I และบริษัทโฟล์คสวาเกนขึ้น น่าเสียดายที่การเริ่มต้นของบีเทิลต้องหยุดกะทันหันเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 การรบที่เข้มข้นขึ้นทำให้รถครอบครัวที่ใช้งานง่ายไร้ปัญหาคันนี้