ชื่อของ Ralph Lauren ในสายตาคนทั่วไปอาจจะรู้จักกันในนามของแฟชั่นดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า POLO อันโด่งดัง แต่ใครจะไปรู้ว่านอกจากการเป็นดีไซน์เนอร์แล้ว Ralph Lauren ยังเป็นหนึ่งในนักสะสมรถตัวยง ที่มีคอลเลคชั่นรถหรูส่วนตัว ที่หายากซึ่งมีมูลค่ารวมกันแล้วเกินกว่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ จากการประเมินค่าของ Forbes สำหรับคอลเลคชั่นสะสมรถของ Ralph Lauren นั้นมีมูลค่ารวมมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ นับจากจำนวนรถที่มีเกินกว่า70 คัน ทำให้ Ralph Lauren ถือได้ว่าเป็นคนที่ครอบครองคอลเลคชั่นรถที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ดังนั้นในวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จะขอพาไปส่องรถในคอลเลคชั่นรถของ Ralph Lauren กันดูสักหน่อย ว่าในอภิมหา Garage ของเขานั้นมีของเด็ดคันไหนจอดอยู่บ้าง 1938 Alfa Romeo 8C 2900 Mille Miglia มูลค่า $3,000,000 (ราว 96,000,000 บาท) 1929 Birkin Blower Bentley มูลค่า $5,000,000
มี Iconic Car จากภาพยนตร์ไม่มากนัก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแซงจนทำให้ภาพยนตร์ดังตามไปด้วย แต่สำหรับ 1968 Ford Mustang 390GT Fastback ‘Bullitt’ ในสี Highland Green คันนี้ถือว่าพิเศษสุด ๆ เป็นรถที่สามารถใช้คำว่า Iconic Car ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ชื่อ Bullitt ของ Mustang ถูกตั้งขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งคอภาพยนตร์และแฟนพันธุ์แท้รถยนต์ น่าจะจดจำฉาก Action ไล่ล่าอย่างบ้าระห่ำกลางเมือง San Francisco โดยผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเท่ที่สุดในโลก the King of Cool ‘Steve McQueen’ ได้รับการขนานนามว่าเป็นฉากที่มันส์ติดชาร์ท และเป็นมาตรฐาน Car Chase Scene ในภาพยนตร์ถึงทุกวันนี้ ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณไม่เคยเห็นฉากไล่ล่าอันมีชื่อเสียงนี้ เพราะคาดว่าคนอ่านเราน่าจะอายุไม่ถึง 50 ปี เราไปเจอคลิปที่ตัดมาเฉพาะฉากนี้มาฝากกัน มันเป็นความมันส์ระดับชนะรางวัล Academy Award สาขา best film editing แล้วจะรู้เลยว่าทำไม
ในฐานะที่เราเองก็เป็นคนชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ ครั้งแรกที่ได้เห็นชื่อ คุณณัฐพัชร์ จรรยาพาณิชย์ ในงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ที่จัดโดย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า นอกจากความตื่นเต้นกับดีไซน์สวยงามของรถรุ่นใหม่ที่กำลังเปิดตัวบนเวที อีกสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นกว่านั้น คือชื่อของคนที่ออกแบบมอเตอร์ไซค์ที่เรากำลังมองตาค้างอยู่นั่นเอง “คุณณัฐพัชร์ จรรยาพาณิชย์ ดีไซน์ โปรเจกต์ ลีดเดอร์” พิธีกรบนเวทีพูดชื่อพร้อมแนะนำตำแหน่งของเขาใน ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เซ้าท์อีสท์ เอเซีย เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าในบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า จะมีคนไทยเป็นดีไซน์เนอร์อยู่ในนั้นด้วย และยังเป็นถึงระดับโปรเจกต์ ลีดเดอร์อีกต่างหาก พร้อมคิดในใจว่าอยากนั่งพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจกับผู้ชายคนนี้สักครั้ง และวันนึงเราก็มีโอกาสได้พูดคุย ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่คิดไว้ มีมุมมองดี ๆ และประสบการณ์ที่น่าสนใจมากมาย น่าจะถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้เราไล่ตามความฝันได้ไม่ยากเลยครับ อะไรที่ทำให้เลือกมาเป็นดีไซน์เนอร์สายอุตสาหกรรมยานยนต์ ‘เพราะเป็นคนชอบเรื่องของยานพาหนะมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบขับรถ จริง ๆ ชอบยานพาหนะทุกอย่างเลยครับ พอตอนจะเข้ามหาลัยเลยเลือกคณะสถาปัตยกรรม โปรดักส์ ดีไซน์ ศิลปะอุตสาหกรรม ซึ่งจริง ๆ ก็จะแยกเป็นหลายแขนง แต่ผมเลือกยานยนต์’ รู้ตัวว่าอยากออกแบบมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ช่วงเรียนเลยไหม ‘ถ้าหมายถึงจุดเริ่มต้นที่อยากออกแบบรถมอเตอร์ไซค์จริง ๆ คือตอนเรียนปี 5 ครับ ตอนนั้นยังเรียนไม่จบ อยู่ในช่วงทำธีสิสผมกำลังอินกับมอเตอร์ไซค์ แล้วได้เจอรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้เข้าไปทำงานออกแบบของฮอนด้า เล่าให้ฟังว่าการได้ทำงานออกแบบรถมอเตอร์ไซค์แล้วได้เห็นคนใช้งานมันจริง ๆ เห็นคนที่ชื่นชอบและหลงใหลไปกับสิ่งที่เราออกแบบมันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก
บางทีพวกเราก็อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างประกอบกันอยู่ในรถยนต์ของเรา สำหรับบางคนที่มีสกิลช่างระดับเทพ ก็คงแกะเข้า แงะออกได้สบาย ไม่มีปัญหา แต่สำหรับอีกหลายคน ต้องบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลย ต่อให้เป็นรถบ้านที่ส่วนประกอบไม่ซับซ้อนอะไรมากมายก็ตาม ยิ่งถ้าเป็น 12 Iconic Car ระดับโลก ที่มีความซับซ้อนของเทคโนโลยีอยู่ข้างใน ถ้าไม่ใช่คนพิเศษจริง ๆ คงไม่มีทางได้พบเห็นในชาตินี้ แต่โชคดีที่มักจะมีศิลปินรับผิดชอบงานด้านนี้โดยเฉพาะ ค่อย ๆ ศึกษาชิ้นส่วนแต่ละอย่างของ Supercar ก่อนจะค่อย ๆ วาดมันออกมาให้เหมือนจริงที่สุด ซึ่งขั้นตอนการวาดถือว่าเป็นขั้นตอนที่ง่ายไปเลย ถ้าเทียบกับการแพลนล่วงหน้าว่าจะนำเสนอยังไงให้คนดูเข้าใจง่าย เพราะภาพวาดพวกนี้มันจะต้องนำเอาใช้ใน Catalogue, Manual รถคันนั้น ๆ และนี่คือ 12 ผลงาน Cutaways ที่สวยงาม ดูง่าย และน่าตื่นเต้นจนเราต้องนำมาฝากกัน เพราะนอกจากรูปสาว ๆ แล้ว ก็เป็นระบบที่สวยงามของรถ Iconic Car นี่แหละ Ford GT40 Mk. IV by James Allington Lancia
หนึ่งใน Iconic Supercar ในช่วง 1974 – 1990 ต้องมีชื่อ Lamborghini Countach อยู่ในนั้นแน่นอน ถ้าใครนึกภาพไม่ออก มันคือรถที่ Jordan Belfort (Leonardo DiCaprio) ใน Wolf of Wall Street ใช้ขับจนพังด้วยความเมานั่นเอง (รู้หรือไม่ว่า Martin Scorsese ผู้กำกับภาพยนตร์ลงทุนใช้ 25th Anniversary Lamborghini Countach ของจริง เอามาชนจนพังจริง เพื่อให้ได้อารมณ์ที่สุด แต่ก็แอบเสียดายรถแทนมากเลย) ความเท่ของรถคันนี้เริ่มจากชื่อ Countach ที่ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ เพราะ Lamborghini เอามาจากภาษา Piedmontese ภาษาพื้นเมืองทางตอนเหนือของ Italy ที่มีคนพูดได้อยู่ราว 1 – 2 ล้านคน น้อยคนนักจะรู้ว่าชื่อนี้แปลว่าอะไร แต่เราหาข้อมูลมาแล้ว เราจะบอกให้ว่า คำว่า coon-tahshe—is แปลเป็นไทยง่าย ๆ ได้ว่า “เหยดดดดด”
วงการรถยนต์ถือเป็นวงการที่แข่งขันกันดุเดือด ย้อนกลับไปในอดีต เวลาเราเห็นรถยนต์เปิดตัวใหม่ พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในยุค และตัวเลขสมรรถนะที่ทำลายขีดจำกัดความเร็วกันไปมาระหว่างแบรนด์คู่แข่ง ทำให้เรารู้สึกสงสัยว่าขีดจำกัดของรถยนต์นั้นจะไปหยุดอยู่ตรงไหน การทำความเร็ว 0 – 100 km/h จะสามารถเร็วที่สุดได้แค่ไหน ความเร็วสูงสุดที่ 4 ล้อสามารถรับได้คือเท่าไหร่ ในความรู้สึกและวิทยาศาสตร์บอกว่า เราพวกเราใกล้จะถึงยุคของคำตอบนั้นแล้ว แต่ที่แน่ ๆ ในปี 2017 ที่ผ่านมา ก็มีสุดยอดอภิมหารถยนต์เปิดตัวมาหลายรุ่น ซึ่งเราได้รวบรวมโมเดลที่ทำลายขีดจำกัด สร้างมาตรฐานใหม่ให้ปี 2018 ต้องไล่ตามมานำเสนอ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรตรงใจคุณกันบ้าง Mercedes-AMG Project One ข้อดีของการลงทุนลงแรง ร่วมแข่งขันในวงการ Formula One ก็คือการได้พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ของตัวเองไปในตัว และยิ่งเป็นทีมระดับแชมป์อย่าง ‘Silver Arrows’ Mercedes Formula One teams ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม การอาศัยถ่ายโอนเทคโนโลยีแห่งความสำเร็จบน track สำหรับมือโปร ลงสู่รถยนต์รุ่นพิเศษเพื่อลูกค้าที่ใจถึงและเงินถึง ซึ่งนี่เป็นที่มาของอภิมหาโปรเจค ‘Mercedes-AMG Project One’ hypercar ราคาเฉียด 100 ล้านบาท Mercedes-AMG
ชื่อของ Kenichi Yamamoto อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูของคนทั่วไป แต่สำหรับคนในวงการยานยนต์ตัวจริง น่าจะรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของชื่อนี้เป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้เป็นบิดาแห่งเครื่องยนต์ Rotary เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Mazda เป็นผู้สร้างสรรค์ให้เกิดรถยนต์สปอรต์ระดับโลกอย่าง RX-7 และ MX-5 จะเรียกว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่นำพาให้รถยนต์ Mazda ประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้ก็ไม่ผิด เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ Kenichi Yamamoto เพิ่งจะเสียชีวิตไปเร็ว ๆ นี้ด้วยวัย 95 ปี และเราคิดว่าทุกคนน่าจะได้รู้จักเรื่องราวของชายผู้ยิ่งใหญ่คนนี้กันมากขึ้น จุดเริ่มต้นของ Kenichi นั้นไม่ง่ายเลย เกิดที่เมือง Hiroshima ในปี 1922 ก่อนจะเข้าไปเรียนจนจบมหาวิทยาลัย Tokyo Imperial University ในปี 1944 แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นชีวิตหลังเรียนจบอย่างที่หวังไว้ หนึ่งปีผ่านไป ประเทศญี่ปุ่นก็เข้าสู่ช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 Hiroshima บ้านเกิดของ Kenichi ถูกระเบิด atomic bomb ‘Little Boy’ ทิ้งใส่จนไม่เหลือซาก ด้วยความหวาดกลัวว่าข่าวร้ายจะมาถึงตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนึงก็มีจดหมายจากแม่ของ Kenichi ส่งมาบอกว่า บ้านของเขาพังทลาย และที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือน้องสาวที่เพิ่งจะเรียนจบมัธยมเสียชีวิตลงไปจากเหตุการณ์นี้ด้วย
ผู้ชายที่ยอดเยี่ยม และมีรสนิยมส่วนใหญ่ มักจะรู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับตัวเองที่สุดให้กับตัวเองอยู่เสมอ จึงไม่แปลกใจที่หลาย ๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นประโยคที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า อะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งซึ่งควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ อย่างประโยคคลาสสิคที่ว่า “Dress Italian, Drive German, Drink Scott, Smoke Cuba และ Kiss French” ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ ล้วนก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเถียงได้ ว่ามันไม่จริง หรือยังมีสิ่งที่ดีกว่า เพราะมันผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ทั้งในเรื่องของ คุณภาพ คุณค่า และกาลเวลา อย่างที่ว่า ทอง ยังไงก็ยังเป็นทองอยู่วันยันค่ำ ไม่เคยเสื่อมคุณค่า หรือมีอะไรที่ถดถอยไปตามกาลเวลา กลับมาที่ประโยคคลาสสิคที่เราอ้างถึงก่อนหน้านี้กันสักหน่อย เพราะถึงแม้ว่า คำพูดประโยคนั้น มันอาจจะดูเหมือนไกลตัวพวกเราชาวไทยไป ไล่เรียงรายชื่อแต่ละประเทศในประโยค ก็ไม่เห็นจะมีประเทศไหนอยู่ใกล้กับประเทศของเราเลย แต่ถ้าหากคุณลองคิดดูดี ๆ จะเห็นได้เลยว่า จริง ๆ แล้ว มันก็ไม่ได้ไกลตัวของเราไปมากมายจนเกินเอื้อมถึง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์จากประเทศ German ที่เราเชื่อว่า ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ตาม หากมีโอกาสเลือกรถให้กับตัวเองได้สักคันหนึ่ง ก็คงจะต้องมีชื่อแบรนด์ BMW
เปิดตัวไปครั้งแรกในปี 2012 Honda N-One รถยนต์ JDM Kei-cars ยอดฮิตสำหรับลูกค้าญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ด้วยหน้าตาน่ารัก ขนาดกระทัดรัด ที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมากมาโดยตลอด แม้อายุขัยการทำตลาดจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ก็ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน New Model ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาได้คลาสสิค มีความ Retro ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม จึงเอาชนะกาลเวลาแบบไม่มีล้าสมัยได้ไม่ยาก อาศัยแค่อัพเกรดการตกแต่งให้ดูน่าตื่นเต้นขึ้นก็เกินพอ ซึ่งถือว่าไม่ใช่ธรรมดา สำหรับรถญี่ปุ่นที่ทำตลาดมาเกือบ 6 ปีได้โดยไม่ต้องมี new generation ออกมาใหม่ และเวอร์ชั่นล่าสุดที่ Honda ปล่อยออกมาให้เลือก 4 สไตล์การตกแต่งรอบใหม่นี้ ก็ทำให้ N-One ดูหล่อขึ้นเป็นกอง ทุกอย่างของ Honda N-One ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เครื่องยนต์ 660cc. 58 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เหมือนเดิม แต่เพิ่มรูปแบบการตกแต่งใหม่ พร้อมออพชันอำนวยความสะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำตลาดรถ Kei car ที่วาง positioning
พูดได้เลยว่าพวกเราทุกคนล้วนต้องทำงาน ไม่ว่าจะในฐานะพนักงานบริษัท หรือ Freelance ก็ย่อมมี working hour ที่ยาวนาน มีการทำงานที่หนักหน่วงไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือความเหนื่อยล้า และความเครียดที่แอบสะสมอยู่ในอารมณ์อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งคำแนะนำทั้งทางจิตวิทยา และทางการแพทย์ ต่างบอกตรงกันว่าพวกเราควรออกไปหากิจกรรมบันเทิงใจทำหลังเลิกงาน ให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง สิ่งที่จะช่วยเคลียร์หัวให้โล่งอย่างได้ผลดีนั้นมีหลายอย่าง แต่สิ่งที่ตอบโจทย์ได้ง่าย มีครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และประโยชน์ต่อร่างกาย ก็คือการได้ไปนั่งทานอาหารกับเพื่อนสนิท กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อสร้างความมันส์และบรรยากาศการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ในร้านอาหารที่เราเลือกมาให้แล้วว่า มีวิวสวยงามสำหรับสายตา มีบรรยากาศที่ดีช่วยผ่อนคลาย และมีรสชาติอาหารที่ดีงามจนน้ำตาไหล เพื่อเปลี่ยนเวลาหลังเลิกงานที่เคยธรรมดา ให้กลายเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ชาร์จพลังให้พร้อมเริ่มวันใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมันส์ให้เต็มที่ยิ่งขึ้น เราแนะนำให้ไปด้วยกันคันเดียวแบบ Car Pool จะดีกว่า โดยเฉพาะรถยนต์ที่กว้างขวางแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง วันนี้เราจะพานั่งรถยนต์ CHEVROLET TRAILBLAZER Z71 ที่กว้างขวางนั่งสบาย พาเพื่อนไปผ่อนคลายได้ครบทุกคน นอกจากได้คุยบิ้วบรรยากาศตั้งแต่ในรถด้วยกัน ยังช่วยลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ลดการใช้น้ำมัน เป็นการรักษ์โลกไปในตัว NEW
‘YOU ARE WHAT YOU EAT’ มนุษย์เรากินอะไรเข้าไป ก็ได้ระดับสุขภาพออกมาอย่างนั้น ถ้ากินดี เราก็ได้ประโยชน์จากสารอาหาร ร่างกายก็จะแข็งแรง ผิวพรรณดูสดใสร่าเริงเหมือนฝูงนกน้อยในสวนดอกไม้ ใครมองมาก็ชื่นใจอยากเข้าใกล้ ส่วนใครที่กินอาหารไม่ครบหมู่ กินอาหารเก่า กินอาหารไม่สะอาด กินอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงไม่ดี ร่างกายก็จะอ่อนแอ ย่อยยาก มีซากตกค้างในร่างกาย สุขภาพทรุดโทรม เพราะขาดสาดอาหารที่สำคัญ เมื่อถึงเวลาต้องใช้แรงแข่งกัน คนที่กินอาหารที่ดีกว่าย่อมได้เปรียบจากความแข็งแรงและพลังที่มากกว่า ถ้าให้วิ่งแข่งกัน ก็คงทิ้งกันห่างเป็นทุ่งไม่เห็นฝุ่น เรียกว่าทั้งอึดกว่า วิ่งเร็วกว่า และวิ่งได้ไกลกว่า ในจุดนี้ มนุษย์ก็เหมือนกับรถยนต์ การเติมน้ำมันให้รถยนต์ก็เหมือนการเลือกกินอาหาร รถยนต์ที่เติมน้ำมันคุณภาพดี มีส่วนผสมที่มีประโยชน์ ย่อมช่วยให้รถยนต์คันนั้นมีสมรรถนะ และอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารถยนต์ที่เติมน้ำมันคุณภาพต่ำ สำหรับคนใช้รถทั่วไปบางคนอาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญในจุดนี้มากนัก เพราะมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นข้อดีที่สัมผัสไม่ได้ด้วยตา และอาจจะคิดว่าการเติมน้ำมันมีจุดประสงค์เพียงการทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ก็พอ แต่สำหรับคนที่รักรถยนต์ประหนึ่งอวัยวะที่ 33 คนที่ขับรถประสิทธิภาพสูง หรือเป็นคนที่มีความรู้เรื่องรถยนต์พอสมควร จะระมัดระวังในการเลือกคุณภาพของน้ำมันที่เติมให้รถยนต์เสมอ เพราะมันเปรียบเสมือนเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายมนุษย์ น้ำมันจะถูกดูดไปใช้ตั้งแต่ขั้นตอนการจุดระเบิด และการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รถยนต์มีพลังไปหมุนเพลาขับ ทำให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี หรือที่เรียกว่าน้ำมันเกรดพรีเมียม นอกจากการเผาไหม้ที่ดีแล้ว ยังมีการเติมสารปกป้องที่มีประโยชน์อื่น ๆ เพื่อให้การทำงานของรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้ เราได้แนะนำรถ SUV โคตรดุตัวล่าสุด LAMBORGHINI URUS ไปแล้ว และเราก็มีพูดถึง SUV ตัวแรกสุดของค่ายกระทิงดุ ในชื่อรหัส LM002 หรือชื่อที่คนเรียกขานกันว่า RAMBO LAMBO เพราะถูกสร้างมาใช้ลุยสำหรับทางการทหารมากกว่าใช้ขับเล่นกินลม ด้วยความหายาก และเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบของมัน ทำให้มูลค่าล่าสุดของ LAMBORGHINI LM002 ‘RAMBO LAMBO’ พุ่งไปอยู่สูงยิ่งกว่ารถใหม่อย่าง URUS ซะอีก เหตุผลที่เราต้องใส่ LAMBORGHINI LM002 เข้ามาในทำเนียบ ‘COLLECTOR’ ของเรา เพราะจากงานประมูลล่าสุด ณ RM Sotheby ได้เซ็ทมูลค่าของ THE RAMBO คันนี้ใหม่ ด้วยข้อเสมอจากผู้ชนะการประมูล เคาะค้อนไปที่ราคา $467,000 หรือราว 15,000,000 บาท!! แน่นอน มันแพงกว่า LAMBORGHINI URUS ถึงสองเท่า ทั้งที่ไม่มีเทคโนโลยีหรูหราอะไรมากมาย สิ่งที่ LAMBORGHINI