ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับทุกอย่างไม่ว่าจะในแวดวงแฟชั่นหรือกีฬา ทำให้รองเท้าสนีกเกอร์แบบธรรมดาอาจจะต้องมีร้อน ๆ หนาว ๆ บ้างแล้วในตอนนี้ เพราะบริษัทจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาผลิต Smart shoes ด้วยกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Alphabet เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าว CNBC รายงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบริษัท Verily ส่วนวิจัยด้านชีววิทยาศาสตร์ที่อยู่ภายใต้ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ว่าบริษัทกำลังจะก้าวเข้าสู่ตลาดสนีกเกอร์อัจฉริยะโดยการเปิดตัวรองเท้าต้นแบบที่สามารถวิเคราะห์น้ำหนักของผู้สวมใส่และติดตามการเคลื่อนไหวได้ รองเท้าผ้าใบต้นแบบที่ว่ามาพร้อมฟีเจอร์ที่ไม่ธรรมดา โดยการซ่อนเซ็นเซอร์ที่สามารถระบุน้ำหนักไว้ในรองเท้าพร้อมประมวลผลน้ำหนักของผู้ใส่ได้ทันทีที่สวม และจะคอยบันทึกข้อมูลแต่ละครั้ง เมื่อน้ำหนักตัวของผู้ใส่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเร็วผิดปกติ smart shoes คู่นี้จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันที เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของน้ำหนักสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ตามมาได้ นอกจากจะสามารถเตือนเรื่องน้ำหนักตัวของผู้สวมใส่ได้แล้ว รองเท้าอัจฉริยะของ Verily จะเน้นไปยังกลุ่มผู้สูงอายุและบุคคลทั่วไปไม่ใช่แค่กับนักกีฬา เพราะ smart shoes สามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลายประเภท เช่น ในกรณีที่ผู้สูงอายุเดินอยู่คนเดียวตามท้องถนนแล้วเกิดหกล้ม รองเท้าจะทราบถึงความผิดปกติและแจ้งเตือนไปยังครอบครัวหรือแพทย์ประจำตัวได้ทันที อย่างไรก็ตามรองเท้าอัจฉริยะของ Verily คู่ดังกล่าวยังคงเป็นเพียงแค่รองเท้าต้นแบบเท่านั้น โดยทางบริษัทจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิตว่าจะผลิตเมื่อไหร่ จะออกขายตอนไหน หรือมีราคาคู่ละเท่าไหร่ แต่การที่บริษัทหลายเจ้าเริ่มวางแผนออกแบบ smart shoes กันมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวในวงการสนีกเกอร์ที่นำเทคโนโลยีมาสร้างลูกเล่นให้กับรองเท้า เช่น แบรนด์
“เคยลองคิดเล่น ๆ บ้างไหมว่ากล้อง GoPro ที่ซื้อมาสามารถใช้กับสถานการณ์ไหนได้บ้าง ?” และคำตอบที่ได้คือกล้อง GoPro นั้นสามารถอยู่คู่กับเจ้าของในทุกกิจกรรมไม่ว่าจะดำน้ำ ขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก เล่นกีฬา หรือกระโดดร่ม แต่ใครจะคิดว่าเจ้ากล้องตัวเล็กนี้จะแข็งแกร่งขนาดทนความร้อนสุด ๆ แม้แต่ลาวาก็ไม่สามารถหยุดการบันทึกภาพได้ เหตุการณ์พิสูจน์ความแข็งแกร่งของกล้อง GoPro เกิดขึ้นเมื่อ Erik Strom ไกด์ท่องเที่ยวของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งได้พาลูกทัวร์ของเขาเดินทางไปชมภูเขาไฟที่ Hawai’i Volcanoes National Park เพราะความสวยงามของลาวาทำให้ผู้คนต่างต้องหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ ไกด์คนดังกล่าวเองก็เช่นกัน เขาตั้งกล้อง GoPro ไว้ในร่องเขาแคบ ๆ เพื่อเก็บภาพการไหลของลาวา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเขาคำนวณทิศทางการไหลของลาวาผิด ทำให้กล้องที่ตั้งไว้จมลงไปในธารความร้อน ลาวาร้อนระอุมีอุณหภูมิสูงถึง 700-1,200 องศาเซลเซียส ทำให้ Housing ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่อิริคใส่ไว้เพื่อป้องกันตัวกล้องโดนเผาไหม้จนหมดทันทีที่สัมผัสกับลาวา รวมถึงบอดี้ของกล้องก็โดนเผาด้วยเช่นกัน “ตอนนั้นกล้องของผมโดนลาวากลบจนมิด แถมยังมีไฟลุกขึ้นมาเล็กน้อยด้วย สิ่งที่คิดในตอนนั้นคือกล้องของผมต้องไม่รอดแน่ ๆ รวมถึงฟุตเทจในกล้องด้วย” นี่คือคำบอกเล่าของอิริค และทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็คิดเหมือนกันกับเขาว่ากล้องตัวนี้จะต้องพังจนใช้ไม่ได้อย่างแน่นอน เมื่อความร้อนในธารลาวามีอุณหภูมิลดลง อิริคได้ใช้ค้อนหินธรณีวิทยากะเทาะลาวาและดึงกล้อง GoPro ออกมา พร้อมกับพาซากกล้องของเขากลับบ้านเพื่อตรวจเช็คสภาพถึงแม้จะรู้ดีว่ากล้องตัวนี้ไม่สามารถใช้งานซ้ำได้แน่ ๆ เพราะทั้ง