ซัมซุงจัดงานเปิดตัว “ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 8” (Samsung Galaxy Note8) สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดที่เคยมีมา อย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Do Bigger Things – ทำให้ใหญ่กว่า ใจคิด” ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว 22 กันยายนนี้ ในงานเปิดตัวได้รับเกียรติจากไทยเทเนี่ยม วงแร็พเปอร์ชื่อดังแห่งยุคมาโชว์ลีลาแร็พเพลงที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษสำหรับซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 8 โดยเฉพาะ พร้อมด้วย เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี นักแสดงและนักเขียนบทสายฮา, ก้อง-กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา เจ้าของ Hive Salon, พะยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล และ ออสซี่-อรช โชลิตกุล คู่หูนักวาดภาพไทยที่มีผลงานระดับโลก มาร่วมแชร์ประสบการณ์ Do bigger things นอกจากนี้ยังมีดาราและเซเลบชื่อดังเข้ารวมงาน บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด จุดประกายแรงบันดาลใจและสร้างวิถีแห่งอนาคตด้วยความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
ไม่ว่าใครก็ต้องการรถยนต์ที่ขับดูดี ขับสนุก ขับแล้วภาคภูมิใจ ที่สำคัญคือ มีรูปลักษณ์โดดเด่นสวยงามสะดุดตากันทั้งนั้น แต่จะมีรถแบบที่ว่าสักกี่คัน ที่มีคุณสมบัติตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเรา การซื้อรถสักคันนั้น มันต้องมีความเจ๋งอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในรถคันนั้นด้วย DNA ความเจ๋งที่ว่านี้แหละ เป็นจุดที่จะทำให้เรารู้สึกหลงใหลรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมากกว่าอีกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และแน่นอน ฟีลลิ่งการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้มข้นผ่านทุกยุคสมัย ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ที่ล้ำหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ DNA ของรถยนต์ MINI ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังมองหารถสักคันหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นรถที่ขับสนุก เร้าใจ ได้ฟีลลิ่งความมันส์เสมือนขับ Go-Kart ในสนามแข่ง และมีความแตกต่างเป็นตัวของตัวเองกว่าใครบนท้องถนน สะท้อนคาแรคเตอร์ของผู้ขับได้ทันที ก็คงจะเป็นรถยนต์จากค่ายอื่นไปไม่ได้ ด้วยสมรรถนะระดับตำนานที่เป็นเลิศจนยากจะมีใครเลียนแบบได้ ยังคงถูกถ่ายทอดต่อมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จนหลายคนถึงกับยกย่องให้รถยนต์จากค่าย MINI เป็นหนึ่งในตำนานที่ยังมีชีวิต และไม่เคยทิ้งจิตวิญญาณความเป็นตัวเองไปเลยแม้แต่น้อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เรียกว่าเห็นแค่เสี้ยวเดียวของรถ หรือได้ยินคำว่า MINI แม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจรถยนต์ ยังสามารถนึกภาพในหัวออกได้ทันที วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของรถยนต์ไซส์กะทัดรัด แต่สมรรถนะใหญ่เกินตัว จากต้นกำเนิดมาจนถึงยุคปัจจุบัน และหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยว่า ทำไม MINI ถึงได้กลายเป็นรถที่คนนิยมไม่เสื่อมคลาย คงต้องย้อนไปไกลถึงปี 1959 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีคนทั่วไปได้ทำความรู้จักกับแบรนด์รถยนต์
เวลาที่เราต้องไม่อยู่บ้านรู้สึกกังวลใจกันบ้างไหมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สารพัดสิ่งอย่างในบ้านให้ห่วงเวลาต้องออกเดินข้างนอกตลอด ไม่ว่าจะสัตว์เลี้ยงจะอยู่ได้ไหม จะมีขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่า หรือจะลืมปิดน้ำ ถอดปลั้กปิดไฟยังนะ เลยพาลให้เวลาออกไปไหนแทนที่จะมีความสุข กลับต้องมาห่วงเล็กห่วงน้อยแทบจะตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนหน่อย เราสามารถติดกล้องวงจรปิดบริเวณที่ต้องการได้และดูออนไลน์ทางไกลให้ไม่ต้องกังวลใจ แต่ว่าเราก็คงไม่สามารถติดได้ทุกจุดในบ้านอยู่ดี เพราะยิ่งหลายตัวก็ยิ่งราคาเพิ่มขึ้นทั้งตอนติดตั้งและค่าบำรุงดูแล UNLOCKMEN เลยจะมาแนะนำกล้องวงจรบินอัจฉริยะที่จะลบข้อจำกัดด้านจุดอับ เก็บภาพไม่หมดทิ้งไปซะ Aire เป็นหุ่นยนต์บินได้ที่จะมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่บ้านได้อย่างชาญฉลาด เพราะสามารถบินสำรวจได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับกล้องแบบ 360 องศา ให้เราได้เห็นทุกมุมมองภายในบ้าน ไม่พลาดแม้แต่มุมอับของบ้าน และยังสามารถบินหลบสิ่งกีดขวางได้ด้วยตัวเองอีกด้วย ระหว่างที่ Aire บิน จะมีเสียงรบกวนให้ระดับต่ำ (ไม่ดังเหมือนพวกโดรน) รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟนได้จากทั่วทุกที่ ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกใส่เข้ามาใน Aire เป็นแบบเดียวกับพวกรถยนต์ไร้คนขับที่คาดว่าจะมาปฏิบัติวงการกล้องวงจรปิดแบบเก่าให้ตายไปเลยทีเดียว เพราะใส่ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างพวก Alexa , Google Home เข้ามาในตัวเครื่องอีกด้วย ส่วนฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัย มีตั้งแต่ช่วยสอดส่องและสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นและแจ้งเตือนให้กับเจ้าของได้รับรู้ อย่างเช่นมีคนแปลกหน้า เข้ามาตอนที่เราไม่อยู่บ้าน เครื่องจะทำการสั่งบินตรวจสอบและแจ้งเตือน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ด้านการบิน ใส่เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางให้บินได้ปลอดภัยภายในบ้าน ไม่ว่าบ้านเราจะใหญ่โตหรือหลายชั้นขนาดไหน Aire ก็สามารถบินทำงานและพาตัวเองกลับมาที่ฐาน (Dock) ของตัวเองได้สบาย ตัวกล้องตามที่เราได้บอกไว้คือสามารถเก็บภาพได้ 360
หันไปทางไหนตอนนี้ ก็เริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างในด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อย่างเช่นการเปลี่ยนอุปกรณ์หลายตัวไปสู่ระบบไร้สายแบบเต็มตัว ถ้าเป็นเมื่อ 5-10 ปีก่อนคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงสักเท่าไหร่ เพราะตัดสายทิ้งมันจะส่งสัญญาณได้ดีกว่ามีสายได้ยังไงกัน แต่ในตอนนี้กลับกลายว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไปซะแล้ว ยกตัวอย่างเช่นเรา ก็เลือกมองหาอุปกรณ์ที่ใช้งานไร้สายซะเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกสบายในการพกพาอุปกรณ์ ยิ่งสมัยนี้คนเราไม่ได้เกาะยึดติดอยู่กับที่ตลอดเวลา เพราะงั้น UNLOCKMEN จะมาแนะนำอุปกรณ์ชาร์จไร้สายสุดเจ๋ง ที่รองรับระบบไร้สายได้อัจฉริยะกว่ารุ่นอื่น ๆ ในตลาดได้แบบชิดซ้าย โดยที่เรากำลังจะพูดถึงนี่เป็น Pi ที่ชาร์จไร้สายสุดเจ๋ง แบบที่ไม่ต้องวางบนแท่นชาร์จเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ (แบบที่ต้องวางไว้บนแท่นชาร์จมันไร้สายก็จริง แต่ก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่จัดเตรียมของเครื่องชาร์จ) แต่เจ้าตัว Pi สามารถวางห่าง 1 ฟุตก็ยังชาร์จไฟได้แบบปกติ ไม่ต้องมีแท่นชาร์จให้กวนใจ Pi เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจากบริษัท Startup ทีมศิลป์เก่า MIT ที่ระดมหัวช่วยกันคิดค้นแท่นชาร์จไร้สายแบบตั้งโต๊ะที่ไม่ว่าจะเป็น Tablet หรือ SmartPhone ก็สามารทชาร์จไฟได้ปกติแม้จะทิ้งระยะว่างห่างจากตำแหน่งที่แท่นตั้งอยู่ก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีแท่นชาร์จแต่ก็ต้องใส่เคสที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตัวเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Resonant Induction โดยหลักการทำงานของเทคโนโลยีมีเบื้องหลังก็คือ Algorithm Beam-Forming ที่จะทำการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องการชาร์จไฟได้โดยตรง ไม่ว่าจะอยู่ในทิศทางหรือตำแหน่งไหนรอบด้าน ก็สามารถชาร์จได้ ซึ่งก็ทำให้เราเห็นข้อดีของมันได้แบบชัดเจนคือ
แม้ชีวิตในเมืองจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิถีชีวิตในเมืองใหญ่มักถูกจํากัดไว้ด้วยความเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง หน้าที่การงานอันบีบคั้นซึ่งต้องแข่งขันกับเวลา บ่อยครั้งที่ Urban Men อย่างเรา ๆ ต้องจัดสรรชีวิตเผื่อให้กับภาระกิจรอบด้าน จนไม่เหลือพื้นที่สําหรับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนตัว แค่จะหาความสุขจากการเริ่มต้นเติมพลังชีวิตในเช้าวันใหม่ ด้วยการดื่มกาแฟดี ๆ สักแก้ว ก่อนออกไปผจญความวุ่นวายในเมือง ยังดูเป็นสิ่งที่ทําได้ลําบาก เพราะคงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงนัก หากจะต้องตื่นเช้าขึ้นอีกชั่วโมง สองชั่วโมง บากบั่นดั้นด้นเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบเพียงเพื่อจะแวะจิบกาแฟแก้วโปรดที่ร้านประจําระหว่างทาง ก่อนที่จะตาลีตาเหลือกไปเข้างานให้ทัน โดยที่ยังไม่ได้ละเลียดรสชาติกาแฟให้เต็มที่เสียด้วยซํ้า จะดีกว่าไหมหากเราสามารถสร้างพื้นที่ความสุข ดื่มด่ำรสชาติของกาแฟด้วยการชงกาแฟสดจากเมล็ดคั่วบดดื่มเองจากที่บ้าน ฉีกข้อจํากัดของเวลาที่เร่งรีบ ด้วยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ Nespresso Essenza Mini ผู้ช่วยสําคัญที่จะมาสร้างช่วงเวลาสุนทรีจากการดื่มกาแฟ ซึ่งผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบสนอง Lifestyle คนเมืองได้ถูกจุด ตรงใจ กับชีวิตที่ไม่เพียงแค่ถูกจํากัดอยู่ในกรอบเวลาอันเร่งรีบ เพราะในเรื่องของพื้นที่อยู่อาศัยภายในเมืองคืออีกหนึ่งข้อจํากัดที่ต้องใช้สอยแทบทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ดูจากชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าที่พื้นที่ไม่ใช่ปัญหาของ Nespresso Essenza Mini ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัด ดีไซน์เรียบเท่ร่วมสมัย สามารถแทรกตัวอยู่ในครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทํางาน หรือมุมกาแฟเล็ก ๆ ในออฟฟิศได้อย่างกลมกลืน ดูเผิน ๆ
เปิดตัว Chevrolet Trailblazer Z71 (เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ Z71) รถเอสยูวีที่มีความพรีเมียมที่สุดของเชฟโรเลต พร้อมกับแต่งตั้งคุณฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์เป็นแอมบาสซาเดอร์ของรถเอสยูวีรุ่นดังกล่าวเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เชฟโรเลตจัดกิจกรรม “หนึ่งวันดีๆ กับเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ Z71” เพื่อเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสคุณสมบัติที่โดดเด่นของรถเอสยูวีรุ่นใหม่นี้ พร้อมร่วมทำกิจกรรมมากมาย พร้อมพบปะพูดคุยกับคุณฮิวโก้อย่างเป็นกันเองถึงขอบเวทีซ้อมใหญ่คอนเสิร์ต “ภาษาแม่” เชฟโรเลตก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2454 ในเมืองดีทรอยท์ เป็นหนึ่งในบริษัทด้านยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยดำเนินธุรกิจอยู่มากกว่า 100 ประเทศ จัดจำหน่ายรถยนต์และรถกระบะกว่า 4 ล้านคันต่อปี เชฟโรเลตนำเสนอยานยนต์ที่มีความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะที่เหนือชั้น การออกแบบอันโดดเด่น มีความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายให้แก่ลูกค้า “กิจกรรมครั้งนี้เป็นการทดลองขับที่ไม่เหมือนใคร เพราะเทรลเบลเซอร์ Z71 คือรถเอสยูวีระดับพรีเมียมสปอร์ตสไตล์อเมริกันที่พร้อมลุยทุกเส้นทางสำหรับคนที่มีความมั่นใจที่จะทำสิ่งที่แตกต่าง เราต้องการให้สื่อมวลชนทุกท่านได้รับประสบการณ์การขับขี่รถเทรลเบลเซอร์ Z71 รวมถึงสัมผัสบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของรถรุ่นนี้อย่างแท้จริง” คุณพิพัฒน์ หล่อไกรเลิศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด การสื่อสารแบรนด์และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว กิจกรรมการทดลองขับเริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ของเชฟโรเลตในกรุงเทพฯ มีโอกาสสัมผัสความสะดวกสบายของระบบพวงมาลัยไฟฟ้าของ Trailblazer Z71
สำหรับบางคน เน้นซื้อรถมาใช้งานให้คุ้มค่า บางคนซื้อรถมาใช้ขับเสริมบารมี แต่ถ้ามีเงินเหลือมากกว่านั้น และหลงรักในความพิเศษของรถที่มีประวัติความเป็นมา ต่อให้ต้องจ่ายเงินร่วมร้อยล้าน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าห้ามขับบนท้องถนนก็ไม่ใช่ปัญหา อย่าคิดว่านี่คือเรื่องสมมติ เพราะมีนักสะสมระดับ VIP เซ็นเช็ค 80 ล้านบาท ประมูลรถ Ferrari LaFerrari Prototype คันแรกก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายไปจอดโชว์ในบ้านโดยเฉพาะไปแล้วเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ RM Sotheby ได้สิทธิในการนำรถ Ferrari LaFerrari Prototype ออกประมูลที่ Maranello, Italy บ้านเกิดของ Ferrari โดย LaFerrari ตัวถังรหัส 194925 ผลิตปี ’12 คันที่ว่านี้เป็นคันแรกสุดของตระกูล มันมีหน้าที่จอดโชว์โฉม อวดสายตา ออกงาน Event งาน Auto Expo ต่าง ๆ และจอด display ใน showroom สำหรับลูกค้าที่เดินเข้ามายลโฉม เลือกสีเบาะ เลือกออพชั่นต่างๆ ก่อนที่จะผลิตจริงเพื่อส่งมอบต่อไป
ถ้าหากให้นึกถึงแบรนด์รถที่ค่อนข้างหายากในบ้านเราน้อยคนนักที่จะนึกถึงแบรนด์อย่าง Alfa Romeo แต่หากใครรู้จักรถยนต์แบรนด์นี้จะรู้ดีว่า เรื่องของชื่อเสียง โดยเฉพาะในด้านรูปลักษณ์นั้น สามารถพูดได้เลยว่าไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว ดังนั้น วันนี้หลังจากที่เราได้ข่าวการเคลื่อนไหวของ Alfa Romeo ซึ่งนาน ๆ จะมีมาสักทีหนึ่ง เราจึงได้นำเอาประวัติ พร้อมกับข่าวคราวของค่ายรถยนต์ค่ายนี้มาอัพเดทให้แฟน ๆ ได้ทราบกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ หากใครชอบ หรือกำลังเล็ง ๆ Alfa Romeo อยู่ บทความนี้ จะทำให้ คุณได้รู้จักกับ แบรนด์ Alfa Romeo เจ้าของสโลแกน “La Meccanica Delle Emozioni” ที่แปลจากภาษา Italy มีใจความว่า “The Mechanics of Emotions” เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน History of Alfa Romeo ผู้ก่อตั้ง Alfa Romeo ขึ้นนั้นมีทั้งหมด 3
อีกกี่ปีรถถึงจะบินได้แบบในหนัง? เป็นคำถามที่ตัวผมเองตอนเด็ก ๆ เฝ้ารอมานาน ทุกครั้งที่ได้ดูหนังเกี่ยวกับ Sci-fi ล้ำเทคโนโลยี เห็นรถบินอยู่ในฉาก แต่เมื่อโตขึ้นมาหน่อย เรารู้ว่าสิ่งเหล่านี่มันความเป็นไปได้มันน้อยมาก ๆ (แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้) และคงไม่ใช่ในยุคชีวิตของเราที่อยู่แน่นอน ทำให้ตัดใจและมองแนวความคิดต่าง ๆ แค่เรื่องของขายฝัน แต่ในตอนนี้มีข่าวอัพเดทที่เรียกว่ากำลังทำให้ฝันของผมและใครหลายคนเห็นมันเป็นรูปร่างมากขึ้น เมื่อทาง AeroMobil ได้ประกาศเปิดตัวรถบินได้ที่ใช้งานได้จริง ๆ แล้ว การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Frankfurt Motor Show สำหรับรถบินได้จากค่าย AeroMobil ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านเหรียญ กำลังจะมาปฏิวัติวงการขนส่งในอนาคตอย่างเต็มตัว แอโร่โมบิล (Aeromobil) เป็นบริษัทผู้พัฒนารถยนต์บินได้จากประเทศสโลวาเกีย ที่เริ่มทำตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งใช้เวลาการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 27 ปีมาแล้ว Flying Roadster – AeroMobil 4.0 จะเป็นยานพาหนะแบบพิเศษ รูปร่างเหมือนรถ Supercar คันหรูแต่ติดปีกบินสูง มีความยืดหยุ่นให้เราเลือกใช้งานถนนหรือทางอากาศ ได้ตามสถานการณ์ และด้านประสิทธิภาพ สามารถบินได้ไกล 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
Polaroid ไม่มีวันหายไป คำพูดนี้กลับกลายเป็นจริงไปซะได้ ตอนแรกใครต่อใครที่ได้ฟังอาจรู้สึกตลกกันนิดหน่อย เพราะในขณะที่โลกเดินไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง กลับมีเทคโนโลยีภาพถ่ายอย่าง Polaroid ที่ยังคงอยู่มาเสมอ ไม่ว่าจะยุคสมัยเก่าหรือในปัจจุบันก็ตาม ตอนนี้หลายคนคงเห็นกล้อง Polaroid หลายเจ้าเริ่มวางขายเต็มท้องตลาดกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำของเล่นใหม่สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ Polaroid แบบที่ไม่ต้องหิ้วกล้องเพิ่มให้วุ่นวาย แถมทำเป็นแบบวิดีโอได้อีก จะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกัน PRYNT POCKET เคสโทรศัพท์ Polaroid ตัวใหม่ที่เจ๋งจนต้องยกนิ้วให้ จากการต่อยอดของ PRYNT รุ่นแรก ที่ได้ออกวางขายตั้งแต่ช่วงปี 2015 มาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคราวออกตัวใหม่ที่ปรับปรุงข้อด้อยด้านต่าง ๆ มาซะเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใหญ่พกยากหรือแบตหมดไวก็ตาม โดยรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม แค่เพียงหยิบมือ และออกแบบสีสันให้โดยใจวัยรุ่นยกใหญ่ ไม่ว่าจะสีแนวพาสเทล หรือโทนขาวดำ คุณสมบัติภายในก็รื้อใหม่ ทำเอาใจยุคสมัยนี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถปรินท์ภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนเสมือนกล้องโพลารอยด์ได้เช่นเดิม และใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Prynt ได้มากมายหลายฟังก์ชั่น เช่นสามารถแต่งภาพ เพิ่มข้อความ หรือใส่สติ๊กเกอร์ในภาพถ่ายก่อนปรินท์ได้ รวมถึงแชร์ไปยัง Social อวดคนอื่นได้ตามต้องการ ถ้าบอกว่ามีแค่นี้จะดูน้อยเกินไปสักหน่อย เพราะความจริง Prynt
บางคนมักจะมีปัญหากับกระเป๋าเดินทางอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเรื่องของการที่กระเป๋ามีน้ำหนักเกิน หรือโดนคนอื่นหยิบกระเป๋าผิดไป ไม่ก็เราหยิบผิดเอง เนื่องจากหน้าตาของกระเป๋าเดินทางส่วนมากคล้ายกันไปหมด หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ บวกกับกำลังมองหากระเป๋าเดินทางใบใหม่อยู่พอดี วันนี้เรามีกระเป๋าเดินทางดี ๆ มาแนะนำ อีกทั้งยังรับประกันได้เลยว่า ปัญหาทุกอย่างที่คุณเจอมาจะหมดไป เพียงแค่คุณได้ลองใช้ “Freitag Zippelin” ใบนี้ หลายคนคงรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Freitag” กันบ้างอยู่แล้ว อาจจะด้วยความโดดเด่นของวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าอย่างผ้าใบรถบรรทุกที่ผ่านการรีไซเคิล หรือว่าจะเป็นถุงผ้าใบที่มีภาพพิมพ์ดีไซน์เท่ ๆ ทำให้กระเป๋าจากแบรนด์ “Freitag” นั้นมีข้อดีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของลวดลายที่ไม่มีใครเหมือน และความสามารถในการกันน้ำได้เป็นอย่างดีจากการที่ใช้ผ้าใบเป็นวัตถุดิบหลักในการทำกระเป๋า “Freitag” ทำกระเป๋าหลากหลายรูปแบบออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ รวมไปถึงกระเป๋าเดินทางอย่าง “Freitag Zippelin” ที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นพิเศษในวันนี้ด้วย “Freitag Zippelin” เป็นกระเป๋าเดินทางขนาดความจุ 85-Liter ที่มีการผสมผสานกระเป๋าเดินทางแบบ Duffel กับ Rolling Suitcase เข้าด้วยกัน โดย “Freitag Zippelin” ใบนี้ มีการติดตั้งล้อมาให้เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมันมีขนาดความกว้าง 16.5 นิ้ว สูง
สำหรับคนที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ และต้องอดนอนนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานอยู่แล้ว บางคนจึงเลือกที่จะใช้ชา หรือกาแฟมาเติมความฟิตให้ตาสว่าง และกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง แต่มีการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า การที่คนเราง่วงในช่วงบ่ายนั้นเป็นเรื่องปกติ และทางที่ดีที่สุดคือ การได้งีบหลับสักพัก เพียงแค่ 15 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง ก็จะสามารถชาร์จพลังงานให้กลับมาฟิตปั๋งอีกครั้ง และพร้อมที่จะทำงานอย่างมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพมากกว่าการดื่มชา หรือกาแฟเพื่อถ่างเปลือกกตาให้เปิดค้างอยู่อีกด้วย แต่หลายคนคงรู้ดีว่า ปัญหาในการนอนหลับตอนกลางวันนั้นมันมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้คน, สถานที่ซุกหัวนอนที่หายากยิ่งโดยเฉพาะในที่ทำงาน และสุดท้ายสำคัญที่สุดคือ แสงไฟ และแสงแดดที่แยงตาจนไม่สามารถฝืนนอนต่อไปได้ไม่ว่าง่วง และอยากจะงีบแบบสุด ๆ ไปเลยก็ตาม แต่วันนี้เราได้นำเอาอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ที่จะช่วยให้ปัญหาการพักงีบหลับนอกสถานที่นั้นหมดไป ชาว UNLOCKMEN คนไหนรู้ตัวว่าเป็นคนชอบนอน ง่วงได้ทุกที่ทุกเวลา และมีปัญหากับสภาพแวดล้อมรอบข้าง ขอบอกเลยว่าคุณห้ามพลาดสิ่งนี้อย่างเด็ดขาด อุปกรณ์สุดเจ๋งที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั้น มีชื่อว่า “The NAP Tent” ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถงีบหลับบนโต๊ะทำงานได้สบายที่สุดเท่าที่คุณเคยรู้สึกมา โดย “The NAP Tent” ที่ว่านี้ มีลักษณะเหมือนกับเต๊นท์ขนาดจิ๋ว ที่ถูกออกแบบให้หัวคุณมุดเข้าไปได้แบบพอดิบพอดี เพื่อที่จะทำให้คุณได้รับความเป็นส่วนตัวในการนอนหลับคาโต๊ะทำงานมากยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณโยนคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้าที่ไป และหยิบ “The NAP