เมื่อปี 2017 แบรนด์รถยนต์จากเมืองมักกะโรนีเปิดตัวสุดยอดซูเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini Terzo Millennio Concept และตอนนี้ Lamborghini ก็กำลังต่อยอดความสำเร็จจากครั้งก่อนโดยการผลิตรถ Hybrid Hypercar ในโปรเจกต์ LB48H ที่ภายหลังมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Lamborghini Unico Lamborghini Unico มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6.5 ลิตร ทำงานประสานกับเพลาล้อหลัง ไม่ใช้ระบบอัดอากาศแบบเดิมแต่เปลี่ยนมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าแทน ให้กำลัง 789 แรงม้า เท่ากับ Lamborghini Aventador แต่สิ่งที่แตกต่างคือมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 49 แรงม้า ทำให้รถยนต์สามารถมีแรงม้าสูงสุดถึง 838 แรงม้า (625 กิโลวัตต์) สมรรถนะและความเร็วใกล้เคียงกับรถที่ใช้ในสนามแข่ง Formula One ดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกบางส่วนจะถอดแบบมาจากซูเปอร์คาร์รุ่นพี่อย่าง Lamborghini Terzo Millennio Concept พร้อมปรับเปลี่ยนบางส่วนให้ล้ำสมัยมากขึ้น เน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์เหมือนเคย แต่การเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างบางส่วน โดยใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นวัสดุมาตรฐานสำหรับยานยนต์แห่งอนาคต
เมื่อแบตเตอรี่ไฟฟ้าถูกนำไปใช้ในรถยนต์มากขึ้น ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอันยุ่งยากจึงเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป จึงสามารถทำให้รถยนต์มีขนาดเล็กลงได้เยอะ ค่ายรถจึงเริ่มฉีกกฎเกณฑ์การออกแบบรถยนต์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด และมีการนำเสนอรถยนต์กลุ่มใหม่เรียกว่า Ultra-Compact ที่เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมากขึ้น ซึ่ง CITROEN AMI ONE ULTRA-COMPACT CONCEPT CAR คันนี้ก็เป็นอีกไอเดียรถยนต์อนาคตที่แหวกแนวและมีจุดเด่นน่าสนใจหลายอย่าง CITROEN AMI ONE ULTRA-COMPACT CONCEPT CAR เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แสดงให้เห็นถึง Vision ยานยนต์ในโลกอนาคตของ Citroen มันไม่ใช่แค่รถยนต์พลังงานทางเลือก แต่มันคือยานพาหนะทางเลือกที่จะมานำเสนอการเดินทางในเมืองรูปแบบใหม่แทนที่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ด้วยรูปร่างทรงกล่อง กว้าง 2.5 เมตร สูง 1.5 เมตร ความเล็กกะทัดรัดที่ถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนถนนและซอยที่เล็กแสนเล็กของเมืองในประเทศฝั่งยุโรป แต่ยังคงมีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระที่เหลือเฟือ Concept ที่น่าสนใจของ Citroen Ami One คือการใส่เทคโนโลยีให้รถคันนี้ฉลาดขึ้น มีเทคโนโลยี Self-Driving ให้เลือกใช้งานได้แม้ไม่มีคนขับอีกด้วย และไม่จำเป็นต้องซื้อ Citroen วางแผนให้สามารถเช่าได้ผ่านทาง Application อีกด้วย ความเร็วสูงสุดของ Ami One
‘การเดินทาง’ และ ‘การผจญภัย’ คือส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ผู้ชายอย่างเราจะขาดไม่ได้ ถือเป็นบทเรียนล้ำค่าที่สอนให้รู้จักชีวิตมากขึ้น แต่การออกเดินทางโดยปราศจากอุปกรณ์เอาตัวรอดก็เหมือนการออกรบโดยปราศจากอาวุธ ใช่ เรากำลังหมายถึง ‘มีดพก’ อุปกรณ์สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ถึงจะดูเรียบง่ายแต่ก็มากด้วยประโยชน์ และไม่ว่าอยู่สถานการณ์ใดมันคือสิ่งที่จะช่วยชีวิตเราได้ในยามคับขัน แค่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกก็น่าจะรู้แล้วว่า ‘The Quickie Karambit’ มีดพกเอนกประสงค์ขนาดจิ๋วที่เรานำมาเสนอในวันนี้แตกต่างจากมีดพกทั่วไปโดยสิ้นเชิง ด้วยการออกแบบของ TOPS Knives ที่เปลี่ยนแปลงด้ามจับและใบมีดขนาดใหญ่ให้กลายเป็นความแหลมคมขนาดจิ๋ว มาพร้อมกับรูสำหรับสอดใส่นิ้วมือเพื่อการจับที่กระชับยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสบายมือกว่ามีดพกทั่วไป เพราะผู้ออกแบบตั้งใจให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังสวมแหวนอยู่ ‘จิ๋วแต่แจ๋ว’ คือนิยามของ The Quickie Karambit และถึงมันจะกะทัดรัดแต่ก็มีครบทุกอย่างที่ผู้ชายสายลุยอย่างเราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นใบมีดแหลมคมทั้ง 2 ด้าน ความสะดวกในการพกพา รูปทรงแปลกประหลาดที่สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย จึงทำให้ The Quickie Karambit คือมีดพกที่ควรมีติดตัวก่อนเริ่มออกเดินทาง มีดทรง Karambit ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกในสุมาตราตะวันตก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกรงเล็บของเสือ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในตอนแรกมันถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการปลูกและนวดข้าว ก่อนที่ต่อมาจะถูกประยุกต์ให้กลายเป็นอาวุธป้องกันตัวจากสัตว์ป่านักล่าหรือผู้ไม่หวังดี Karambit สมัยใหม่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่อุปกรณ์แบบ EDC ซึ่งเน้นประโยชน์ในการตัดหรือหั่นสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง แน่นอนว่า Quickie Karambit ก็เช่นเดียวกัน มันเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนั้นยังมีปลอกหนังไว้ห่อหุ้มเมื่อไม่ใช้งาน ด้วยราคาเพียง 70 เหรียญหรือประมาณ 2,000 บาท ไม่แพงเกินไปเลยสำหรับอุปกรณ์สารพัดประโยชน์เช่นนี้ รับรองว่าทุกทริปทุกการผจญภัยของคุณจะสะดวกและสนุกยิ่งขึ้นแน่นอน
พึ่งผ่านไปหมาด ๆ กับงาน #BIMMERMEET3 หรือ “บิมเมอร์” ที่เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมพลคนรักรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูมาจัดแสดงมากกว่า 400 คัน พร้อมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ และสาวกได้ฟังเรื่องราวเชิงลึก เคล็ดลับต่าง ๆ จากบรรณาธิการของคอลัมนิสต์ของนิตยสาร BMWCar อีกด้วย ใครที่พลาดงานดี ๆ แบบนี้ไปไม่ต้องเสียใจเพราะ UNLOCKMEN เก็บภาพบรรยากาศมาไว้ให้แล้ว ภายในงานมีการแบ่งโซนจัดแสดงอย่างเช่น BMW M Town โซนที่คนรักรถหรูสมรรถนะสูงสายพันธุ์ M ต้องปลื้ม ไปถึงโซน BMW CLASSIC ที่ทั้งจัดแสดงและให้ข้อมูลการสั่งซื้ออะไหล่รถคลาสสิกแท้ ซึ่งปัจจุบันทางบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย ได้อำนวยความสะดวกให้การจัดหาอะไหล่ที่เคยหายากมากทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมแล้วด้วย ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่ารถทุกรุ่นทุกปี จะมีอะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐานให้ใช้งาน ต่อด้วยโซน #BMWstories ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจที่ชาวบิมเมอร์มีต่อบีเอ็มดับเบิลยู โซน X-Series ที่มีรถ SAV และ SAC พร้อมเทคโนโลยี xDrive มาโชว์กัน โซนโปรแกรมสิทธิประโยชน์ The Ultimate JOY Experience ที่เปิดให้เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นสมัครได้ฟรี โซน
ปัจจุบันเราเห็นคนสะพายกล้องถ่ายรูปกันมากกว่าห้อยพระหรือสร้อยทอง อาจจะเพราะเป็นยุคแห่ง Social Media ที่ทุกความทรงจำต้องถูกนำขึ้นไปเก็บไว้บนโลกออนไลน์ และกระแสการถ่ายรูปแนว Street Photography ที่ฮิตไปทั่วหมู่ตากล้องรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ขนาดของตัวกล้องเล็กลง สวนทางกับคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น เรียกว่าถ้าไม่ซีเรียสเรื่องระยะเลนส์ เราสามารถพกกล้องตัวเล็ก ๆ เพียงตัวเดียวใส่กระเป๋ากางเกง ก็เหลือเฟือสำหรับการถ่ายภาพ Street ได้อย่างน่าประทับใจแล้ว ด้วยแนวคิดนี้ บวกกับความเป็นกล้องสัญชาติญี่ปุ่นที่ค่อนข้าง Conservative ทำให้ Ricoh ได้พัฒนาและเปิดตัวกล้อง Compact รุ่นใหม่ล่าสุด “GR III” ออกสู่ท้องตลาด แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สเปกและคุณภาพบอกเลยว่าไม่ต้องห่วง สำหรับตากล้องตัวจริง น่าจะดูสึกได้เลยว่า มองผ่าน ๆ แถบไม่ต่างกับ GR II กล้องสุดคัลท์จากค่าย Ricoh ที่มีความเป็น Compact สูงส่ง ขวัญใจตากล้องสาย Street Photography มาช้านาน ล่าสุด Ricoh GR III ได้ผ่านการอัพเกรดสเปกให้เหมาะสมกับยุคสมัย มีการพัฒนา APS-C sensor ความละเอียด
ในช่วงเวลาที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ฝุ่น ทั้งย่านใจกลางเมืองที่มีควันรถจำนวนมาก แถบนอกเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและการเผาป่า เผาหน้าดิน ผู้คนที่เริ่มเห็นถึงปัญหานี้ต่างก็รีบออกไปหาซื้อเครื่องฟอกอากาศกันจนขาดตลาด ในเมื่อหนีมลพิษไม่ได้ เครื่องฟอกอากาศดี ๆ ก็ดันหมดอีก แล้วเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ? องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ปัจจุบันมลพิษทางอากาศกลายเป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะฝุ่นขนาดเล็กที่เข้าไปในร่างกายจะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมองอักเสบ อีกทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์เผยสถิติว่าฝุ่นเหล่านี้คร่าชีวิตผู้คนกว่า 3 ล้านคนต่อปี และ 1 ใน 8 ของการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวด้านบนเกี่ยวข้องกับฝุ่นอย่างแน่นอน ถ้าฝุ่นตามท้องถนนนั้นร้ายกาจ การหลบอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอกจะทำให้เราดมมลพิษน้อยลงหรือไม่ ? คำถามนี้ WHO ตอบด้วยผลวิจัยที่น่าตกใจว่าข้อเท็จจริงมันกลับกัน คนที่เสียชีวิตเพราะมลพิษในบ้านมีจำนวนมากกว่านอกบ้านถึง 1.3 ล้านคนต่อปี! เมื่ออากาศกลางแจ้งกับภายในอาคารต่างก็มีค่าฝุ่นที่สูงพอ ๆ กัน IKEA จึงพยายามสร้างสรรค์บางสิ่งเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวที่กำลังวิกฤต โดยคิดค้นนวัตกรรมที่ประหยัดต้นทุน มีประสิทธิภาพและสามารถใช้ได้จริง จนสำเร็จเป็นผ้าม่านฟอกอากาศ ผู้คิดค้นผ้าม่านที่ฟอกอากาศชิ้นนี้คือ Affonso Mauricio product developer ของ IKEA สวีเดน เขาออกแบบผ้าม่านโดยนำผ้าเคลือบสารประเภท photocatalyst ที่ช่วยเร่งให้เกิดกระบวนการ photocatalysis หรือที่เรียกกันว่าปฏิกิริยาสังเคราะห์แสง
เป็นโปรเจกที่ Samsung หมายมั่นปั้นมือมานาน ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นคนแรกในตลาดที่แนะนำ Foldable Screen Smartphone หน้าจอพับได้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นอนาคตของ Smartphone เข้าสู่ตลาด แม้จะถูกขยับออกไปจากตารางเดิมค่อนข้างนาน แม้ว่ากันตามเนื้อหาแล้ว ต้องยกให้ Royole Flexpai เป็น Foldable Smartphone เครื่องแรกของโลกจากจีน ที่รีบร้อนเปิดตัวไปเมื่อต้นปีภายในงาน CES 2019 แม้มันจะพับได้จริง แต่หลายสื่อที่ได้สัมผัสมันต่างให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า มันยังไม่เวิร์ค พร้อมราคาขายร่วมสี่หมื่นบาท มันจึงเป็นเหมือนการรีบส่ง Concept ไปวางขายเพื่อแย่งชื่อตำแหน่งทางการตลอดเท่านั้น ล่าสุดในงาน UNPACKED เมื่อวานนี้ Samsung ได้ฤกษ์เปิดตัวโทรศัพท์หน้าจอพับได้สู่สาธารณะแล้วในชื่อ Samsung Galaxy Fold เตรียมวางขายในวันที่ 26 เมษายนนี้ ด้วยราคาที่ค่อนข้างท้าทายภาวะเศรษฐกิจ แม้ในงานเปิดตัว Samsung จะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก หรือมีเครื่องให้นักข่าวได้สัมผัสกันจริง ๆ แต่อย่างน้อยเราก็ได้รู้สเปกของโทรศัพท์มหัศจรรย์เครื่องนี้ว่ามีอะไรน่าตื่นเต้นรอเราอยู่บ้าง Samsung Galaxy Fold มาในขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่า Smartphone ทั่วไป อาจจะทำให้ระยะแรกรู้สึกไม่คุ้นมืออยู่บ้างด้วยขนาดเครื่องที่เรียกว่า Infinity
ในยุคสมัยที่ไม่ว่าอะไรก็ต้องมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เหล่าผู้ผลิตทุกวงการต่างต้องปรับตัวให้ทันกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงบริษัทใหม่ ๆ ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีที่สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่ล้ำสมัยและน่าทึ่งอย่าง Byton Byton บริษัทผู้ผลิตและออกแบบรถยนต์น้องใหม่ที่เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง Future Mobility Corp บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไต้หวัน และ Tencent Holdings บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีนผู้ผลิตแอปพลิเคชั่นเพลงออนไลน์อย่าง Joox รวมถึงเกมสุดฮิต Garena Rov และแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทที่นิยมในจีนอย่าง WeChat โดยพวกเขาพร้อมเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโลยีในประเทศจีนช่วงปี 2019 และวางแผนจะลุยตลาดสหรัฐฯ และยุโรปในปี 2020 บริษัทผู้ผลิตตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอะไรที่เป็นจอภาพแสดงผลจะต้องมีขนาดใหญ่ไว้ก่อนและเข้าถึงง่าย จึงเกิดไอเดียให้บริษัทผลิตหน้าจอรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาภายในรถยนต์ที่ว่ากันว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งของ Tesla อย่าง Byton M-Byte SUV นอกจากจะเป็นการร่วมกันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีความถนัดในแต่ละด้านแล้ว Byton ยังดึงคนจากแบรนด์รถยนต์ชื่อดังระดับโลก bmw อย่าง Daniel Kirchert ผู้บริหารฝ่ายขาย BMW ในประเทศจีน และ Carston Breitfeld ผู้จัดการโปรเจกต์การพัฒนา BMW i8 มารับหน้าที่เป็นผู้บริหารในครั้งนี้ ในขั้นต้น Byton M-Byte
เพราะผู้ชายเราก็เหมือนเด็กในร่างที่เติบโตขึ้น ความหลงใหลในการครอบครองของเล่นจึงถูกฝังอยู่ลึก ๆ ในจิตใจไม่เคยหายไป หากพูดถึง ของเล่น เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงนึกถึงแต่ สิ่งของที่ใช้สร้างความสนุกสนาน หรือสร้างพัฒนาการซึ่งคงเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น ใช่ครับความคิดนี้นับว่าถูกต้อง แต่ไม่ทั้งหมดซะทีเดียว เพราะในปัจจุบันสิ่งที่เคยถูกผลิตมาเพื่อสร้างความหรรษาให้แก่เด็ก ๆ ได้ก้าวข้ามพรมแดนที่กั้นระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ไปซะแล้ว มิหนำซ้ำของเล่นบางชนิดยังกลายมาเป็นของสะสม เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้าน หรือแม้แต่งานศิลป์ที่มีราคาค่าตัวไม่เบาเลยทีเดียว เพราะเดนมาร์กไม่ได้มีดีแค่นมวัว ของเล่นชื่อก้องโลกอย่าง Lego ที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก (จริง ๆ ไม่น่ามีใครไม่รู้จัก) ของเล่นตัวต่อพลาสติกที่เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี มีจุดกำเนิดเพราะพิษเศรษฐกิจตกต่ำในปี ค.ศ.1932 ทำให้ช่างไม้นามว่า Mr. Ole Kirk Christiansen ต้องพยายามรักษาธุรกิจของตนเองอย่างหนัก โดยการผลิตสินค้าหลากหลายชนิดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและสนองความต้องการของตลาด ใช่แล้วครับ หนึ่งในนั้นก็คือ ของเล่นตัวต่อ ซึ่งไม่ได้ทำจากพลาสติกอย่างในทุกวันนี้ แต่เริ่มต้นทำจากไม้จริง ตลอดระยะเวลา 87 ปีที่ Lego ถือกำเนิดขึ้น ได้มีการแตกไลน์เพื่อเพิ่มฐานลูกค้ามากมายตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ Lego Technic, Lego Architecture และล่าสุด Lego Creator Expert ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก
มลพิษขนาดเล็กอย่างฝุ่นเป็นเรื่องที่หลบไม่ได้ ใครก็รู้ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นมลพิษที่แฝงมาด้วยตาเปล่า มันสามารถเล็ดลอดได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ กระทั่งเครื่องปรับอากาศที่เราเปิดอยู่ ตอนนี้คนเลยแห่กันซื้อเครื่องฟอกเสียหมดตลาด หลายยี่ห้อผลิตไม่ทันซื้อ ดังนั้น ต่อให้เรามีเงินพอจะซื้อก็ใช่ว่าจะซื้อคุณภาพชีวิตได้ ทว่าในสถานการณ์คับขันแบบนี้ มักทำให้เราได้เห็นไอเดียใหม่ ๆ ของการพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาสู้ความเลวร้ายได้เสมอ ล่าสุดจีน ประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดในโลกและประสบกับเรื่องฝุ่นมลพิษคลุมเมืองไม่แพ้เรา สร้างนวัตกรรมจากสิ่งบ้าน ๆ อย่าง “มุ้งลวด” ที่กรอง PM 2.5 ขึ้นมาได้สำเร็จ พูดจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องที่หลายคนยังคาดไม่ถึง และแม้แต่เราเองก็มัวแต่ไปกว้านซื้อที่ปิดจมูกอยู่ ทั้งที่เอาเข้าจริงเราก็ไม่สามารถสวมมันเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลา เพราะของมันมีไว้กันชั่วคราว ไม่ได้มีไว้ให้ใช้ชีวิต Yu Shuhong หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์จาก USTC (University of Science and Technology of China) เปิดเผยความสำเร็จในครั้งนี้ในวารสาร iScience ว่ามุ้งลวดอัจฉริยะที่พวกเขาคิดค้นสำหรับติดตั้งนี้ ซึ่งช่วยป้องกันมลพิษโดยเฉพาะ PM 2.5 ที่พวกเรากำลังนอยด์ได้สูงถึง 99.65 %! มุ้งลวดนี้สร้างขึ้นจากการถักทอของ Ag-nylon ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสามารถดักจับ PM 2.5
ถ้าพูดถึงชื่อ MG (เอ็มจี) หนุ่ม ๆ ในบ้านเราคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งปี 2556 ด้วยรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย ซึ่งนับเป็น 5 ปีที่พวกเขานำเสนอจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นด้านงานออกแบบและสมรรถนะของตัวรถ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับ ยกตัวอย่างจากการที่พวกเขาเป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีการติดตั้งซันรูฟ (Sunroof) ในรถยนต์ขนาดเล็กและนำระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่าง i-SMART ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่รองรับการสั่งการในรถด้วยเสียงภาษาไทย รวมถึงการพัฒนางานด้านบริการเพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและการดำเนินงานด้านการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมกว่า 100 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งหมดทำให้ในปี 2561 ที่ผ่านมาเอ็มจีมียอดขาย 23,740 คัน เติบโตขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้ในต้นปี 2562 นี้ บริษัทฯ จะมียอดขายรถยนต์ในประเทศครบ 50,000 คัน ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปีของการดำเนินงาน นับตั้งแต่การขายรถยนต์คันแรก ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของเอ็มจีและแนวทางการบริหารงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนสร้างการตอบรับจากผู้ชายชาวไทยได้เป็นอย่างดี 5 ปีกับ 5 โมเดลยอดนิยมของ MG หนุ่ม ๆ ในเมืองไทยได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมของเอ็มจีเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมปี 2557 โดยทางเอ็มจีได้เริ่มจำหน่ายรถยนต์คันแรกคือ MG
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ Tesla ของ Elon Musk มักจะคิดค้นพัฒนาได้ตอบโจทย์จนค่ายรถยนต์แบรนด์อื่นดูล้าหลังไปเลย และไม่ใช่แค่เรื่องของการขับขี่เท่านั้น แม้แต่การตอบโจทย์เรื่องปลีกย่อยสำหรับคนรักสุนัข ก็ยังได้รับการพัฒนาอย่างน่าประทับใจกับล่าสุด Dog Mode ฟังก์ชันที่แก้ Pain Point ไม่ต้องทิ้งสุนัขอยู่ในรถร้อน ๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีพลเมืองดีทุบกระจกเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึง Sentry Mode เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันเมื่อจอดสุดอัจฉริยะ เริ่มจาก Dog Mode ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเจ้าของรถผู้รักสุนัข ที่มักจะพาสุนัขตัวโปรดเดินทางไปในรถด้วยกัน และบางครั้งอาจจะลำบากใจในการทิ้งสุนัขเอาไว้ในรถที่ดับเครื่องเพื่อลงไปทำธุระ และคนรอบ ๆ อาจจะเป็นห่วงสุนัขในรถว่าสุขสบายดีหรือไม่ ซึ่ง Dog Mode ของ Tesla สามารถตั้งอุณหภูมิ Climate Control System ในรถให้เย็นได้ตามที่ต้องการเพื่อความสะดวกสบายโดยไม่ต้องติดเครื่อง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หลักในรถได้นานจนกระทั่งเหลือ 20% จะมี Notification แจ้งเตือนผ่าน Tesla Smartphone Application บนหน้าจอจะมีข้อความแสดงผลว่า “My owner will be back