ในวันนี้ถ้าเหนื่อย ถ้าเบื่อ เราสามารถหนีจากการเป็นตัวเองได้ โดยที่ตัวเองไม่ได้หายไปไหน! ทำยังไงล่ะ? ก็ให้คนอื่นมาเป็นเราแทนน่ะสิ! “ลาออกจากการเป็นตัวเอง” มันจะไม่ใช่วลีเอาเท่ในสเตตัส บน FACEBOOK อีกต่อไป UNLOCKMEN ขอเสนอนวัตกรรมที่โคตรล้ำ ที่ไม่รู้จะยิ้มหรือจะเบ้ปากกับมันดี อย่าง “Human Uber” มาดูกันว่ามันจะช่วยให้คนอื่นกลายเป็นตัวเราได้ยังไง เจ้าเครื่องนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Jun Rekimoto นักพัฒนาชาวญี่ปุ่น เปิดตัวในอาทิตย์นี้ที่ The EmTech Conference โดยตัวเครื่องจะเป็นจอที่แสดงผลออกมาเป็นหน้าเรา แล้วไปใช้ชีวิตแทนเรา ด้วยการให้เราจ้างใครสักคนนึง มาใส่ไอ้เครื่องนี้แล้วก็แต่งตัวเป็นเรา ไปทำเรื่องสุดน่าเบื่อแทนเรา แนวคิดนี้มาจากการติดต่อสื่อสารทางไกลบวกกับการเคลื่อนไหวของร่างกายมนุษย์ คือเหมือนใช้เครื่องนี้ออกไปพบเจอผู้คนแทนเรา โดยที่เรายังพูดคุยด้วยเสียงของเราเอง แสดงสีหน้า ความรู้สึกด้วยใบหน้าของเราเองทั้งหมดได้ ผ่านเครื่องนี้แหละ โดยที่เราอาจจะนอนแอ้งแม้งอยู่บ้านก็ได้ ไม่ต้องอาศัยหุ่นยนต์แทนตัวเราเองด้วย พอจะนึกภาพออกแล้วสินะว่ามันทำงานยังไง มันอาจดูไร้สาระ ดูบ้าบอ แต่มันแสดงให้เห็นบางอย่างว่าชีวิตคนเราบางทีมันเหนื่อยแสนเหนื่อย ไม่ได้เหนื่อยจนอยู่ไม่ได้ แต่มันถึงจุดที่อยากนอนเฉย ๆ แล้วก็ F*ck The World ไม่ต้องสนใจอะไรบ้าง ทิ้งภาระไว้ข้างหลังบ้าง แต่ด้วยชีวิตมันต้องดำเนินต่อ เลยไม่อาจทำได้ จนมันสะท้อนออกมาในรูปอินโนเวชั่น
หากไม่ได้เห็นหน้า แค่เพียงเอ่ยถึงชื่อของ ‘มอร์-วสุพล เกรียงประภากิจ’ หลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อนี้มากนัก แต่ถ้าเอ่ยชื่อของ ‘มอร์-Ten to Twelve’ ภาพของหนุ่มมาดเซอร์นักร้อง, นักแต่งเพลงจากวง Ten to Twelve นั้นคงชัดเจนขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ UNLOCKMEN เคยได้มีโอกาสพูดคุยกับมอร์มาแล้วถึง 2 ครั้งโดยแต่ละครั้งของการพูดคุย สิ่งที่เราสัมผัสได้คือความสามารถที่ล้นเหลือ และพลังงานในการสร้างสรรค์ที่เข้มข้นจากผู้ชายคนนี้ วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดี เพราะเรามีนัดพูดคุยกับเขาอีกครั้งที่ LHONG 1919 กับการอัพเดทเรื่องราวชีวิตในขวบปีนี้ของ ‘มอร์-Ten to Twelve’ พร้อมทำความรู้จัก ‘มอร์’ ในมุมมองใหม่ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ กับความหลงใหลในการถ่ายรูป และสไตล์การถ่ายรูปในแบบฉบับเฉพาะตัว จนทำให้เขาได้มีโอกาสรับหน้าที่เป็น Brand Ambassador ของ FUJIFILM ซึ่งถือเป็นอีกบทบาทใหม่จากอีกหลากหลายบทบาทในชีวิตของเขา และเราจะล้วงลึกเข้าไปปลดล็อคที่มาของแรงบันดาลใจซึ่งดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัดของผู้ชายคนนี้ ว่าทำไมมันยังดูเหมือนเป็นพลังที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา มันมีหมดบ้างมั้ย แล้วอะไรที่ทำให้เขายังคงควบหน้าที่หลายบทบาท ตั้งใจสร้างงานทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าชีวิตของมอร์มีหลายบทบาทเหลือเกิน ช่วยอัพเดทให้เราฟังหน่อยว่า ตอนนี้กำลังเน้นหนักไปที่บทบาทไหนเป็นพิเศษ ? หลัก ๆ ตอนนี้เราก็ทำผู้กำกับ เป็นผู้กำกับหนังโฆษณา