Entertainment

GARAGE: “DEPT” คู่หูน้องใหม่แห่งค่าย SMALLROOM ที่เชื่อว่าดนตรีของเขาจะเติบโตไปพร้อม ๆ แฟนเพลง

By: Synthkid November 8, 2019

ในยุคที่อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในการฟังเพลงของผู้คน สองหนุ่มวง “Dept” เบนซ์ (กีตาร์/ร้องนำ) และ ลุค (คีย์บอร์ด) เพื่อนคู่หูจากคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาเริ่มต้นจากการช่วยกันทำเพลงเอง ปล่อยเพลง โปรโมตตัวเอง แบบที่ไม่ได้คาดหวัง ต่อมาเมื่อวันเวลาล่วงเลย โชคชะตาและ WiFi ก็พายอดวิวเพลงของพวกเขาขึ้นจากหลักหมื่นเป็นหลักล้าน จนมาถึงวันที่ค่ายอินดี้แถวหน้าอย่าง Smallroom ได้ชักชวนให้พวกเขาเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว

วันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN มาทำความรู้จักกับ Dept ให้มากขึ้น พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน แล้วไปไงมาไงถึงได้ร่วมงานกับค่าย Smallroom บทสนทนานี้มีคำตอบ แล้วคุณจะได้รู้ว่า ‘เพลงของ Dept ฟังสบายเช่นไร ตัวตนของพวกเขาก็สบาย ๆ เช่นนั้น’

ลุค (คีย์บอร์ด) และ เบนซ์ (ร้องนำ/กีตาร์)

ชื่อวง Dept มาจากไหน?

ลุค: มาจาก Johnny Depp ครับ แต่เปลี่ยนตัว P ข้างหลังให้เป็นตัว T

เบนซ์: ตอนแรกคิดไม่ออก แต่ไปเจอ Fact ของศิลปินเกาหลีที่ชื่อ DEAN จริง ๆ เขาไม่ได้ชื่อนี้ (ชื่อจริงควอน ฮยอก) แต่เขาชอบ James Dean เลยเอาคำท้ายของดาราที่ชอบมาตั้งเป็น Stage Name ครับ

ทั้งสองคนเจอกันได้อย่างไร

เบนซ์: เราเรียนอยู่ที่เดียวกันครับ คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนเจอกันที่คณะ ผมไม่เคยคุยกันเลย แต่ดันได้คุยกันเพราะไปเจอกันที่คอนเสิร์ตนึง ลุคเองเขาก็อยู่วงเพื่อนผมด้วยครับ

คุยกันถูกคอ?

เบนซ์: ครับ ตอนนั้นผมยังสั้นอยู่เลย หัวเกรียน ๆ (หัวเราะ)

เริ่มเล่นดนตรีกันตั้งแต่ตอนไหน

เบนซ์: ผมเริ่มเพราะผมดูหนัง เรื่อง ‘ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ’ ยุคนั้นคนลุกขึ้นมาเล่นดนตรีเยอะมาก แต่เพื่อนที่ผมเล่นมาด้วยกันเขาดันเลิกเล่นไปหมดแล้ว สมัยก่อนผมติดเกมครับ พอได้เล่นดนตรีเหมือนเจอสิ่งยึดเหนี่ยว มันฉุดผมขึ้นมาเป็นอีกคนเลย สุดท้ายก็ตัดสินใจขอที่บ้านเรียนดนตรี เลยกลายมาเป็นอย่างที่เห็นครับ แรก ๆ ผมอยากตีกลอง แต่สุดท้ายมาเล่นกีตาร์ถนัดกว่า เล่นคีย์บอร์ดได้นิดหน่อย เพราะที่คณะมีสอนครับ

ลุค: เริ่มเล่นตั้งแต่เด็กครับ เพราะโดนแม่ลากไปเรียน เหมือนพ่อแม่ทุกคนแหละครับ เขาอยากให้ลูกฝึกสมาธิ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ชอบนะ ติดเกมเหมือนกัน! แต่ไป ๆ มาๆ ดนตรีก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผมไปแล้ว

ตอนแรกลุคไม่ชอบดนตรี?

ลุค: เพราะผมเริ่มจากการเรียนเปียโนคลาสสิก แล้วมันต้องมานั่งซ้อมอะไรไม่รู้ ตอนนั้นผมอยากเล่นเกม คิดแค่ใครก็ได้เอาผมออกไปที! แต่พอเวลาผ่านไป ผมก็กลายมาเป็นแบบนี้เฉยเลย งงเหมือนกัน

เชื่อไหมว่าดนตรีสามารถฉุดชีวิตคน ๆ หนึ่งให้ดีขึ้นได้

จริง ๆ ไม่ใช่แค่ดนตรี ใครก็ตามที่สนใจอะไร ถ้าคุณรักมันจริง ๆ และทำให้มันดี ทุกอาชีพก็เปลี่ยนชีวิตเราได้ครับ 

– เบนซ์ วง Dept

แล้วจากเพื่อนกันในวันนั้น กลายมาเป็น ‘Dept’ ได้อย่างไร

เบนซ์: ตอนนั้นผมยังไม่ได้ทำ Dept เลย ผมยังเป็นมือกีตาร์วงร็อกวงนึงอยู่ ผ่านไปเกือบ ๆ ปี กว่าจะเริ่มทำ เริ่มแรกผมก็ทำเองปล่อยเองอยู่คนเดียว คิดไปคิดมา เฮ้ย มันน่าจะมีสมาชิกอีกคนมาช่วยหน่อย ผมเลยชวนลุคเข้ามา

มีเพื่อนแล้วดีกว่าทำเพลงคนเดียวไหม

เบนซ์: ก็ดีครับ ลุคเขาก็มึน ๆ เหนื่อย ๆ (หัวเราะ)

เป็นไงมาไงถึงมาเป็นศิลปินในค่าย Smallroom

เบนซ์: มีพี่คนนึงใน Smallroom เขารู้จักวงผม เขาก็เลยลองเสนอให้พี่ ๆ ที่นี่ฟังดู ทางค่ายก็เลยเรียกมาคุย ตอนนี้เพิ่งเข้ามาได้สองเดือนเองครับ

อะไรทำให้ตัดสินใจว่าจะเข้าสังกัด

เบนซ์: ก่อนหน้านี้ผมเคยคุยกับลุคว่าเราคงจะไม่เข้าสังกัดไหน แม้ในใจผมจะเคยอยากส่งมา Smallroom อาจเพราะค่ายนี้มีกลิ่นอายบางอย่างทำให้ผมรู้สึกว่าเพลงวงเราอาจจะไม่ใช่แนวเขา ผมก็เลยไม่กล้าส่งมา แต่พอเขาติดต่อมาว่าพี่รุ่ง (ผู้บริหารค่าย Smallroom) ฟังแล้วชอบ ไอ้ความคิดเหล่านั้นของผมมันก็หายไปเลย พอชื่อ Smallroom มาใจมันก็ไปแล้วครับ แอบเป็นติ่งอยู่พอสมควร

วิธีการทำงานก่อนและหลังเข้าสังกัดแตกต่างกันอย่างไร

เบนซ์: ต่างครับ เพราะที่นี่เขามีเดดไลน์ ตอนทำกันเองพวกผมก็ปล่อยไหล ตอนนี้เลยได้ทำงานเป็นระบบมากขึ้น การทำงานที่มีคนมาคุมเราอีกที แบบที่เราไม่ได้เป็นนายตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ ไทม์ไลน์มันก็จะเป๊ะขึ้น ไม่มีเวลามานั่งเปื่อย ไม่งั้นกว่าจะปล่อยแต่ละเพลงคงเว้นห่างไปหลายเดือนเลย

งานเยอะขึ้นไหมพอมีค่ายมาช่วยดูแล

เบนซ์: ผมว่าไม่เกี่ยวกับค่ายนะ เพราะบางวงไม่มีค่ายเขาก็งานเยอะอยู่ดี

Dept เป็นวงแรก ๆ เลยไหมที่ Smallroom เป็นฝ่ายเรียกตัวเข้ามา

เบนซ์: พี่รุ่งบอกว่าเป็นวงแรกเลยครับ เพราะเวลามันเปลี่ยนไป การทำงานก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม เมื่อก่อนวงจะไปเร็วต้อง Debut กับค่าย แต่ยุคนี้วงไหนเขาก็ปล่อยเองกันทั้งนั้น ถ้าค่ายมัวแต่รอก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีศิลปินมาใหม่

ลุค: เหมือนเขาเริ่มหา New Gen เพราะเดี๋ยวนี้กระบวนการทำเพลงคน ๆ เดียวก็สามารถทำได้ที่บ้าน จบในตัวเองได้เลยครับ

แฟนเพลงบอกว่าเวลา Dept ออกเพลงเศร้า มันเศร้ามาก! แต่งมาจากเรื่องจริงไหม

เบนซ์: มาจากเรื่องจริงบ้าง แต่เวลาเราทำเพลงป๊อป เราต้องอธิบายเรื่องราวให้คนหมู่มากเข้าใจได้ ถ้าเราเขียนเรื่องที่เป็นส่วนตัวมาก ๆ เขาอาจจะไม่เห็นภาพก็ได้ เราก็เลยเอาบางส่วนที่เขียนแล้วคนจะเห็น ‘ภาพเดียวกัน’ หรือเห็นภาพในระหว่างได้ยินคำนั้นเข้ามาผสมด้วย

ช่วยกันแต่งเพลงทั้งคู่ แบ่งงานกันอย่างไร

เบนซ์: ถ้าเนื้อก็จะผมคนเดียว เนื้อเพลงกับทำนองจะมาก่อน โดยทำเดโม่มาคร่าว ๆ แล้วให้ลุคเข้ามาช่วยตบ ๆ เรื่องดนตรีภายหลัง ผมก็จะคอยถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ชอบหรือเปล่า

เคยมีปัญหากันเองบ้างไหมระหว่างทำเพลง

ลุค: ก็มีบ้างครับ ถ้าในเดโมมีอะไรที่ไม่ชอบผมก็จะบอกให้เขาแก้

เบนซ์: ทุกวงก็น่าจะมีปัญหาเหมือนกัน อะไรไม่เวิร์กเราก็แก้ไขได้ครับ ส่วนปัญหาอื่น ๆ มันก็จะมีแค่แบบการเข้าใจไม่ตรงกัน ด้วยความที่งานมันเร่งก็มีบ้างที่เราลืมถามความเห็นคนอื่น อาจจะมีนอยด์ ๆ กันบ้าง แต่ยังไม่เคยมีขั้นชกต่อยทะเลาะวิวาทนะครับ (หัวเราะ)

เบนซ์กับลุคฟังเพลงแนวเดียวกันไหม

เบนซ์: ลุคฟังเยอะกว่าผมครับ เขาจะเป็นแฟนคลับ Spotify ฟังอะไรไปเรื่อย ส่วนผมจะฟังเพลงเดิมซ้ำ ๆ ฟังจนกว่าจะซึมซับ

แล้วตอนนี้อินวงอะไรกันอยู่ไหม

ลุค: ผมไม่มีเลย ผมชอบฟังไปเรื่อย ๆ

บนซ์: ผมอิน THE 1975 มาก จริง ๆ อินมานานแล้ว แต่ช่วงนี้ผมชอบไปอ่านไปฟังสัมภาษณ์ของเขา ผมชอบทัศนคติของเขา อย่างเพลง I Always Wanna Die Sometime แมต ฮีลลีย์ (ฟรอนต์แมน) เขาบอกว่าความตายสำหรับเขาก็เป็นแค่การเปิดปิดสวิตช์ On/Off เขาไม่ได้เชื่อชีวิตหลังความตาย ซึ่งผมเองก็ค่อนข้างเชื่อแนวคิดนี้นะ

ไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ถ้าอย่างนั้นเชื่อเรื่องผีไหม

เบนซ์: ถ้าเรื่องผีผมเชื่อนะ แต่ไม่ได้เชื่อในรูปแบบวิญญาณ ผมคิดไปถึงพวกโลกคู่ขนาน คนถึงชอบเจอที่เดิม ๆ ที่ซ้ำ ๆ ไม่รู้จริงไม่จริงนะ ผมคิดเอง (หัวเราะ)

ตั้งแต่เบนซ์แต่งเพลงมา ชอบเพลงไหนที่สุด

เบนซ์: เพลง ลา ลา ลา ที่เพิ่งปล่อยออกมานี่แหละครับ คือพวกเพลงแรก ๆ ที่ปล่อยออกมา บางทีผมก็รู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปแก้ พวกเนื้อร้องเราอาจจะทำให้ Flow กว่านี้ได้ พอตอนนี้ทำมาเรื่อย ๆ มันก็เหมือนเราจับจุดได้ แต่งเพลงอะไรออกมาผมเลยชอบกว่าอันเก่า ศิลปินหลายคนไม่ว่าจะไทยหรือต่างประเทศเขาก็ชอบงานใหม่มากกว่างานเก่ากันนะ อนาคตผมอาจจะเบื่อเพลงเก่าจนไม่อยากเล่นแล้วก็ได้นะ ถ้าเจออะไรใหม่ ๆ แล้วรู้สึกว่ามันใช่ คือชอบสิ่งที่เป็นปัจจุบันแหละครับ

ตอนที่วงเริ่มดังแรก ๆ รู้สึกอย่างไร

ลุค: จริง ๆ ยังไม่ดังนะ (หัวเราะ) ผมว่าเหมือนเรากลายเป็นไวรัลขึ้นมาสักพักมากกว่า

เบนซ์: ถ้าดังขึ้นมามันคงจะยากมาก ๆ กับการประคองตรงนั้นเอาไว้เรื่อย ๆ ตอนนี้ผมเลยคิดแค่ว่าเราต้องทำงานของเราไปเรื่อย ๆ ครับ ถ้าคนจะฟังเยอะขึ้นก็ถือว่าเป็นโชคละกัน ผมก็ทำเพลงแบบเดิม ไม่ได้เอาใจใครมาก อนาคตก็เตรียมเพลงบ้า ๆ ไว้บ้าง ไม่ได้อยากทำเพลงให้มันเหมือนเดิมไปตลอด

แล้วตอนแรกที่รู้ว่า เฮ้ย! Dept มีแฟนคลับแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง

เบนซ์: เพลงแรกที่ปล่อยออกมาผมตั้งเป้าไว้ว่าถ้าได้วิวแสนหนึ่งก็ถือว่าสำเร็จแล้ว แต่ปล่อยไปเดือนนึงมันก็ทำได้แค่หมื่นวิว เพลงแรกที่แตะหลักแสนผมรอกัน 3 เดือนพี่ (เพลง Just All The Night) ผมคุยกับเพื่อนว่าตั้งเป้าไว้แสนนึง มันยังบอกเลยว่าจะได้เหรอวะ? แต่พอปีนึงผ่านไป เพลงนั้นดันพุ่งไปล้านวิว ผมงงเหมือนกัน จริง ๆ ดีใจนะ แต่เวลามันผ่านจนเลยอารมณ์จะดีใจไปแล้ว

ลุค: ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ แต่ได้กลับมาคาดหวัง เหมือนผมฟอร์มทีมเล็ก ๆ ขึ้นมาแล้วจู่ ๆ ได้ไปเตะบอลโลก (หัวเราะ)

มุมมองของผม ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์กมันไปเร็ว

เราต้องหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ ใครมีจุดยืนที่แน่ชัดกว่าก็ชนะไป 

– ลุค วง Dept

โปรโมตตัวเองอย่างไรบ้างช่วงแรก ๆ

ลุค: Facebook ครับ จ่ายตังค์ด้วย (หัวเราะ)

เบนซ์: แต่ผมค้นพบแล้วว่าการจ่ายตังค์มันไม่ช่วยอะไรเลยกับอัลกอริทึมของ Facebook ผมเข้าไปโพสต์ในกลุ่มแลกเปลี่ยนเพลงที่ชื่อ ‘ฟังยัง’ มันโชคดีตอนที่ผมปล่อยเพลงใหม่ ๆ กลุ่มนี้ก็เพิ่งเปิดพอดี เขาก็เข้ามาฟังมาแชร์กันจนวิวมันขึ้นเอง ตอนนั้นยังมีแค่ร้อยกว่าคนเองมั้ง

ลุค: หลังจากนั้นก็เริ่มมีพวกเพจเพลงเขาเอาไปแชร์ต่อกัน

เบนซ์: อาจารย์ผมบอกว่าด้านได้อายอด ผมเลยทักเขาไปเรื่อย ๆ ผมก็บอกเขาว่าช่วยฟังหน่อย ถ้าชอบก็ฝากแชร์ด้วยนะครับ

อนาคตเคยจินตนาการไว้บ้างไหมว่าจะได้เล่นเวทีใหญ่ระดับไหน

ลุค: ตอนนี้ไม่คิดเรื่องงานใหญ่ ขอให้งานเยอะก่อนดีกว่า เน้นจำนวน ถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันคงมาเองครับ

เบนซ์: ตอนนี้ Voice Space ก็ดีแล้ว มีงานใหญ่แล้วกลัวเป็นหนี้ (หัวเราะ) คงต้องใช้เวลามั้งครับ

ยุคนี้ศิลปินไทยโกอินเตอร์เริ่มเยอะ Dept หวังสิ่งนี้ไว้บ้างไหม

เบนซ์: ผมกับลุคก็เคยคิดอยู่บ้าง แต่เราก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าเขาจะมาดูเราด้วยสาเหตุอะไร เพราะเพลงเราก็เป็นภาษาไทย เอาในประเทศให้รอดก่อนละกัน (หัวเราะ)

ลุค: เราอาจจะมีฐานแฟนคลับในไทยในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องการแรงสนับสนุนที่มากกว่านี้ รวมไปถึงเพลงด้วยที่ควรมีเยอะกว่านี้ มันถึงจะมากพอสำหรับการไปเล่นที่อื่น ๆ ครับ แถมพวกเราก็ยังเรียนกันอยู่ งานมันเลยยังต้องจำกัด

อยากให้แฟนเพลงมอง Dept เป็นแบบไหน

เบนซ์: อยากให้เห็นในความหลากหลายของคนสองคนครับ แต่ก็ในแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป นะครับ

ผมเชื่อว่ากลุ่มคนฟังของเราในตอนนี้ เขาก็จะเติบโตไปพร้อมเรา และอาจจะเข้าใจงานที่เราจะทำในอนาคตเช่นกัน

– เบนซ์ วง Dept 

ลุค: ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันไปครับ

รู้ตัวใช่ไหมว่าวัยรุ่นฟัง Dept เยอะ

เบนซ์: รู้ตัวครับ ผมถึงเข้าใจว่าจู่ ๆ จะเปลี่ยนไปเล่าเรื่องอื่น ๆ ที่เขาไม่ได้สนใจ หรือเรื่องการเมืองมันอาจจะไม่ใช่สำหรับเขา แต่ผมก็เลือกที่จะแซม ๆ เข้าไปนะ เพราะผมเชื่อว่าวัยรุ่นยุคนี้เขาก็สนใจเรื่องนี้กันแล้ว ตั้งแต่เราเด็ก ๆ เราก็ใกล้ชิดกับการเมืองมาตลอด

ลุค: ค่อย ๆ หยอด ว่าแต่จะไม่โดนอุ้มใช่ไหมพูดเรื่องนี้

เบนซ์: ไม่อุ้ม! พูดเฉย ๆ ยังไม่ได้บอกใครผิดใครถูกเลย (หัวเราะ)

ฝากผลงานส่งท้ายหน่อย

เบนซ์: ฝากซิงเกิลใหม่ ลา ลา ลา ด้วยครับ อย่าลืมดู MV กันด้วยนะ

ลุค: ฝากอินสตาแกรม @dept.dept แล้วก็ www.facebook.com/callmedept/ รวมไปถึงทวิตเตอร์ @callmedept ด้วยครับ

ศิลปินหน้าใหม่ มักมีความคิดใหม่ ๆ มาแลกเปลี่ยนให้เราฟัง เขาไม่เพียงสร้างตัวเลขวิวและความนิยมให้เติบโตขึ้นเท่านั้น แต่เติบโตในฐานะศิลปินมืออาชีพเพิ่มขึ้นด้วย ความสนุกแต่เข้าใจบทบาทการทำงานที่ Dept แชร์กับเราน่าจะทำให้ทุกคนหลงเสน่ห์เขาเพิ่มขึ้น

ตราบเท่าที่ศิลปินมุ่งมั่นทำงานแบบคำนึงถึงคนฟังอย่างเรา ๆ และใส่ใจตัวตนเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงแบบไม่หลงทาง เชื่อว่าเราคงมีโอกาสเห็นพวกเขายืนอยู่บนหลายสเตจที่รออยู่ในอนาคต เพื่อใกล้ชิดและสร้างความสุขทางดนตรีแก่พวกเราทุกคนแน่นอน

PHOTOGRAPHER: Warynthorn Buratachwatanasiri

Synthkid
WRITER: Synthkid
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line