Girls

บุกโต๊ะทำงาน และความคิดของสาวนักเขียนมาดเท่ ป่าน​ – ฉัตรรวี

By: unlockmen October 13, 2015

ไม่ว่าจะยุคไหนๆ การสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญ และถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เราใช้วิธีการเขียนบนผนังถ้ำเพื่อสื่อสารข้อมูลต่างๆ ใช้การออกเสียงเพื่อแสดงออกว่ารู้สึกเช่นไร พัฒนาจวบจนมาถึงการมีอักษรไว้เพื่อการอ่าน การเขียน และการฟังที่สามารถทำให้ผู้คนสามารถเข้าใจข้อมูลต่างๆ ได้ตรงกัน ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆ วิทยุโทรทัศน์ และสื่อดิจิตอล บ่งบอกว่ามนุษย์เราต้องสื่อสาร และพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา

นักเขียนถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยสื่อสารสิ่งต่างๆ และถ่ายทอดความรู้สึกที่ตนเองมีไปยังผู้รับสารให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด ทำให้เรานึกถึงสาวสวยมากความสามารถคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในแวดวงการสื่อสาร เธอเป็นนักเขียนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคน ป่าน – ฉัตรรวี เสนธนิสศักดิ์ นักเขียนจากสำนักพิมพ์ Bun Books ที่มีหนังสือของตัวเองมาแล้วถึง 3 เล่ม (LOST IN CONVERSATION
, THE MONSTER PIECE: ไม่มีใครครบ และ PARIS IS ALWAYS A GOOD IDEA) สาวหน้าหวานที่นิสัยห้าวขัดกับใบหน้าของตัวเอง ป่านเป็นคนรักการท่องเที่ยว รักการเดินทาง คลั่งไคล้การเขียน ซึ่งนอกจากงานเขียน และงานกองบรรณาธิการที่เธอทำอยู่เป็นประจำแล้วนั้น เธอยังเป็นพิธีกรรายการทีวี เล่น MV ถ่ายงานโฆษณา ฯลฯ เรียกว่ามีความสามารถรอบด้าน UNLOCKMEN มีโอกาสได้ไปบุกโต๊ะทำงาน และพูดคุยกับเธอ ทำให้เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า เราหลงรักเธอเข้าอย่างจัง

151013-parn-1

ทำไมผู้หญิงหน้าตาน่ารักอย่างป่าน ถึงเลือกทำงานในสายงานหนังสือที่เห็นภาษามากกว่าเห็นหน้าตา

เหมือนป่านถนัดด้านนี้มากกว่าค่ะ ชอบอ่านชอบเขียนอยู่แล้ว แล้วเราก็ไม่เก่งวิชาอื่นด้วย (หัวเราะ) อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราพอทำได้ พอทำแล้วมันดีทำแล้วสนุกก็เลยคิดว่าทำสิ่งที่เราถนัดน่าจะดีกว่า เพราะอย่างงานสายที่วัดหน้าตาเป็นสำคัญเนี่ย คนสวยเยอะมาก คนน่ารักเยอะ คนที่เขากล้าแสดงออกกว่าเรา เก่งในด้านนั้นมีเยอะกว่า ก็เลยคิดว่าเนี่ยแหละทำสิ่งที่เราถนัดดีกว่าค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสเข้ามาเราก็ทำ

บุคลิกของป่านในหนังสือที่แสดงออกผ่านการเขียน กับตัวตนที่แท้จริงของป่าน มันเหมือนกันกี่เปอร์เซ็นต์

50 เปอร์เซ็นต์ ครึ่งๆ ละกัน เพราะว่าป่านไม่ได้มีแค่มุมเดียว อย่างตอนเวลาเขียนหนังสือป่านจะคิดว่าอยากให้ภาษางานเขียนของตัวเองเป็นแบบนี้ มันจะมีความสละสลวยนิดนึง แต่เวลาพูดกับเพื่อนเราก็จะตลกแซวเพื่อนไปเลย จะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไรค่ะ

151013-parn-7

หนังสือเล่มล่าสุดที่เกี่ยวกับการเดินทางไปปารีส การเดินทางครั้งนั้นให้อะไรกับป่านบ้าง

จากที่ไปเที่ยวครั้งก่อนๆ ป่านจะไม่ค่อยได้เป็นคนวางแผนเอง แต่ไปปารีสเราวางแผนเองเกือบทั้งหมดเลยว่าจะไปไหนบ้าง จองตั๋วยังไงจองที่พักยังไง มันก็เป็นความสนุกอีกแบบ นอกจากการไปเที่ยวเราก็ได้เรื่องการตัดสินใจ เช่น เวลาเราจะเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟมันจะต้องใช้เวลาต่อคิวประมาณสองชั่วโมง ป่านก็ชั่งใจอยู่ว่าเราจะขึ้นไปดีไหม ซึ่งสุดท้ายเราก็ไม่ขึ้น (หัวเราะ) อะไรที่แบบมันฮิตๆ ลูฟ นอทเทอร์ดัม แวร์ซาย ป่านไม่ได้ไปเลย แค่ผ่านๆ แต่ก็คิดว่าเราไปแค่สิบวัน เราใช้เวลาให้เต็มที่ดีกว่าไม่อยากยืนว่างๆ สองชั่วโมง ถึงแม้มันขึ้นไปจะคุ้มก็เถอะ เดินเที่ยวเดินดูบ้านเมืองไปเห็นความเป็นอยู่ของเขาน่าจะดีกว่า

งานมหกรรมหนังสือ งานหนังสือต่างๆ ในบ้านเรา จัดขึ้นบ่อยมาก ป่านคิดว่ามันสามารถลบล้างคำพูดที่ว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่เกิน 8 บรรทัดได้หรือยัง

มันก็พอได้นะ ป่านคิดว่า 8 บรรทัดมันอาจจะเป็นค่าเฉลี่ยหรืออะไรก็ตาม แต่มันไม่น้อยขนาดนั้นหรอก มันก็มีคนอ่าน เพราะหนังสือมีหลายประเภท ใครชอบใครอยากได้ประโยชน์จากหนังสือแนวไหนก็เลือกอย่างนั้น แต่คิดว่าคนไม่น่าจะอ่านน้อยแล้วแหละ อย่างน้อยกระทู้ pantip เขาก็อ่านกันหนักมากเรื่องดราม่า ถึงแม้การไปซื้อหนังสือในงานหนังสือจะซื้อมาตุนไว้ซะส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน การมีหนังสือติดบ้านไว้ก็ยังดีกว่าไม่มี เผื่อบางทีเวลาว่างเล่นเน็ตแล้วเบื่อ ก็ยังถือเป็นอีกตัวเลือกนึงที่เราจะหยิบมาค่ะ ถ้าอย่างบางคนที่ไม่ซื้อหนังสือเลยเขาก็จะไม่มีหนังสือเป็นหนึ่งในตัวเลือก มีติดบ้านไว้ก็ดีเผื่อวันนึงอกหักมาอาจมีบางเล่มเข้าธีมให้ได้อ่าน

151013-parn-8

เรียนวรรณคดีไทยมา (เอกภาษาและวรรณคดีไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เคยใช้กลอนจีบหนุ่มๆ บ้างหรือยัง

โอยไม่เลยค่ะ (หัวเราะ) ไม่ๆๆๆ ใช้ในชีวิตประจำวันมันไม่ใช้ฟิลที่ใช่เท่าไร แต่หยิบไปใช้ในงานวรรณกรรมของเราป่านว่าโอเค แต่ในชีวิตประจำวันก็เลือกพูดภาษาพูดดีกว่าค่ะ เขาจะหนีป่านหรือเปล่าไปแต่งกลอนจีบเขา

ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงแบบป่านเป็นอย่างไร แล้ววันว่างของป่านชอบทำอะไร

จริงๆ ถ้าคนรู้จักป่านจะบอกว่านิสัยไม่เข้ากับหน้าตาอยู่แล้ว เราก็พยายามปรับปรุงด้วยการใช้ทรงผมช่วยไปเลย อย่างตอนเรียนก็จะบ้าไว้ผมยาวไม่อยากตัดคนก็จะมองว่าเรียบร้อยแน่เลย พอได้มาคุยกันจริงๆ ก็หาว่าแอ๊บแบ๊ว ไม่ใช่ป่าวอะ จะให้ไปพูดคำหยาบกับคนที่เจอเหรอก็ไม่ใช่นะ ก็เลยพยายามใช้ทรงผมช่วย ด้วยการลองตัดผมสั้นให้ใกล้เคียงกับนิสัยนิดนึง ซึ่งไลฟ์สไตล์ของป่านถ้าไม่ใช่วันทำงานก็ชอบออกไปเที่ยวค่ะ ป่านชอบขับรถเที่ยว บางวันมันไม่ได้มีเวลาไปต่างจังหวัด แค่ขับรถเที่ยวในกรุงเทพดูถนนหนทางให้ตัวเองรู้สึกว่าเคลื่อนที่ไปก็โอเคแล้ว ฟังเพลงชิวๆ ในรถ

ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาชอบไปนั่งคาเฟ่กันในวันหยุดป่านเป็นแบบนั้นไหม

นานๆ ไปที ส่วนมากไปก็คือไปเขียนงาน แบบรับงานคอลัมน์แนะนำสถานที่นั้นก็ถึงจะไปค่ะ ถ้าให้เลือกเองก็ไม่ค่อยไปอะน้อยมากเลย เพราะว่าวันหยุดก็จะตื่นสายมากๆ ตื่นก็ตอนเย็นแล้ว ชอบใช้ชีวิตกลางคืนมากกว่าเขียนงานก็เขียนคล่อง แล้วตอนกลางคืนจะไม่ค่อยง่วงด้วย

151013-parn-3

เห็นทำงานหลากหลายมาก ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างป่านมีวิธีการบริหารงานของตัวเองอย่างไร 

พอรับปากเขาแล้วก็ต้องทำ ก็พังๆ เหมือนกันนะบางที ก็ไม่ได้นอน เราก็ต้องทำเพราะรับปากเขาไปแล้ว คิดว่าเอาคำว่าความรับผิดชอบมากำหนดซะมากกว่า เพราะถ้าเราทำไม่ดีมันไม่ได้เสียแค่เราอะ อย่างสมมติวันที่ไปถ่าย MV หรือโฆษณาอะไรก็ตาม บางทีเราเสร็จจากตรงเนี่ยตีสามก็งีบแปปนึงแล้วรีบไปงานโน้นต่อเลย ซึ่งมันไม่น่าจะใช้วิธีจัดการที่ดีมั้ง แต่ว่ามันเป็นการฝืนตัวเองไม่ให้เสียโอกาสในการทำงาน ถ้ามีช่องลงได้ก็จะทำหมดทุกอย่าง

ต้องมีตารางงานไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง

มีบ้าง แต่มันไม่ได้แน่นขนาดนั้น เวลาส่วนใหญ่ก็ทำงานประจำอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้ามีงานนอกเข้ามาก็จะจดบ้างไม่ให้ชนกัน จะเป็นแนวนั้นมากกว่า

151013-parn-4

151013-parn-5

ว่ากันว่างานเขียนเป็นงานที่เหงาที่สุด ป่านเห็นด้วยไหม

มันก็มีส่วนนั้นนิดนึงที่เหงา เพราะเอาจริงๆ เพื่อนสนิทที่ไปเที่ยวไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ไม่มีใครอ่านหนังสือป่านเลยนะ เราก็บอกเพื่อนแล้วนะว่าไม่ต้องอ่านก็ได้ มันเป็นอีกมุมหนึ่งของเราที่อยากให้คนอื่นได้อ่าน เพื่อนเพิ่งจะมาอ่านเยอะๆ ก็เล่มที่สามที่เป็นท่องเที่ยวเพราะมันเล่าด้วยน้ำเสียงของป่านจริงๆ แทนตัวเองเป็นฉัน เป็นตัวเรา สองเล่มแรกก็จะเหงาๆ นิดนึง แต่เรารู้สึกสนุกที่เราได้เขียน มันขายไม่ดีด้วยนะ มันก็มีคนส่วนหนึ่งที่รออ่านอยู่ ป่านคิดว่ามันสนุกมากกว่า

เป็นผู้หญิงในวงการหนังสือมันมีความยากง่ายอย่างไรบ้าง

มันอาจจะมีความง่ายที่บางคนเขาก็สนใจงานเรา เพราะอาจไม่ค่อยมีคนลุคแบบป่านมาเขียนมั้งก็ทำให้คนสนใจได้ในขณะที่บางคนก็จะมองไปเลยว่าไอ้นี่มันก็คงขายอะไรป็อปๆ ล่ะมั้ง ขายหน้าตาหรือเปล่า สมมติเวลามีคนชมก็จะมีคนแบบชมหน้าตาหรือเปล่า ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียอะค่ะ

151013-parn-9

ความสามารถหลากหลายขนาดนี้มีอะไรที่คิดว่าตัวเองสามารถปลดล็อคมันได้อีกหรือเปล่า 

มีอีกเยอะเลยค่ะ จริงๆ ป่านอยากลองทำเยอะ อยากเขียนบทหนัง บทละคร ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ฝึกได้สกิลเรามันน่าจะไปได้ แต่ถ้าพูดถึงความอยาก อยากหมดเลย อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นผู้กำกับ อยากเป็นนู้นนี่ แต่แบบเรา 25 แล้ว ฝึกมันอาจจะทันแหละ แต่เราไปต่อยอดในทางที่เราปูมาเยอะๆ แล้วดีกว่า ส่วนอื่นๆ ถ้ามีโอกาสก็ฝึกบ้าง อย่างนักร้องนี่แบบเสียงก็ไม่ได้แค่อยากเป็นเฉยๆ เคยลองร้องกับเพื่อนๆ มันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

ซึ่งป่านก็ได้ลองทำมาบ้างแล้ว

ใช่ๆ ลองแล้วค่ะ อย่างที่ป่านอยากเป็นผู้กำกับหนังก็เคยได้ไปลองอยู่ในกองถ่ายแล้ว เราก็รู้ตัวว่าสกิลเราไม่ถึง ยังอีกไกลมาก แล้วมีอะไรในกองถ่ายที่เราพอจะไปได้หรือเปล่าในกระบวนการหนังก็คือเขียนบทน่าจะพอทำได้นะ ก็เลยฝึกๆ อยู่ค่ะ

คิดอย่างไรที่ผู้หญิงสมัยนี้ชอบโชว์นมจนได้เป็นเน็ตไอดอล แล้วก็เริ่มขายครีม จากนั้นคนอื่นก็ทำตาม จริงๆ แล้ว ผู้หญิงสามารถแสดงออกในสิ่งอื่นให้เกิดการยอมรับได้ไม่ใช่เหรอ

ใช่ ป่านว่ามันมีวิธีอื่นอยู่ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีจุดเด่นอยู่ตรงไหน มันไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเขาหุ่นดีหรือหน้าตาสวย ก็สามารถใช้ตรงนั้นเป็นจุดเด่นได้ แต่บางทีสิ่งที่เขาได้รับกลับไปอาจจะไม่ใช่แค่ชื่อเสียงหรือเงิน เขาอาจต้องเจอผู้ชายที่โทรไปขอมีเซ็กส์กับเขา เขาอาจต้องเจอผู้หญิงที่ไปเม้นด่าเขา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ต้องแลกมา ซึ่งถ้าเขาแบกรับตรงนั้นได้ ก็ดีไปสำหรับเขา แต่จะแบกมันไปได้จนแก่รึเปล่าเราก็ไม่รู้

อย่างเราเขียนหนังสือมันก็มีคนรู้จักเราส่วนหนึ่ง

ใช่ๆ มันอาจจะไม่ได้โด่งดังมาก แต่ก็ดีใจที่มีคนเข้ามาเจอเราด้วยงานเขียนค่ะ แค่นี้ก็โอเคแล้ว รู้สึกว่าถ้าเราแก่แล้วยังเป็นนักเขียนอยู่ก็น่าจะเก๋ดี อาจจะขำถ้าเรามีภาพเป็นเน็ตไอดอลที่คนชื่นชมหน้าตาและเรือนร่าง แล้วอีก 25 ปีพอมันร่วงโรยก็อาจมีคนพาดหัวข่าวถึงเราประมาณว่า สุดช็อก น้องป่าน เมื่อผ่านไป 25 ปี อะไรแบบนี้

151013-parn-10

151013-parn-2โต๊ะทำงานของป่านในสำนักพิมพ์ Bun Books

ไม่ถามไม่ได้จริงๆ ผู้ชายแบบไหนที่ดึงดูดผู้หญิงอย่างป่าน

ก็ต้องหล่อแหละ ก็เหมือนทุกๆ คน ส่วนตัวป่านชอบผู้ชายที่มีความถนัดด้านศิลปะ ไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเขียนเหมือนกันก็ได้ อาจจะเป็นวาดรูป เล่นดนตรีอะไรอย่างเนี่ยอะค่ะ มีความเป็นอาร์ทติสนิดนึง เพราะคิดว่ามันน่าจะมีมุมที่จูนกันติด บางทีป่านก็พูดมากไปเลย บางอารมณ์ก็นั่งเงียบๆ ทำอะไรของตัวเอง ก็เลยคิดว่าถ้าเราคบกับผู้ชายแบบเนี่ยเขาก็จะมีอะไรทำของเขาไปในขณะที่เรานั่งเงียบๆ แล้วมันก็ดูเท่อะ ป่านว่าผู้ชายที่ทำอะไรก็ตามในแขนงศิลปะมันดูเท่หมดเลยนะ

ถ้านับว่าความสำเร็จ ความฝันมันมีสิบขั้นบันได ป่านคิดว่าตัวเองไปถึงขั้นไหนแล้ว

ป่านคิดว่าตัวเองยังอยู่ขั้นที่สองที่สามอยู่เลย ตอนเรียนคิดเลยว่ามีหนังสือเล่มเดียวก็พอใจแล้ว ได้ทำนิตยสารสักเล่มก็พอใจแล้ว แต่พอได้ทำจริงๆ เราก็คิดว่ามันยังมีบันไดอีกหลายขั้นที่เราต้องก้าวไป เพราะยังคิดว่าตัวเองต้องคิดเนื้อหาได้ดีกว่านี้ เล่าได้ดีกว่านี้ น่าจะเป็นการเติบโตในงานมากกว่าตำแหน่ง คิดว่าบันไดคือการเติบโตในคุณภาพงาน เอาเป็นว่าวันไหนกลับมาอ่านงานตัวเองแล้วไม่เขิน วันนั้นแหละน่าจะดีที่สุด

151013-parn-11

LOST IN CONVERSATION
, THE MONSTER PIECE: ไม่มีใครครบ และ PARIS IS ALWAYS A GOOD IDEA

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line