มาแน่ปี 2019 สายลับ James Bond ภาคที่ 25 กับพระเอกคนเดิมหลังจากงอแงมานาน

ข่าวนี้อาจจะช้าไปเสียหน่อย หรือหลายคนอาจจะพอทราบกันมาบ้างแล้วสำหรับความเคลื่อนไหวของภาคต่ออภิมหาหนังสายลับชื่อดังของโลกอย่าง 007 ที่ทำท่าว่าจะวุ่น ๆ มาตลอดหลังจากจบการโปรโมตภาคล่าสุดอย่าง Spectre ไป

เนื่องจาก Daniel Craig นักแสดงนำได้ออกมาลั่นวาจาหนักแน่นไว้ว่า “ต่อให้ต้องกรีดเลือดตัวเองก็ขอไม่ยอมกลับมารับบทสายลับ James Bond อีกครั้ง” ทำให้สื่อหลายสำนักพยายามคาดเดาถึงความเป็นไปได้ของผู้ที่จะมารับบทสายลับ James Bond คนถัดไป  ซึ่งเบื้องหลังที่ทำให้เจ้าตัวแสดงออกอย่างชัดเจนถึงการปฎิเสธไม่ยอมกลับมาแสดงบทบาทเดิมที่กว่าจะได้ตำแหน่ง James Bond คนล่าสุดมาต้องแย่งชิงมาแบบลากเลือด

ทั้งนี้น่าจะมาจากความเหนื่อยล้าที่ต้องคอยฟิตหุ่นตัวเองอยู่ตลอดเวลา พร้อมความซ้ำซากจำเจของบท และที่สำคัญน่าจะมาจากร่างกายที่ไม่ได้ฟิตสมบูรณ์เหมือนก่อน จะให้ไปวิ่งกระโดดจากตึก บู๊ล้างผลาญ ซึ่งเป็นจุดขายของ Bond เวอร์ชั่น Daniel Criag ก็ดูจะลำบากไปสำหรับเขาในวัยเฉียด 50

แต่แล้วล่าสุดแฟน ๆ ของ Daniel Craig คงจะได้ร้องเฮลั่น ๆ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าตัวได้ออกมาประกาศยืนยันผ่านรายการ The Late Show ว่าขอถอนคำพูดกลับลำมารับบทสายลับ 007 เป็นครั้งที่ 5 พร้อมประกาศวันฉายสำหรับภาพยนตร์ชุดที่ 25 ของ James Bond เวอร์ชั่นของ 5 ของ Daniel Criag  คือเดือน พฤศจิกายน ปี 2019  ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Daniel Criag จะแซงสถิติของ Sir Roger Moore ที่รับบท James Bond นานที่สุดไว้ที่ 5,118 วัน จาก 7 ภาค (*ถ้าถึงเดือนพฤศจิกายน 2019 Daniel Criag จะรับบท James Bond 5,139 วัน+)

แถมนอกจากนั้นยังมีข่าวลือ (ย้ำว่าข่าวลือ) ว่า Daniel Craig ได้ตอบตกลงด้วยวาจากับค่ายสตูดิโอไปแล้วด้วยว่าจะรับบทในตอนที่ 26 ต่ออีกหนึ่งภาคด้วย เนื่องจากทางค่ายได้วางตัว และบทบาทของ Daniel Criag ให้ต้องห้ำหั่นกับ Christoph Walt (ในบท Blofeld หัวหน้าองค์กร Spectre) อีกอย่างน้อย 2 ภาค งานนี้รับรองว่าถูกอกถูกใจ แฟน ๆ James Bond อย่างแน่นอน

Christoph Waltz และ Daniel Craig

ข่าวคราวของ James Bond ภาค 25 ซึ่งตามแหล่งสายข่าวบันเทิงต่างประเทศได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าจะอาจใช้ชื่อว่า “Shatterhand” ที่ได้ดัดแปลงมาจากนวนิยาย James Bond ตอน Never Dream of Dying ที่ประพันธ์โดย Raymond Benson ซึ่งผู้กำกับที่เป็นตัวเต็ง และมีสิทธิ์จะมารับหน้าที่ดูแลในภาคนี้คาดว่าน่าจะเป็น Yann Demange ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาทุกอย่างก็มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้หมด ดังนั้นอย่าเพิ่งปักใจเชื่อเลยซะทีเดียว

แต่อย่างน้อยข่าวที่เรานำมาทั้งหมด ก็ต้องนับว่าเป็นข่าวดีสำหรับแฟน 007 ทุกท่าน ที่อุ่นใจได้ระดับหนึ่งไม่ต้องมานั่งวัดดวง หรือว่ารอการปูเรื่องใหม่อีกครั้งหากเกิดมีการเปลี่ยนนักแสดงนำจริง ๆ  อีกทั้งเท่าที่เราตามกระแสวิจารณ์ส่วนใหญ่ทั้งในไทย และต่างประเทศ  ต่างยกย่องให้ Daniel Criag คือ สายลับ 007 ที่สมจริง และมีคนชื่นชอบเป็นลำดับต้น ๆ ของภาพยนตร์ชุด James Bond  เลยก็ว่าได้ แม้จะมีหลายคนขัดใจกับ James Bond หัวทอง หน้าแก่คนนี้ในช่วงแรกก็ตามที