MUSIC CHANGES YOUR WORLD : วิทยาศาสตร์ชี้ เพลงที่คุณฟัง ส่งผลกับมุมมองของคุณต่อโลก

วันไหนเศร้า เราฟังเพลง Feeling Blue จนจมดิ่งไปกับมัน วันไหนอารมณ์ดี เราฟังเพลง Pop ที่สดใสไม่แพ้กับอารมณ์ของเรา หรือวันไหนอยากพักผ่อน เพลง Acoustic, Folk ที่ให้อารมณ์ Chill จนเหมือนได้เอนกายลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ในบ่ายวันหยุด จนเราคุ้นเคยกันดีว่าเพลงที่เราฟังมันเชื่อมต่อกับอารมณ์ในตอนนั้นอยู่แล้ว UNLOCKMEN จะพามาดูว่าเพลงมันไม่ได้ส่งผลแค่อารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงมุมมองของคุณต่อโลกใบนี้อีกด้วย

ดนตรีเปลี่ยนมุมมองของเราได้ยังไง ?

จากการศึกษาของ University of Groningen ใน Netherlands พบว่าดนตรีไม่ได้ส่งผลกับแค่อารมณ์ของเราเท่านั้นแต่ส่งผลถึงมุมมอง ความคิด ของเราอีกด้วย เพลงที่คุณฟังนั่นแหละสามารถส่งผลกับมุมมองและความเข้าใจโลกใบนี้อีกด้วย

ผู้ค้นคว้ารีเสิร์ชเรื่องนี้อย่าง Jacob Jolij และ Maaike Meurs จาก Psychology Department พบว่าเวลาคนเราฟังเพลงที่ให้มู้ดความสุขเนี่ย มันไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ทำให้มองสิ่งรอบ ๆ ตัวดูมีความสุขไปด้วย และในทางตรงกันข้ามกันก็เป็นแบบนั้น หากเราฟังเพลงที่ทำให้อารมณ์เราอึมครึม มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งรอบตัวของเราแม่งเศร้าตามไปด้วย เหมือนอยู่ดี ๆ ก็โดนเมฆหมอกของความเศร้าปกคลุมซะอย่างงั้น

พูดให้ชัด ๆ คือ ปกติแล้วเราอาจจะคิดว่าเพลงมันส่งผลแค่กับอารมณ์ของเราเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ มันส่งผลกับมุมมองต่อโลกใบนี้ของเรา สิ่งรอบข้าง ห้องที่เราอยู่ ถนนที่เราเดิน รถที่เรากำลังนั่ง จะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเรา ซึ่งอารมณ์ของเราก็เปลี่ยนไปตามเพลงด้วยเช่นกัน ลองนึกภาพเวลาเราใส่แว่นกันแดด เราก็จะมองโลกมืดลงใช่มั้ย ? ดนตรีที่เราฟังก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเพราะเนื้อเพลง ซาวด์ ไดนามิกของเพลง หรืออะไรก็ตามแต่ แต่มันทำหน้าที่คล้ายแว่นกันแดด ที่ทำให้เรามองโลกในสีที่ต่างไปนั่นเอง

เขาทดสอบกันอย่างนี้

ในการสำรวจจากผู้ใหญ่ตอนต้นจำนวน 43 คน ถูกสั่งให้มองจอคอมพิวเตอร์และลองทำ Visual Stimuli Perception Test ผลที่ออกมาคือ ทุกคนมักจะทำหน้าวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม หรือหน้าเศร้าหมองเหมือนโดนของ เมื่อได้ดูรูปสีอึมครึม เทา ๆ และมี Noise (ลองนึกภาพจอโทรทัศน์ซ่า ๆ เวลาสัญญาณไม่ดีสิ มันคือภาพอย่างนั้นแหละ) อีกการทดสอบนึงคือให้ฟังเพลงที่พวกเขาคิดว่าเศร้าเป็นเวลา 15 นาที และเพลงที่พวกเขาคิดว่ามันช่างสดใสเหลือเกินอีก 15 นาที

ผลคือ เมื่อฟังเพลงแฮปปี้เราไม่ได้มีความสุขแค่จากรอยยิ้มของตัวเองเท่านั้น แต่เขากลับยังมีความสุข แม้ว่าจะดูจอภาพสีหม่นที่เคยกล่าวไปข้างต้น และคนที่ฟังเพลงเศร้า เขาก็มองทุกอย่างเศร้าไปหมดแม้ว่าจะไม่ได้เห็นภาพสีหม่นนั้นก็ตาม

เพลงที่คุณฟังบอกอะไรได้บ้าง ?

จากการศึกษาสรุปได้ว่า เรามักจะมองโลกนี้เปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเราที่มันเปลี่ยนไปตามเพลงที่เราฟังอีกที เราอาจจะมองว่าท้องฟ้าวันนี้มันดูหม่นหมอง ในขณะที่เราฟังเพลงสุด Sad บาดลึกถึงอารมณ์ของ Sam Smith อยู่ แต่วันไหนที่เราฟังเพลงรักกุ๊กกิ๊ก Sunshine Pop อย่าง Superbaker เราอาจจะรู้สึกว่าพี่ยามที่โบกรถให้เราวันนี้ดูยิ้มหวานกว่าปกติก็ได้ ซึ่งที่ยกตัวอย่างมานั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเลย มันขึ้นอยู่กับมุมมองของเราล้วนๆ

เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่คุณจะเลือกฟังอะไรสักอย่าง หากไม่ใช่เพื่อความบันเทิงแล้ว ก็ต้องเลือกกันดี ๆ อยากอยู่ในมู้ดไหนก็ฟังเพลงแนวนั้น ในวันที่โลกมันหนักอึ้งจนเข่าแทบทรุดก็พักเพลงเศร้าเคล้าน้ำตาเอาไว้ก่อน ลองหาเพลงชิลล์ ๆ มาปรับมู้ดของเราให้มันสดชื่นขึ้นหน่อย อย่าปล่อยให้ตัวเองตกเป็นเหยื่ออารมณ์มากไป

อีกเหตุผลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าดนตรีนั้นส่งผลกับมุมมองของโลกใบนี้ คือแนวเพลงที่เป็นตัวแทนของกลุ่มความคิด หรือแสดงถึง Culture ในยุคนั้น ๆ อย่างเพลง Reggae ที่เป็นเหมือนตัวแทนของ Rastafarianism หรือจะเป็นดนตรี Jazz กับคนผิวสี หรือ Punk ตัวแทนการต่อต้านอนุรักษ์นิยมและการเมืองที่แสนน่าเบื่อหน่ายของกลุ่ม Young Blood จะเห็นได้ว่าดนตรีเหล่านี้ถูกใช้เป็นตัวแทนของกลุ่มความคิดได้ เพราะความมีศิลปะในหัวใจของมนุษย์นี่แหละที่เปลี่ยนเอาความคิดออกมาเป็นดนตรีได้อย่างมหัศจรรย์

ดนตรีเป็น Culture ที่ฝังรากลึกกับมนุษย์เรามาตั้งแต่เราเริ่มเคาะอะไรให้เป็นเสียงเพื่อความบันเทิงส่วนตัวสมัยเป็นมนุษย์ถ้ำแล้วล่ะ จนมาถึงทุกวันนี้ดนตรีเป็นอีก Culture ที่เดินทางมาไกลพอ ๆ กับการวิวัฒนาการของมนุษย์เรา ยังไงก็อยากให้ใช้มันเพื่อความบันเทิงจรรโลงใจกันดีกว่า เหมือนกับกินอาหารนั่นแหละ ถ้า You are what you eat. แล้วล่ะก็ สำหรับการฟังเพลงก็คงเป็น You are what you listen. นั่นแหละ

SOURCE 1,2