MUSIC

Next Cover, Same Mood : อ่านหนังสือเล่มไหนต่อดี เมื่ออินกับเพลงในอัลบั้ม ‘นักแสวงโชค (The Seeker)’ ของ Asia7

By: GEESUCH October 28, 2022

เคยมั้ย ฟังเพลงจบแล้วอิน จนต้องหาสื่อบันเทิงในรูปแบบใดก็ตามที่มี Mood & Tone ใกล้เคียงกันมาเสพต่อ ซีรีส์เอย หนังเอย หรือเพลงที่ใกล้เคียงกันเอย แต่ในบางครั้งสื่อที่โดนใจเราที่สุดก็คือ ‘หนังสือ’ สักเล่ม ด้วยความที่มีเนื้อเรื่องเปิด ตอนกลาง และตอนจบ หลากหลายอารมณ์ ไม่ต่างอะไรกับเพลงที่มี Intro ไปจนถึง Outro ทำให้นิยายดี ๆ ช่วยต่อความยาวสาวความอินไปได้อีกสักพักนึงเลย 

ในซีรีส์ Next Cover, Same Mood เราจะเอาอัลบั้มโปรดที่เพิ่งฟังไป มาดูด้วยกันไปทีละเพลงว่า มีหนังสือเล่มไหนบ้างที่มีจุดเชื่อมโยงกับตัวเพลงนั้น ๆ ทั้งชื่อเพลง, เนื้อร้อง, พาร์ทดนตรี, อารมณ์หลังฟังจบ, เรื่องราวก่อนจะมาเป็นเพลง ไปจนถึงความหมายของเพลง เป็น What You Should Read Next ‘ฟังเพลงนี้จบแล้ว ถ้าอิน ก็ควรอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อนะ’ เพื่อช่วยยืดอารมณ์อันไม่มูฟออนจากเพลงของเรากันต่อไป (พูดแบบนี้ดูเศร้า)

นักแสวงโชค (The Seeker) : (2022)

ขอเปิดตัวคอลัมน์แรกอย่างเป็นทางการ ด้วยอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกเป็นของวง Asia 7 ที่ออกกับค่าย Genelab วงที่เราขออวยโดยส่วนตัวว่ายูนีคที่สุดของค่าย และควรได้รับการจดจำในซีนดนตรีไทยปัจจุบันมากกว่านี้ โดยที่ไม่ใช่แค่เพราะความแตกต่างซึ่งวงเลือกใช้ความเป็นไทยจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านอย่างพิณหรือซอใส่ลงไปในเพลงเท่านั้น แต่พวกเขายังอะเรนจ์ได้อย่างลงตัวกับดนตรีที่ตัวเองทำ เกิดเป็นวง Rock แบบ Asian Sound เปี่ยมด้วยความโมเดิร์นที่ไม่ได้พยายามยัดเยียดขายความเป็นไทยแม้แต่นิดเดียว และ ‘นักแสวงโชค (The Seeker)’ คืออัลบั้มที่สรุปภาพของความลงตัวทั้งหมดนั้นได้ดีกว่าการพิมพ์อธิบายเมื่อสักครู่ของเราเสียอีก   

และแน่นอนว่าด้วยความเป็นไทยของวง ตอนฟังอัลบั้มนี้เราก็คิดถึงเรื่องสั้นหรือวรรณกรรมคลาสสิกไทยตลอดเวลา แต่จะมีเล่มไหนบ้างนั้น เปิด Next Cover, Same Mood เข้าไปอ่านพร้อมกันเลย


   นักแสวงโชค (The Seeker) – My Best Friend Is me

หลังจาก Intro ของอัลบั้ม เพลงแรกของ Asia7 นับว่าน่าสนใจมาก และคงต้องบอกว่าในแง่ของการพยายามนิยามภาพของตัววงไม่มีอะไรเหมาะเท่ากับเพลงนี้อีกแล้ว ทั้งพาร์ทดนตรีที่แฝงความเป็นไทยผสานกับสากลอย่างเต็มเปี่ยม และเรื่องเล่าของนักเดินที่ตามหาบางอย่าง

การออกเดินทางเพื่อค้นหา ‘ความหมาย’ ไม่ว่าจะเป็นความหมายของสิ่งไหน ก็ไม่ต่างอะไรกับนักแสวงโชค เพราะไม่รู้ว่าปลายทางนั้นจะมีโชคดีหรือโชคร้ายรออยู่ มันทำให้เรานึกถึง memoir บันทึกการเดินทางไกลบ้านมุ่งหน้าสู่ประเทศที่ห่างไกลหลาย ๆ เล่ม แต่อยากพูดถึงเล่ม My Best Friend Is me บันทึกการผจญภัยของนักเรียนฟิล์มที่สอบทุนไปไกลถึงประเทศเยอรมัน เรื่องราวของ โรส พวงสร้อย อักษรสว่าง ที่ถ้าพูดถึงผลงานล่าสุดในไม่กี่วันก่อนของเธออย่างการเป็นผู้กำกับเอ็มวี ‘เธอบอกว่าฉันคือ’ ของ AUTTA ก็คงจำกันได้ดี และเธอยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘นคร-สวรรค์ (2018)’ ด้วย 

บันทึกการเดินทางในเล่มนี้ของคุณโรสไม่ได้เต็มไปด้วยความโกลาหลอลหม่าน แบบที่หนังสือ Best Seller ของประเภทนี้เป็น แต่มันคือการเดินทางไปในที่ที่เราไม่รู้จัก ไม่ได้มีใครรอคอยเราอยู่ ออกจากนอกกำแพง Safe Zone ไปไกล เพื่อค้นพบว่าในที่สุดแล้ว ไม่ว่าเราจะมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหาอะไรที่นั่น อย่าลืมว่าเพื่อนที่ดีที่สุดที่จะฝ่าฟันสิ่งเหล่านั้นด้วยกันตลอดเวลาก็คือ ‘ตัวเราเอง’ 


ถ้าเธอคิดถึงใคร – ข้างหลังภาพ (กุหลาบ สายประดิษฐ์)

ธีมของเพลงนี้คือความรักข้างเดียวของคนหนึ่งที่มีให้กับอีกคนที่เขาไม่ได้รักเราแถมยังกำลังมีใจให้คนอื่นอยู่อีกต่างหาก แต่คน ๆ นี้ก็เป็นผู้ซัพพอร์ตที่ดี บอกให้คนที่ตัวเองแอบรักซึ่งกำลังแอบรักคนอื่นอยู่เหมือนกันบอกรักออกไปเลย เดี๋ยวเราจะขอเก็บความเหงาทั้งหมดเอาไว้คนเดียวเอง

ฟังจบก็ไม่นึกถึงใครเลยนอกจาก คุณหญิงกีรติ กับ นพพร ที่ กุหลาบ สายประดิษฐ์ (ศรีบูรพา) เป็นคนเขียนเรื่องราวขึ้นมาในหนังสือ ข้างหลังภาพ ซึ่งพูดถึงความรักของคนต่างชนชั้นกัน แต่ความต่างทางชนชั้นไม่ได้สำคัญในความรู้สึกครั้งนี้ เพราะมันไม่มีความรักไหนที่สมหวังได้ เมื่อความรักที่มีไม่ได้ถูกแสดงออกมาทั้ง 2 ฝ่าย  

เพื่อไม่เป็นการสปอยล์ เราจะขอพูดแบบนี้ – มีตัวละครหลักในเรื่องคนหนึ่งที่ไม่ได้บอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไป อาจจะเพราะกลัวอะไรบางอย่าง และอยากให้อีกคนได้เจอคนที่ดีกว่า เพราะในท้ายที่สุดแล้วตัวเองเชื่อว่าระหว่าง 2 คนนั้นเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ในระยะที่ยาวนานที่ชีวิตคู่ชอบใช้กันว่า ‘ตลอดไป’ จึงขอเก็บความรู้สึกเหงาและรักเอาไว้ ไม่ต่างอะไรเลยกับตัวละครหลักในเพลงของ ASIA7 ที่แม้ตัวเองไม่สมหวังก็ขอให้คนที่เรารักได้มีความสุข


  ลืม (Fadeaway) – You Sadly Smile In The Profile Picture

ในหนังสือรวมเรื่องสั้นเอาแต่ใจเล่มแรกของ เบนซ์-ธนชาติ นักเขียนคนเดียวกับที่เป็นผู้กำกับของ Salmon House มีตอนหนึ่งในนั้นที่ชื่อว่า A Bookstore Maze พูดถึงคู่รักคู่หนึ่งที่ชอบนัดเจอกันในร้านหนังสือ ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ด้วยความรู้ใจกันและกันดีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้พวกเขามักจะหากันและกันพบเสมอไม่ว่าอีกคนจะอยู่ในหมวดไหนของร้านก็ตาม ..

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้ใจแปรเปลี่ยนเป็นความไม่รู้อะไรเลย ร้านหนังสือกลายเป็นเขาวงกตที่ทั้งคู่หากันและกันไม่เจออีกแล้ว จนสุดท้ายจึงเลิกรากันไป แต่ใครคนหนึ่งในนั้นยังคงรู้สึกอยู่ เมื่อเขาแวะเข้ามาที่ร้านหนังสือนี้เมื่อไหร่ ก็จะนึกเสมอว่าเธอจะอยู่ที่หมวดไหนกันนะ อย่างน้อยความคิดนี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไปจนกว่าเขาจะลืมเธอได้ลงในท้ายที่สุด


  จำขึ้นใจ – มนต์รักทรานซิสเตอร์

“ไอแผนมันหนีไปแล้ว” 

คำพูดนี้วิ่งเข้ามาในหัวเราทันที พร้อม ๆ กับที่ภาพของ สะเดา นางเอกของเรื่องยืนรอหน้าเหวอกับพ่อ ถึงคนรักที่จากไปไกล หลงหายไปในเมืองใหญ่ แล้วก็ทิ้งให้คนที่รอไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ เป็นภาพที่มาจาก ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’ เรื่องราวของคู่รักสุดบากบั่นที่ชีวิตต้องห่างไกลกัน เกิดความเข้าใจผิดมากมาย เพราะว่าสังคมและโชคชะตาเล่นตลกกับพวกเขาราวกับหนังของ เป็นเอก รัตนเรือง  

นิยายคลาสสิกของไทยเรื่อง ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’ กับเพลง ‘จำขึ้นใจ’ นั้น มีจุดเชื่อมโยงกันตรงที่กลิ่นอายความเป็นอีสานเต็มเปี่ยม มีความเป็นภาพของต่างจังหวัด และภาพของความเป็นไทยสมัยก่อน ที่ผู้คนต้องออกจากบ้านเกิดเพื่อเข้ามาทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ โดนแสงสีของเมืองใหญ่อาบร่างจนกลายเป็นคนอื่น และในช่วงเวลานั้น ก็ได้ลืมไปแล้วว่าที่บ้านมีคนรอให้กลับไปอยู่ คำสัญญาอันแรงกล้าค่อย ๆ พร่าเลือนเป็นเพียงลมปาก จนทำให้ฝ่ายที่รอเกิดความคิดไปเองที่ผสมกับความน้อยใจอยู่ในนั้น


ยานอนไม่หลับ (Oneirophobia) – Part-Time Lover

ฝันร้ายที่แท้จริง คือการตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตแล้วพบว่าไม่มีเธออีกแล้ว เพลงของคนนอนไม่หลับจาก Asia7 ทำให้เรามองความรักที่ชัดเจนเป็นเพียงภาพเลือนรางที่เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริงในความทรงจำ มัน Flashback ไปถึงช่วงเวลาในอดีตของตัวเราตอนยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ที่คน ๆ นั้น-คนที่สามารถพูดคำว่า ‘ตลอดไป’ ให้เราเชื่อได้หมดใจ แต่กลับยื่นหนังสือเรื่อง Part-Time Lover เล่มนี้ เป็นการส่งสัญญาณล่วงหน้าด้วยหวังว่าเราจะไม่เจ็บปวดเกินไป  

“ตลอดกาลเดียวที่เกิดขึ้นจริงในความสัมพันธ์ของเราคือจากกันไปตลอดกาล”

– นิชาภาพ

ในบางครั้ง ความรักก็เป็นเหมือนงานพาร์ท-ไทม์ ที่มีการพบพาและลาจาก เป็นเพียงภาพเบลอ ๆ ของงานศิลปะมีหน้าที่เพียงบาลานซ์ให้ชีวิตมนุษย์สุขกับเศร้าเคล้ากันไป และเรื่องสั้นของ นิชาภาพ ก็ทำงานในแง่นี้กับตัวเราเอง เหมือนที่ฟังเพลงยานอนไม่หลับแล้วคิดอย่างนั้น


เจ้าความรัก (Yearning) – Black Cherry ความโหยหาเป็นชื่อยาเสพติด

เพลงแห่งการออกเดินทางอีกเพลงของ Asia7 ในครั้งนี้เป็นการออกตามหาสิ่งที่ยุ่งยากต่อใจมนุษย์มากที่สุด ‘ความรัก’ เล่าโดยมุมมองของคนที่ไม่เคยมีรัก เฝ้ารอวันได้พบเจอก็แล้ว ตามหาก็แล้ว แต่ทำไมถึงแคล้วคลาดต่อกันตลอดเวลา 

โดยส่วนตัวเราเชื่อว่าหนึ่งในช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของความรัก ก็คือตอนที่เราคาดหวังและออกเดินทางตามหามันนี่ล่ะ (และอาจจะเศร้าที่สุดได้ด้วย) ความคาดหวังที่เรามีต่อหน้าตาความรักของตัวเอง มักจะดูดีกว่าตอนที่เราได้เจอเสมอไม่มากก็น้อย ขอเอาใจช่วยทุกคนที่กำลังตามหาความรัก และขอแนะนำหนังสือเตรียมตัวสำหรับวันที่ความรักโบกมือมาทักทาย ว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้มีเพียงด้านเดียวนะ

Black Cherry ความโหยหาเป็นชื่อยาเสพติด ผลงานของนักเขียนหญิงคนโปรดที่สุดคนหนึ่งของเรา ลูกแก้ว โชติรส ต้องบอกว่าคุณลูกแก้วเป็นนักเขียนที่ไม่อ้อมค้อม ภาษาสวย และขุดลึกลงไปในทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาก ๆ นี่คือเรื่องสั้นที่มองความรักในหลากมิติ อาการคลั่งรัก, การใช้ความรักเป็นเครื่องมือ, การมองเป็นเกมที่ใครรักก่อนแพ้ ไปจนถึงความโหยหา ความรักสามารถเป็นอะไรหลายอย่างมากกว่าแค่ความรู้สึกดีที่มอบให้แก่กันและกันของทั้ง 2 ฝ่าย


 ซ่อนหา (Hide and Seek) – Fragile พัสดุตีกลับ ชำรุดง่าย และอาจสูญหายระหว่างทาง 

ชอบพาร์ท Rock แรง ๆ ของ Asia7 มากกก ในความหนักแน่นและทรงพลัง ก็ยังมีเมโลดี้หวาน ๆ อ้อยอิ่งตัดให้ Soft ลงได้อย่างลงตัว เข้ากับบริทบทความเป็นหญิงที่ถูกร้องผ่านเสียงของวงจริง ๆ และเพลงนี้มีความเป็น ปาน ธนพร เหมือนกันนะ เป็นเครื่องด่าของผู้ชายที่จะเลิกกับผู้หญิงแล้วคิดว่าแค่หายไปเรื่องก็จบเอง ไม่โว้ยยย!

ถ้าคนมันจะไป ก็ให้คิดเสียว่าเป็นพัสดุชำรุด ตีกลับมาไม่ถึงเรา แล้วมันก็เสียหายจนไม่อยากรับอีกแล้วดีกว่า ถึงแม้จะอดคิดถึงความทรงจำที่มีร่วมกันไม่ได้สักทีว่ะ ฮือออ แล้วชื่อหนังสือ ‘Fragile พัสดุตีกลับ ชำรุดง่าย และอาจสูญหายระหว่างทาง’ ของ ภวิล เฟย์ ถูกต้องกับเนื้อหาเพลงเหลือเกิน


กล่อม (Lullaby) – เราต่างมีเพลงที่ฟังแล้วคิดถึงใครบางคน 

ขอไม่พูดอะไรไปมากกว่า เปิดหนังสือเล่มนี้ของ บ้านข้างๆ (T_047)  คลอไปพร้อมกับเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม ให้บทเพลงกล่อมเกลา แล้วให้เราได้คิดถึงใครที่ดีในความทรงจำของตัวเองกันครับ : )

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line