ไม่ได้จูนแค่ AMG เพราะแม้แต่ Mercedes-Benz EQS ก็ยังผ่านมือ Brabus อัพเกรดพลังไฟฟ้าให้โหดสะใจยิ่งกว่าในชื่อรหัส Mercedes-AMG EQS 53 Masterpiece By Brabus แต่หากใครคิดว่า AMG EQS 53 คันนี้จะถูกอัพเกรดจนแรงเท่าตระกูล Brabus 900 ต้องบอกว่าคงมีวันนั้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะเพราะการเล่นกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Brabus ด้วย เราจึงได้ผลงานที่เน้นดีไซน์มากกว่า โดยได้ชุดแต่ง full aerodynamic upgrade kit แบบ exposed carbon ล้อ monoblock ขนาด 22 นิ้ว ไม่ใช่แค่ใส่ให้ดูเท่ แต่ยังได้ aerodynamic เพิ่มขึ้นถึง 7.2% ผลคือได้ระยะทางในการขับเพิ่มขึ้นอีกราว 7% จากเดิมเคลมไว้ 443 km เพิ่มเป็น 480 km Brabus บอกว่าลิ้นหน้านอกจากจะเพิ่มความสวยงามยังมีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพของ
สำหรับชาวด้อมร้อนในของพี่เอก HEARTROCKER ทุกคน คงจะเศร้าไปตาม ๆ กัน เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอุตส่าห์มีเกมเนื้อเรื่องแบบ Horror มาให้เราดูพี่เอกกรี๊ดสนั่นลั่นจังหวัดทั้งที ดันมาจบแค่ 4 พาร์ทเสียได้ ! แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีแค่ไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่า Bramble: The Mountain King เป็นเกมเนื้อเรื่องอีกเกมที่พี่เอกเลือกได้คุณภาพมาก ๆ ทั้งในด้านของเนื้อหาและเกมเพลย์เลย (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูสตรีมเกมนี้) Bramble: The Mountain King เล่าเรื่องของ Olle เด็กชายตัวน้อยที่ต้องออกไปผจญภัยเพียงลำพังเพื่อตามหาพี่สาวที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปจากห้องนอนที่อยู่ด้วยกัน ในดินแดนที่ชื่อว่า Bramble ซึ่งเส้นทางที่เด็กน้อยคนนี้ท่องไปเต็มไปด้วยความพิศวง จากป่าใหญ่ที่มีตัวละครในเทพนิยายอย่าง Gnomes น่ารัก ๆ นำเขาไปสู่เหตุการณ์สุดสยองขวัญเจอกับ Trolls กินคน พิธีบูชายัญเด็กจากเหล่าแม่ม่ายสาว ไปจนถึงโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนทั้งหมู่บ้าน ถ้าคุณไปเปิดดูคลิปของพี่เอกตอนนี้ (ดูเถอะ เชียร์อีกรอบ) จะพบว่า Bramble: The Mountain
ไม่ถึงขั้น barn find เพราะไม่ได้เจอตามไร่นา แต่เป็นรถที่ถูกเก็บไว้นานจนลืมกว่า 20 ปี และมันไม่ใช่การเจอ Countach ธรรมดา เพราะนี่คือรุ่นท็อปสมรรถนะสูง LP500 S model ซึ่งผลิตครั้งแรกในปี 1982 และคันนี้ก็เป็นคันแรกสุดของ LP500 S ที่ออกมาจากโรงงาน ประวัติของ Countach LP500 S คันนี้ได้รับการยืนยันโดย Valentino Balboni นักขับรถทดสอบของ Lamborghini ที่รู้ทุกรายละเอียดของรถ ได้ระบุจุดสังเกตของคันนี้ว่าแท้ 100% เช่น กันชนหน้า LP400 S, ล้อ Campagnolo magnesium wheels เป็นต้น และยังพบเอกสารที่ระบุว่ารถคันนี้เคยเป็นรถโชว์ที่จัดแสดงในงาน 1982 Geneva Motor Show มาแล้ว และยังเคยถูกใช้ถ่ายในโฆษณา Lamborghini LP500 S brochures ด้วย ความพิเศษยังไม่จบแค่นี้ Countach
ในวรรณกรรมดิสโทเปียชื่อ Fahrenheit 451 โดยนักเขียนชาวอเมริกัน Ray Bradbury นั้น เล่าเรื่องของโลกที่รัฐบาลลงมติว่า ‘หนังสือ’ คือสิ่งผิดกฎหมาย ประชาชนห้ามอ่านเด็ดขาด ถึงขนาดว่ามีหน่วยชื่อ Firemen คอยเผาหนังสือทุกที่ที่มีอยู่ในสังคมให้หมดไป Guy Montag ตัวเอกของเรื่องก็คือหนึ่งในหน่วยสุมเพลิงนั้น ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ตั้งคำถามว่าสิ่งที่รัฐบาลบอกว่าผิด ใครที่เป็นแฟนคลับตัวยงของมังงะโจรสลัด One Piece น่าจะรู้ถึงความโหดร้ายของรัฐบาลโลกในเรื่องดี ซึ่งหนึ่งในสิ่งชั่วร้ายที่รัฐบาลคอยทำมาตลอดตั้งแต่เล่มที่ 1 ของมังงะเรื่องนี้ คือการปิดบังข้อมูลกับประชาชน จากตัวอักษรโบราณที่ชื่อว่า ‘โพเนกรีฟ’ เพราะกลัวว่าประชาชนจะล่วงรู้ประวัติศาสตร์แห่งความว่างเปล่าหลายร้อยปีก่อนที่อาจจะมีศพซุกซ่อนอยู่ใต้พรหมที่ตัวเองซุกซ่อนเอาไว้ ถึงขนาดว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนที่อ่านตัวอักษรนี้ทิ้งไปเลย เรื่องแต่งว่าด้วยการห้ามอ่านของหนังสือ 2 เล่มที่กล่าวไปในข้างต้น มีจุดเชื่อมโยงน่ากลัวร่วมกันอยู่ตรงที่ ‘พลังของตัวอักษร’ มีพลังสามารถเปลี่ยนความคิด ความรู้สึกคนอ่านแบบฉับพลันโดยใช้เวลาเพียงจบหน้ากระดาษ 100-300 หน้าเท่านั้น และการห้ามอ่านมันเกิดขึ้นในชีวิตจริงของพวกเราด้วย ! ในปี 1982 จำนวนหนังสือที่ถูกแบนจากห้องสมุดโรงเรียน และจากรัฐบางรัฐในอเมริกามีปริมาณที่สูงขึ้นมาก ถึงขนาดทำให้องค์กร Free-Speech หลายแห่งรวมตัวกันตั้ง ‘งานสัปดาห์หนังสือที่ถูกแบน (Banned Books Week)’ ครั้งที่
การเปิดตัว Seiko 5 Sports SKX Series 38mm Mid-Size เรือนเวลาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาดำน้ำที่เท่และฮิตที่สุดของ Seiko ในยุค 80’s ต่อยอดความอมตะของสีสันและงานดีไซน์ สู่เรือนเวลาของปี 2023 ที่โมเดิร์นยิ่งกว่าใคร ! ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ยังมีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง SEIKO 5 SPORTS 55th Anniversary กับการเดินทางที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และจะเดินหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อ Represent ฟังก์ชั่นสุดแข็งแกร่งหัวใจหลักทั้ง 5 อันประกอบไปด้วย Automatic movement, Day-date display, Water Resistance, Recessed Crown and Durable Case และ Bracelet สิ่งแรกที่ UNLOCKMEN อยากให้ทุกคนจำให้แม่นก่อนจะรู้จักกับเรือนเวลารุ่นนี้ให้ละเอียดในบรรทัดต่อไป คือความงามแบบไทม์เลสจากยุค 80’s ของเรือนเวลารุ่นนี้ อยู่ที่หน้าปัด 4 สีใหม่ อันสะท้อนตัวตนของผู้ใส่ที่ต่างกัน ประกอบไปด้วย
“สก็อตช์วิสกี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และอาชีพของคนในสกอตแลนด์ เนื่องจากสกอตแลนด์เป็นอันดับหนึ่งของโลกในแง่ของสก็อตช์วิสกี้ และแน่นอนว่าสก็อตช์วิสกี้ ฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมของชาวสกอตแลนด์ที่มีอยู่ราว ๆ 5 ล้านคน บางหมู่บ้านที่มีคนอยู่ 50-100 คน เขาก็สร้างโรงกลั่นกันขึ้นมา โดยมีโรงกลั่นในสกอตแลนด์ทั้งหมดประมาณ 145 โรงกลั่น ขนาดเล็กใหญ่คละกันไป เรื่องขนาดของโรงกลั่นและการจ้างงานนั้น ยังขึ้นกับเกษตรกรที่ปลูกข้าวบาเลย์ เพราะเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสก็อตช์วิสกี้ ตลอดจนคู่ค้าในด้านอื่น ๆ อย่างคนผลิต ทำขวด หรือแม้แต่นักวิทยาศาสตร์ที่มีหน้าที่ในการผสมสก็อตช์วิสกี้ ถือได้ว่าโรงกลั่นสก็อตช์วิสกี้ ครอบคลุมการจ้างงานในหลากหลายทักษะ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยการทำโรงกลั่น สก็อตช์วิสกี้ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพหลักที่เป็นอัตลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของสกอตแลนด์” Mr. Ewan Gunn (ยวน กันน์) แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของดิอาจิโอได้เล่าเกริ่นให้เราฟัง ยวน อยู่ในวงการสก็อตช์วิสกี้มานานถึง 24 ปี หลังจากเรียนจบด้านภาษาจากมหาวิทยาลัย ก็ผันตัวมาทำงานกับบริษัทวิสกี้เล็ก ๆ ที่ทำให้เขาได้ทดลองทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย การตลาด และประชาสัมพันธ์ จากการที่ยวนหลงใหลในสก็อตช์วิสกี้ เขาจึงมีความสุขมากที่ได้แบ่งปันความรู้ ส่วนผสมและเรื่องราวที่พิเศษเกี่ยวกับสก็อตช์วิสกี้ และประเทศสกอตแลนด์ให้ผู้คนได้รับรู้ โดยปัจจุบันได้มาร่วมงานกับดิอาจิโอเป็นเวลา 12 ปีแล้ว
1994 BMW 850CSi 6-Speed นี่คือ rare gems หนึ่งใน 225 คันที่ส่งขายในอเมริกา ถือเป็นรุ่น top-of-the-range ของตระกูล 8-Series หากไม่นับรวม Alpina B12 5.7 ซึ่งต่อยอดมาจาก M8 Prototype ที่ถูกพับโปรเจคไปกลางคัน และคันนี้สั่งคัสตอมพิเศษผ่าน BMW Individual program ภายนอกตัวถังสีฟ้า ภายใน two-tone ฟ้าตัดดำที่หาดูได้ยาก แม้จะใช้ขุมพลังเดียวกับ 850i แต่ผ่านการจูนจนมี output ต่างกันมากจนต้องใช้ engine code ใหม่เป็น S70B56 เพิ่มความจุจาก 5.0 liter เป็น 5.6-liter V12 375 horsepower 550 Nm of torque 0-100 km/h in 5.9
ข้อได้เปรียบที่ผู้ชายทุกคนได้จากการดูภาพยนตร์มันส์ ๆ คือความตื่นเต้นทุกครั้งที่เราเห็นยานพาหนะคันงามของตัวละครหลักในเรื่อง อารมณ์ตื่นเต้นนี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นมาจาก The Fast & Furious แต่พวกเราหลงใหลความงามของรถยนต์ในหนังมาตั้งแต่ James Bond ว่าภาคนี้ 007 จะขับอะไร รวมถึงอีกหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาพยนตร์ดัง รถเลยได้รับความนิยม หรือรถยนต์ดัง เลยยิ่งส่งเสริมให้หนังประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ารถยนต์ 10 คันนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราจดจำได้ไม่แพ้เรื่องราว หรือตัวละครในหนังเลยทีเดียว Eleanor 1967 Shelby Mustang GT500 (Gone in 60 Seconds) หนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับรถซิ่งที่โด่งดังจากยุค 2000 ก่อนตระกูลหนังบ้าพลังอย่าง The Fast & Furious จะถือกำเนิดขึ้นมา พวกเราต้องเคยตื่นเต้นกับรถยนต์สวย ๆ ใน Gone in 60 Seconds นำแสดงโดย Nicolas Cage (Randall
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่วนเวียนอยู่ในแวดวงเพลงร็อก เมื่อเอ่ยคำว่า ‘Industrial Rock’ (อินดัสเทรียลร็อก) ศิลปินคนแรกที่คุณจะนึกถึง คงหนีไม่พ้น Nine Inch Nails หรือ Marilyn Manson สำหรับดนตรีแนวนี้ ถึงจะเป็น Genre ที่แตกแขนงออกมาจากร็อก มีความคล้ายคลึงกับอิเล็กทรอนิกส์ร็อกอยู่หลายประการ แต่ก็ไม่สามารถถูกเหมารวมได้ เพราะดนตรีแนวนี้มีความแปลกแตกต่าง ทั้งในแง่ซาวด์ แนวคิด และประวัติความเป็นมา เอกลักษณ์ของอินดัสเทรียลร็อกคือการหลอมรวมระหว่าง ‘ร็อก’ กับ ‘อิเล็กทรอนิกส์’ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีหัวใจหลักคือความดุดัน ก้าวร้าว และตีแผ่ความไม่น่าอภิรมย์ทั้งหลาย ก่อนหน้าจะมีอินดัสเทรียลร็อก โลกของเรามี ‘ดนตรีอินดัสเทรียล’ แบบดั้งเดิมมาก่อนตั้งแต่ยุค 70’s ถึงแม้จะไม่เกรี้ยวกราดบาดหูเท่า แต่ก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวังมืดหม่นไม่แพ้กัน เพราะอะไรพวกเขาถึงนำเอาความบันเทิงที่ควรจะสร้างความสุข มาถ่ายทอดความอับเฉาของโลกใบนี้เท่านั้น ? กำเนิดดนตรี Industrial ค.ศ. 1970 เมื่อเครื่องซินธิไซเซอร์ คอมพิวเตอร์ และดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เริ่มเข้ามามีบทบาทกับอุตสาหกรรมดนตรี กลุ่มศิลปินทั่วโลกทั้งในและนอกกระแสต่างให้ความสนและนำดนตรีประเภทนี้มาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในแบบฉบับของตัวเอง ‘ดนตรีทดลอง’ หรือที่เรียกว่าแนว avant-garde เริ่มแพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง