นับตั้งแต่การรุกรานของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่นำพาพวกเราทุกคนเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ New Normal มาร่วมปี เชื่อว่าหลายคนคงจะเห็นพ้องต้องกันกับเราว่า คงไม่มีเทรนด์ไหนในยุคโควิดที่ฮิตไปกว่าเทรนด์คนติดบ้าน ไม่ว่าจะทำงาน ช้อปปิ้ง ทานอาหารมื้อโปรด แทบทุกสิ่งล้วนถูกเปลี่ยนให้ทำได้จากที่บ้านทั้งนั้น แม้กระทั่งการออกกำลังกายดูแลรักษาสุขภาพ ในวันที่ยิมปิด ฟิตเนสงดให้บริการ สุดท้ายบ้านที่มีการออกแบบพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง และยืดหยุ่นพร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง ก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็น Home Gym ให้ทุกคนสร้างความฟิตได้จากแทบทุกพื้นที่การอยู่อาศัย และในวันนี้เราจะขออาสาพาไปเปิดไอเดียใหม่ ๆ ว่าพื้นที่ไหนของบ้านที่สามารถเนรมิตเป็นจุดออกกำลังกายได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางไปปรับใช้หาพื้นที่ทำ Home Gym กันที่บ้านของคุณเอง ห้องนอนด้านล่าง ชั้นล่างของบ้านใครมีพื้นที่ห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องนอนรับแขก ในวันที่ไม่ได้มีใครใช้งานพักอาศัย บอกเลยว่าพื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับดัดแปลงเป็น Home Gym ได้ดี เพราะห้องนี้มักจะอยู่ในจุดที่แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในห้อง ให้ความสดชื่น และเป็นส่วนตัวขณะออกกำลังกายได้อย่างดี โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับพื้นที่นี้นั้นเป็นได้ทั้งกีฬาเรียกเหงื่อแบบ High Intensity เช่นการปั่นจักรยานแบบสปินนิ่ง ที่เดี๋ยวนี้มีบริการให้เช่า พร้อมคอร์สเรียนออนไลน์ หรือ จะเป็นแบบ Low Intensity สำหรับสาว ๆ อย่างการออกกำลังพิลาทิส เช่น เครื่อง
“ออกเดินทางตามหาความสุขกันเถอะ” เราเคยเชื่อแบบนั้น ก่อนหน้านี้เราอยู่ในยุคที่ผู้คนเชื่อว่าความสุขไม่ได้เกิดจากสิ่งรอบตัว แต่เกิดขึ้นจากการออกเดินทางเพื่อไขว่คว้าความสุขมาครอบครอง การออกไปจากพื้นที่เดิม ๆ คือการเติมเต็มความสุขและความสนุกที่ขาดหายไป แต่ทันทีที่สถานการณ์ COVID-19 พลิกชีวิตเราทุกคนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม การออกไปแสวงหาความสุขจากที่ไกล ๆ อาจไม่ตอบโจทย์ชีวิต Next Normal อีกต่อไป เราต่างต้องทบทวนชีวิตและวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เมื่อนั้นเราจึงค่อย ๆ เข้าใจว่าการที่เราสามารถมีความสุขโดยไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลต่างหากคือชีวิตสมบูรณ์แบบที่เราต้องการ ความสุขไม่จำเป็นต้องอยู่ไกล แต่อยู่ที่ “บ้าน” การสามารถดื่มด่ำความสุขจากสิ่งใกล้ตัวได้ต่างหากที่เป็นคำตอบที่ผู้คนกำลังตามหา แล้วจะดีแค่ไหนถ้าความสุขที่ว่าไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่เริ่มต้นจาก “บ้านของเรา” เชื่อว่าช่วง Next Normal หลายคนพยายามหาทางปลดล็อกความสนุกจากการใช้พื้นที่บ้านให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครอบคลุมที่สุด เพราะการมองบ้านในมุมใหม่ ลุกขึ้นมาจัดการบ้านในมุมใหม่ จะทำให้เราเข้าใจว่าความสุขไม่จำเป็นต้องอยู่ไกล ถ้าจัดการพื้นที่ในบ้านได้ บ้านก็ต่อยอดความสนุกได้เช่นกัน สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าชีวิตช่วง Next Normal นี้จะเริ่มเติมความสนุกให้บ้านหลังเดิมกลายเป็นความสุขใกล้ตัวหรือทำบ้านให้เป็นมากกว่าบ้านได้อย่างไร UNLOCKMEN อยากชวนให้ลองวิธีต่อไปนี้ “แสงในบ้าน” หัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม งานวิจัย Lighting Psychology: Cognitive and Emotional Responses to Lighting ระบุว่าแสงส่งผลต่ออารมณ์และสมองของเรามากกว่าที่เราคิด ดังนั้นขั้นตอนแรกที่จะเพิ่มความสุขให้บ้านของเรา
“นี่คืองานศิลปะที่คนเข้าไปนอนและอยู่อาศัยได้” คือประโยคไม่ยาวนักแต่หนักแน่นจากปากคุณสรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้อำนวยการฝ่ายคอร์ปอเรท มาร์เก็ตติ้งแห่ง AP Thailand ที่เราจำขึ้นใจ เพราะนี่ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน งานศิลปะในภาพจำของเราทุกคนมักเป็นเรื่องสูงส่งเกินเอื้อมถึง ดังนั้นภาพการอยู่อาศัยและใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ร่วมกับงานศิลปะจึงเป็นภาพที่คล้ายความฝันมากกว่า โชคดีที่ AP Thailand ไม่คิดว่าศิลปะที่ผสานรวมเข้ากับที่อยู่อาศัยเป็นได้แค่ความฝัน AP Thailand จึงร่วมกับศิลปินที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับระดับโลกอย่าง Lucas Price และคู่หู O Terawat-Tarida สร้างสรรค์งาน collaboration สุดพิเศษให้กับคอนโด Life Asoke Hype ภายใต้คอนเซปต์ The DUALITY นิทรรศการที่รวมเอาศิลปะกับพื้นที่อยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว การนอนอยู่บนงานศิลปะจะให้ประสบการณ์แบบไหนกันแน่ ? เราอดสงสัยไม่ได้ และอยากชวนทุกคนมาหาคำตอบกับนิทรรศการ The DUALITY ครั้งนี้ไปด้วยกัน เพราะ AP เชื่อว่าศิลปะต้องอยู่ร่วมกับคนได้จริง “กล้าหาญ” เราอยากมอบคำนี้ให้กับ The DUALITY ตั้งแต่ก้าวแรกที่เท้าย่างเข้าไปในนิทรรศการ ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นงานศิลปะอยู่พ้นไปจากพื้นที่อย่างพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ หรือแกลเลอรี่สักแห่ง แต่ The DUALITY ไม่ใช่แค่แหวกขนบพื้นที่ทางศิลปะ แต่กล้าหาญที่จะก้าวข้ามไปอีกขั้นด้วยการทำศิลปะให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย หรือจริง ๆ
ในวันที่เมืองใหญ่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยคนหลากหลายรุ่น หลายหลากวัย แต่ดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะกลายเป็นขุมพลังงานสำคัญในการขับเคลื่อนสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะพลังความคิดสร้างสรรค์ที่คนรุ่นใหม่เปรียบได้กับตัวแทนแห่งการกล้าคิด กล้าแตกต่าง และกล้าที่จะเป็นตัวเอง การได้เป็นตัวของตัวเองในสายตาคนรุ่นใหม่จึงไม่ต่างจากการปลดล็อกจากกรอบความคิดเดิม ๆ พื้นที่อยู่อาศัยที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่จึงเป็นที่อยู่อาศัยที่คนรุ่นใหม่ต่างฝันถึง บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จึงเตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อยกระดับแบรนด์ ASPIRE คอนโดระดับพรีเมียมที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น ผ่านแคมเปญออนไลน์ ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ร่วมกับ 6 YouTubers ตัวแทนคนรุ่นใหม่เพื่อทำให้เห็นว่าทุกคนสามารถใส่ความเป็นตัวเองลงไปในพื้นที่อยู่อาศัยอย่าง Aspire คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 6 ทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ ได้ ที่สำคัญพื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบของคนรุ่นใหม่ได้ นับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่พิถีพิถัน และเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตได้ครบจบในที่เดียว ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ภายใต้นิยามของคำว่า A.S.P.I.R.E. ซึ่งถูกแตกแนวคิดผ่าน 6 คอนเซ็ปต์ ได้แก่ Active, Social, Perspective, Inspire, Reliability และ Enjoying จึงเป็นตัวแทนพื้นที่อยู่อาศัยของตัวตนคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ACTIVE : Aspire
‘ความเป็นส่วนตัว’ คำนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ แม้พวกเราจะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของสัตว์สังคม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรานั้นต่างต้องการช่วงเวลาสงบ ปลอดภัย ช่วงเวลาที่เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ในมิติที่เรียกว่า ‘พื้นที่ส่วนตัว’ ยิ่งในปัจจุบันที่ผู้ชาย Urabn อย่างเรา ๆ ต้องใช้ชีิวิตท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ ยิ่งต้องการมีเวลาอยู่กับตัวเอง เพื่อพักผ่อนจากความวุ่นวายเคร่งเครียดที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน ซึ่งพื้นที่ส่วนตัวที่หลายคนต่างโหยหา จริง ๆ แล้วมันไม่ได้หายาก หรือต้องลำบากไปเสาะหาที่ไหนไกล เพราะเราสามารถมองหาพื้นที่ชีวิตในอุดมคติ พื้นที่อันสุดแสนจะส่วนตัวได้จากที่บ้านทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่จาก เอพี ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยความเข้าใจในพื้นฐานความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนตัวมากเป็นพิเศษ PRIVACY INTENSITY ปลดปล่อยตัวตนในพื้นที่ส่วนตัว จากการศึกษาจนเข้าใจถึงความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ กลั่นกรองจนกลายเป็น Need Insight ความต้องการที่แท้จริงของคนอยากซื้อบ้าน ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนตัวมากไม่แพ้ปัจจัยด้านทำเล และการเดินทาง เป็นจุดเริ่มต้นให้ เอพี เดินหน้าพัฒนาแบรนด์พรีเมียมทาวน์โฮม บ้านกลางเมือง และ Pleno (พลีโน่) ให้เข้ากับเทรนด์การใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน ด้วยโจทย์ที่ต้องการทำให้บ้านเป็นสถานที่ซึ่งทุกคนสามารถปลดปล่อยตัวตนในพื้นที่ส่วนตัวได้มากที่สุด สู่คำตอบที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Design และ Function ที่สร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยให้ตอบสนองความเป็นส่วนตัวที่มากเป็นพิเศษ กับ Flexible Wall ที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ในบ้านให้กลายเป็น Private Space
อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่า ชีวิตนั้นไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ยิ่งเป็นวิถีชีวิตของ Urban Men ที่ดำรงอยู่ท่ามกลางการผสมผสานของรูปแบบทางสังคมและวัฒนธรรมในเมืองใหญ่อันหลากหลาย รวมถึงการมีเป้าหมายในชีวิตที่ท้าทาย ทำให้มิติชีวิตที่ซับซ้อน ได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว แต่ภายใต้ความแตกต่างหลากหลายนั้นยังมีแกนหลักที่ยึดโยงทุกความต่างเอาไว้ให้เกิดเป็นจุดร่วมเดียวกัน นั่นก็คือความต้องการของเหล่า Urban Men ในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนมุมมองของเป้าหมายในชีวิตใหม่ โดยไม่ได้โฟกัสเพียงแค่เรื่องหน้าที่การงานหรือความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบเต็มที่ ใส่สุด ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องเล่น หรือเรื่องจริงจัง ทุ่มเททำงานหนักหน่วงแค่ไหน ในวันพักผ่อนก็ต้องจัดเต็มไม่แพ้กัน และถ้าจะหาคำมาจำกัดความมุมมองการใช้ชีวิตของเหล่า Urban Men ในยุคนี้ คำที่เหมาะสมที่สุดคงจะเป็นคำไหนไปไม่ได้นอกจากคำว่า “Hype” ที่ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นหูกันในวงการ Sneakers รวมถึงวงการแฟชั่นทั้งหลาย ถึงเรื่องราวของความ Hype หากได้ไอเทมเจ๋ง ๆ มาครอบครอง ซึ่งความหมายที่แท้จริงตรงตัวของคำว่า Hype ในภาษาไทยนั้นเราอาจจะเจาะจงลงไปได้ไม่ชัดเจน แต่มันมักจะถูกนำมาสื่อถึงสิ่งที่น่าตื่นเต้น สิ่งที่โคตรเจ๋ง โดดเด่น และมีความพิเศษสุด ๆ ด้วยเหตุนี้ คำว่า Hype จึงไม่ใช่แค่คำระบุสรรพคุณความสุดยอดของเสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ เพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถสื่อถึงรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โดดเด่น และเป็นที่สุดในทุกด้าน
แม้เรื่องของทำเลจะยังคงเป็นปัจจัยหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย แต่ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างของคนเมืองรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดเป็นความต้องการที่มากกว่าแค่การเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าไลฟ์สไตล์ หากจะต้องลงหลักปักฐานกับที่อยู่อาศัยสักแห่ง แน่นอนว่าจะต้องเป็นที่ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ด้วยความเข้าใจถึง Insight ข้อนี้ ทาง LIFE LADPRAO VALLEY ลักชัวรี่คอนโดมิเนียม จาก AP จึงถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมความตั้งที่จะยกระดับงานดีไซน์คอนโดมิเนียม ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย กับจุดเด่นที่แตกต่าง เพื่อสะท้อนชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น และเต็มเปี่ยมด้วยอัตลักษณ์แห่งบุคคล ซึ่งเกิดจากการสร้างประสบการณ์ที่ไม่จำกัด จากความท้าทายและเรื่องราวประสบการณ์ใหม่ ๆ และพัฒนามาเป็นแรงบันดาลใจให้กับตนเอง ภายใต้การออกแบบแนวคิด ‘Live Your Adventurous Spirit’ ที่พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบให้กับคนเมือง ANNAPURNA SANCTUARY CIRCUIT จุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจ Annapurna Sanctuary Circuit หรือแชงกรีล่าแห่งเนปาล สถานที่ที่ธรรมชาติแสดงพลังงดงามอย่าง น่าเกรงขาม เส้นทางยอดนิยมแห่งเทือกเขาหิมาลัย และเป็นเส้นทางที่คลาสสิคที่สุดเส้นนึงของโลก หนึ่งในความใฝ่ฝันของคนเมืองรุ่นใหม่สาย Adventure ที่ทุกธรรมชาติของขุนเขา จะเป่ามนต์ให้ผู้เดินทางหลงรักด้วยทิวทัศน์งดงามซึ่งไม่อาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ตลอดเส้นทาง ได้พบความหลากหลายของธรรมชาติ ตั้งแต่ป่าเขียวชอุ่มราวกับป่าเขตร้อน แม่น้ำจากหิมาลัย และพรมสีขาวผืนกว้างของทุ่งหิมะ และ Annapurna Sanctuary Circuit
เพราะชีวิตของเรามีหลายด้าน การเลือกบ้านและที่อยู่อาศัยจึงต้องใส่ใจกันมากหน่อย ว่าทำเลที่ตั้งนั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราในทุกแง่มุมหรือไม่ ทั้งการทำงาน การเดินทาง ความสะดวกสบาย และสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยเติมเต็มวันพักผ่อนให้มีความหมาย สนองแนวคิดแบบ Work-Life-Balance ได้ดี องค์ประกอบเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ผู้ชายคนเมืองอย่างเรามองหา เวลาเลือกทำเลที่อยู่อาศัยให้กับตัวเอง และสำหรับสร้างครอบครัว ด้วยความที่ ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เพื่อการดำรงชีวิต ทำให้ปัจจัยในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่แล้วจะพิจารณาถึงความสะดวกในการเข้าถึง, คุณภาพของสิ่งแวดล้อม, ลักษณะที่ดินที่ใช้ในการปลูกบ้านและทำเลที่ตั้ง รวมถึงราคา โดยที่อยู่อาศัยนั้นสามารถตอบสนองมนุษย์ได้ทั้งความต้องการทางร่างกาย, ความต้องการทางสังคม และความต้องการทางจิตใจ มีหลายย่านที่น่าสนใจในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองที่ล้วนกลายเป็นทำเลทองเกือบทุกพื้นที่ ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ จึงขยายตัวไปรอบ ๆ มากขึ้น และเป็นพื้นที่ศักยภาพที่สามารถจับจองการใช้ชีวิตแนวราบในบ้านได้อย่างไม่เหนื่อย หนึ่งในย่านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีก็คือ “ย่านราชพฤกษ์” ทำเลที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มองว่าเป็นทำเลแห่งคุณภาพ หน้าด่านแรกที่รองรับการขยายตัวของเมืองหลวงในอนาคตก่อนใคร ประชากรในพื้นที่ไม่แออัดเนื่องจากการวางแผนรองรับการเติบโตที่รัดกุมกว่า โดยถนนราชพฤกษ์นั้นเชื่อมต่อระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์กับเพชรเกษม เชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯตะวันตกกับใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นจากแหล่งออฟฟิศใจกลางเมืองอย่างสาทร สีลม หรือบางรัก หรือสำหรับใครที่ทำงานอยู่ย่านจตุจักรก็ไปกลับไม่ยาก สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชได้ใน 10 นาที ไม่ไกลอย่างที่เคยคิด และกลายเป็นทำเลยอดฮิตแห่งใหม่เพื่อการอยู่อาศัยไปแล้ว ไม่ใช่แค่คุณภาพของทำเลเท่านั้น การใช้ชีวิตในย่านนี้ก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งบนพื้นที่ที่ห่างไกลความวุ่นวาย รายล้อมไปด้วยสถานที่แฮงเอาท์ อยากจะเดินเล่น หาของกิน มองหาของแต่งบ้าน ใช้เวลากับครอบครัว นัดสาวนัดเพื่อน
สำหรับคนกรุงเทพฯ ทำเลที่อยู่อาศัยเป็นกุญแจสำคัญในการ Balance ชีวิตของ Urban Men อย่างเรา ๆ ที่ต้องเผชิญกับรถติดในเมืองอันวุ่นวาย จนหมดเวลาทำงาน ไม่เหลือเวลาพักผ่อนใช้ชีวิต แน่นอนว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกอยู่คอนโดที่สะดวกสบายในการเดินทาง อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า อยู่ใกล้พื้นที่ไลฟ์สไตล์ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และมีส่วนกลางที่จัดเต็มสะใจ ตอบโจทย์ได้ทุกจังหวะชีวิต บางคนเลือกยอมกัดฟัน จ่ายหนักไปกับที่อยู่อาศัยแบบเกือบหมดหน้าตัก แต่กลับกลายเป็นว่าไม่เหลืองบประมาณเอาไว้เติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้านอื่น ๆ ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องที่ขมขื่นไม่ใช่เล่น แต่ใช่ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางออก ด้วยอานิสงส์จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้มีทางเลือกอีกมากมายสำหรับที่อยู่อาศัยทำเลดี เดินทางสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปยื้อแย่ง จ่ายหนัก จ่ายแพงอะไรขนาดนั้น เพราะแค่เขยิบออกมาหน่อย ก็ยังมีที่อยู่อาศัยคุณภาพดี Facilities จัดเต็ม ในทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกควบคุมเวลาได้ไม่แพ้กัน ถ้ามั่นใจในไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ไอเดียนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เรามีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ มีจุดเด่นน่าสนใจในการใช้ชีวิตมาแนะนำ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับใครที่มองหาคอนโดที่มีส่วนกลางระดับพรีเมียม ทำเลติดรถไฟฟ้าแบบก้าวเดียวถึง Skywalk ส่วนตัว ปลอดภัย สะดวกสบายในราคาคุ้มค่า ไม่ต้องถึงขนาดทุ่มงบแบบเทกระเป๋า เพื่อผ่อนคอนโดเพียงอย่างเดียว สบายตัว สบายใจ สบายกระเป๋า กับโครงการ ASPIRE SATHORN – RATCHAPRUEK
เมื่อพูดถึง เอพี (ไทยแลนด์) เราคิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก และเชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้นภาพของผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นที่รู้จักผ่านคอนโดมิเนียมชั้นนำหลากหลายโครงการ ในส่วนของไฮเอนด์ทาวน์โฮมจากเอพี ภายใต้แบรนด์ “บ้านกลางเมือง” และ “PLENO” (พลีโน่) คืออีกหนึ่งภาพจำของพวกเรา ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงประสบการณ์การพัฒนาทาวน์โฮมระดับมืออาชีพ และความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของเอพี จนสามารถครองใจผู้บริโภคกว่า 50,000 ครอบครัว ภายใต้ความสำเร็จเหล่านี้ คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยหากเราได้เรียนรู้ถึงวิธีคิด รวมถึงกลยุทธ์ที่เอพีดำเนินมาตลอด 25 ปีเพื่อนำมาเป็นแนวทางปรับใช้ในการทำงาน การทำธุรกิจของตัวเองบ้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง เอพี (ไทยแลนด์) เกี่ยวกับเคล็ดลับในการก้าวสู่ความสำเร็จ จนเรียกได้ว่าเป็น NO.1 TOWNHOME หรืออันดับหนึ่งของผู้พัฒนาทาวน์โฮมในประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่ตัวแทนของเอพีบอกเล่าให้เราฟังไม่ได้เป็นกลยุทธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่สิ่งที่ทำให้ เอพี (ไทยแลนด์) นั้นมีความแตกต่างเหนือคู่แข่งจนก้าวมายืนอยู่แถวหน้าของวงการผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นแค่คำง่าย ๆ สามพยางค์ที่เรียกว่า “ความเข้าใจ” ที่แม้จะฟังดูง่าย แต่กว่าที่จะเข้าใจอะไรได้อย่างลึกซึ้งนั้นต้องใช้ทั้งเวลา และความทุ่มเทเป็นอย่างมาก โดย “ความเข้าใจ” ในมุมมองของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเอพี คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมถึง Lifestyle ที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาการออกแบบสเปซ ที่ไม่ได้ตอบโจทย์เพียงแค่มิติเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานเท่านั้น