เมื่อพูดถึงวิถีคนเมืองในปัจจุบัน นอกจากความเรื่องของความสะดวกสบายทันสมัย เราเชื่อว่าสิ่งแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคือความเร่งรีบที่ต้องเผชิญเป็นกิจวัตร ที่อยู่อาศัยทำเลดีมีจำกัดและราคาสูง ด้วยอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วของชุมชน ก่อให้เกิดสิ่งปลูกสร้างมากมายเพื่อรองรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของประชากรที่หลั่งไหลกันเข้ามาทำงาน ศึกษาต่อ ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งโอกาส แต่ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นอีกมากมายแค่ไหนก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าเราทุกคนต่างก็ยังคงต้องอยู่รวมกันภายใต้พื้นที่ซึ่งมีอาณาเขตทางภูมิศาสตร์ที่ตายตัวไม่สามารถขยายพื้นที่ออกไปได้ตามอำเภอใจ ซึ่งข้อจำกัดทางด้านพื้นที่เหล่านี้ คือโจทย์สำคัญของดีไซน์เนอร์ในการออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่อันจำกัดได้สูงสุด และโจทย์ข้อนี้คือสิ่งที่จุดประกายให้กับ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ FABRICA (แฟบริก้า) ดีไซน์สตูดิโอชื่อดังจากประเทศอิตาลี นำเสนอวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่แห่งอนาคต และร่วมคิดค้นนวัตกรรมพื้นที่ที่สาม ที่เกิดจากการทับซ้อนทางดีไซน์จนเกิดเป็นพื้นที่ซึ่งมีมิติของประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้น นำไปสู่วิถีการอยู่อาศัยแห่งศตวรรษใหม่ โดยนำเสนอผ่านโปรเจคต์พิเศษเพื่อสังคมที่ชื่อว่า AP SPACE SCHOLARSHIP ซึ่งถือเป็นครั้งแรกกับการให้ทุนการศึกษาที่เป็น ‘ที่พักอาศัย’ พร้อมจัดแสดงแนวคิดงานดีไซน์ที่ทำลายกรอบความคิดการออกแบบเดิม ๆ ให้ผู้ที่สนใจในงานดีไซน์ได้สัมผัสในนิทรรศการ ‘Spaces within Space, A Vision of Co-Living Generation’ ซึ่งจัดขึ้นที่ Wolf Pack Space ศาลาแดง เมื่อวันที่ 22 – 26
ท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร ต้องยอมรับว่าที่อยู่อาศัยถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สามารถกำหนดรูปแบบจังหวะชีวิตของคนเมืองอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบวิถีชีวิตหลักของผู้คนส่วนใหญ่ ที่หลีกหนีการเดินทางเข้าเมืองได้ยาก ด้วยภารกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ที่ยังไงก็เลี่ยงการเข้าไปใช้ชีวิตซึ่งมี Lifestyle ผูกอยู่กับห้างสรรพสินค้า ร้านรวง รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองไม่ได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากหาที่อยู่อาศัยที่มีพิกัดอยู่ใจกลางเมือง หรือมีทำเลใกล้กับรถไฟฟ้า เพื่อให้จังหวะชีวิตที่รีบเร่งเคร่งเครียดนั้นผ่อนคลายลง กับการเดินทางในเมืองที่สะดวกสบาย สามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมถึงกำหนดเวลาวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น และเมื่อมีความต้องการสูง แน่นอนว่าราคาค่างวดของพื้นที่ Prime Area ที่มีค่ายิ่งกว่าทองเหล่านั้น ต่างถูกจับจองไปพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมน้อยใหญ่ ที่มีราคาต่อตารางเมตรโหดใช่ย่อย ยิ่งในพื้นที่แถบสีลม, สาทร, พระราม 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ CBD ศักยภาพสูงยิ่งไม่ต้องพูดถึง กับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของคอนโด Hight Rise แนวรถไฟฟ้า ที่ราคาทะลุ 1.5 แสนบาท ไปจนถึง 4 แสนบาท แล้วแต่ความหรูหราไฮโซของโครงการ ทำให้ใครที่วางแผนอยากมีคอนโดใจกลางกรุงใกล้รถไฟฟ้า อาจต้องถอดใจ ถอยไปมองหาทำเลในซอย หรือถอยไปไกลหน่อยในทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่จริง ๆ
ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนมิลเลนเนียล (Millenials) หรือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงยุค 1980s ไปจนถึงช่วงก่อนยุค 2000s ที่เรียกได้ว่ามีชีวิตเติบโตขึ้นมาในช่วงเปลี่ยนผ่านสหัสวรรษ คือกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญ เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมเมืองในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภาพใหญ่ของประชาคมโลก นอกจากภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่มากความสามารถซึ่งค้นหาลู่ทางสร้างความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง กลุ่มคนมิลเลนเนียลเหล่านี้ยังได้ทำให้นิยามของความสำเร็จเปลี่ยนไปจากอดีต จากที่คนยุคก่อนเคยให้ความสำคัญกับรายได้ รวมถึงตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นหลัก แต่กลุ่มคนมิลเลนเนียลที่แม้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการเลือกทำอะไรด้วย Passion มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง และพร้อมจะทุ่มเทเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการมี Work-Life Balance ที่ดี มากกว่าการมีชื่อเสียงและเงินทอง อ้างอิงได้จากผลการศึกษาแนวคิดอุปนิสัยใจคอของกลุ่มคนมิลเลนเนียล โดยสถาบัน INSEAD Emerging Markets Institute, HEAD Foundation ร่วมกับ Universum ที่ได้ทำแบบสอบถามประชากรกลุ่มเป้าหมายกว่า 16,000 คน จาก 43 ประเทศทั่วโลก จนได้ข้อสรุปที่ว่า 73% ของกลุ่มคนมิลเลนเนียล เลือกที่จะมีสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิตที่ดีมากกว่าเลือกมีรายได้สูง ๆ (Source : http://bit.ly/2gtlg3j) ข้อมูลข้างต้นถือเป็นสิ่งสะท้อนมุมมองความสำเร็จที่เปลี่ยนไปของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะจริง ๆ แล้ว ความสำเร็จที่พวกเขาต้องการไขว่คว้านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่มันคือความสำเร็จในการได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เพราะแนวโน้มมีคนทั่วโลก รวมถึงคนไทย “หัวใจอ่อนแอ” เพิ่มขึ้นทุกปี… ไม่ใช่เพราะอกหัก รักคุด ชีวิตสุดดราม่าแต่อย่างใด แต่หัวใจอ่อนแอนี้ เป็นเพราะเดินไปฟิตเนสยากกว่าเดินไปยืนรอคิวร้านชาบู หรือ นั่งทำงานติดโต๊ะ ไม่ค่อยลุกเดินไปไหน พอเครียดก็สูบบุหรี่ให้รีแลกซ์สักมวนสองมวน หรือไม่พวกเครียดก็ไปลงกับการกินไม่ยั้ง หรือแบบพวกมือไม้สั่นน้ำลายสอเมื่อเห็นชีสยืด ๆ หมูสามชั้นที่ปิ้งย่างกรอบ ๆ ไข่ปูดองสุดฟิน มันกุ้งเผาเยิ้ม ๆ หมึกนึ่งมะนาวเนื้อเด้ง ๆ แซ่บ ๆ หรือไก่ทอดกรอบฟินที่ตรงหนัง ด้วยพฤติกรรมที่ว่ามาคือใช่เกือบทั้งหมด แทบจะฟันธงได้ว่าคุณเป็นพวกหัวใจอ่อนแอแน่ ๆ ยิ่งถ้ามีอาการเคยเจ็บแปล๊บคล้ายของแหลมทิ่มแทง หรือรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก แน่นกลางอกเหมือนมีของหนักทับอยู่ แต่ไม่ใช่กรดไหลย้อน คือยิ่งใช่เลย เราขอต้อนรับคุณสู่สมาชิกชมรมคนหัวใจอ่อนแอ 1 ใน 2.6 แสนคนทั่วไทย สถิติล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขไทยพบว่า โรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยจากโลกนี้ไปเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน หรือปีละกว่า 54,000 คน กลายเป็นสาเหตุการตายของคนไทยเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุด้วยซ้ำ ในบรรดาสาเหตุการสูญเสียของคนไทยทั้ง 3 อันดับ โรคหัวใจขาดเลือดนับเป็นสาเหตุที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันฉุกเฉินขึ้นมาแล้ว มีโอกาสรอดมากกว่า
เมื่อพูดถึงสาเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี หลายคนคงนึกถึงการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคมะเร็ง ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เพราะโรคมะเร็งคือสาเหตุหลักอันดับหนึ่งในการเสียชีวิตของประชาชนคนไทย ตามมาด้วยอันดับสองคือการเสียชีวิตเนื่องด้วยอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้บ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยที่สูงเป็นอันดับสาม ซึ่งอันตรายไม่แพ้กัน นั่นก็คือการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยสิ่งที่น่ากังวลคือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เมื่อหัวใจหยุดเต้น จะไม่มีเลือดเดินทางไปเลี้ยงอวัยวะใด ๆ ในร่างกาย ทำให้สมองหยุดทำงานทันที และจะหมดสติภายในเวลา 10 วินาที โดยไม่ทันได้รู้ตัว ไม่ทันได้ขอความเชื่อเหลือใคร ๆ อย่างที่เคยได้เห็นในคลิปภาพข่าว ที่แม้แต่ผู้ซึ่งออกกำลังกายดูแลสุขภาพอยู่สม่ำเสมอ วิ่งลู่ในฟิตเนสอยู่ดี ๆ ก็ยังเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล้มตึงหมดสติจนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา สรุปออกมาเป็นสถิติที่น่าตกใจว่า แต่ละปีมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 54,000 คน เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตมากถึงชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เมื่อผู้ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเกิดอาการหมดสติ หากได้รับการทำ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพ หรือการปั๊มหัวใจด้วยมือ) ภายใน 4 นาที จะมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ที่ 27% และถ้าบริเวณนั้นมีเครื่อง AED (เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ) สำหรับใช้ในการทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง
เหตุผลหลัก ๆ ในการเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นทำเลที่ตั้งซึ่งต้องรองรับการเดินทางที่สะดวก เพราะวิถีชีวิตในแต่ละวันล้วนแล้วแต่มี Lifestyle ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ทำให้คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าคือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้คนซึ่งต้องการมี Urban Lifestyle ที่ลงตัว แต่ต้องยอมรับว่าคอนโดมิเนียม ทำเลรถไฟฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองนั้น มีข้อจำกัดในเรื่องเพดานราคา และพื้นที่ใช้สอย ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะเป็นเจ้าของคอนโดกว้างขวาง มีที่จอดรถส่วนตัวแบบไม่ต้องจอดซ้อนคัน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นสังสรรค์ เอาไว้นั่งเล่นเกม ดูหนัง สร้าง Men Cave ไว้รอต้อนรับเพื่อนฝูง หรือพื้นที่ตั้งโชว์ของสะสมเท่ ๆ เก๋า ๆ โดยที่ไม่ต้องซุกไว้ในตู้ รวมถึงใครที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงาน แล้วต้องการคอนโดกว้าง ๆ เพื่อรองรับการขยับขยายครอบครัวในอนาคต ในงบประมาณที่คนทำงานอย่างเรา ๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ ผ่อนสบาย ไม่ต้องแบกภาระหนักจนหน้ามืดทุกเดือน ทางออกของการหาที่อยู่อาศัยซึ่งตอบโจทย์ด้านพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ มีโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก รวมถึงราคาที่เหมาะสม ไม่พุ่งทะลุไปถึงตารางเมตรละหลายแสน เหมือนคอนโดหรูติดรถไฟฟ้าใจกลางมหานคร คงหนีไม่พ้นทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอบนอกถัดออกมาจากย่านใจกลางเมือง ที่ถึงแม้จะไม่ติดรถไฟฟ้าแบบเดินชิลล์ ๆ ไม่ทันได้เมื่อย
หลังจากที่ UNLOCKMEN ได้นำผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสกับนิยามความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ ใน Article ก่อนหน้านี้ ที่ว่าด้วยเรื่องของความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ความเป็นที่สุดทางด้านธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่การบาลานซ์ชีวิตได้อย่างสมดุล พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังคงให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เพื่อเติมเต็มความสุขในพาร์ทของชีวิตส่วนตัว ถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่เหล่าผู้บริหารรุ่นใหม่มองว่า สามารถผลักดันให้ได้พบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง และยั่งยืน และในวันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ กับมุมมองความสำเร็จจาก 2 วงการธุรกิจ ที่เกิดจากการต่อยอดแนวคิดที่ได้จากการสังเกตไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และคนรอบข้าง นำมาพัฒนาจนเป็นรูปแบบที่ธุรกิจซึ่งช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์แปลกใหม่ไม่หยุดนิ่ง รวมถึงธุรกิจที่อาศัยการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับคุณค่าดั้งเดิมจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนยุคใหม่ เริ่มต้นจากมุมมองของ ปรางค์ – อภินรา ศรีกาญจนา ทายาทคนสวยของ บริษัท เอเชียประกันภัย ผู้ที่พิสูจน์ศักยภาพตัวเอง ด้วยการปลุกปั้นธุรกิจ startup ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนสายปาร์ตี้อย่าง U Drink I Drive บริการพนักงานขับรถส่วนตัว ที่จะพาคุณและรถส่วนตัวของคุณกลับบ้าน โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นหลัก เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบัน “เราอาจเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ของคนเมืองไม่ได้ แต่เราสามารถเพิ่มทางเลือกด้วยบริการที่ทำให้ชีวิตพวกเค้าดีกว่าหรือปลอดภัยกว่าได้” เชื่อไหมว่าด้วยนิสัยและทัศนคติคนไทยบางคนชอบมองว่าเมาแล้วขับรถกลับบ้านเองได้เป็นเรื่องเท่ แต่จากสถิติประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการโดนคนเมาขับรถชนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ปรางค์มองว่าเราควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนแล้วประกันค่อยเข้าไปดูแล เราเลยคิดว่าควรเพิ่มทางเลือกให้กับคนเมืองเหล่านี้ ด้วยอะไรที่ทำให้เค้ารู้สึกปลอดภัยและก็ไม่ได้ทำให้เค้ารู้สึกเชยด้วย ซึ่ง U Drink
แม้สัญชาตญาณในตัวผู้ชายที่เดือดพล่านจะผลักดันให้เราใช้ชีวิตแบบบุกเดี่ยว WORK HARD PLAY HARD มาโดยตลอด แต่เมื่อเดินทางมาถึงจุดหนึ่งที่ชีวิตต้องการการเติมเต็ม เมื่อถึงจุดที่คำว่า “ครอบครัว” ค่อย ๆ ปรากฏตัวเข้ามาในห้วงความคิด ผู้ชายอย่างเราก็ย่อมรู้ดีว่าความต้องการของเราคนเดียวแบบตะลุยเดี่ยวอย่างที่เคยทำมาอาจไม่ใช่คำตอบ “เพราะครอบครัวคือความเข้าใจ” พื้นที่ของครอบครัวจึงไม่ได้สร้างขึ้นมาจากความต้องการของผู้ชายอย่างเราคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นการเติมเต็มพื้นที่แห่งความรัก ความสุข และเสียงหัวเราะร่วมกันของคนสองคนให้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นความต้องการของผู้หญิงข้างกายเราจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้หญิงยุคใหม่ที่ทั้งฉลาด ทั้งเก่ง ทั้งเต็มไปด้วยความคล่องตัว ไม่ใช่ว่าใครหรืออะไรจะมาเติมเต็มเธอได้ง่าย ๆ ยิ่งทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์เธอได้อย่างถึงแก่นมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเติมเต็มพื้นที่ชีวิตและความเป็นครอบครัวของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติมากเท่านั้น MODERN WOMAN IS SMART AND MULTITASKING ภาพผู้หญิงซักผ้า ทำกับข้าว ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านในหัวผู้ชายอย่างเราอาจจะจางลงทุกที ๆ เพราะไลฟ์สไตล์ผู้หญิงยุคใหม่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับความเป็นแม่บ้านอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ผู้หญิงยุคใหม่นั้นบางวันก็สะพายกระเป๋าออกไปผจญภัยในโลกกว้าง บางวันก็ลุกขึ้นมาทำอาหารให้เราได้ชิม เก่งกาจทั้งงานในบ้านและนอกบ้านจนผู้ชายอย่างเราอดอ้าปากค้างไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่ WORK HARD PLAY HARD แต่ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ก็เต็มที่กับทุกความหลากหลายในชีวิตไม่แพ้ผู้ชายอย่างเรา งานวิจัยจาก Grant Thornton เปิดเผยว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราเพิ่มของผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงขึ้นมากกว่าหลายภูมิภาค โดยจำนวนผู้หญิงในประเทศไทยที่รับตำแหน่งผู้บริหารมีมากถึง 31% ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3