หนุ่ม ๆ ผู้เป็นสาวกของมหากาพย์ภาพยนตร์อย่าง Star Wars คงเนื้อตัวสั่นกันถ้วนหน้า เมื่อมีข่าวว่าจะมีงานประมูลของชิ้นสำคัญจากหนังภาค The Empire Strike Back แถมยังเป็นชุดที่ใช้ถ่ายทำของตัวละครในตำนานอย่าง Darth Vader อีกด้วย WONDERS OF THE GALAXY งานประมูลเกี่ยวภาพยนตร์ Sci-fi ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ Bonham ผู้จัดประมูลชื่อดังและ Turner Classic Movie จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมที่กำลังจะมาถึงโดยไฮไลต์ของงานที่ทุกคนสนใจคือของโคตรแรร์จากภาพยนตร์ Star Wars จากภาค The Empire Strike Back (1980 ) ของชิ้นที่ว่าคือชุดของ Darth Vader ที่ใช้สวมใส่เข้าฉากจริงโดย David Prowse ตลอดการถ่ายทำโดยหลังจากการถ่ายทำชุดนี้ไม่เคยถูกย้ายออกจากกล่องบรรจุอีกเลย ภายในชุดประกอบไปด้วยเครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายชิ้น ตั้งแต่หน้ากากและหมวกครอบด้านบนลงมาสู่ส่วนลำตัวที่ประกอบไปด้วยเสื้อด้านใน-นอก แผงวงจรและเกราะโลหะในส่วนหัวไหล่และแขน รวมไปถึงถุงมือและรองเท้า 3 คู่ที่เขียนไว้ว่า MR PROWES สภาพความสมบูรณ์และเรื่องราวของมันทำให้ชุดนี้มีราคาเริ่มต้นไว้ที่ประมาณ
สภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบันนั้นแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ดิจิทัลเอเจนซี่และสตาร์ตอัพค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดความสำเร็จไปทีละขั้น ในขณะที่มีบริษัทใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดก็ทำเอาโฮมออฟฟิศทวีความนิยมเพิ่มขึ้นตามมา ยิ่งไปกว่านั้นหลากหลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับออฟฟิศแบบเปิดโล่งโดยหวังจะสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับพนักงาน เติมรสชาติความสนิทสนมและนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่ราบรื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วออฟฟิศแบบโล่ง ๆ มันดีจริงเหรอ? ถ้าเราจะบอกว่าออฟฟิศแบบเปิดโล่งก็ส่งผลเสียไม่น้อยต่อคนทำงานอย่างเรา ๆ ล่ะ? ออฟฟิศเปิดโล่งไม่ได้ดีเสมอไป จริงอยู่ที่การทำงานในออฟฟิศเปิดโล่งทำให้เราได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ระดมความคิด และช่วยลดความเคร่งเครียดในการทำงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครหลายคนก็ต้องการใช้สมาธิเหมือนกัน บ่อยครั้งที่จะจดจ่ออยู่กับงาน ก็มักจะมีอะไรมาคอยกวนใจอยู่เสมอ มีงานวิจัยเผยว่าพนักงานต้องเสียเวลากว่า 28% จากการหยุดชะงักและถูกรบกวนในขณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงเอะอะโวยวาย หรือแม้แต่เสียงของเพื่อนข้าง ๆ ที่ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ไม่เพียงแต่จะลิดรอนความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย Dorota Węziak-Białowolska, Zhao Dong และ Eileen McNeely 3 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสำรวจพนักงาน 456 คน ที่ทำงานในบริษัทสถาปัตยกรรม 20 แห่งของสหรัฐฯ แล้วได้ข้อสรุปว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบทำงานในออฟฟิศแบบเปิดโล่ง เพราะขาดความเป็นส่วนตัว เหมือนถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ มิหนำซ้ำเสียงจากการพูดคุยก็ยิ่งทำให้รู้สึกประสาทเสียและทำให้ความสามารถในการทำงานถดถอย จะเป็นอย่างไร ถ้าในออฟฟิศมีพื้นที่ส่วนตัว Foster + Partners บริษัทชั้นนำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการออกแบบสถาปัตยกรรม
สำหรับผู้ชายอย่างเราเพียงแค่ได้เห็นรถยนต์คันที่ชอบ รุ่นที่ใช่ขับเคลื่อนผ่านไปก็ทำให้หัวใจพองโตได้แล้ว แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบยานพาหนะเป็นทุนเดิม แล้วยังหลงใหลภาพยนตร์หมดหัวใจ เราเชื่อว่านิทรรศการอย่าง Hollywood Dream Machines จะทำให้คุณกลับไปตื่นเต้นเหมือนเด็กอีกครั้งได้แน่นอน เพราะที่นี่รวมเอายานพาหนะที่เราต้องอ้าปากค้างจากภาพยนตร์เรื่องที่เราเคยเสพมาไว้ให้อย่างจุใจ The Petersen Automotive Museum หนึ่งในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นหัวเรือหลักในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ขึ้น โดยร่วมมือกับ Comic-Con เพื่อนำเสนอนิทรรศการจัดแสดงพาหนะที่มาจากโลกภาพยนตร์ในชื่อ “Hollywood Dream Machines : Vehicles of Science Fiction and Fantasy” ในนิทรรศการมีรถในตำนานมากกว่า 40 คันจากภาพยนตร์ที่หลายคนต้องคุ้นตามากกว่า 20 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Back to the Future, Batman, Star wars, Blade Runner, Transformers และ Mad Max : Fury Road รวมถึงหนังของค่ายซูเปอร์ฮีโร่ทั้งค่าย Marvel และ
“คิดจะพัก คิดถึงสีฟ้า” ประโยคนี้ไม่ใช่ประโยคโฆษณาร้านอาหารอีกต่อไป แต่เรากำลังหมายถึง “สีฟ้า” ที่เป็นสีจริง ๆ เพราะ G.F. Smith. บริษัทผลิตกระดาษเขาเพิ่งประกาศให้สีฟ้าเฉด “Navy Blue” เป็นสีที่สร้างอารมณ์ผ่อนคลายมากที่สุดในโลกรองจาก เทอร์ควอยส์ และสีชมพู ความจริงที่ว่าสีสัมพันธ์กับอารมณ์ พูดไปแล้วฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็คงรู้ เพราะถ้าเข้าคลาสศิลปะเขาก็สอนเรื่องทฤษฎีสีมานานแล้วว่า สีแบ่งเป็นสีร้อน สีเย็น โทนสีเย็นก็เป็นสีที่ทำให้ผ่อนคลาย เหมาะจะเอามาตกแต่งบ้าน แต่ภายในกลุ่มสีเย็นก็มีอีกหลายสี ทั้งเขียว น้ำเงิน หรือม่วงและเหลืองที่อยู่ในโทนสีกลางระหว่างสองฝั่ง แต่สีไหนล่ะที่ทำให้เราผ่อนคลายที่สุด เรื่องนี้เรายังไม่เคยเห็นใครลุกมาวิจัยหาเฉดสีกันจริงจัง G.F. Smith. ร่วมมือกับ University of Sussex ค้นหาเฉดสีที่ให้ความสงบผ่อนคลายกับมนุษย์มากที่สุด โดยกำหนดผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยครั้งนี้ไว้มากกว่า 26,000 คนจากหลายประเทศ ทำแบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่สัมพันธ์กับสีที่มองเห็น ด้วยการสอบถามเกี่ยวกับสีที่พวกเขาชื่นชอบ อย่างเช่น เราชอบสีขาว เขาก็จะทำแบบสอบถามรื้อหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงชอบมันและรู้สึกอย่างไรกับมัน Anna Franklin ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก University of Sussex กล่าวถึงการวิจัยว่าสีมักสัมพันธ์กับอารมณ์ เชื่อมโยงกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อื่น ๆ อย่างความสงบ
เป็นเวลากว่า 20 ปี แล้วที่แบรนด์ของเล่นตัวต่อชื่อดัง Lego ร่วมงานกับภาพยนตร์อวกาศ Sci-fi Fantasy ในตำนานอย่าง Star Wars และเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองจึงทำให้ทาง Lego เผยรายละเอียดตัวต่อคอลเลกชันพิเศษและวันวางจำหน่ายของชุดตัวต่อยานอวกาศ Tantive IV ออกมาเป็นที่เรียบร้อย แฟนคลับภาพยนตร์ Star Wars จะต้องเคยเห็นยานอวกาศที่รูปทรงคล้ายกับฉลามหัวค้อนที่ชื่อว่า Tantive IV กันแน่นอน ฉากที่น่าจดจำคือการปรากฏตัวในฉากแรกของ Star Wars: A New Hope ที่ฝ่ายจักรวรรดิได้บุกเข้ามาจับตัวเจ้าหญิงเลอา คุณสมบัติของ Tantive IV สามารถทำความเร็วในชั้นบรรยากาศสูงสุด 950 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเกราะสะท้อนแบบหนา และมี Hyperdrive Class 2.0 เร็วเท่ากับยาน Star Destroyer ของฝ่ายจักรวรรดิและสร้างขึ้นโดยบริษัทเดียวกันกับยาน Millenium Falcon ของ Han Solo ยานอวกาศ Tantive IV ไม่ได้มีไว้สำหรับกองกำลังฝ่ายต่อต้านเท่านั้นแต่ทางฝั่งจักรวรรดิก็นำยานนี้ไปติดอาวุธเพิ่ม รวมถึงกลุ่มโจรสลัดอวกาศ นักลอบขนสินค้าเถื่อน
นอกจากงานออกแบบใหม่และนวัตกรรมสมัยใหม่ในรองเท้าที่ค่อยขับเคลื่อนวงการสนีกเกอร์ในพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องแล้ว มนต์เสน่ห์จากรองเท้ารุ่นเก๋าในอดีตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ชายผู้รักรองเท้าทั้งหลายหลงใหลไม่แพ้กัน ทั้งจากรูปทรง ดีไซน์ และเรื่องราวเฉพาะตัวที่มีอยู่ในรองเท้าแต่ละคู่ ย้อนเวลากลับไปในช่วงทศวรรษ 1990 เป็นเวลาเดียวกันกับที่บริษัทอย่าง Apple ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแสดงผลแบบจอสีออกมาวางขายเป็นครั้งแรก ครั้งนั้นพวกเขาเฉลิมฉลองมันด้วยการออกแบบรองเท้าจากวัสดุหนังสีขาวล้วน ที่ตกแต่งด้วยโลโก้สีรุ้งของบริษัทไว้ในส่วนลิ้นและด้านข้างของตัวรองเท้า จากนั้นได้นำไปผลิตและแจกจ่ายให้เฉพาะในกลุ่มพนักงานของบริษัท ทำให้มันกลายเป็นแรร์สนีกเกอร์ที่ไม่เคยมีใครเคยมีโอกาสสัมผัสมาก่อน แต่ภายหลังรองเท้าคอลเลคชันนี้จำนวน 1 คู่ถูกขายต่อให้กับ BitRebels และถูกประกาศขายบนเว็บไซต์ eBay ในปี 2007 ในราคาเพียง 79 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 2,500 บาทเท่านั้น แม้รองเท้าตำนานของ Apple จะหายไปพร้อมกับ BitRebels ด้วยราคาเพียงไม่ถึง 3,000 ในยุคนั้น และเริ่มซาความนิยมในวงการสนีกเกอร์ แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา (2017) การหวนกลับมาคืนจอประมูลอีกครั้งใน Beverly Hills ด้วยสภาพสุดเนี้ยบ สะอาดหล่อและยังขาวใส ก็เด้งราคาเริ่มต้นการประมูลของมันขึ้นมาจากตอนประกาศขายใน eBay ถึง 190 เท่า (15,000$) ก่อนแย่งกันเคาะแล้วปิดลงด้วยราคาถึง 30,000$ หรือประมาณ 950,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในต้นแบบรองเท้าที่คนตามหามากที่สุด จนล่าสุดมีงานออกแบบรองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมันอีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคิดและจินตนาการของเด็กมักสร้างสรรค์สิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราคิดไม่ถึงขึ้นมาบ่อยครั้ง ไม่ต่างจากครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในวงการนาฬิกา เมื่อเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มตั้งคำถามง่าย ๆ จนทำให้เกิดคอนเซ็ปต์ดีไซน์นาฬิกาแบรนด์ Rolex ที่รับแรงบันดาลใจจาก Sprite น้ำอัดลมชื่อดังมาอยู่บนนาฬิกาข้อมือ แฟนคลับนาฬิกา Rolax คงไม่มีใครไม่รู้จักกับนาฬิกาข้อมือตระกูล GMT ที่โดดเด่นด้วยสีสันของขอบนาฬิกาไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน-แดง จนทำให้หลาย ๆ คนเรียกนาฬิการุ่นดังกล่าวว่า Pepsi นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น GMT-Master II ที่ใช้สีดำ-แดง ตกแต่งบริเวณขอบและถูกเรียกว่ารุ่น Coke Hodinkee เว็บไซต์ที่คล้ายกับเป็นแหล่งนัดพบของผู้หลงใหลนาฬิกาจากทั่วโลกได้แนวคิดที่น่าสนใจจากเด็กชายอายุ 8 ขวบที่ชื่อว่า Zahid Ali โดยเด็กคนนี้คือลูกชายของผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ของ Hodinkee ที่สงสัยว่าเมื่อ Rolex มี Pepsi กับ Coke แล้วทำไมถึงไม่ดึงสีสันสดใสของน้ำอัดลมกลิ่นมะนาวมาอยูบนนาฬิกาข้อมือบ้าง เมื่อเด็กน้อยคิดได้อย่างนั้นเขาจึงไม่รอช้า วาดภาพออกมาให้คนอื่นเข้าใจมากยิ่งขึ้นโดยการร่างแบบนาฬิกาพร้อมแต้มสีที่เขาต้องการลงบนกระดาษ และผลที่ออกมาต่างก็ทำให้นักออกแบบของ Hondinkee ถูกอกถูกใจไอเดียของ Zahid และดีไซน์ให้ดียิ่งขึ้นจนเห็นภาพจริง ๆ ครึ่งบนใช้สีเขียวมะนาวและครึ่งล่างใช้สีเหลืองของเลม่อน จับคู่กับหน้าปัดสีดำวาวที่ส่งให้สีตรงขอบนาฬิกาโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมกับจุดบอกเวลาสีขาว และก้านเข็มวินาทีจะใช้เขียวที่มีส่วนหัวลูกศรเป็นสีเหลืองเหมือนกับขอบนาฬิกา ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนาฬิกา Rolex ที่ถูกเรียกว่า Sprite
เราทำอะไรกับรองเท้าที่ซื้อมาสวมใส่กันบ้างหลังจากที่มันหมดสภาพใช้งานไปแล้ว วางทิ้งไว้ ส่งซ่อมหรือซื้อคู่ใหม่มาทดแทนเพราะยังไงตลาดรองเท้าที่ขยายใหญ่มากขึ้นทุกวัน ก็ทำให้หนุ่ม ๆ มีสนีกเกอร์มากมายให้เลือกสรรเป็นคู่ใหม่ แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีรองเท้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาทำรองเท้าคู่ใหม่ได้โดยไม่ต้องใช้วัสดุที่มีผลกับธรรมชาติ รองเท้าหลายหมื่นคู่ทั่วโลกหลังใช้งานและกลายสภาพเป็นขยะที่ไม่มีใครต้องการ ถูกกำจัดด้วยวิธีฝั่งกลบไม่ก็เผาทำลายซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นด้านขยะมูลฝอยและมลพิษในอากาศ เรื่องราวเหล่านี้เองที่ทำให้แบรนด์กีฬาอย่าง Adidas หันมาผลิตรองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดในชื่อ FUTURECRAFT.LOOP ซึ่งเป็นรองเท้าในสายการผลิตใหม่ล่าสุดจาก Adidas ที่วันนี้พวกเขาไม่ได้มานำเสนอระบบรองเท้าใหม่ แต่เป็นการผลิตรองเท้าที่สามารถนำทุกชิ้นส่วนกลับมารีไซเคิลได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับผลิตรองเท้าคู่ใหม่ได้อีกด้วย แนวทางของ FUTURECRAFT.LOOP คือการผลิตรองเท้าหนึ่งคู่จากวัสดุชิ้นเดียวไม่ว่าจะเป็นส่วนอัปเปอร์ มิดโซล เชือกและพื้นรองเท้า โดยทั้งหมดทำจากวัสดุที่เรียกว่า Thermoplastic Polyurethane (TPU) ที่ทางแบรนด์พัฒนาร่วมกับ BASF ซึ่งมันถูกผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล ก่อนจะทำมาประกอบให้กลายเป็นส่วนต่าง ๆ ในรองเท้าคู่สมบูรณ์โดยไม่มีการใช้กาวเชื่อมต่อแม้แต่หยดเดียว นอกจากนี้ผู้สวมใส่สามารถส่งรองเท้าหลังจากไม่ต้องการใช้งานแล้วให้แบรนด์ ก่อนพวกเขาจะนำมาหลอมด้วยความร้อนและแปรรูปเป็นวัสดุสะอาดและสดใหม่สำหรับผลิตรองเท้าคู่ต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามแม้วัสดุทั้งหมดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์จะเป็นสัดส่วนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของรองเท้าคู่ใหม่เท่านั้น แต่การพัฒนาในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับวงการรองเท้าและคนที่รักรองเท้าด้วย เพราะต่อไปทางค่ายรองเท้าทั่วโลกอาจหันมาใช้วัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นซึ่งผลประโยชน์ก็ตกมาอยู่ที่พวกเราทุกคน SOURCE 1
ในยุคที่แบรนด์นาฬิกาต่างผลิต Smartwatch ออกมามากมาย แต่แบรนด์นาฬิกาสัญชาติอเมริกาอย่าง Nixon เลือกที่จะผสมผสานของสไตล์วินเทจกับแฟชั่นสมัยใหม่อย่างปัจจุบันเข้าด้วยกัน จนทำให้เกิดนาฬิกาข้อมือสุดแหวกที่ส่งเสียงบอกเวลาด้วยปุ่มกดพิเศษชื่อว่า The Dork Too Nixon รุ่น The Dork Too อาจไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถพูดคุยหรือเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือคู่ใจได้เหมือนกับนาฬิกาอัจฉริยะโดยให้มาแค่ปุ่มกด 3 ปุ่มเท่านั้น ถึงจะเป็นนาฬิกาข้อมือวินเทจแต่ The Dork Too สามารถให้ความสนุกสนานด้วยเสียงแจ้งเตือนที่จะสร้างสีสันได้ตลอดทั้งวัน Nixon The Dork Too ตัวเรือนทำจากสเตนเลส พร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD แบบดิจิทัลทำให้เราสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยมีฟังก์ชั่นเด่น ๆ อย่างไฟพื้นหลังแบบ EL ที่จะเพิ่มแสงสว่างทั้งพื้นหลังและหน้าปัด การแจ้งเตือนวันที่ ถึงแม้จะมีดีไซน์วินเทจแต่ระบบแบตเตอรี่จะทันสมัยขึ้นด้วยช่อง micro-USB บริเวณด้านซ้ายของตัวเรือนสำหรับชาร์จแบตเตอรี่โดยไม่ต้องนำนาฬิกาไปเปลี่ยนถ่านที่ร้านให้เสียเวลา นอกจากการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย้อนยุคที่โดดเด่นแล้ว เสียงแจ้งเตือนคืออีกหนึ่งไฮไลต์ที่ Nixon ภูมิใจนำเสนอ เมื่อกดปุ่มตรงจอแสดงผลก็จะส่งเสียงบอกเวลาแปลก ๆ รวมถึงสีของตัวเรือนที่มีให้เลือกถึง 4 สี ทั้งสีเงิน สี rose gold
Casio สร้างปรากฎการณ์ของแวดวงนาฬิกาในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Edifice สองคอลเลกชันด้วยกันทั้ง Edifice Scuderia Toro Rosso รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน 2019 และ Edifice Countdown Bezel Series พร้อมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ Alexander Albon นักแข่งรถ Formula 1 สัญชาติไทยจากทีม Scuderia Toro Rosso Edifice ตระกูลนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสำหรับผู้ชายรุ่นใหม่ ในคอลเลกชันล่าสุดอย่าง Edifice Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019 และ Edifice Countdown Bezel Series ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ความเร็วของรถแข่ง และความชาญฉลาดที่เที่ยงตรงแม่นยำ ร่วมกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นาฬิกาในตระกูล Edifine แข็งแกร่งตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยดีไซน์ทันสมัยและบอกเวลาได้อย่างแม่นยำที่สุด นอกจากความพิเศษเหนือระดับกับนาฬิกา Edifine ทาง Casio ได้เพิ่มความพิเศษยิ่งกว่าด้วยการดึงนักแข่งรถสายเลือดไทยของสนามแข่ง Formula 1