สูท ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นชายได้ดีอย่างหนึ่ง แต่ด้วยวัฒนธรรมของคนไทยที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับมันเสียเท่าไหร่ เนื่องด้วยโอกาส และอากาศที่มีให้เลือกใส่ได้น้อยครั้ง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วผู้ชายอย่างเราจะได้ใส่สูทก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ งานเลี้ยง หรือจะเป็นงานแต่งใครก็แล้วแต่ที่ต้องการความเป็นทางการเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากหนุ่มไทยหลายคนจะอ่อนด้อยประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้น้อยไปเสียหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีความรู้ อาจจะรู้สึกไม่มั่นใจว่าถ้าเกิดจะตัดชุดสูทสักชุดไว้ใส่ลุยทุกงานว่าควรจะต้องเลือกยังไง วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงนำชุดสูท 4 แบบที่สามารถพบเห็นได้ง่าย และสามารถใช้เป็นไกด์แนวทางหากต้องการชุดสูทแบบครอบจักรวาลสามารถไปได้ทุกงาน Plain Navy One-Button เป็นสูทที่นิยมกันมากที่สุด เพราะหาซื้อง่าย และนิยมขายแบบสำเร็จรูป ถ้าคุณมีช่วงลำตัวสั้น สูทแบบ 1 กระดุมจะเป็นแบบที่เหมาะสมที่สุด เพราะไม่รัดจนเกินไป และไม่ทำให้สูทเข้ารูป จึงเหมาะกับคนที่ต้องการพรางรูปร่างช่วงลำตัว แต่ถ้าเราพอมีทุนทรัพย์เพียงพอ การหาร้านตัดสูทดี ๆ แบบสั่งตัด เลยก็ดีกว่าเพราะเราจะสามารถเลือกคัทติ้ง และเนื้อผ้าแบบที่ชอบเองได้ โดยที่อาจจะเลือกเป็นผ้าน้ำหนักปานกลาง ประมาณ 11-12 oz เพื่อให้สวมใส่สบาย ไม่ร้อนจนไป แถมกันหนาวได้ด้วย ซึ่งถ้าต้องเลือกเฉดสีที่กลาง ๆ สามารถใส่ได้บ่อยสุดก็คงหนีไม่พ้น Navy เพราะจะใส่ไปออกงาน ไหนก็ดูดีได้ไม่ซ้ำใคร Plain Grey Two-Button ก่อนหน้านี้เราบอกไปแล้วว่าอยากให้ใส่สูทสีเข้ม เพื่อพรางตัว และใส่ได้ทุกโอกาส
มินิมอลสไตล์ การแต่งตัวแบบเรียบง่าย ไม่เน้นลวดลายเยอะ ค่อนข้างจะได้รับความนิยมในบ้านเรา ด้วยความดูดีได้แบบไม่ต้องเยอะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มไทยที่ไม่ได้ต้องการความเป็นแฟชั่นจ๋า เน้นฟังก์ชั่นให้ใส่ได้ทุกโอกาสเป็นหลัก พร้อมทั้งยังสามารถนำกลับมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ สำหรับคนที่อาจยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าจริง ๆ แล้วความหมายในเชิงการแต่งตัวสไตล์มินิมอลเป็นเช่นไร ทีมงาน UNLOCKMEN จะขอนิยามคำจำกัดความแบบง่ายว่า “การแต่งตัวน้อย” ซึ่งน้อยในที่นี่ไม่ได้แปลว่า ต้องแต่งน้อยชิ้น เพียงเสื้อกางเกงจบ การแต่งตัวสไตล์มินิมอล คุณจะสามารถเล่นกับเลเยอร์ก็ได้ เพียงแต่เราจะไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่อง รูปทรงสัดส่วน ลวดลาย และสี สักเท่าไหร่ จะเน้นอะไรที่เรียบง่ายเข้าไว้ ใส่ได้บ่อย ๆ ไม่มีเบื่อ แม้กระทั่งเครื่องประดับ ซึ่งสไตล์การแต่งตัวแบบมินิมอลที่เหมาะคนไทย ก็เป็นอะไรที่ง่ายจนคุณแทบจะไม่ต้องคิดอะไร อีกทั้งสามารถทำได้เสมอ เพราะเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด ทำให้วิธีการแต่งตัวมินิมอลแบบไทย ๆ ก็คือการสวมเสื้อเชิ้ตสไตล์ oxford กับกางเกง chinos สีเบจ แล้วก็สวมรองเท้า dress shoes อย่าง loafer หรือ oxford โทนน้ำตาล เรียกได้ว่าเป็นชุดเก่งไม้ตายสำหรับหนุ่มมินิมอลไทย และเพื่อเพิ่มไอเดียในการแต่งตัวไม่ให้จำเจ ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำสไตล์จากร้านแบรนด์ดังที่ได้คัดสรรมาแล้วว่ามีสไตล์เรียบง่าย ตอบโจทย์ความมินิมอล
หากกล่าวถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่บ่งบอก และสะท้อนความเป็นอเมริกันชน แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ Tommy Hilfiger อยู่ในนั้น เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขามีส่วนในการปฎิวัติสไตล์การแต่งตัวของชาวอเมริกันรวมถึงคนทั่วโลก ย้อนกลับไปราว ๆ 30 กว่าปีก่อน นาย Thomas Jacob Hilfiger ต้องการอยากจะเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาและเพื่อนได้ลงขันเพื่อรับเสื้อผ้ามาขายจนเกิดเป็นธุรกิจเล็ก ๆ โดยพวกเขาใช้ชื่อร้านว่า People’s Place ด้วยผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้ Thomas สามารถขยายสาขาได้กว่า 10 สาขาในเวลาไม่นาน เขาจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย และมุ่งหน้าสู่การมีธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ธุรกิจที่ดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย แต่ก็ต้องมาสะดุดในปีที่ 7 ของการทำงาน เพราะว่างานที่มุ่งเน้นแต่เรื่องดีไซน์ แต่ขาดความรอบคอบ และเชี่ยวชาญในการบริหารเงิน ก็ไม่อาจทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ เมื่อร้าน People’s Place ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนสุดท้าย Thomas ต้องร้องขอต่อศาลให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายด้วยวัยเพียง 25 ปี จากความล้มเหลวในครั้งนี้ เขาจึงได้ค้นพบว่าการดูแลการเงิน และงานบริหารก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจแฟชั่นไม่แพ้เรื่องของดีไซน์เสื้อผ้า หลังจากล้มเหลวในธุรกิจแรก เขาก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานที่ตัวเองรัก
ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ผู้ชายเมืองค่อนข้างจะมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้การแต่งตัวมีความอิสระหลากหลาย แถมส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถูกตีกรอบว่าจะต้องใส่สูทผูกไทด์มาทำงาน ปัจจุบันเทรนด์การแต่งตัวที่เรียกว่า ‘สปอร์ตแวร์’ จึงได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากความคล่องแคล่ว เคลื่อนไหวง่าย สวมใส่สบาย อีกทั้งดีไซน์ของเสื้อผ้าแนวสปอร์ตสปอร์ตยุคนี้ สามารถทำออกมาได้รับกับสไตล์คนเมืองที่สามารถใส่ไปเที่ยว ทำงาน รวมถึงไปออกกำลังกายแบบเท่ ๆ ได้ไม่แพ้การแต่งตัวประเภทอื่น ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าการแต่งตัวแนวสปอร์ต คือต้องใส่เสื้อกีฬา กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบเทรนนิ่งเท่านั้น แต่ช้าก่อน เพราะสปอร์ตแวร์แนวคิดใหม่ของ JASPAL MAN ที่ออกแบบเสื้อผ้าโดยนำเอาสไตล์โอเรียนทอลมามิกซ์กับสไตล์ฟิวเจอริสติก ทำให้ได้สไตล์เสื้อผ้าที่สามารถใส่ในชีวิตประจำวัน ไปทำงาน เดินห้าง แฮงเอาท์ อย่างดูดีได้ และยังพร้อมใช้ใส่ออกกำลังกายอย่างมีสไตล์ได้อีกด้วย วันนี้เราขอแนะนำ Style Guide “THE ACTIVE STYLE” ที่ผู้ชาย UNLOCKMEN สายสปอร์ตไม่ควรพลาด เพราะสามารถนำไปปรับประยุกต์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบ Work Hard, Play Hard ของเราได้ เพื่อความหล่อของร่างกาย และสุขภาพที่ดีได้พร้อมกัน THE ACTIVE STYLE Active Style จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่เหมาะสมกับหนุ่มไทยในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นชุดที่ตอนเช้าใส่ไปทำงาน พอตกเย็นสามารถใส่ชุดเดียวกันเพื่อไปออกกำลังกายต่อได้ แบบไม่ต้องพกเสื้อผ้าเยอะแยะวุ่นวาย
Russell Westbrook เป็นนักกีฬาที่ไม่ได้โด่งดังเฉพาะเรื่องผลงานในสนาม เพราะนอกสนามเขายังเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสไตล์การแต่งตัวอย่างมาก จนสื่อหลายสำนักต่างยกให้เขาเป็นนักกีฬาที่แต่งตัวดีที่สุด ซึ่ง UNLOCKMEN ก็เห็นด้วยในจุดนี้แบบไม่มีข้อกังขา เพราะจากการที่เราติดตามดูสไตล์ของเขามาตลอด Russell Westbrook ถือเป็นคนที่รู้จักมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าได้อย่างน่าทึ่ง สามารถแต่งอะไรที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ดังนั้นวันนี้เราจะขอนำหลักพร้อม Style Guide ของยอดนักบาสคนนี้มาฝากชาว UNLOCKMEN กัน เลือกในสิ่งที่ต้องการ น่าจะเป็นกฎเหล็กของตัว Russell Westbrook ในการแต่งตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเขาเป็นคนที่กล้าจะแตกต่างพร้อมลองไอเท็มใหม่ ๆ โดยเขาไม่เกรงกลัวการจะใส่เสื้อผ้าสีสัน หรือการมิกซ์ไอเท็มที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันมาลองใส่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป อยากต่างต้องลองคัสต้อม บางครั้งถ้าเราอยากจะแตกต่าง เราต้องรู้จักคัสต้อมเพื่อให้ได้ไอเท็มที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการเพนท์มือ หรือทำโลโก้เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณไม่เหมือนกับของคนอื่นที่ซื้อมา หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่น กางเกง Tommy Hilfiger แบบขาด ขายในราคา $159 กับกางเกง Tommy Hilfiger แบบธรรมดาขายในราคา $139 ตัวของ Russell Westbrook จะเลือกซื้อแบบธรรมดาเพื่อมาตัดเอง ได้ทั้งความแตกต่าง และประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย ใช้เครื่องประดับช่วยเสมอ Russell Westbrook ไม่เคยคิดว่าการใส่เสื้อผ้า
ปัจจุบันตลาดรองเท้ามีความก้าวหน้าไปอย่างมาก และทุกปีก็จะมีรองเท้ารุ่นใหม่ออกมาวางจำหน่ายซึ่งก็สอดรับกับเทรนด์ความต้องการในช่วงเวลานั้น ๆ แต่สุดท้ายแล้วรองเท้ารุ่นคลาสสิค หรือที่ภาษาคนเล่นรองเท้าเรียกกันว่ารองเท้ารุ่น OG ก็ยังสามารถเอาชนะกาลเวลา และเป็นที่นิยมตลอดเวลา ดังนั้น Sneakers of the week สัปดาห์นี้เราจะขอย้อนอดีตกันเสียหน่อยโดยจะมาแนะนำรองเท้ารุ่นดั้งเดิมของแต่ละค่ายที่ยังคงกระพันจนถึงทุกวันนี้ว่ารุ่นไหนยังฮิต หรือพังไปแล้วบ้าง adidas Samba หลายคนอาจจะคิดว่ารองเท้า adidas superstar คือรองเท้ารุ่นแรกสำหรับ adidas แต่อันที่จริงแล้วรองเท้าผ้าใบรุ่นแรกของแบรนด์สามขีดก็คือรุ่น Samba ที่วางขายตั้งแต่ช่วงปี 1950 ซึ่งคุณสมบัติที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นที่นิยมคือ ใช้หนังแท้สวมใส่สบาย และซัพพอร์ตส้นเท้าได้เป็นอย่างดี เพราะแต่เดิมรองเท้ารุ่น Samba ถูกผลิตเพื่อนักกีฬากระโดดสูง แม้ว่าในเวลาต่อมา adidas จะปรับปรุงให้รองเท้ารุ่น Samba มีความหลากหลายอย่างเช่น Samba Jp , Samba 85 รวมถึง Samba Super แต่มันก็ยังเป็นรองเท้ารุ่นที่ขายค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ดี และเป็นที่นิยมอยู่เสมอมาจนถึงปัจจุบัน Asics Corsair แม้ว่า Asics จะเคยมีรองเท้าวิ่งรุ่นก่อนหน้านี้ แต่สำหรับรองเท้าที่ปัจจุบันยังคงวางจำหน่ายอยู่ก็คือรุ่น Corsair ที่เกิดขึ้นในปี
พอพูดถึงเรื่องสไตล์การแต่งตัวของผู้ชายเราก็มักจะนึกเฉพาะดาราระดับ a-list หรือสไตล์ไอคอนมีชื่อเสียงที่สื่อคอยจับตามอง แต่อันที่จริงแล้วก็ยังมีนักร้อง นักแสดง ที่มีสไตล์โดนเด่นในโลกของแฟชั่น เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้าง จึงไม่ได้รับการจับตามองจากสื่อมากนัก ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำเอาคนเหล่านี้ที่มีสไตล์สุดคูลเป็นของตัวเอง จนน่าจะนำไปปรับใช้เป็นไอเดียในการแต่งตัวมาฝากกัน Jeff Goldblum หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีจากการรับบทสมทบในภาพยนตร์ระดับ blockbusters มากมาย อาทิ Jurassic Park , Independence Day ซึ่งดูแบบผิวเผิน ก็เหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจ เป็นเพียงดาราตัวประกอบธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในสไตล์การแต่งตัวเวลาอยู่นอกจอ Jeff Goldblum จัดได้ว่าเป็นคนที่มีสไตล์น่าจับตามองเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นแบบ formal หรือ casual จุดเด่นที่เรามักจะเห็น Jeff Goldblum แต่งกายออกจากบ้านบ่อย ๆ คือการนำเสื้อไบค์เกอร์แจ็คเก็ตมาสวมทับด้วยไอเท็มที่แตกต่างแบบ preppy ถือว่าเป็นการผสมผสานสองสไตล์เข้าหากันได้อย่างลงตัว หรือแม้กระทั่งในชุดสูท ตัวเขาก็มีวิธีเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง Instagram : jeffgoldblum Skepta ในวงการเพลงโดยเฉพาะฮิปฮอปถือว่ามีนักร้องมากมายที่แต่งตัวได้อย่างจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น Kanye West , A$AP Rocky , Big
หากจะพูดถึงการแต่งตัวที่ง่ายและเหมาะกับผู้ชายไทยมากที่สุด อย่างไรก็ต้องเป็นการนำไอเท็มอะไรก็แล้วแต่มามิกซ์เข้ากับกางเกงขาสั้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งปี จะให้ใส่กางเกงขายาวตลอดเวลาก็แลดูจะอึดอัดจนเกินไป แม้ดูเหมือนว่ากางเกงขาสั้นจะไม่มีอะไรให้ต้องคำนึงมากมาย แต่เราเองสามารถเลือกกางเกงในแบบที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะกางเกงขาสั้นแต่ละแบบก็ให้อารมณ์ในการแต่งตัวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นลองมาดูกันว่ากางเกงขาสั้นจริง ๆ แล้วมีกี่ประเภทให้เลือกกัน ชีโน่ขาสั้น เป็นแบบที่พบเห็นได้มากที่สุดจากบรรดากางเกงขาสั้นทุกประเภท เนื่องจากยังดูเป็นกางเกงผ้าที่ดูยังมีความสุภาพแบบ smart casual ทำให้หนุ่ม ๆ มักเทใจให้กับกางเกงประเภทนี้ ซึ่งการมิกซ์แอนด์แมทช์กางเกงขาสั้นชีโน่ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกับเสื้อโปโล เสื้อเชิ้ต แล้วใส่ด้วย dress shoes ก็ยังทำให้คุณมีลุคสะอาดแบบ preppy style กางเกงขาสั้นสปอร์ต กางเกงขาสั้นแบบที่สองนี้สามารถรวมกางเกงออกกำลังกายแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงเทรนนิ่ง หรือกางเกงสไตล์ swim short ซึ่งเรามักจะเห็นชาวตะวันตกที่มาเที่ยวในบ้านเรานิยมใส่กางเกงประเภทนี้ ซึ่งกางเกงขาสั้นสปอร์ตอาจจะดูไม่ค่อยสุภาพเสียเท่าไหร่ ดังนั้นควรเลือกสถานที่ให้เหมาะกับการสวมเป็นสำคัญ วิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ ก็สามารถใส่เสื้อแบบสปอร์ต หรือเสื้อกีฬา จากนั้นใส่กางเกงเลเยอร์ไว้ด้านใน แล้วเลือกเป็นรองเท้าแตะแบบ sandal จะยี่ห้ออะไรก็ได้ตามใจชอบ กางเกงวอร์มขาสั้น แบบที่สาม กางเกงที่เรียกกันว่า sweatpants จะมีลักษณะคล้ายกางเกงออกกำลังกายที่ทำออกมาเพื่อใช้สำหรับซับเหงื่อ และด้วยลักษณะเอวแบบยางยืดพร้อมเชือกผูก และผ้านิ่ม ๆ ทำให้เป็นกางเกงที่นิยมสวมใส่สบายกันอย่างมาก
ถ้าไม่นับคนที่สามารถใส่เสื้อยืดไปทำงานได้ เสื้อเชิ้ตนับว่าเป็นแฟชั่นชิ้นสำคัญที่เราต้องอยู่กับมันเกือบ 365 วันต่อปี บางทีก็เบื่อการใส่เสื้อเชิ้ตไปดื้อ ๆ เรียกว่าหมดมุขหมดไฟ หมดไอเดียที่จะ Mix and Match style ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ออฟฟิศสมัยนี้ก็ไม่ค่อยจะบังคับให้ใส่แต่งตัวเต็มเป๊ะทุกวันเหมือนในอดีต แต่ไม่ต้องแปลกใจ เราจะบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้เราจึงขอแนะนำหลากหลายไอเดียการจับคู่สไตล์ใส่เสื้อเชิ้ตให้ดูเท่ โดดเด่นกว่าใครในออฟฟิศ จนคนอื่นต้องแอบกระซิบถามว่า เฮ้ย ไปทำอะไรมาถึงได้ดูดี ดูมีสไตล์ขึ้นมา SHORT SLEEVE SHIRTS WITH CHINOS / TROUSERS / JEANS เริ่มด้วยเสื้อเชิ้ตที่เป็นมิตรกับอากาศบ้านเราก่อน อย่างที่เราบอกไปว่าปัจจุบันนี้ หลาย ๆ บริษัทไม่ค่อยจำกัดอิสรภาพด้านการแต่งตัวมากนัก การใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา และมันเป็นแฟชั่นชิ้นโปรดของเหล่าคน Agency และ Creative นิยมใส่กัน เพราะมีลูกเล่นมากมายให้เลือก Mix and Match แถมยังอยู่ในขอบข่ายที่พร้อมจะไปประชุมกับลูกค้าได้ทันที Short Sleeve Shirts หรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
สัปดาห์นี้ถือว่ามีรองเท้าหลายรุ่นเข้าใหม่ที่น่าสนใจวางจำหน่ายจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการรีโทรรองเท้ารุ่นเก่า หรือแม้กระทั่งการจับเอาโมเดลสุดเก๋าในอดีตมาใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ฉีกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนั้นลองมาดูกันว่าเราได้นำรองเท้ารุ่นใดที่น่าสนใจมาฝาก จนชาว UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด adidas Predator Precision Ultraboost สำหรับคู่แรกถือว่าเอาใจคนรักฟุตบอล ซึ่งถ้าหากใครยังจำกันได้ รองเท้าคู่นี้เคยเป็นรองเท้าสตั๊ดคู่ใจของ David Beckham เมื่อช่วงปี 2000 โดยการกลับมาในปีนี้ทาง adidas ได้นำรองเท้ารุ่น Predator Precision กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งทั้งในรูปแบบของรองเท้าสตั๊ด และรองเท้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งพวกเขาเก็บรายละเอียดเดิมบริเวณหน้าเท้าไว้อย่างครบถ้วน แต่จุดที่น่าสนใจ คือการใช้พื้นกลางเทคโนโลยี Boost แบบสมัยใหม่ ทำให้รองเท้าคู่น้ีน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน adidas Predator Precision Ultraboost จะวางขายในวันที่ 8 กันยายนนี้ ราคาอยู่ที่ $200 (หรือประมาณ 6,xxx บาท) ที่ adidas.com/us สำหรับในประเทศไทยต้องลุ้นกันว่าร้าน Ari จะนำเข้ามาขายหรือเปล่า Air Jordan 1 “Bred” Flyknit