สุดสัปดาห์ทีไรเรื่องที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือการพุ่งตรงไปยัง บาร์ ร้านเหล้าเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานที่เคร่งเครียดในแต่ละวัน ซึ่งเราสามารถสนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อนฝูงในค่ำคืนแล้วแยกย้ายกลับบ้านนอน หรือจะทำลายมันด้วยการทำตัวเกรียน ก่อความวุ่นวาย จนต้องเคลียร์กันยาวเป็นภาระให้เพื่อนฝูงอีก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิด UNLOCKMEN จึงอยากจะนำ Survival Guide ข้อห้ามทำในร้านเหล้า หรือบาร์ หากคุณอยากให้ค่ำคืนนี้แคล้วคลาดผ่านไปอย่างราบรื่น อย่าขี้ตืดถ้าอยากสบาย แม้ว่าการให้ทิปจะเป็นวัฒนธรรมของทางตะวัตตก แต่ในเมื่อปัจจุบันเราก็เสพวัฒนธรรมเขามาขนาดนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำตามเพื่อเป็นธรรมเนียม ยิ่งในวันศุกร์ เสาร์ ที่ทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือไปแฮงเอ้าท์เช่นนี้ การให้ทิปแก่เด็กเสิร์ฟ พนักงาน หรือแม้แต่บาร์เทนเดอร์ จะช่วยให้คุณมีคำ่คืนที่สบายขึ้น เพราะถ้าคุณให้ทิปในจำนวนที่สมเหตุผล พวกเขาก็จะเข้ามาบริการคุณอย่างเต็มที่เช่นกัน อย่าขี้ตืดเพราะไม่งั้นคุณจะเจอกับอุปสรรคในการดื่มอีกมากมายที่ตามมา อย่าโชว์เก๋าสั่งเครื่องดื่มที่ไม่รู้จัก การลองอะไรใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่คุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะสั่ง โดยถามเอาจากเด็กเสิร์ฟ หรือบาร์เทรนเดอร์ว่าเครื่องดื่มชื่อแปลก ๆ เหล่านั้นมันส่วนผสมอะไร และรสชาติเป็นเช่นไร ไม่อย่างงั้นจะเสียตังฟรี แถมกินไม่ได้ หรือถ้ากินมั่วตีกันเกินไปอาจเมาโดยไม่รู้ตัว ดูเป็นเด็กเกรียนอยากลองของอีกด้วย อย่าโชว์สเต็ปอัพมาก เป็นเรื่องที่เราต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจุบันบาร์ต่าง ๆ ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการโชว์ลีลาการเต้นแบบสมัยก่อนอีกต่อไป ดังนั้นคุณจะไม่สามารถขยับตัว โยกย้ายแบบรุนแรงได้ และยิ่งคุณอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นนักเต้นที่เก่งกาจราว Jusitn Timberlake อยากจะโชว์ของปล่อยท่าเต้น แต่เราอยากจะให้เก็บท่าเต้นเหล่านั้นไว้เต้นในปาร์ตี้ส่วนตัวจะดีกว่า เพราะถ้าคุณเอามันมาเต้นในบาร์พื้นที่แคบ
ไม่ใช่ทุกคนขี้เกียจที่จะฉลาด แต่คนฉลาดอาจขี้เกียจก็เป็นได้ UNLOCKMEN ไม่ได้พูดเองเออเองลอย ๆ (ถึงจะแอบอยากเข้าข้างตัวเองที่ขี้เกียจอยู่บ้าง) วันนี้มีงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน Journal of Health Psychology ออกมาบอกให้เราใจชื้นแล้ว งานวิจัยบอกว่าคนที่ใช้เวลาคิดอะไรเร็ว ๆ ลงมือทำอะไรเร็ว ๆ มีแนวโน้มที่จะแอคทีฟทางร่างกายมากกว่า ในขณะที่บรรดาคนที่คิดอะไรนาน ๆ ถี่ถ้วนไปมามักจะไม่ค่อยแอคทีฟทางร่างกาย เรียกว่าที่นั่ง ๆ นอนนิ่ง ๆ จริง ๆ ผมคิดอยู่! ก่อนจะงงไปกว่านี้ UNLOCKMEN ขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ชิล ๆ ในบทความที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปนี้เลยแล้วกัน! งานวิจัยนี้มีชื่อยาวเหยียดว่า The physical sacrifice of thinking: Investigating the relationship between thinking and physical activity in everyday life โดยการศึกษาครั้งนี้ศึกษากลุ่มตัวอย่าง 60 คน ดูกิจกรรมทางร่างกายของพวกเขาอย่างละเอียด จากนั้นแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2
หากพูดถึงตัวละครที่โดดเด่นในสุดยอดมหากาพย์ซีรีส์ยักษ์ใหญ่แห่งยุคอย่าง Game Of Thrones หลายคงจะนึกถึงคนแคระตัวแสบของเรื่องที่มาพร้อมความฉลาดหลักแหลมในเกมการเมือง และมีวาจาเชือดเฉือนกวนประสาท อย่าง Tyrion Lannister ซึ่งรับบทโดย Peter Dinklage อย่างแน่นอน แต่พวกคุณรู้ไหมว่า ชีวิตจริงของนักแสดงผู้นี้นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมาย หลากหลายอารมณ์ไม่ต่างจากบทละครที่เขาเล่นแม้แต่น้อย ทั้งความมันส์ ความต่อสู้ดิ้นรนพิสูจน์ตัวเอง และปมต่าง ๆ จากการที่เกิดมามีความผิดปกติทางร่างกาย วันนี้เราจึงได้นำเอาเรื่องราวชีวิตของ Peter Dinklage ที่น้อยคนนักจะรู้มาให้กับชาว UNLOCKMEN ได้อ่านกัน แล้วคุณจะรู้ว่า บางทีคนที่มีร่างกายใหญ่โตปกติดีอย่างเรา ๆ ยังไม่สามารถทำอะไรแบบเขาได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าพร้อมแล้วเราขอเชิญทุกคนไปทำความรู้จักกับชายผู้อยู่เบื้องหลังบทบาท Tyrion Lannister จาก ซีรีส์ Game Of Throne กันได้เลย Peter Dinklage เกิดในปี 1969 และเติบโตขึ้นที่ Morristown รัฐ New Jersey อย่างอย่างที่เราเห็นกันว่า ร่างกายของเขานั้นแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างชัดเจน นั่นก็เพราะ Peter เกิดมาพร้อมกับโรคที่มีชื่อว่า
‘การฟังเพลง’ ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ชายอย่างเรา ๆ อย่างแยกไม่ออก (หรือจะเถียง!?) มีความสุขสุดเหวี่ยงก็ฟังเพลง ทุกข์เศร้าเคล้าน้ำตาอกหักมาจากสาวคนไหนก็ฟังเพลง หรืออารมณ์ปกติธรรมดานั่งว่าง ๆ มึน ๆ อึน ๆ ก็ฟังเพลง เพลงแต่ละแบบก็เหมาะกับอารมณ์อันหลากหลายของเราแตกต่างกันไป แล้วเพลงแบบไหนที่นักจิตวิทยาเขาศึกษามาแล้วว่าโคตรเหมาะกับการตื่นนอนตอนเช้ากันแน่? เพลงไม่ได้มีผลแค่ช่วยให้เราตื่นนอนอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่เพลงไม่ต่างจากยาวิเศษลึกลับที่ออกฤทธิ์หลากหลายแบบ งานวิจัยจำนวนมากที่ศึกษาเรื่องผลของการฟังเพลงหรือดนตรีที่สัมพันธ์ต่อสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์ การฟังเพลงสามารถช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การฟังเพลงช่วยให้เราทำงานเป็นทีมได้ดีขึ้น หรือแม้แต่การเล่นดนตรีภายในบ้านจะช่วยทำให้คนในครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้น หรือแม้แต่การฟังเพลงช่วยให้สุขภาพเราดีขึ้นได้ด้วย (เออ เอากับมันสิ) แต่ครั้งนี้ UNLOCKMEN จะพามาโฟกัสที่งานวิจัยของนักจิตวิทยาที่ชื่อว่า David Greenberg จาก University of Cambridge ซึ่งเขาศึกษาเรื่องดนตรีในหลากหลายแบบทั้งบุคลิกภาพของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการฟังเพลง หรือการเลือกฟังเพลงแบบไหนสามารถส่งผลต่อวิธีคิดของเราได้ด้วย ส่วนเจ้า Playlist กระแทกหน้าซึ่งประกอบด้วย 20 เพลงที่เรากำลังจะนำมานำเสนอนี้ เป็นงานวิจัยที่เขาทำร่วมกันกับ Spotify มิวสิคสตรีมมิ่งชื่อดังที่กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในหมู่คนฟังเพลงประเทศเรา หลักการหลัก 3 อย่างที่ David Greenberg บอกว่าเพลงทั้ง 20 เพลงนี้โคตรเหมาะกับการฟังตื่นนอนได้แก่ อย่างแรกมันต้องเริ่มจากจังหวะที่นุ่มนวลไม่ใช่มาถึงแล้วกระชากเลย แต่ต้องค่อย ๆ
เมื่อพูดถึงสาเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี หลายคนคงนึกถึงการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคมะเร็ง ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เพราะโรคมะเร็งคือสาเหตุหลักอันดับหนึ่งในการเสียชีวิตของประชาชนคนไทย ตามมาด้วยอันดับสองคือการเสียชีวิตเนื่องด้วยอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้บ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยที่สูงเป็นอันดับสาม ซึ่งอันตรายไม่แพ้กัน นั่นก็คือการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยสิ่งที่น่ากังวลคือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เมื่อหัวใจหยุดเต้น จะไม่มีเลือดเดินทางไปเลี้ยงอวัยวะใด ๆ ในร่างกาย ทำให้สมองหยุดทำงานทันที และจะหมดสติภายในเวลา 10 วินาที โดยไม่ทันได้รู้ตัว ไม่ทันได้ขอความเชื่อเหลือใคร ๆ อย่างที่เคยได้เห็นในคลิปภาพข่าว ที่แม้แต่ผู้ซึ่งออกกำลังกายดูแลสุขภาพอยู่สม่ำเสมอ วิ่งลู่ในฟิตเนสอยู่ดี ๆ ก็ยังเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล้มตึงหมดสติจนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา สรุปออกมาเป็นสถิติที่น่าตกใจว่า แต่ละปีมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 54,000 คน เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตมากถึงชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เมื่อผู้ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเกิดอาการหมดสติ หากได้รับการทำ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพ หรือการปั๊มหัวใจด้วยมือ) ภายใน 4 นาที จะมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ที่ 27% และถ้าบริเวณนั้นมีเครื่อง AED (เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ) สำหรับใช้ในการทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง
กินเหล้าเมายาเหมือนว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ชายอย่างเรา ๆ ไปแล้ว เพราะการกินเหล้านอกจากจะเป็นความสนุกสุขใจส่วนตัวแล้ว เรายังได้สังสรรค์สานความสัมพันธ์และมิตรภาพอีกด้วย แต่ความสุขและความสัมพันธ์อาจมาจากบรรยากาศในวงเหล้า โดยเราไม่จำเป็นต้องเมาหัวราน้ำก็ได้ นี่จึงเป็น 7 วิธีที่จะทำให้คุณนั่งอยู่ในวงเหล้าได้ทั้งคืนแต่ไม่ต้องเมาอ้วกแตกให้เสียสุขภาพ อย่าปล่อยให้ท้องว่าง ขั้นแรกเลยคืออย่าปล่อยให้ท้องว่าง ไม่ว่าจะรีบบึ่งไปหาเพื่อนเพื่อก๊งเหล้ามากแค่ไหน ก็หาอะไรรองท้องอย่าปล่อยให้ตัวเองไม่ได้กินอะไรไปเลย ถ้าไม่มีเวลากินอาหารมื้อใหญ่ก็ควรกินอะไรรองท้องไปหน่อย เพื่อสุขภาพยืนยาวจะได้อยู่กินเหล้าไปนาน ๆ กินช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม จะกินเร็วไปทำไม ในเมื่อเราไม่ได้มาเพื่อกรอกเหล้าเข้าปากให้จบ ๆ ไปแล้วกลับบ้านนอน เรามาเพื่อสังสรรค์ เอาบรรยากาศ และดื่มด่ำความสุขที่ได้รับจากการดื่มกิน ดังนั้นไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ ละเลียดรสชาติของน้ำสีอำพันไป นอกจากได้ดื่มด่ำแล้ว ยังทำให้เมาช้าลงอีกด้วย ดื่มน้ำเยอะ ๆ การดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์นั้นทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างที่เราคาดไม่ถึง ทางที่ดีควรดื่มน้ำก่อนกินเหล้า ดื่มน้ำระหว่างกินเหล้า และดื่มน้ำหลังกินเหล้าด้วย แต่ถ้าลืม ทำไม่ได้ กินเหล้าไปก็ดื่มน้ำไปก็สามารถช่วยให้เมาช้าลงได้ กินกับแกล้ม ไม่ว่าจะชอบกินกับแกล้มหรือไม่ชอบกิน แต่ถ้าไม่อยากเมาเร็ว ก็ดื่มไป ตักกับแกล้มกินไป ไม่ให้ท้องว่าง ยิ่งถ้าไม่ได้กินอะไรรองท้องมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะก็ การมีกับแกล้มเป็นของคู่วงเหล้านับเป็นทางออกที่ชาญฉลาดที่สุดอีกทางหนึ่ง อย่าเชื่อฟังคำยุยงหมดแก้ว ๆ เราหมดยุคเด็กมัธยมโชว์เก๋า โชว์กระดกเหล้าหมดแก้วตามคำยุของเพื่อน แต่สุดท้ายก็เมาอ้วกไม่เป็นท่ามาแล้ว
สถานการณ์ฉุกเฉินมักเข้ามาหาเราแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเสมอ การเตรียมพร้อมและมีสติอยู่กับตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดเพราะบางครั้งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันไม่เคยมีสัญญาณบอกกล่าวกับเรา UNLOCKMEN ขอแนะนำนวัตกรรมการช่วยเหลือที่เป็นการดึงเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุดกับ Mobilize ชุดปฐมพยาบาลอัจฉริยะที่จะช่วยชีวิตคุณและคนใกล้เคียงได้ทันท่วงที Mobilize Rescue Systems เป็นชุดปฐมพยาบาลอัจฉริยะที่นอกจากจะใส่อุปกรณ์การช่วยชีวิตไว้อย่างเต็มที่แล้ว บริเวณฝาปิดของกล่องได้ติดตั้งจอภาพใส่เข้ามาให้ด้วย ภายในบรรจุบทเรียนและคำแนะนำด้านการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในเคสต่าง ๆ มากมายเอาไว้ให้ หลายครั้งที่เวลาเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเรามักจะตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูก การรู้ทันและรับมือกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างดีที่สุด จะส่งผลดีถึงชีวิตได้เลย บทเรียนต่าง ๆ ภายใน ไม่ได้แทรกแต่ตัวหนังสือและภาพประกอบเท่านั้น ยังมีการใส่คำบรรยาย แนะนำขั้นตอนการช่วยเหลือผู้รับบาดเจ็บอย่างละเอียด แม้คนทั่วไปที่ไม่ได้จบพยาบาลหรือหมอก็สามารถทำตามได้อย่างง่าย ๆ Mobilize Rescue Systems ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงคลังข้อมูลทั้งหมดได้ จากข้อมูลเพิ่มเติมของ Matt Pelak (Co-Founder) ทาง Mobilize ได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า “สิ่งที่เราทำได้ก็คือให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงคำแนะนำการช่วยเหลือได้อย่างทันที โดยไม่ต้องฝึกอบรมกันมาก่อน เพราะบางเหตุการณ์มันเกิดขึ้นมาแบบไม่คาดคิด ทาง Mobilize ได้ใช้อัลกอริทึมแบบเฉพาะในการให้ข้อมูล และแนะนำการรักษาเบื้องต้นให้ตรงกับอาการของผู้ป่วยแต่ละคนที่เกิดขึ้น เช่น การทำ CPR, การห้ามเลือด จึงเรียกว่าชุดเดียวของ Mobilize Rescue Systems สามารถครอบคลุมคำแนะนำปฐมพยาบาลพื้นฐานได้แทบจะทั้งหมด” ส่วนราคาก็แพงพอตัวเลย แบบชุดกล่องแข็งจะอยู่ที่
ชีวิตเรื่อยเปื่อยไร้สีสัน การทำอะไรแต่เดิม ๆ นั่งอยู่กับที่เดิม วนเวียนตื่นเช้าไปทำงาน ตอนกลับบ้านก็รถติดแสนติดอยู่บนถนน 3-4 ชั่วโมงเป็นชีวิตที่โคตรน่าเบื่อเลยใช่ไหมครับ แต่ก็จะให้ทำยังไงได้ บางทีพวกเราไม่มีเงินมากมายพอที่จะไม่ต้องทำงานหรือนอนนิ่ง ๆ ปล่อยให้ชีวิตไหลไปเรื่อยเปื่อยได้ ถ้าเราหนีจากมันไม่ได้ก็คงมีแต่ต้องปรับตัวและหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกับความเบื่อเหล่านี้ให้จงได้ UNLOCKMEN จึงขอแนะนำ 6 สิ่งที่ควรลองทำแก้เบื่อ แถมอาจได้อะไรใหม่ ๆ มันส์ ๆ ให้กับชีวิตอีกด้วย มาดูกัน ลองทานในสิ่งที่ไม่เคยทาน แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็น่าเบื่อแล้ว การต้องมานั่งตั้งคำถาม ในแต่ละวันให้กับชีวิตอีกว่าวันนี้จะกินอะไรดียิ่งเบื่อไปใหญ่เลย บางคนทนกินมื้อเมนูเดิม ๆ อยู่เป็นเดือน ๆ แล้วมันจะให้ชีวิตนี้มันไม่น่าเบื่อได้ยังไง ลองเปลี่ยน หาอะไรที่ไม่คุ้นเคยเข้าปากดูสักหน่อย อาจสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้มากกว่าการกินแต่เมนูเดิม ๆ ก็ได้ หรือถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ ก็สั่งแม่ค้าไปเลยว่า อะไรก็ได้ สุ่มมาเลยป้า! ลงเรียนคอร์ส อย่างแรกเลยคืออย่าอ้างด้วยเหตุผล 108 ว่าไม่มีเวลา เพราะคนเราทุกคนมีเวลาเท่า ๆ กัน อยู่ที่ว่าเราจัดสรรวันเวลาเหล่านี้ยังไงให้ดีที่สุด จากเดิมที่วนเวียนอยู่แต่อะไรเดิม ๆ เราอาจลองศึกษาหาคอร์สเรียนในเรื่องที่สนใจ เช่นการทำกางเกง, ทำกระเป๋าหนัง
การฟังเพลงบางครั้งก็เหมือนการตกอยู่ในมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำให้เรารู้สึกหลงใหลเคลิบเคลิ้ม บางทีก็เศร้าจนร้องไห้ออกมา หลาคราก็ตื่นเต้นเร้าใจจนอยากกระโดดไปให้สุดขอบฟ้า แล้วเคยฟังเพลงแล้วรู้สึกหนาว ๆ แปลก ๆ จนไปถึงขั้นขนลุกไหม รู้หรือไม่ว่าถ้าฟังเพลงแล้วเกิดอาการขนลุก หนาว ๆ ขึ้นมาอาจแปลว่าสมองคุณพิเศษกว่าคนอื่น Matthew Sachs เจ้าของงานวิจัยเรื่อง Brain connectivity reflects human aesthetic responses to music คือคนที่ศึกษาเรื่องเพลงที่ส่งผลต่อสมองและร่างกายโดยตรง งานวิจัยที่ว่านี้ทำการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 20 คนถ้วน โดยใน 20 คนนี้มีจำนวน 10 คนที่ฟังเพลงแล้วก็เฉย ๆ ก็อาจรู้สึกว่าเพราะดี แต่ไม่ได้มีอะไรที่รู้สึกต่อร่างกายหรือความรู้สึกเป็นพิเศษ ในขณะที่อีก 10 คนมีความรู้สึกขนลุก และรู้สึกว่าร่างกายมีการตอบสนองบางอย่าง Alissa Der Sarkissian คือคนหนึ่งที่ร่างกายตอบสนองเป็นพิเศษ โดยเธอรู้สึกว่าการหายใจของเธอเป็นไปตามจังหวะของเพลงที่เธอกำลังฟัง หัวใจของเธอเต้นช้าลง เธอรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเพลงที่เธอกำลังฟังเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมด 20 คนนั้นจะได้รับการสแกนสมองอย่างละเอียด หลังจากนั้นผลออกมาว่าผู้ที่ฟังเพลงแล้วขนลุกหรือรู้สึกหนาวขึ้นมามีความแตกต่างทางโครงสร้างสมองจากคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยกับการฟังเพลง สมองของผู้ที่ขนลุกจากการฟังเพลงหรือดนตรีมีปริมาณเส้นใยที่เชื่อมต่อบริเวณเปลือกหุ้มหูซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลทางอารมณ์มากกว่า ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลระหว่างหูและความรู้สึกมากกว่าคนทั่วไป Matthew Sachs
ผู้ชายอย่างเราถ้าหากให้พูดกันจริง ๆ จะมีสักกี่คนกันที่ใส่ใจความใส และอ่อนวัยของใบหน้า เพราะนอกจากบางคนจะมีความเชื่อที่ว่า ผู้ชายยิ่งดูดีขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น บางคนก็บอกว่า ผู้ชายไม่จำเป็นจะต้องดูขาวใสอะไรมากมาย ไม่ต้องทาครีมใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงจะดูแมน แต่ในทางกลับกัน ก็มีผู้ชายบางคน ที่ใส่ใจและพยายามอย่างหนักในการพยายามกู้ความอ่อนวัยให้กลับมาสู่ใบหน้า เพราะเริ่มมีหลายคนทักว่า ความเก๋าของใบหน้ามันเริ่มจะแซงอายุไปไกลมากแล้ว จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือ จะแมนแท้แค่ไหน คุณก็ควรที่จะใส่ใจรูปลักษณ์ของตัวเองกันบ้าง อย่างน้อย ๆ ก็ให้ดูสมวัย สะอาดสะอ้าน ไม่ใช่พอคนเห็นหน้าแล้วถึงกับตกใจ ซึ่งแน่นอนว่า มันส่งผลกับบุคลิคภาพของคุณโดยตรงอย่างแน่นอน คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนปล่อยตัวเองให้เซอร์ตามธรรมชาติแต่อย่างใด เพราะเรื่องของความแก่นั้น เป็นอะไรที่ไม่มีใครหนีพ้นอยู่แล้ว พอถึงเวลานั้น คุณจะรู้เลยว่า ก่อนหน้านี้น่าจะรู้จักรักษา และดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ ดังนั้น วันนี้เราจึงได้นำเอาเคล็บลับสำหรับการดูแลตัวเองให้ดูสมวัย และอาจจะดูอ่อนวัยยิ่งขึ้นในระยะยาวมาให้กับผู้ชายชาว UNLOCKMEN ทุกคน ได้ดู และลองนำเอาไปใช้กัน กับ 7 วิธีง่าย ๆ รับรองได้เลยว่า คนรอบข้างคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคุณได้อย่างน่าประหลาดใจเลยทีเดียว จะว่าไปแล้ว การดูแลตัวเองให้ดูอ่อนวัยในผู้ชายนั้น ไม่ใช่แค่การดูแลเพียงแค่หนังหน้าเท่านั้น เพราะผู้ชายกว่า