ก่อนจะเริ่มลงมือเขียนบทและถ่ายทำ John Wick ภาคแรก ทีมผู้สร้างและผู้กำกับ Chad Stahelski ไม่ได้แพลนล่วงหน้าไว้ว่ากระแสจะดีจัด จน John Wick กลายเป็นหนัง Francise ที่สานต่อไปทั้งภาพยนตร์ภาคต่อ และเตรียมลงเจอซีรีย์แบบทุกวันนี้ วันนี้เรามีข่าวดีสำหรับแฟน Keanu Reeves และ John Wick มาฝาก เกี่ยวกับข่าวความคืบหน้าของ John Wick Chapter 3 กับเนื้อหาที่คาดว่าจะเฉลยทุกที่มา และสงครามการต่อสู้ที่มีระดับใหญ่โตขึ้นมากกว่าแค่การถล่มแกงค์เจ้าพ่อ ล้างแค้นให้ลูกหมาและบ้านหลังงามแบบที่ผ่านมา สำหรับ John Wick Chapter 3 มีการพูดคุยกับผู้กำกับและตัว Keanu Reeves เองในการสัมภาษณ์ที่แยกกัน แต่เราได้ทำการสรุปรวมมาให้เห็นภาพใหญ่กันง่ายขึ้น โดยในภาคล่าสุดที่กำลังจะเปิดกองถ่ายทำกันราวเดือนหน้า จะเป็นเรื่องราวต่อจากการทำผิดกฎ Wick จึงกลายเป็นเป้าหมายของนักฆ่าจากทั้งองค์กร Continental ต้องหาทางหนีออกจากเมือง New York ซึ่งก็พอจะเห็นภาพการต่อสู้ที่ยกระดับกว่าเดิมได้พอสมควร แต่ที่การันตีความเดือดกว่านั้น มาจากคำบอกเล่าของ Chad Stahelski เผยในบทสัมภาษณ์กับ The Independent ก่อนหน้านี้ว่า สงครามของ Wick
“Clothes don’t make a man, but clothes have got many a good job.” เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ เป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกความน่าเชื่อถือของผู้สวมใส่ก่อนที่จะเริ่มทำความรู้จักกันเสียอีก นี่คือสิ่งที่คนในหลายประเทศให้ความสำคัญมาก เพราะถือว่ามันคือส่วนหนึ่งของการเป็นมืออาชีพที่ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี สร้างความน่าเคารพเชื่อถือ แต่ต้องยอมรับว่านี่เป็นสิ่งที่หลายคนรอบตัวเรามองข้ามความสำคัญของการแต่งกายไป ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปหลายครั้งอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นนอกจากทำงานเด่น ความสัมพันธ์ทางบ้านดี ปาร์ตี้เที่ยวเล่นมันส์ไม่มีถอย ออกกำลังกายจนมีประสิทธิภาพร่างกายแข็งแรงเต็มพลังแค่ไหน การจะเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบที่ทั้ง TOP MAN TOP FORM ต้องไม่มองข้ามการสร้างบุคลิกที่ดีทั้งจากภายในและภายนอกด้วย นั่นคือการแต่งกายให้ดูดี สร้างความมั่นใจให้ทำอะไรได้ดีกว่าเดิม และการบำรุงสุขภาพผิวให้สดใสอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากที่เรารู้แล้วว่าจะต้องพักผ่อนแบบไหน TOP MAN MANUAL#1 ให้เรามีพลังอย่างเต็มเปี่ยม วิธีบาลานซ์ชีวิตนอกบ้านและชีวิตในบ้านที่ดีใน TOP MAN MANUAL#2 รวมถึงการออกกำลังกายให้มี VO2 Max เพื่อจะได้ทำงานและปาร์ตี้ให้สุดพลังมากกว่าเดิมใน TOP MAN MANUAL#3 ครั้งนี้เราจะมาแนะนำอีกปัจจัยที่ยอดชายจะขาดไปไม่ได้เลย นั่นคือการสร้าง Wardrobe Essential 2018 เลือก
จากกระแสภาพยนตร์ Black Panther ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้ หนึ่งในตัวร้ายที่ขโมยซีนราชาเสือดำอย่าง Erik Killmonger ซึ่งรับบทโดย Michael B. Jordan ได้รับความวิจารณ์และชื่นชมอย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งความหล่อที่กระชากใจสาว ๆ หลายคนให้รู้สึกหลงในเสน่ห์ของตัวร้ายคนนี้มากกว่าพระเอกของเรื่อง Chadwick Boseman เสียอีก ทว่าหากใครติดตามงานของ Jordan ก็จะรู้ว่าเขามีพัฒนาการณ์อย่างก้าวกระโดดในด้านงานแสดง เริ่มจากเขาเป็นนักแสดงหนุ่มอายุเพียงแค่ 28 ปีเท่านั้น แม้จะเคยล้มเหลวกับบทบาท Human Torch ใน Fantastic Four แต่ก็มาแก้ตัวได้ในหนังทุนต่ำอย่าง Creed และยิ่งทวีความดังมากขึ้นไปอีกหลังจาก Black Panther เข้าฉาย จนตอนนี้ขึ้นแท่นซุปเปอร์สตาร์อีกคนของวงการหนังฮอลลีวู้ด โดยวันนี้เราจะขอนำเคล็ดลับความเท่ที่ใช้มัดใจสาวของ Michael B. Jordan นั่นคือสไตล์การแต่งตัวสุดเฉียบของเขามาฝากชาว UNLOCKMEN กัน Perfection Tailor Michael B. Jordan เป็นเด็กหนุ่มที่มีเซ้นต์ในเรื่องการเลือกชุด formal อย่างเหลือเชื่อ เพราะเมื่อถึงงานพรมแดง เขาจะเป็นคนหนึ่งที่เฉิดฉายในชุดสูท silm cut ที่เล่นกับสีสันได้อย่างมีชั้นเชิง
นาทีนี้ศิลปินแร็ปเปอร์เบอร์หนึ่งแห่งยุคนี้อย่างไรก็ต้องยกให้เขาคนนี้ “Kendrick Lamar” ที่กวาดรางวัลความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น Grammy Awards และอีกมากมาย ทางด้านเสียงวิจารณ์เองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเพราะเนื้อหาของ Lamar เต็มไปด้วยการวิพากษ์สังคมถึงขนาดรุ่นใหญ่อย่าง Dr.Dre เองยังยกให้เขาเป็นราชาคนใหม่ของ West Coast เลยทีเดียว โดยทีมงาน UNLOCKMEN จะขอติดค้างเรื่องประวัติของหนุ่มผิวสีคนนี้ไว้ในคราวหน้าจะหามาเล่าให้ทุกท่านฟังกันอย่างละเอียดยิบอย่างแน่นอน แต่วันนี้เราขอนำข่าวมาแรงอย่างสินค้าสองชิ้นของ Kendrick Lamar ที่กำลังจะวางขาย อย่างเสื้อ DAMN Mecrh ที่เคยเกลี้ยงตลาดไปแล้วรอบหนึ่งกลับมารีสต๊อกอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ Top Dag Entertainment ได้สิทธิ์กลับมาวางจำหน่าย พร้อมเพิ่มลายใหม่เข้าไปอย่าง “Pray For Me” ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Black Panther อีกด้วย อีกทั้งยังมีสินค้าที่น่าสนใจอีกหนึ่งชิ้นนั่นคือ หมวกแก๊ปสีเหลืองที่เขียนว่า “Whatever Happens on Earth ,Stays on Earth” โดยหลาย ๆ คนคาดการณ์ว่าจะถูกใช้เป็นชื่ออัลบั้มใหม่ของเขา ก็นับว่าเป็นคอลเลคชั่นที่น่าสนใจอย่างมากเหมาะจะเก็บสะสมไว้สำหรับแฟน ๆ ของ Kendrick Lamar (shop)
ทุกวันนี้ Drone ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนก็ซื้อไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ เช่นเหล่า Travel Blogger หรือชาวคณะ Production ซื้อไปถ่ายทำ Footage สวย ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ซื้อไปใช้สอดส่องความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยในชีวิต หรือแม้แต่ StartUp หัวใสในประเทศสงคราม ที่ริเริ่มใช้ Drone ในการส่งเลือดไปปฐมพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงและยากต่อการเข้าถึง แต่ก็มีเจ้าของ Drone บางคนที่อาจจะไม่รู้กาลเทศะ ใช้ Drone บินไปในพื้นที่ต้องห้าม ในสนามบิน หรือใช้แอบถ่ายชาวบ้านชาวช่อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจนน่ารำคาญ มันจึงเป็นที่มาของบริษัท DroneShield ผู้เชี่ยวชาญด้านปืนพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ผลิตมาทำหน้าที่สอย Drone จากคนกลุ่มหลังโดยเฉพาะ แม้ก่อนหน้านี้จะมีแต่ปืนขนาดใหญ่เกินชาวบ้านอย่างเราจะใช้ได้สะดวก แต่ DroneGun Tactical รุ่นล่าสุดที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง Star Wars เท่จนเราอยากได้มาครอบครอง แม้จะไม่มี Drone ให้ยิงสอยลงมาก็ตามที วิธีใช้งาน DroneGun Tactical ก็ตรงตัวเหมือนปืนทั่วไป แค่ชี้ไปทาง Drone
ในบรรดาแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านชื่อดังระดับโลก ชื่อของ IKEA คงจะติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอนเวลาที่คนจะไปซื้อของตกแต่งบ้านด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย ใช้งานได้หลากหลาย วัสดุคงทน ทำให้ถูกใจคนใช้ทั่วโลก แต่ใครจะนึกล่ะว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อย่าง IKEA จะทำการแหกคอกมา Collaboration กับแบรนด์แฟชั่นสุดแนวอย่าง OFF-WHITE ได้ซะเนี่ย โดยความร่วมมือระหว่างสองแบรนด์เริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายนปีก่อนที่งาน IKEA Democratic Design Days ซึ่ง Virgil Abloh ผู้ก่อตั้ง OFF-WHITE ได้เผยโฉมกระเป๋า IKEA FRAKTA ที่ถูกรีดีไซน์แปะด้วยคำว่า “Sculpture” ตรงข้างกระเป๋าเข้าไป แต่ก็ยังไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเป็นผลงานตามมาอย่างจริงจัง หลังจากนั้นก็มีภาพหลุดออกมาเป็นระยะไม่ว่าจะพรมปริ้นท์ลายที่มีคำว่า “KEEP OFF” ในห้องทดลองต้นแบบของ IKEA จนเมื่อเร็ว ๆ นี้มีแอคเค้าท์ Instagram ที่ชื่อ Portnygain ได้ไปเยี่ยมชมห้องทดลองของ IKEA ในสวีเดน และเปิดเผยส่วนอื่นของคอลเลคชั่นแบบไม่ได้ตั้งใจ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือพรมสีแดงผืนใหญ่มีคำว่า “BLUE” อยู่ตรงกลางในขณะที่มีคำว่า OFF-WHITE อยู่มุมขวาล่างของพรม ก็ได้สร้างความแตกตื่นบนโลกออนไลน์พอสมควร เนื่องจากไม่มีคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดการ crossover
จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับแมตช์ชิงชนะเลิศกีฬาคนชนคนที่มีเรตติ้งสูงสุดในอเมริกาอย่าง Super Bowl ครั้งที่ 52 อย่างที่ทุกคนพอจะทราบผลการแข่งขันแล้วว่าทีม Philadelphia Eagles สามารถเอาชนะ New England Patriots และคว้าถ้วย Lombardi ไปครองสำเร็จเป็นครั้งที่ 4 นอกเหนือจากไฮไลท์การแข่งขันที่ทำให้ Tom Brady พลาดโอกาสสะสมแหวน Super Bowl สูงสุดตลอดกาลไป ยังมีประเด็นเรื่องโฆษณาระหว่างเกมส์ รวมไปถึง Halftime Show ที่แย่งความสนใจไปจากผู้คนได้ไม่แพ้ความดุเดือดในสนามแข่งให้ทุกคนต่างพูดถึง อย่างที่ชาว UNLOCKMEN น่าจะพอรู้กันดีอยู่แล้วว่ารายการ NFL Super Bowl ถือเป็นช่วงเวลาที่ทีวีมีเรตติ้งดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาประมาณตัวเลขคาดการณ์ยอดผู้ชมในแต่ละปีจะอยู่ที่ 113 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรในประเทศไทยเสียอีก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากแต่ละแบรนด์จะยอมแลกเม็ดเงินมหาศาลเพื่อมาโปรโมตระหว่างออกอากาศนี้ แต่การจะโฆษณาให้คนเห็นในวงกว้างก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะเสมอไป หากคุณฉลาดเลือกและหัวใสเหมือนกับ Nikeในการทำการตลาดสินค้าตัวใหม่ เพราะแทนที่จะสร้างวิดีโอโฆษณามาซื้อช่องสล็อตฉายเพียงไม่กี่วินาที Nike กลับเลือกใช้วิธี Tie in สินค้าเข้าไปกับศิลปินในช่วง Halftime Show ซึ่งในครั้งนี้ได้ Justin Timberlake’s ที่กลับมาขึ้นโชว์อีกครั้ง หลังจากเคยสร้างวีรกรรมฉาวเมื่อประมาณ 10
หนุ่ม ๆ หลายคนอาจจะชินกับการแต่งตัวแบบเดิม ๆ ไม่กล้าฉีกแนวเพราะกลัวว่าแต่งออกมาแล้วจะดูไม่มั่นใจ เลยเลือกจะแต่งตัวเหมือนเดิมซ้ำซากจนดูน่าเบื่อ วันนี้ UNLOCKMEN มีไอเดียการทวิสต์เสื้อผ้าด้วยการจับคู่ไอเท็มเครื่องแต่งกายจนเกิดเป็นสไตล์ใหม่ ๆ ให้หล่อ เท่ แต่ดูเป๊ะทุกสถานการณ์ 1.เรียบ เท่ ลุยงาน หนุ่ม ๆ ต้องใช้เวลา 5 วันต่อสัปดาห์ในการแต่งตัวไปกับการทำงาน ดังนั้น ชุดสูท และ ไท ดูจะเป็นชุดประจำของหนุ่มออฟฟิสไปเสียแล้ว แต่ในวันทำงานชิลล์ๆ ลองสลัดไทและกางเกงสแล็คตัวโปรดออกไป แล้วหันมาสวมเสื้อสูทกับกางเกงยีนส์สีเข้ม คู่กับรองเท้าสีขาว ก็ช่วยให้หนุ่มๆ ได้ลุคทำงานสบายๆ แต่มีความเรียบร้อยแฝงอยู่ Tip’s : เลือกสูทและกางเกงที่มีสีใกล้เคียงกัน ส่วนเนื้อผ้าไม่ต้องเป็นชนิดเดียวกันก็ได้ 2.วันหยุดสุดชิลล์ ใครจะคิดว่าแจ็กเก็ตกับเสื้อเชิ้ตที่หนุ่มๆ มักเลือกสวมใส่คู่กับกางเกงขายาวจนดูเป็นลุคกึ่งทางการ แต่เมื่อนำมาแมชต์กับกางเกงขาสั้นแล้ว ก็ทำให้วันหยุดสุดชิลล์ของหนุ่มๆ ดูเท่ มีสไตล์ แบบไม่ซ้ำใคร แถมยังสร้างเสน่ห์ชวนให้สาวๆ มองจนแทบละสายตาจากคุณไม่ได้ Tip’s: เลือกเสื้อแจ็กเก็ตที่มีลวดลายเด่นๆ แมชต์กับกางเกงขาสั้น โดยเลือกกางเกงให้สั้นเหนือหัวเข่า 3.ออกเดินทางอย่างมีสไตล์ หนุ่มรักการผจญภัย ชอบท่องเที่ยวในโลกกว้าง หลายคนมักเลือกชุดที่สวมใส่สบายและคล่องตัวต่อการเดินทาง
John Mayer ชื่อนี้ถูกจัดอยู่ในยอดนักดนตรีผู้มีสำเนียงกีต้าร์สุดแสนโรแมนติกมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และคงไม่มีใครสงสัยในพรสวรรค์ทางด้านดนตรีอันเหลือล้นของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แต่นอกเหนือจากฝีไม้ลายมือชนิดหาตัวจับยาก John Mayer ยังขึ้นชื่อในเรื่องพฤติกรรมห่าม ๆ สุดแปลกแบบที่ชาวบ้านชาวช่องไม่ค่อยจะมีกัน ไหนจะชื่อเสียงด้านความเป็น Bad Boy และ Playboy คือภาพจดจำของชายผู้นี้ แต่ในบรรดาข่าวกอสซิปทั้งหลาย ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ John Mayer คือสไตล์การแต่งตัวสุดจัดจ้านและเต็มไปด้วยเซ้นส์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเขานั้นเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์อย่าง Visvim และมีคอลเลกชันนาฬิกาอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเราย้อนไปดูไอเทมหลาย ๆ ชิ้นที่ได้รับความนิยมล้วนเกิดจากตัวเขาแทบทั้งสิ้น อาทิ เสื้อแจ็กเกตสไตล์กิโมโน รองเท้า Chealsea Boost และอีกมากมาย ดังนั้นเพื่อเป็นข้อยืนยันในความอัจฉริยะด้านการแต่งกายของเขา ทีมงาน UNLOCKMEN จะพาไปชม Outfit คูล ๆ ของ John Mayer ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่ามีสไตล์ไหนที่ถูกใจทุกท่านกันบ้าง Pretty in Pink ผู้ชายหลายคนกลัวการใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส โดยเฉพาะสีหวานแหววอย่างโทนชมพู แต่ John Mayer ได้พิสูจน์แล้วว่าหากคุณเป็นชายทั้งแท่งจะใส่สีอะไรก็ไม่สำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงาน UNLOCKMEN
หากจะพูดถึงรองเท้าที่มาแรงแซงทุกความนิยมและทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เราต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับรองเท้า Vans Old Skool ซึ่งหลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่ารองเท้าที่มีเรื่องราวอันยาวนาน ทำไมถึงเพิ่งจะกลับมาฮิต ต่างจากรองเท้าอย่าง Converse Chuck Taylor All Star หรือ Converse Jack Purcell ที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดเวลา ย้อนกลับไปช่วงปี 2000 บริษัทรองเท้า Skateboard ชื่อดังก้องโลกอย่าง Vans กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ยอดขายของพวกเขาถือว่าไม่สู้ดีนักแถมยังเจอแบรนด์คู่แข่งน้องใหม่อย่าง DC และ Osiris แย่งความนิยมไปทั้งที่ตัวเองถือว่าเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานไม่แพ้ใครในโลก ดังนั้นผู้บริหารจึงได้ว่าจ้าง Rian Pozzebon ชายที่ชื่อไม่ได้คุ้นหูมากนักในวงการ sneakers เพื่อมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของแบรนด์ ซึ่ง Rian ได้ชวนเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้ามาคือ Jon Warren เมื่อทั้งคู่เริ่มต้นทำงานกับ Vans คำถามแรกที่พวกเขาสงสัยคือ Vans จะยอมให้เราจัดการกับรุ่นคลาสสิคหรือไม่ ? เพราะก่อนหน้านี้ทิศทางของบริษัท Vans ถือว่าสะเปะสะปะพอสมควร เนื่องจากพวกเขาพยายามผลักดันรองเท้าโมเดลใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดจนปล่อยปละละเลยรองเท้าโมเดลเก่า ๆ อย่าง