ควอน จี ยง หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม G-Dragon ลีดเดอร์คนสำคัญจากวงบอยแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศเกาหลีใต้อย่าง Big-Bang ที่สะสมประสบการณ์ทำงานในวงการเพลงมากกว่า 20 ปี และปัจจุบัน G-Dragon ไม่ได้โด่งดังเฉพาะผลงานเพลง เพราะในเรื่องของสไตล์แฟชั่นเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกแฟชั่นคนหนึ่งจากการจัดอันดับของ Time , Forbes , Hypebeast G-Dragon เปรียบเสมือนแฟชั่นไอคอนของเอเชีย หลังจากที่โลดแล่นในอุตสาหกรรมดนตรีมากว่า 10 ปี ด้วยวัฒนธรรมโลกที่เปิดกว้างขึ้นเริ่มมีการ crossover ระหว่างวัฒนธรรมแฟชั่นตะวันตก และตะวันออก GD จึงได้มีโอกาสไปร่วมงาน Paris Fashion Week ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ ทำให้เขาได้ไปร่วมงานกับ Hedi Slimane , Jeremy Scott โดยทั้งคู่เล็งเห็นว่า G-Dragon มีความสามารถในการผลักดันแฟชั่นให้ก้าวไปยังทั่วโลกได้ ย้อนกลับไปยังความหลงใหลในด้านแฟชั่นของตัว GD เริ่มขึ้นตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เนื่องจากในสมัยก่อน ตอนที่เขายังคงเป็นศิลปินฝึกหัด G-Dragon ไม่ได้มีคนดูแลเสื้อผ้าเหมือนกับปัจจุบัน ทำให้คนที่รับหน้าที่ดูแลเครื่องแต่งกายนั่นคือแม่ของเขา ซึ่งเมื่อเขาย้อนกลับไปดูรูปภาพเหล่านั้น GD
ซิลิคอนวัลเลย์ แทบจะกลายเป็นสถานที่ ๆ มนุษย์เงินเดือนทุกคนใฝ่ฝันอยากจะไปทำงาน เนื่องจากมันเต็มไปด้วยบริษัทชั้นนำของคนยุคใหม่ อาทิ Facebook , Google , Microsoft , Apple และอีกมากมาย ซึ่งที่เหล่านี้ก็ยังเป็นแหล่งรวมตัวของ CEO หัวกระทิที่ผลิตนวัตกรรมเจ๋ง ๆ มาอำนวยความสะดวกให้เราอยู่ในทุกวันนี้ สำหรับ Sneakers of the week สัปดาห์จะพาไปส่องรองเท้าของระดับเจ้าของบริษัทไอทีว่าพวกเขาสวมใส่สนีกเกอร์อะไรขณะเดินทำงานอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ Mark Zuckerberg (Co-Founder Facebook) สำหรับเจ้าพ่อ Facebook และเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก อย่างที่ทราบว่าเขามีสไตล์สุดแสนจะเรียบง่าย และสมถะ โดย Mark แต่งตัวแบบเดิมทุกวันคือเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบเนื่องจากเขาไม่อยากมานั่งเสียเวลาคิดว่าต้องใส่เสื้อผ้าอะไรให้เสียเวลาทำงาน โดยรองเท้าที่ Mark สวมใส่ก็คือ Nike LunarEpic Low 2 อาจเพราะเขาหลงใหลในความนิ่มของชุดพื้น Zoom แล้วก็หน้าผ้าแบบ Flyknit ที่กระชับเท้าได้เป็นอย่างดี คงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างอยู่ไม่สุขของเขา จึงทำให้ไม่น่าเชื่อว่ารองเท้าของเศรษฐีระดับพันล้านจะใส่รองเท้าเพียงคู่ละไม่กี่พัน Sundar Pichai (CEO
หากเราย้อนกลับไปยังพื้นฐานความต้องการของมนุษย์นั้น เสื้อผ้า เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่มเพื่อให้ร่างกายของเรารู้สึกอบอุ่นตอบสนองกับการใช้งาน มากกว่าคำนึงถึงเรื่องของความสวยงาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างความสวยงามกับประโยชน์ใช้สอยเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นคำว่าแฟชั่น ซึ่งหลาย ๆ ครั้งแฟชั่นที่สวยนั้นอาจจะไม่ใช่ของที่ดี หรือแฟชั่นที่ดี อาจจะไม่ตอบสนองการใช้งานก็เป็นได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เสื้อผ้าบางประเภทสามารถเอาชนะกาลเวลา ถูกออกแบบมาเป็นร้อยปี แต่ก็ยังคงความ เท่ และร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยสิ่งที่เรากำลังพูดถึงนี้คือ “Parka” เสื้อกันหนาวที่มีดีไซน์สวยงาม และเคยผ่านการเป็นเครื่องแบบกองทัพ รวมถึงเสื้อผ้าของชนเผ่ามาแล้ว แม้ว่าจะไม่ค่อยเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราก็ตาม แต่วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ก็อยากจะหยิบเอาประวัติของเสื้อ Parka มาเล่าสู่กันฟัง หลายคนอาจจะจดจำภาพของเสื้อ Parka ในฐานะเครื่องแบบของทหาร หรือเครื่องแต่งกายชาว Mods แต่อันที่จริงแล้วเสื้อตัวนี้มีประวัติที่ยาวนานกว่านั้นมาก เพราะหากเราย้อนไปยังจุดเริ่มต้น แม้จะยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าต้นกำเนิดของ Parka มาจากไหน แต่มีพบหลักฐานที่พอจะอ้างอิงได้ เกิดขึ้นอยู่สองแห่งสำคัญด้วยกัน คือในราวทศวรรษที่ 20 ชาว Kalaallisut (ชนเผ่าหนึ่งของเอสกิโม) ได้สวมเสื้อที่เรียกว่า anorak ซึ่งมีลักษณะเป็นเสื้อคลุมตัวหนาทำจากขนสัตว์ ไว้ใช้เพื่อปกป้องร่างกายจากอากาศอันสุดแสนจะหนาวเย็น ส่วนหลักฐานอีกแหล่งกำเนิดหนึ่งของเสื้อ Parka คือชนเผ่า Caribou Inuit ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ
วันนี้ขอนำข่าวคราวของไอเทมมาแรงประจำ พ.ศ นี้อย่าง adidas YEEZY ที่จะเปิดตัวรุ่นสุดท้ายของปี 2017 ด้วยสีใหม่ Blue Tint / Grey Three / High Resolution Red ซึ่งเป็นสีใหม่ที่ไม่เคยมีวางจำหน่ายมาก่อน สำหรับ adidas YEEZY boost 350 “blue tint” มีภาพหลุดออกมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านพร้อมกับรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ทำท่าเหมือนจะให้ sneakershead ชาวไทยต้องฝันสลาย เนื่องจากตลอดมาไม่มีรายชื่อ store list ยืนยันว่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ แต่สุดท้ายทาง adidas Thailand ก็ได้ประกาศคอนเฟิร์มผ่าน Facebook official แล้วว่าเตรียมวางจำหน่ายแน่นอนในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม ซึ่งนอกจากเรื่องนี้ ยังมีข่าวดีเพิ่มเติมอีกคือ adidas YEEZY boost 350 “blue tint” จะเป็นหนึ่งในโมเดลที่มีสต๊อกลิสต์มากที่สุด เพิ่มขึ้นจากเดิมราว ๆ 2-3 เท่า ทำให้ทุกคนมีโอกาสคว้ารองเท้าซุปเปอร์แรร์ไอเทมของยุคมาเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้น สำหรับรายละเอียดของรองเท้า adidas
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ หูฟังเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่ายุคก่อนอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะคนเราใส่ใจในรายละเอียดด้านเสียงมากขึ้น แถมยังมีหูฟังยังมีฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่างกันออกไป บางคนมีหูฟังสำหรับแต่ละไลฟ์สไตล์ หูฟังเล่นเกม หูฟังสำหรับฟังเพลง ซึ่งอาจจะจริงจัง มีขนาดใหญ่โต ไม่ง่ายเลยที่จะพกมันไปได้ทุกที่ เราจึงต้องมีหูฟังสำรอง เป็นหูฟังสารพัดประโยชน์ ที่เน้นพกพาง่าย แต่พลังเสียงก็ต้องดีใช้ได้ทุกสถานการณ์ เพราะต่อให้พกง่ายแค่ไหน หรือไฟล์เพลงจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหูฟังห่วยก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้เราจะมาแนะนำหูฟังรุ่นล่าสุดจาก MARSHALL ที่เราสอยมาใช้ล่าสุด และมันกลายเป็นหูฟังสารพัดประโยชน์ ที่เรทพกติดตัวประจำในทันที เพิ่มความคล่องตัวสำหรับคนมองหาหูฟังพกง่าย น่าจะมีประโยชน์ในการเดินทางท่องเที่ยวช่วงปลายปีแบบนี้แน่นอน MARSHALL MODE EQ เป็น HEADPHONES แบบ IN-EAR รุ่นล่าสุด มีจุดเด่นในการนำเสนอเสียงที่ค่อนข้างใส เคลียร์ ครบถ้วน ในรูปลักษณ์ที่เล็กจิ๋ว แต่มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายจุด โดยเฉพาะไดรฟ์เวอร์ปรับแต่งพิเศษให้เสียง Output ระดับสูง มีค่าความเพี้ยนน้อย ต้องยกเครดิตให้การเลือกใช้วัสดุที่ดูดีในโทนสีดำตัดทองเหลือง รวมไปถึงวัสดุผลิตสาย ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมหัวปลั๊กแบบตัวแอล ช่วยให้ความเพี้ยนของเสียงลดลง และยังได้ความทนทานที่มากขึ้น ไม่ต้องกลัวหัวหักหัวขาด การออกแบบไมโครโฟนถูกทำให้เล็กลง และแยกไปอยู่จุดอื่นเพื่อช่วยลดเสียงแตกขณะใช้งานจริง บางคนอาจจะไม่ชอบหูฟังแบบ In-Ear แต่เราว่าข้อดีของมันคือการฝังแน่นอยู่ในหู เคลื่อนไหวตัวได้สะดวกไม่ต้องกลัวหลุด ขณะที่ยังรู้สึกพอดีและสบาย
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็จะผ่านพ้นปี 2017 ไปเสียแล้ว นับเป็นอีกหนึ่งปีที่โลกแฟชั่นของผู้ชายหมุนตัวไปอย่างรวดเร็ว และเราได้เห็นพัฒนาการแต่งตัวของหนุ่มไทยที่มีทางเลือก แถมดูสนุกกับการหา outfit มากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน ซึ่งก็ต้องขอบคุณอินเตอร์เน็ตที่มีแรงบันดาลใจ และข่าวสารมากมายให้เราเลือกเสพ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram หรือ Pinterest ดังนั้นเพื่อเป็นการสรุปภาพรวมของทั้งปี 2017 ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำเทรนด์ที่เคยเกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา พร้อมทำนายว่าจะอยู่รอดหรือไม่ในปีต่อไป Retro Sportswear เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเทรนด์ที่มาแรงแซงทุกทางโค้งเราขอยกให้กับสไตล์การแต่งตัวแบบ Retro Sportswear ที่มีกลิ่นอายของยุค 90s เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อวอร์ม กางเกง Trackpants ล้วนได้รับความนิยมชนิดหาซื้อในท้องตลาดแทบจะไม่ได้ ซึ่งเครดิตทั้งหมดต้องขอยกให้กับ Demna Gvasalia และ Gosha Rubchinskiy ผู้ปลุกกระแส Retro Sportwear ถ่ายทอดผ่านแบรนด์ของตนเอง และเหมือนการคืนชีพให้กับแบรนด์กีฬาเก่าแก่ที่หายไปจากตลาดแล้วอย่าง Kappa , Champion , Umbro ให้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง Sum = แม้ว่าปัจจุบัน Gucci จะยังคงมีการทำ Tracksuit
AYRTON SENNA ยอดนักขับรถความเร็วสูง เจ้าของตำแหน่ง Formula One world championships ในรถ McLaren 3 สมัย 1988, 1990 และ 1991 ตำนานที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักขับรถที่ดีที่สุดในโลก ก่อนจะประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในปี 1994 เขาเคยพูดไว้ว่า “You commit yourself to such a level where there is no compromise. You give everything you have; everything, absolutely everything.” ในวันนั้น ชื่อ SENNA เปรียบเสมือน ICON ของวงการนักแข่ง วันนี้ McLaren ได้สานต่อตำนานชื่อเสียง และความเชื่อของ AYRTON SENNA อีกครั้ง ด้วยการปลดล็อคทุกขีดจำกัดของรถ STREET-LEGAL
หลังจากหายไปนาน THE REAL SLIM SHADY ก็กลับมาฝากผลงานชิ้นใหม่อีกครั้ง ในยุคที่ RAPPER 2017 ต่างเปลี่ยนคำจำกัดความของการ RAP ไปอย่างสิ้นเชิง จากการพูดถึงสภาพสังคมแบบที่ OLD SCHOOL RAPPER ทำกันตั้งแต่สมัย 60s ปัจจุบันกลายเป็นเพลงอวดรวยของ CELEBRITY วัยรุ่น ที่แม้แต่ฝรั่งยังฟังไม่รู้เรื่อง การกลับมาครั้งนี้ของ EMINEM จึงเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอ และ ‘UNTOUCHABLE’ single ใหม่ ที่จะอยู่ในอัลบั้ม Revival เตรียมปล่อยออกมาในอีกไม่นาน ก็ได้ระบายสภาพสังคมในปัจจุบันได้อย่างสะใจ ‘UNTOUCHABLE’ พูดถึงเรื่องความไม่เท่าเทียมกันของสัมคมอเมริกัน มีการพูดถึงเรื่อง White Privilege ที่แม้แต่ในยุค 2017 คำว่า RACISM ก็ยังคงอยู่ในกลุ่มคนผิวสี แม้สื่อหรือปากนักการเมืองจะพ่นแต่เรื่องความเสมอภาค แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกระทำรุนแรง ใช้อาวุธ ยิงกันถึงขั้นเสียชีวิตทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ EM มองว่าเกินกว่าเหตุ และคนผิวขาว ก็ดูจะมีสิทธิพิเศษมากมาย เป็นที่มาของชื่อเพลง UNTOUCHABLE
เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 AUDI TT COUPE GENERATION ที่ 3 รถ 2 ประตูในช่วงกลางอายุขัย ก็มีภาพระหว่างทดลองขับบนถนนเผยออกมาให้เห็น เหมือนเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานน่าจะปล่อยรุ่น FACELIFT ออกมา แต่ถ้าใครกำลังอยากได้ AUDI TT อยู่แล้ว บอกเลยว่าไม่ต้องรอก็ได้ เพราะโดยรวมดูแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก AUDI TT COUPE FACELIFT ที่ถูกจับภาพระหว่างวิ่งทดสอบได้นั้น มีจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ กันชนหน้า – หลัง ดีไซน์ใหม่ ที่เพิ่มความเป็นสปอร์ตมากขึ้น เข้ากับกระจังหน้าที่เปลี่ยนจากแนวขวางของเดิม ให้เป็นแบบรังผึ้ง (honeycomb mesh grille design) เหมือนเอาชุดแต่งของ AUDI TT RS มาติดตั้งเป็นมาตรฐานให้รุ่นธรรมดา เพราะสังเกตได้จากปลายท่อคู่ที่เป็นทรงเดิม อีกจุดที่หลายคนคาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็คือรายละเอียดในโคมไฟหน้า โคมไฟท้าย ลวดลายล้อรุ่นใหม่ และการตกแต่งภายในที่อาจจะเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อย โดยเฉพาะระบบ INFOTAINMENT และวัสดุตกแต่งให้ดูสปอร์ตขึ้นรับกับภายนอก แต่ไม่รู้ว่าเมื่อ AUDI THAILAND
อยู่ในปาร์ตี้ เพลงดีกำลังเพลิน สาวมองกำลังดี มีโอกาสทักทายกำลังจะได้จับมือกัน แต่ติดปัญหาแค่นิดเดียว คือมือที่ถือเบียร์เปียกจนสาวร้องยี้ น้ำหยดแหมะเสื้อกางเกงเป็นดวง ทุกอย่างกำลังดี แต่ติดปัญหาแค่นี้ ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปเฉยเลย หรืออยู่ในปาร์ตี้ที่คนเยอะมากจนไม่มีที่วางเบียร์ ต้องถือตลอดคืนจนมือเปื่อย เมื่อยไปทั้งคืน จะให้วางพื้นก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนไม่รักษาความสะอาด จะเต้นกังนัมสไตล์ต้องใช้สองมือ ก็ทำไม่ได้ เพราะเบียร์จะหกเอา ด้วย INSIGHT ที่เข้าใจผู้ชายเป็นอย่างมาก เราอยากขอแนะนำ ITEM สุดคูล ‘THE BEVBUCKLE BELT” เข็มขัดที่ไม่ถึงกับอัจฉริยะมากเท่าไหร่ แต่ก็ใช้วางเบียร์ได้ สบายมือไปทั้งคืน “LIFE’S TOO SHORT TO HOLD YOUR OWN DRINK” สโลแกนเด่นชัด เข้าใจง่าย ของ BEVBUCKLE BELT เข็มขัดหัวใหญ่สไตล์คลาสสิค เหมาะสมกับลูกผู้ชายแบบ เต๋า สมชาย เข็มกลัด สามารถกางห่วงสำหรับวางและประคองเบียร์ได้สบาย ๆ นิ่งอยู่ตัวทุกการเคลื่อนไหว จะเต้นโยกบน ส่ายล่าง