เมื่อเอ่ยถึง Hamilton แบรนด์นาฬิกาสไตล์อเมริกัน สัญชาติสวิส สิ่งแรกที่เราเชื่อว่าเหล่าคนรักนาฬิกาต้องนึกถึงนั่นก็คือความเป็นเรือนเวลาที่มีคุณภาพความเที่ยงตรงสูง และชื่อเสียงอันโดดเด่นกับ Pilot’s Watch หรือนาฬิกานักบิน ซึ่งมีบทบาทในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์การบินมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1919 ด้วยการได้รับเลือกให้เป็นนาฬิกาที่ใช้งานบอกเวลาอย่างเป็นทางการของเที่ยวบินไปรษณีย์สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในความสำเร็จของเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเส้นทางการบินเชื่อมระหว่างสองชายฝั่งของสหรัฐฯ มาจนถึงปัจจุบันนาฬิกา Hamilton ยังคงได้รับความไว้วางใจถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของหลายฝูงบินชั้นนำทั่วโลก รวมถึงรับหน้าที่อุปกรณ์จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันเครื่องบินหลบหลีกเครื่องกีดขวาง “Red Bull Air Race World Championship 2017” ซึ่งนอกจากภาพลักษณ์ของเรือนเวลาที่เกี่ยวข้องกับวงการการบินอย่างแนบแน่น แบรนด์ Hamilton ยังได้รับการขนานนามว่า The Movie Brand ซึ่งที่มาของสมญานี้คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการที่นาฬิกาหลายต่อหลายรุ่นของ Hamilton ได้ไปอวดโฉมอยู่ในภาพยนตร์ Hollywood ระดับ Blockbuster หลายต่อหลายเรื่อง The Movie Brand ความสัมพันธ์ของนาฬิกา Hamilton กับแวดวง Hollywood นั้นมีมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ นับตั้งแต่การปรากฏตัวบนจอเงินเป็นครั้งแรกในปี 1951 ด้วยบทบาทบนข้อมือของเหล่าฮีโร่ทหารนักจู่โจมใต้น้ำจากภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์เรื่อง The Frogmen ก่อนที่ราชาร็อกแอนด์โรล
ผลวิจัยบอกว่าผู้ชายใส่เสื้อสีชมพู สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้น
“FASHION CHANGES, STYLE ENDURES” เมื่อสักประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้ดูคลิปตัวหนึ่งของผู้ก่อตั้งบริษัทขายอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีการนำเอาเสื้อราคากว่า 150,000 บาท มาฉีก พร้อมให้แง่คิดในเรื่องของวัตถุปรุงแต่ง ซึ่งเราก็ได้แง่คิด และรู้สึกเหมือนกันตรงจุดนี้ วันนี้จึงอยากนำแง่มุมสิ่งที่คิดมาแชร์ถึงผู้อ่านทุกคน แม้ว่าก่อนหน้านี้เราเองจะเคยแนะนำไอเทมใหม่ต่าง ๆ ไปมากมาย แต่สิ่งที่เราคอยเน้นเสมอในเรื่องของแฟชั่นคือการที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อของราคาแพงมากมาย เพราะเรามีแนวคิด และความเชื่อที่ว่าคนแต่งตัวดี ไม่เกี่ยวกับว่าของที่คุณใส่มีมูลค่าเท่าไหร่ หรือจำนวนไอเทมว่ามากมายสักแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้สอยของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า ซึ่งเราก็รู้สึกว่าคนในยุคปัจจุบันนั้นถูกหล่อหลอมด้วยการโชว์ โอ้อวด ทางออนไลน์ เพราะบางคนอาจจะแคร์สายตาของคนอื่นมากกว่าสายตาตัวเองเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เราพบเจอบ่อยคือการอยากครอบครองของ Hype โดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน ไม่ได้คิดว่ามันสวยงามขนาดนั้นเมื่อเทียบกับราคา ลึก ๆ ในใจอาจจะไม่ได้ชอบมันด้วยซ้ำ แต่เห็นว่ามันกำลังเป็นที่นิยม ก็เลยจำเป็นต้องอยากได้ตาม ๆ กัน เพราะแฟชั่นชิ้นนั้นเป็นการการันตีให้คนใส่ได้มั่นใจว่า เป็นคนคูลที่ทันสมัย บางครั้งเราก็ทำอะไรตาม ๆ กันไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบหรือไม่ รวมถึงมันเหมาะสมกับเรามากน้อยสักเท่าไหร่ ตัวอย่างชัด ๆ คือรองเท้า NMD , Yeezy ที่เอาจริงเราเชื่อว่าวินาทีแรก หลาย ๆ คนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ปัจจุบันรองเท้าแต่ละแบรนด์ก็มีการแบ่งเกรดราคารองเท้าให้เลือกตั้งแต่ราคา 2000-3000 บาทสำหรับผู้เริ่มต้น จนไปถึงราคาเหยียบหมื่น โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องซื้อของละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำรองเท้าผ้าใบ ราคาไม่แพง แต่คุณภาพเกินตัว สามารถนำไปใส่ได้หลากหลายสถานการณ์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มเมืองในยุคนี้ *หมายเหตุ รองเท้าที่เราจะแนะนำต่อไปนี้เกิดจากความรู้สึกในการสวมใส่ของผู้เขียน ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้รับความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป* Nike Tanjun สำหรับรองเท้าคู่นี้นับว่าเป็นโมเดลที่ราคาถูกลำดับต้น ๆ ของแบรนด์ Nike ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของความเรียบง่าย เพราะคำว่า ‘Tanjun’ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่าเรียบง่าย ซึ่งเปรียบเหมือนรองเท้าไลน์เริ่มต้นตระกูลเดียวกับ kaishi และ roshe สำหรับรองเท้าคู่นี้มีเอกลักษณ์คือพื้นกลางที่ใช้โฟมเป็นพื้นแผ่นเดียวกัน เพื่อความนุ่มเบาในการสวมใส่ และหน้าผ้าจะเป็นผ้าตาข่ายพร้อมรูล้อมรอบ ดังนั้น Nike Tanjun จึงสามารถใส่วิ่งเล่น ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ หรือจะใส่เที่ยวลำลองก็ดีไม่แพ้กัน Price : 2,300 บาท adidas campus เป็นรองเท้ารุ่นเก่าที่ทาง adidas ได้นำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เบื่อรองเท้าสาย performance หรือ lifestyle ซึ่ง adidas
หากพูดถึงแหล่งช็อปปิ้งอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างไรก็ต้องมีชื่อของโตเกียวเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่เราเชื่อว่าแทบทุกคนต้องอยากจะเดินทางไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง เนื่องจากญี่ปุ่นคือผู้กำหนดทิศทางแฟชั่นของฝั่งเอเชียมาช้านานแล้ว ด้วยสไตล์ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับความใกล้กันของลักษณะสไตล์ กับบ้านเรา เมืองหลวงอย่างโตเกียวจึงเหมือนเป็นแลนด์มาร์คแห่งแรก ๆ ที่คนต้องนึกถึงในเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัว แบรนด์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ราคาย่อมเยาอย่าง Uniqlo ยันไปโดยแบรนด์ไฮโซ อย่าง COMME des GARCON’s แต่สิ่งที่สอดคล้องกันและเหมือนเป็นลายเซ็นของแบรนด์จากญี่ปุ่นคือเรื่องงานคราฟท์สุดประณีต ในการผลิต ทำให้หากพูดถึงของดีอย่างไรก็ต้องญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 สำหรับแหล่งที่เป็นหัวใจของเทรนด์ และ Subculture ของญี่ปุ่นนั้นก็คือ ชิบูย่า ฮาราจูกุ แต่ไฮไลท์คงจะเป็นย่านกินซ่า ที่รวมเอาเหล่าร้านค้ามากมาย และเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานของเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดัง แถมการไปช้อปปิ้งที่นั้น พวกเรายังสามารถทำเรื่องของ Tax Refund (ขอคืนภาษี) ได้ถึง 8% เมื่อเราซื้อสินค้าภายในร้านเดียวกันรวมมูลค่าตั้งแต่ 10,000 เยน (ราว ๆ 3,xxx บาท) ขึ้นไป ซึ่งจะช่วยเราประหยัดเงินได้อีกเป็นมากโข ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงมี Shopping Guide ว่าหากมีโอกาสได้ไปโตเกียวสักครั้งมีร้านไหนบ้างที่หนุ่ม ๆ UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด
จากหมวกตกปลาสู่ ไอเทมฮอตบนรันเวย์
“การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ” หรือ “Creating the New” เป็นกลยุทธ์หลักด้านความคิดสร้างสรรค์ของ adidas และเป็นที่มาของแนวคิดจัดตั้งพื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์ ที่เน้นคอนเซ็ปต์ด้านสังคมเมือง ความรวดเร็ว และ open source หรือ การเปิดรับบุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม ภายใต้การนำของ มร.พอล โกดิโอ ผู้อำนวยการด้านการสร้างสรรค์ของ adidas (Paul Gaudio, adidas Global Creative Director) ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการจัดตั้งศูนย์กลางทางความคิดแนวโอเพ่นซอร์ส ณ ใจกลางเมืองนิวยอร์ค หนึ่งในหัวเมืองหลักของ adidas เพื่อสร้างหนทางแห่งการค้นพบและปั้นกลุ่มนักสร้างสรรค์ให้มีอิทธิพล และกลายเป็นแรงบันดาลใจของแบรนด์ adidas รวมทั้งสร้างทิศทางการสร้างสรรค์ของแบรนด์อีกด้วย… วันนี้ มร.พอล โกดิโอ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ adidas จะมาตอบคำถามและอธิบายว่า สถานที่สำหรับนักสร้างสรรค์เพื่อการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดของ adidas ที่เรียกว่า “Brooklyn Creator Farm” มีความเป็นมาอย่างไร ที่มาที่ไปของ “Brooklyn Creator Farm” เป็นอย่างไร บรูคลินได้รับเลือกเป็นเมืองที่มี Creator
หลังจากเคยมีการจัดสำรวจคนดังที่แต่งตัวดีในรอบหลาย ๆ ปีที่ผ่าน ชื่อของ Harry Style อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อก้องโลกอย่าง One Direction มักจะติดเข้ามาในโผด้วยเสมอ จากเด็กน้อยผู้ผ่านการประกวดร้องเพลงรายการ X-factor ที่ค่อย ๆ พัฒนาสไตล์การแต่งตัวจนกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลในเรื่องแฟชั่นมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง นอกจากเรื่องของหน้าตาที่เป็นส่วนสำคัญให้ Harry Style โดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมวงคนอื่น ๆ การแต่งตัวของเขาก็ถูกดีไซน์ออกมาได้รับเข้ากับทรงผม และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เสียเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะนำสไตล์การแต่งตัวของ Harry Style ซึ่งเรามองว่าเหมาะหนุ่มไทย มาฝากกัน Prince of Print หลังจากที่เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดูแบดบอยมากขึ้น Harry Style ก็มักจะเลือกเสื้อเชิ้ต ที่มีลวดลายฉูดฉาด ไม่ว่าจะเป็น ลายดอก ฮาวาย และอีกมากมาย จับคู่กับกางเกงทรงสกินนี่ที่เป็นชุดประจำของเขา ไม่ว่าจะออกไปเล่นคอนเสิร์ต หรืองานต่าง ๆ แน่นอนว่าการจับคู่โทนสีก็ทำได้อย่างน่าสนใจเสมอ ดังนั้นลองดูวิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ของ Harry เป็นแบบอย่าง และนำไปปรับใช้กัน เพราะแค่โทนสีเข้ากันได้ดี ก็สามารถดูโดดเด่นได้ไม่ยากเลย หลักการง่าย ๆ ที่ใช้ได้ทุกครั้งคือการเลือกสีที่มีความ
หากพูดถึงร้านขายสินค้าแฟชั่นที่เรียกว่า retailer store ที่อยู่ยง และเป็นที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นสตรีทในบ้านเรา คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก Vii Athletic Club หรือ VAC ร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รวมถึงรองเท้าชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพวกเขาได้มีการปรับโฉมร้านใหม่เพื่อตอบรับกับกระแสสตรีทแฟชั่นที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในบ้านเราอย่างไม่ลดละ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนร้านในรูปโฉมใหม่ พร้อมพูดคุยกับ คุณ บ๊อบ วรากฤช วิวัฒนาเกษม เจ้าของร้าน และผู้ก่อตั้ง VAC สำหรับคนที่อาจจะรู้จัก หรือยังไม่รู้จัก VAC พร้อมขอคำชี้แนะ และมุมมองสังคมไทยในเรื่องสไตล์การแต่งตัว เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงร้านใหม่ เหตุผลเพราะอะไรทั้งที่แบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว? ในส่วนของสินค้าที่ขายก็ยังคงเหมือนเดิม เป็นสินค้าแฟชั่นเป็นหลัก แต่เราจะทำร้านให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น จะทำให้ VAC เป็นร้านแบบครบวงจร อย่างเช่น เราเป็นคนชอบอาร์ต ดีไซน์ ก็จะมีเพิ่มเติมเข้ามา ดังนั้นในอนาคต เราคิดว่าจะดึงแบรนด์ที่มีดีไซน์ซึ่งจะเป็นอะไรก็เช่น แก้ว หมอน เข้ามาขายมากขึ้น อย่างนั้นคุณ บ๊อบ จะมีวิธีนำสินค้าเข้ามาขายยังไง? คือหลัก ๆ เราก็จะดู
เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แว่นกันแดดที่เลือกใส่จึงไม่ต่างกับการเลือกสไตล์ความเป็นคุณมาโชว์อยู่บนใบหน้า แต่ถ้าไปกันไกลกว่านั้น นอกจากสไตล์ของแว่นกันแดดที่ต้องมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณแล้ว ใครจะรู้บ้างว่าการเลือกแว่นกันแดดยังบ่งบอกตัวตนของคนใส่ ไปจนถึงบ่งบอกท่าทีทางความสัมพันธ์ที่คุณอยากแสดงออกต่อสาว ๆ ได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว UNLOCKMEN ก็ไม่อยากให้คุณต้องพลาด เราชวนมาดูแว่นกันแดดแบบที่ใช่ เพื่อแสดงความเป็นคุณแบบที่สาว ๆ จะต้องชอบ Wayfarers: มีสไตล์ เรียบง่าย สุดชิล Wayfarers: พูดถึงแว่นกันแดดทั้งที ถ้าไม่พูดถึง Ray-ban คงไม่ได้ โดยเฉพาะรุ่นสุดคลาสสิคอย่าง Wayfarers ที่หยิบมาใส่ทีไรก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง มีติดตัวไว้รับรองได้เลยว่าคุณจะดูมีสไตล์ขึ้นมาแบบไม่ต้องพยายามให้เหนื่อย How it represents you: เป็นความเท่ที่มีมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกของ Ray-Ban ทั้งที Wayfarers ที่คุณเลือกใส่จึงส่งเสริมความเป็นคนสบาย ๆ ไม่ยึดติดกับการวิ่งตามแฟชั่นหวือหวาของแว่นกันแดดที่เรียงแถวเข้ามา ด้วยลุคสุดชิลแบบนี้ ความสัมพันธ์กับสาว ๆ เลยพลอยชิลไปด้วย ถ้าไม่อยากพลาดลุคหนุ่มชิล ๆ แต่ไม่ทิ้งสไตล์ ในสายตาสาว ๆ Wayfarers ก็เป็นอีกแว่นกันแดดที่เหมาะกับคุณเหลือเกิน Aviators: โลดโผน ผจญภัย ใคร ๆ