ใครกำลังอยู่บนท้องถนนตอนนี้ อาจจะสังเกตเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจว่าจำนวนรถประเภท SUV บนท้องถนนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีอาจจะมากกว่าจำนวนรถ Mid-Size car ด้วยซ้ำไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก นี่คือเทรนด์ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์หลายประเทศ อย่างเช่นใน USA ยอดขายรถ Mid-Size car ครึ่งปีแรกนั้นลดลงเกือบ 18% เนื่องจากคนหันไปถอยรถ SUV แทน เช่นเดียวกับในฝั่งยุโรป ที่รถกลุ่ม SUV เข้ามามีบทบาทมากขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยจำนวนความนิยมเทไปทาง Compact SUV มากเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย Mid-Size, Large และ Compact SUV ตามลำดับ กลับมาที่ประเทศไทยบ้านเรา แม้ภาพของยอดขายรถ SUV จะไม่เด่นชัดเท่าต่างประเทศ แต่ก็เป็นเทรนด์ที่กำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยสภาพถนนที่ดูแลโดยหน่วยภาครัฐที่ทำงานแบบขรุขระ พวกเราก็เลยได้ถนนแบบขรุขระเช่นเดียวกันมาใช้งานอย่างไม่เต็มใจนัก ซึ่งค่อนข้างจะเหมาะกับการใช้งานรถ SUV ยิ่งนัก แต่ก็ไม่อยากได้รถที่ภาพพจน์ดูบุกตะลุยเกินไป อยากได้ทั้งความคล่องตัว หรูหรา ขับสนุก และพร้อมบุกเมื่อจำเป็น ด้วยความคิดนี้เอง
โทรศัพท์ Smartphone สมัยนี้ราคาสูงจนเล่นเอาเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาออกมาเล็กและบางเพื่อดีไซน์ที่สวยงามและง่ายต่อการพกพา แต่ภายใต้ข้อดีและความสวยงามเหล่านั้น เรากลับสัมผัสได้ว่า Smartphone ยุคใหม่เหล่านี้ มันช่างบอบบางพังง่ายซะเหลือเกิน ความบอบบางนี้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคอย่างเราที่เราเสียเงินไปก็ไม่ใช่น้อย แทนที่น่าจะได้ของที่อึดทนพังยาก แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งต้องมาคอยระมัดระวังมากเป็นพิเศษ จนบางคนเสียบุคลิกภาพ บางคนนี่หนักถึงขั้นกลายเป็นคนมีอาการวิตกจริตไปเลยทีเดียว ทั้งหมดทั้งมวลก็เพียงเพราะว่ากลัวโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาจะเป็นรอยหรือพังพินาศไปเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราตัดสินใจซื้อ Case มาใส่ รวมไปถึงติดฟิลม์กันรอยกันเกือบทุกคน แต่เอาจริง ๆ Case และฟิลม์กันรอยเหล่านี้ บางทีก็ไม่สามารถช่วยให้รอดพ้นความซวยได้ 100% เพราะยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ Case โทรศัพท์ธรรมดา ๆ ไม่สามารถป้องกันได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของอุณหภูมิ, การตกหล่น ที่บังเอิญไปเจอกับจุดที่ไร้การป้องกัน และปัญหาหนักสุด ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือการทำโทรศัพท์ตกน้ำ แม้ว่า Smartphone บางรุ่นจะกันน้ำได้ แต่ก็ยังมีโทรศัพท์หลายรุ่นที่ราคาแพง แต่ไม่มีความสามารถในการกันน้ำนี้อยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น วันนี้เราจึงได้นำเอา “Phoozy” อุปกรณ์ป้องกันสุดเจ๋งที่เราได้ไปเจอมา และรู้สึกว่านี่แหละ คือคำตอบสุดท้าย! เลยรีบนำมาแนะนำให้กับชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้รู้จักกันไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี
หากพูดถึงคำว่า Hollywood คาดว่าคนส่วนใหญ่คงคิดถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์และดาราชั้นแนวหน้าของโลก หรือไม่ก็ต้องนึกถึงแผ่นป้ายบนหน้าผาที่จารึกคำว่า “HOLLYWOOD” เอาไว้อย่างแน่นอน แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว Hollywood ยังมีอีกหลายสถานที่ที่มีชื่อเสียง และเป็นตำนานอยู่อีก อย่างเช่น “Hollywood Bowl” ซึ่งเริ่มต้นจากการสร้างขึ้นเพื่อเป็นเวทีจัดแสดงคอนเสิร์ตชั่วคราวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้มันได้กลายเป็นสถานที่ซึ่งมีตำนานเล่าขานมากมาย และยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับใช้จัดงานคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “Hollywood Bowl” นั้น พื้นที่ทุก ๆ ตารางนิ้วของมันแทบจะเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยรอยเท้าของผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์วงการดนตรีที่ต่างก็ต้องเคยก้าวเท้าเข้ามาเหยียบบนพื้นดินแห่งนี้กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Frank Sinatra, The Beatles หรือแม้แต่ Jimi Hendrix เอง ก็เคยมาวาดลวดลายการ Solo กีต้าร์เอาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ทุก ๆ สิ่งที่อยู่ในบริเวณ “Hollywood Bowl” จึงเป็นสิ่งที่พิเศษสุด ๆ สำหรับเหล่านักดนตรีตัวจริงเสียงจริง เช่นเดียวกับ Fender Custom Shop บริษัททำกีต้าร์ชื่อดัง ที่ทำกีต้าร์ดี ๆ ให้กับศิลปินระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Eric Clapton,
หลังจากที่เราโพสต์เรื่องของรถ BMW รวมถึงประวัติของ Logo ที่หลายคนเข้าใจผิดกันมาแล้ว วันนี้เราเลยอยากนำเอาที่มาของ Logo ของ BMW ตัวแรงที่หลายคนชื่นชอบอย่าง “///M” มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ดูกัน เพราะจริง ๆ แล้ว ภายใต้ Logo ที่เป็นแถบสี 3 แถบนี้ มันมีความหมายอะไรมากกว่าที่หลายคนคิดซ่อนอยู่ หากใครที่เป็นคนรักรถรหัส “///M” ตัวจริง บทความนี้จะเป็นอีกบทความหนึ่งที่คุณห้ามพลาด ปีนี้ก็จะเข้าถือว่าเป็นปีที่ 45 แล้ว สำหรับการที่ BMW นำรถของพวกเขามาปรับปรุงออกมาให้มีศักยภาพสูงระดับรถแข่งในสนามอย่าง “///M” โดยโมเดลแรกของ “///M” ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตอนนั้นก็ คือ BMW M1 อันเลื่องลือ และเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของตระกูล M ของ BMW มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับรถในตระกูล M ของ BMW นั้น ถือว่าเป็นรถตัวตัวท็อปสุด แรงสุด และแพงสุดของแต่ละ Series
เครื่องมือในการทำงานของสายอาชีพตัดต่อวิดีโอที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลักสำคัญขนาดไหน ล้วนเป็นคำตอบที่อยู่ในใจของคนประกอบอาชีพนี้เท่านั้นที่จะเข้าใจได้ดีที่สุด UNLOCKMEN จะขอแนะนำเกร็ดความรู้และ 7 Laptops ตัวเลือกสำหรับคนสายงานตัดต่อที่เน้นการออกทำงานนอกสถานที่เป็นหลัก แต่ก็ต้องการเครื่อง Laptops เจ๋ง ๆ ที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ซึ่งทุกตัวที่เลือกมาล้วนถูกวัดผลด้านประสิทธิภาพอย่างชัดเจนแล้วว่ามันเกิดมาเพื่องานตัดต่อชัด ๆ อย่างแรกก่อนที่จะไปพูดถึงตัวเครื่องกัน เราพูดถึงปัจจัยในการทำงานด้านตัดต่อวิดีโอก่อน เพราะทุกคนย่อมรู้อยู่แล้วว่าเครื่องต้องแรง ระบบประมวลผลต้องเทพ ถึงทำงานได้ลื่นไหลไม่สะดุด ดังนั้นเวลาเลือกชื้อสักเครื่อง ควรจะเริ่มตั้งแต่พื้นฐานที่เครื่องควรมีเลย คือการมีกราฟิกการ์ดแยกเจ๋ง ๆ ของ NVDIA และมี HDD 1TB 7200RPM, หรือ SSD 128GB เป็นอย่างต่ำ นอกจากนี้แรมก็ไม่ควรน้อยกว่า 8 GB ในการทำงานด้านนี้ ส่วนใหญ่ Laptop ที่ราคาสูงกว่าปกติทั่วไปจะอัดสเปคแบบนี้มาให้อยู่แล้ว แต่งานตัดต่อวิดีโอจะต้องดูมากขึ้นกว่าปกติคือเรื่องของจอแสดงผลที่เน้นความละเอียดสูงตั้งแต่ Full HD ขึ้นไป และส่วนที่เน้นเป็นพิเศษอีกอย่างคือตัวประมวลผลหรือที่เราเรียกกันว่า CPU ปกติแค่เห็นขึ้นว่า Intel Core i7 ทุกคนก็ตัดสินใจเลือกกันแล้ว ลองทบทวนกันใหม่สักนิดครับ เพราะจริง ๆ แล้วการทำงานตัดต่อวิดีโอเน้น
หากใครเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของ “Bondic” คงรู้ดีว่าประสิทธิภาพในการซ่อมแซมสิ่งของที่แตกหักของมันนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ เพราะความสามารถพิเศษในการเชื่อมต่อพลาสติกที่แตกหักให้กลับมาติดกันได้อย่างรวดเร็วและแข็งแรง จนหลาย ๆ คนที่ใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากาวตราช้างยังต้องชิดซ้ายไปเลย ล่าสุด “Bondic” เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มีชื่อว่า “BondicEVO” ออกมาเป็นที่เรียบร้อย บอกเลยว่า เล็กกะทัดรัด แต่ความสามารถดีกว่ารุ่นแรกซะอีก หากใครอยากรู้ว่า “BondicEVO” ตัวนี้ มีความสามารถในการเชื่อมต่อ ซ่อมแซมขั้นเทพขนาดไหน ลองไปดูกันเองเลยดีกว่า สำหรับอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่าง “BondicEVO” นี้ ถือเป็นอีกหนึ่ง Gadget ที่ผู้ชายอย่างเราควรมีไว้จริง ๆ เพราะมันช่วยให้คุณเชื่อมต่อ สิ่งต่าง ๆ ที่แตกออกจากกันไปแล้วให้กลับมาสมานกันได้อย่างแนบเนียน ด้วยน้ำยากาวผสานสูตรเทพเทวดา ต้นตำรับของ “Bondic” บวกกับลำแสง UV ที่มีมาให้ในตัวเพื่อใช้ในการทำให้รอยเชื่อมนั้นแข็งกลายเป็นเนื้อเดียวกัน วิธีใช้งานนั้นก็แสนง่าย เพียงคุณหยอดกาวของ “Bondic” ลงไปที่รอยต่อ หรือถ้าหากคุณต้องการให้กาวมีรูปร่างแบบไหน ก็จัดการลงมือตกแต่งมัน เมื่อได้รูปทรงตามที่ต้องการแล้ว ก็จัดการนำไฟฉายลำแสง UV ที่มีติดตัวมาให้ ฉายไปที่กาวจนแข็งเป็นเนื้อเดียวกันเป็นอันจบ ข้อดีอีกอย่างของกาวสูตรต้นตำหรับจาก “Bondic”
พรางตัวมานาน ส่งสัญญาณมาก็ชัดเจนว่า Honda เตรียมเปิดตัว Accord รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็น Generation ที่ 10 เข้าไปแล้ว การันตีถึงความขลังอันยาวนานคู่บ้านเมืองได้อย่างชัดเจน แต่แม้ทาง Honda จะเรียกว่าเป็นรุ่นใหม่ All New เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกคุ้นตาเหมือนเคยเห็นกันมานาน มีความเหมือน Honda Civic generation ใหม่ล่าสุด ผสมกับ Honda Accord โฉมปัจจุบันอย่างชัดเจน แต่ด้านในถือว่าน่าสนใจ มีความเป็นผู้ใหญ่หรูเนี้ยบมากขึ้น ภายนอกของ Honda Accord Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุดจะเพิ่มความหรูหราและความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการยืดฐานล้อ wheelbase ออกไปอีก 2.16 นิ้ว กว้างขึ้น 0.39 นิ้ว และเตี้ยลง 0.59 นิ้ว ทำให้ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 นิ้ว เป็นจุดเด่นที่สำคัญคือการออกแบบตัวถังอารมณ์ Fastback style หน้ายาว ท้ายสั้น และลายเส้นที่ลากยาวต่อเนื่องจากหลังคาไปถึงด้านท้ายรถอย่างไหลรื่น
BMW 4-Series กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจสาวก BMW ที่ชอบรถตัวถัง Coupe แบบสุด ๆ และนั่นก็ทำให้ทาง BMW มีการพัฒนาปรับโฉม 4-Series มาตลอด จนกระทั่งในโฉมปี 2017 ที่หลายคนอาจจะมองว่า มีการปรับปรุงน้อยไปนิด แม้จะมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ B-Sereis แทนของเดิมอย่าง N-Series แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเสียงซุบซิบออกมาไม่น้อยว่า ถ้าหากนำ BMW 4-Series ไปเทียบกันกับรถของแบรนด์อื่น ๆ โดยเฉพาะแบรนด์คู่แข่งร่วมชาติตลอดกาล แล้วเรื่องของเครื่องยนต์ และความแรง ก็ถือว่าเป็นของจุดอ่อนของ BMW 4-Series ไปโดยปริยาย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า ทาง BMW จะกลับไปทำการบ้าน และปรับปรุงข้อเสียรวมไปถึงจุดบกพร่องต่าง ๆ ของ BMW 4-Series โฉม 2017 มาเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมีการเปิดตัว 2018 BMW 4-Series LCI โฉมใหม่ (รุ่นเปิดตัวล่าสุด) ที่สำคัญคือในครั้งนี้จะเป็นรุ่น
ภาพผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซของศิลปินผู้โด่งดัง ใคร ๆ ก็คงจะคิดว่า มันจะต้องถูกประดับเอาไว้ในหอศิลป์, พิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็คงถูกคนนำไปประชันความงามตามเวทีประกวด รวมไปถึงงานประมูลอย่างแน่นอน แต่เมื่อนานมาแล้วมีผู้ชายอยู่หนึ่งคนที่ได้ทำการ UNLOCK ความเชื่อเหล่านั้น จนกลายเป็นต้นกำเนิดของตำนานความงาม และงานศิลปะที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดอย่าง BMW Art Cars และเขาคนนั้นก็คือ Hervé Poulain ความคิดสุดแหวกแนวนี้ เดิมทีเป็นเพียงแค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของผู้ชายที่มีอาชีพเป็นนักประมูลรถ ที่มักจะใช้เวลาว่างไปกับการแข่งรถเท่านั้น โดยเขาฝันเอาไว้ว่า ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะเข้าไปลองขับรถแข่งในรายการ The 24 Hour Race ที่สนาม Le Mans ดูสักครั้ง โดยรถที่ใช้จะต้องเป็น Super Sport Cars ที่มีลวดลายโดดเด่นสะดุดตาผู้ชมทุกคน เขาจินตนาการเอาไว้ว่า จะให้ศิลปินระดับท็อปมาทำงานศิลปะประดับลงไปบนตัวรถ ความคิดทั้งหมดนี้เกือบจะกลายเป็นเพียงความฝันไปซะแล้ว แต่ BMW กลับมองเห็นศักยภาพ และความเจ๋งของไอเดียสุดบ้าคลั่งนี้ จึงเริ่มลงมือนำ BMW 3.0 CSL มาเพ้นท์ลวดลายโดยให้จิตรกรชาวอเมริกันอย่าง Alexander Calder
ทุกวันนี้เราพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่าพลังงานกันมากจนเกินไปหรือเปล่า ? เช่นเวลาไปเที่ยว เราก็ต้องพกพาแบตฯ สำรอง (Power Bank) อยู่ทุกครั้ง จนกลายเป็นของคู่กับสมาร์ทโฟนแบบที่ขาดไม่ได้ แต่ไม่ว่าเราจะมีโทรศัพท์มือถือที่มีแบตเตอรี่จุได้เยอะมากมายขนาดไหนหรือมีแบตฯ สำรองขนาดความจุ 30,000 mAh ก็ตาม อย่าลืมว่ามันก็ย่อมมีวันหมด ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินต้องการโทรหาใครสักคนล่ะ เคยคิดเผื่อใจ เผื่อเหลือใช้เวลานั้นกันบ้างหรือเปล่า ปัญหาที่กล่าวมาเหมือนเป็นความท้าทายเหล่าคนใช้ที่ไม่รู้จักประมาณตัวเองในการใช้งานที่คิดว่าการมีแบตฯ สำรองจะช่วยได้ทุกอย่าง ตอนนี้มีทางออกสำหรับปัญหานี้และผู้ที่ต้องการมือถือที่อยู่ได้นาน ๆ แล้ว โดยเหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้คิดค้นโทรศัพท์มือถือที่ไม่จำเป็นต้องใช้แบตฯ ออกมาแล้ว บอกไว้ก่อนเลยว่ามันคือโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบบจัดเต็มฟังก์ชั่นเหมือนที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ โดยการทำงานของมันทำได้เพียงแค่การใช้รับโทรศัพท์และโทรออกอย่างง่าย ๆ เท่านั้น โดยหลักการทำงานของเจ้ามือถือเครื่องนี้เป็นการใช้กำลังไฟเพียง 3.5 วัตต์เท่านั้นในการทำงาน ซึ่งมือถือเครื่องนี้จะใช้พลังงานจากโซลาร์เซลขนาดเล็ก ๆ และแปลงคลื่นวิทยุโดยรอบตัวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า Battery-free Cellphone ออกแบบขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ตัวปุ่มกดเป็นคาปาซิทีฟเซ็นเซอร์เพียงไม่กี่ปุ่ม เช่น ปุ่มตัวเลข 0-9 รวมทั้งปุ่ม * และ # และปุ่มแอ็กชั่น 2 ปุ่มสำหรับวางสาย อยู่บนแผงวงจรและมัดรวมผสมกับชิ้นส่วนอื่น ๆ โดยในบอร์ดนั้นทางทีมผู้ผลิตได้กล่าวว่าเป็นชิ้นส่วนที่สามารถหาชื้อได้ทั่วไป