โลกปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือนั้นได้ถูกครอบคลุมด้วยระบบปฎิบัติการใหญ่ ๆ อย่าง iOS และ Android เท่านั้น ก็แล้วแต่ว่า ใครจะเลือกใช้ OS ไหนกัน บางคนอาจจะชื่นชอบ iOS มากกว่าด้วยเหตุผลในเรื่องของความเสถียร แต่บางคนก็เลือกที่จะใช้ระบบปฎิบัติการขนมอย่าง Android เนื่องจากการใช้งานที่ดูจะหลากหลาย และสามารถปรับแต่งได้ง่ายตามความต้องการของแต่ละคนมากกว่า โดยเฉพาะระบบ Android ที่มีการเปลี่ยนปรับปรุงมาแล้วหลายเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็น Jelly Bean, Kitkat, Lollipop, Marshmallow และ Nougat ก็เรียกได้ว่า มีการพัฒนา และปรับปรุง Feature ให้เจ๋งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนถูกใจบรรดาแฟน ๆ รวมไปถึงนัก Developer ทั้งหลายกันสุด ๆ ทำให้การอัพเดทเวอร์ชั่นของ Android นั้น เป็นอะไรที่หลายคนจดจ่อติดตาม และรอคอยกันอย่างตื่นเต้นในทุกครั้งที่มีข่าวกำหนดวเวลาการเปิดตัวออก และดูเหมือนว่าในวันพรุ่งนี้ (21 สิงหาคม) จะเป็นอีกวันหนึ่งที่สาวก Android รอคอยให้มาถึง เพราะมันเป็นวันที่หลายคนคาดว่า ทาง Google
สมัยนี้การเดินกำเงินไปชื้อของแบรนด์เนมมาใช้ ไม่ใช่จะมีเงินอย่างเดียวก็ชื้อได้ แต่ต้องทันเล่ห์เหลี่ยม เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มักมาในรูปแบบที่อวดอ้างของก็อปเกรด AAAA หรือบอกแท้แต่ความจริงดันปลอม มีให้เห็นถมถืด นอกจากจะพาลให้เสียอารมณ์ เสียเงินแล้ว ยังเสียค่าโง่ตัวเองอีกด้วย ปกติพวกของแบรนด์เนมอย่างเช่นกระเป๋า ถ้าเราไม่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญจับผิดจับถูกได้โดยเฉพาะ ก็ยากที่ล่วงรู้ได้ว่าของที่กำลังชื้ออยู่มันแท้หรือปลอม นอกจากจะตัดสินใจชื้อในช็อปไปเลย แม้จะราคาสูงกว่าทั่วไปก็ตาม แต่ก็เพื่อความสบายใจ และตอนนี้ปัญหานี้กำลังจะถูกแก้ไขจากเหล่านักวิจัยหัวหมอ เมื่อเรากำลังจะมีอุปกรณ์สุดเจ๋งที่จะช่วยสอดส่องของแท้ของปลอมให้กับเราแล้ว!! เหล่านักวิจัยจาก New York University ได้พัฒนาตัวช่วยอัจฉริยะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ออกมาช่วยตรวจดูและสอดส่องบอกเราว่ากระเป๋าแบรนด์เนมดัง ๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นเป็นของแท้หรือของก็อปปี้กันแน่ โดยผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายขายจริงภายใต้ชื่อว่า Entrupy เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มาพร้อมกับกล้องจุลทรรศน์ในตัว ให้เราสามาถส่องดูลวดลายและรายละเอียดของสินค้านั้น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยตัดเย็บหรือรายละเอียดปลีกย่อยของกระเป๋าแต่ใบ แถมยิ่งใช้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะฉลาดขึ้นไปได้อีกด้วย เมื่อเราใช้ Entrupy สอดส่องสินค้าต้องสงสัย ปัญญาประดิษฐ์จะประมวลผลโดยเทียบกับฐานข้อมูลภายในที่มีกว่า 3 ล้านภาพ และใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น มีความแม่นยำสูงถึง 96.4% ซึ่งตัวเลขนี้จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีคนใช้งานเยอะขึ้น และเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับใบรับรอง (Certificate) พร้อมรูปภาพยืนยันว่ากระเป๋าใบนี้เป็นของจริง สำหรับเอาไว้แชร์หรือใช้เป็นหลักฐานเวลาคุณต้องการนำไปขายต่อบนออนไลน์หรือผ่านหน้าร้านรับชื้อก็ตาม
รถสไตล์ Retro เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายหลายคน แต่ทว่าด้วยสมรรถนะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งาน หรือเทคโนโลยีที่ยังไปไม่ถึงไหน ทำให้ถึงแม้จะสวยอย่างไรประสิทธิภาพก็ไม่จูงใจมากนัก โดยเฉพาะรถที่ใช้แข่งขันในกีฬาความเร็วด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาที่ถูกพัฒนาให้ก้าวกระโดดออกมาไกลจากความ Retro และเน้นไปที่ความโฉบเฉี่ยวทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นรถแข่งที่เป็นรถรูปทรงโบราณลงไปวิ่งอยู่ในสนามพร้อมกับรถแข่งในยุคนี้ แต่ดูเหมือนว่าล่าสุด จะมีคนคิดพิเรนทร์ โดยมีไอเดียที่จะพยายามสร้างรถแข่งยุคใหม่ในสไตล์รถแข่งแบบ Retro ขึ้น นั่นก็คือ INFINITI ที่ได้เปิดตัวภาพเรนเดอร์ของรถแข่งสมัยใหม่ที่มีดีไซน์ย้อนยุคออกมา โดยรถคันนี้นั้นมีชื่อว่า “Prototype 9” เมื่อไม่นานมานี้ โดยรถแข่งจาก INFINITI คันนี้นั้น ได้ย้อนยุคไปนำเอาสไตล์การออกแบบของรถแข่งยุค 40 มาออกแบบ และพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ยังคงรูปลักษณ์ความโดดเด่นภายนอกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาที่เปิดโล่ง, วงล้อซี่ลวดพร้อมดอกยางสไตล์วินเทจ และตัวถังแคปซูลที่หายไปจากนวัตกรรมยายนต์ปัจจุบันไปนานแล้วมามัดรวมกันไว้ใน “Prototype 9” คันนี้ แรงบันดาลใจนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้เมื่อรถต้นแบบคันนี้นั้น คาดว่าจะถูกนำเอามอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่คุณภาพสูงจากแบรนด์รถยนต์อย่าง Nissan ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วม และว่ากันว่าน่าจะได้ทีมควบคุมการผลิต และช่างฝีมือชั้นเซียนของทาง Nissan อย่าง Team of Takumi มาแจมอีกด้วย จากแรกเริ่มเดิมทีที่ผู้ออกแบบ “Prototype
หนึ่งในตำนานรถยนต์ Sedan หรูหราสำหรับผู้บริหาร แต่สามารถไล่หวดตามรถ Supercar ได้สบาย ๆ ต้องยกให้ BMW M5 ที่ถูกออกแบบบนพื้นฐานของ DNA เทคโนโลยีรถแข่งตั้งแต่แรกเริ่ม แค่อาศัยใช้ร่างของ Passenger cars เท่านั้นเอง ถ้าใครเคยขับ BMW 525d มาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันแรงขนาดไหน ถ้าขยับมาเป็น M5 นี่บอกได้เลยว่าคนละเรื่อง แต่เราคงต้องหยุดความปรับทับใจที่มีมาทิ้งไปก่อน เพราะ 2018 BMW M5 F90 มีรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่เพียบ จาก teaser video ด้านล่าง ที่ส่งเสียงแหวกอากาศโหด ๆ พร้อมโชว์ brake caliper สีเหลืองสไตล์ Sport ให้ขนลุกชัน Limits can be exceeded. The all-new BMW M5 is living proof.
ใกล้เทศกาลวันแม่แห่งชาติแบบนี้ หลายคนอาจยังวุ่นวายกับการใช้ชีวิตจนอาจลืมช่วงเวลาเหล่านี้ไป ทีมงานเลยจะมาช่วยเตือนความจำสำหรับคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวหรือคิดไม่ออกว่าจะชื้ออะไรให้แม่ปีนี้ดี UNLOCKMEN ได้คัดเลือก 6 โทรศัพท์สูงวัยใจเกินร้อย จะเล่น จะโทรก็ง่าย ๆ ให้ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับชื้อของขวัญให้แม่นี้ ไว้แทนคำขอบคุณให้กับแม่ที่บ้าน เพื่อสื่อแสดงความรัก ความห่วงใย ในแบบแมน ๆ ไม่พูดหวาน ไม่พูดเยอะ ที่เราแสดงออกมาได้อย่างดีที่สุด เพื่อให้แม่รู้สึกว่ามีเราอยู่ด้วยตลอดเวลา R’ma 3G มือถืออาม่าที่เรียกว่าเกิดมาเพื่อเหล่าผู้สูงอายุตัวจริง มีหลากหลายรุ่นออกมาให้เลือกสรร แต่เราจะคัดรุ่นแรกมาให้ตัดสินใจกันก่อนเลยคือรุ่น R’ma 3G ที่สามารถรองรับเครือข่าย 3G ได้ พร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างครบถ้วน ตัวเครื่องกะทัดรัด วัสดุแข็งแรง ทนทานต่อการใช้ได้นาน ปุ่มกดมีขนาดใหญ่ ตัวอักษรก็ใหญ่ และยังมีเสียงเรียกเข้าที่ดังกว่ามือถือปกติทั่วไป เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงดัง ฟังชัดเจน และยังใส่ปุ่มกดฉุกเฉิน SOS ที่ใช้งานได้ง่าย สะดวกในยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังใส่ฟีเจอร์อย่างเช่น ไฟฉายและวิทยุที่สามารถฟังได้โดยไม่ต้องเสียบสายหูฟังให้แม่ได้ใช้กันเพลิน ๆ ราคา : 1,690 บาท มี 2 สี ทั้งขาว และดำ
ก่อนหน้านี้ไม่นาน คนที่ทำงานสาย Art หรือ Design คงจะทนทุกข์ทรมานกับการยับยั้งกิเลสที่สิ่งผลมาจากการเปิดตัวของ Microsoft Surface Studio กันไปแล้ว หลังจากเวลาผ่านไปสักพักเราเชื่อว่า อาการความอยากได้อุปกรณ์สุดไฮเทคเหล่านั้นคงจะพอทุเลาลงไปบ้างแล้ว แต่สำหรับบางคนที่จิตใจอ่อนไหว ปัจจุบันก็ยังคงต้องพยายามกำหนดลมหายใจเข้าพุทธออกโธระงับกิเลสกันต่อไป แต่จะว่าไปแล้วมันก็ไม่แปลกเลยที่เวลาคนเราเห็นของที่มีความสามารถเจ๋ง ๆ แล้ว จะรู้สึกอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะของที่จะช่วยให้เรานำมาหาเงินหาทองเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยแล้วยิ่งสมน้ำสมเนื้อน่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น วันนี้เราทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำเอาอุปกรณ์สุดเจ๋งใหม่แกะกล่อง ที่รับรองว่า คนที่อยู่ในสายงานที่ต้องขีด ๆ เขียน ๆ จะต้องอยากได้จนตัวสั่น นั่นก็คือ “Dell Canvas” Tablet สำหรับนักวาดที่มีขนาดจอใหญ่สะใจสุดๆถึง 27 นิ้ว เดิมทีนั้น ชื่อชั้นของ Dell นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ผลิตคอมพิมเตอร์ที่ได้การยามรับในระดับแนวหน้าของโลกอยู่แล้ว แต่ในประเทศไทย และคนไทยบางคน อาจจะไม่ค่อยสนใจกับแบรนด์คอมพิวเตอร์สัญชาติ American กันมากสักเท่าไหร่นัก แต่เราเชื่อว่า การมาของ “Dell Canvas” ที่เพิ่งจะเปิดตัวออกมานี้ จะทำให้คนมองบริษัท Dell เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ด้วยราคาที่ทาง
อาการอยากคุยโทรศัพท์ แต่ไม่อยากต้องใช้มือหยิบยกโทรศัพท์เอาไว้นาน ๆ ถือเป็นอาการที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นที่ติดแฟน ต้องคุยโทรศัพท์ทั้งวัน หรือ จะเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องใช้โทรศัพท์ในการทำธุรกิจ หรือทำมาหากินแทบจะตลอดเวลา รวมถึงใครที่มีธุระด่วนจำเป็นต้องคุยโทรศัพท์แล้วต้องขับรถไปด้วยก็เช่นกัน ผู้คนเหล่านี้จะรู้ดีว่า ปัญหาที่ดูธรรมดา ๆ แบบนี้ มันหนักหนากับชีวิตซะเหลือเกิน และนั่นเองที่ทำให้โลกเรา กำเนิดอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งที่ต้องถือไว้ในอุ้งมืออย่าง Small Talk ขึ้นมา แต่หลังจากนั้น Small Talk ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่เทพเทวดา ก็ทำให้คนรู้สึกว่า สายตุ้งติ้งของมันช่างเป็นเสี้ยนหนามของชีวิตอะไรขนาดนี้ ทำให้คนเรากลับมาหนทางที่จะผลิตสิ่งที่สะดวกสบายกว่าออกมาจนกลายเป็น หูฟัง Bluetooth ในที่สุด แต่ที่สุดแล้วก็ดูเหมือนว่า คนเราจะไม่เคยพอใจอะไรสักที เมื่อ หูฟัง Bluetooth กำลังจะกลายเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปอีกซะแล้ว เพราะไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดที่ทั่วโลกต้องทึ่ง นั่นก็คือ “Orii Smart Ring” อย่ามัวเสียเวลากันเลยดีกว่า ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับมันกันเลยในตอนนี้ “Bluetooth Earpieces” หรือ หูฟัง Bluetooth ที่เราเรียกกันนั้น เป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยให้เราคุยโทรศัพท์ของเรานั้นง่ายดายขึ้นมากมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพียงแค่เรานำหูฟังที่ไร้สาย เสียบคาไว้ที่หู จากนั้นก็ปล่อยมันทิ้งไว้ได้ตลอดทั้งวัน เมื่อเวลามีสายเข้า
หากพูดถึงอาวุธปืน DIY เราเชื่อว่า ชื่อของปืนไทยประดิษฐ์ อันโด่งดัง และสร้างชื่อ (ในทางที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่) ให้กับบรรดาเด็กช่างกลสายบู๊มานักต่อนักคงจะปรากฎขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอนแต่ล่าสุด วงการปืน DIY ของไทยอาจจะถึงขั้นอวสานกันในคราวนี้ เมื่อเราพบกับอาวุธปืนจากแดนมังกรสุดเจ๋งที่มีชื่อว่า “Folding Matchstick Revolver” ลูกโม่จีนประดิษฐ์สไตล์ดิบเถื่อนสุดดุดันกระบอกนี้ จึงไม่พลาดที่จะรีบนำเอาอัพเดทให้กับชาว UNLOCKMEN ทุกท่านได้ดูกัน “Folding Matchstick Revolver” ปืนที่ดูเหมือนจะโหดกระบอกนี้ เป็นปืนประเภท Revolver หรือที่บ้านเราเข้าใจกันอย่างแพร่หลายว่า “ปืนลูกโม่” โดยตัวกระบอกปืนนั้นผลิตจากวัสดุ Stanless Steel ล้วน ๆ เรียกได้ว่า เท่ถูกใจคนที่ชอบอะไรดิบ ๆ อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือมันมาพร้อมความทนทาน และลดปัญหาความเสี่ยงปืนระเบิดคามือที่มักเกิดขึ้นได้ในอาวุธปืนที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ขนาดของมันยังเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะมันมีขนาดเล็กสุด ๆ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกล่องไม้ขีดไฟแล้ว ปรากฎว่ามันมีขนาดใหญ่กว่ากล่องไม้ขีดเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ถ้ายังเล็กไม่พอล่ะก็ คุณยังสามารถพับเก็บมันให้เล็กลงได้อีกประมาณ 1 ใน 4 ของขนาดดั้งเดิม ด้วยความสามารถเหล่านี้คงต้องบอกว่า อาจจะถึงเวลาที่ปืนปากกา และปืนไทยประดิษฐ์จะต้องลาวงการไปแล้วอย่างแน่นอน แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับความแข็งแกร่งอยู่เสมอ ๆ
“นาฬิกาข้อมือ” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับใครหลาย ๆ คน ด้วยความสามารถในการบ่งบอกเวลา, สถานะ, สไตล์ และ รสนิยมของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี แต่บางคนกลับมองว่า “นาฬิกาข้อมือ” เป็นอุปกรณ์ที่ไร้ประโยชน์ เพราะนอกจากใช้บอกเวลาแล้ว มันแทบทำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่วันนี้คนเหล่านั้นจะต้องเปลี่ยนมุมมองแบบนั้นไปแน่ ๆ ถ้าเจอกับสิ่งที่เราจะนำมาเสนอให้กับชาว UNLOCKMEN ได้ดูกันในวันนี้ สิ่งที่ว่านี้เป็นผลผลิตจากบริษัท Leatherman ซึ่งได้เปิดตัว นาฬิกาข้อมือสุดงาม พร้อมความสามารถสุดล้ำออกเมื่อไม่นานนี้ โดยนาฬิกาของ Leatherman นี้ จะทำให้อุปกรณ์บอกเวลาที่อยู่บนข้อมือคุณกลายเป็นอุปกรณ์ Multi-Tool มากความสามารถขึ้นมาทันที ตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า มันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และทำอะไรได้บ้าง เมื่อปี 2015 บริษัท Leatherman ได้เปิดตัวอุปกรณ์เอนกประสงค์ออกมาหลายชิ้น ทำให้ชื่อของพวกเข้ากลายเป็นหนึ่งในผู้นำของผู้ผลิตอุปกรณ์เอนกประสงค์ ซึ่งหลาย ๆ คน ก็ได้แต่เฝ้าหวังว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะออกอุปกรณ์เจ๋ง ๆ ชิ้นใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ชื่นชมกันอีก จนในที่สุดเวลานั้นก็มาถึง เมื่อ Leatherman ใช้เวลาถึง 2 ปี ในการดีไซน์นาฬิกาข้อมือสุดล้ำแบบอะนาล็อก ที่มีชื่อว่า
“แค่พูดถึงเรื่องนี้วันก่อน วันนี้เจอ ads เกี่ยวกับเรื่องที่คุยทันที เป็นไปได้ไง หรือ Facebook กำลังฟังเราอยู่??” เราเคยสงสัยเรื่องนี้มาสักพักแล้ว และเชื่อว่าหลายคนก็น่าจะเคยเจอกับตัว จนต้องฉงนใจเช่นเดียวกัน แต่อาจจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ในขณะที่บางคนรู้สึกว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลพอสมควร (ใครเคยดูซีรีย์ Black Mirror จะรู้ดีว่าเทคโนโลยีมันน่ากลัวขนาดไหน) มีสื่อหลายแห่งในต่างประเทศที่เคยทดลองโดยการลองพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนึง โดยมั่นใจว่าไม่มีการพิมพ์หาข้อมูลนั้นใน Facebook หรือแม้แต่ Google แน่นอน ก็พบว่ามี Facebook ads เกี่ยวกับเรื่องนั้นโผล่ขึ้นมาจริง และไม่ใช่แค่เราที่สงสัย แต่ Professor Kelli Burns, mass communication professor แห่ง University of South Florida ก็สงสัย และค้นพบความจริงที่น่าตกใจหลายอย่าง เช่นการตั้งข้อสังเกตว่า Facebook “มีโอกาส” ที่จะใช้ประโยชน์จากการเข้าถึง microphone ฟังเสียงรอบข้างของผู้ใช้งาน เพื่อ deliver ads ที่เกี่ยวข้อง (more likely to