Brancott Estate แบรนด์ไวน์จากประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่ริเริ่มปลูกไร่องุ่น ทำไวน์ในเขต Marlborough จนสร้างชื่อให้กับไวน์ Sauvignon Blanc ที่มีสไตล์เฉพาะตัวของนิวซีแลนด์ไปทั่วโลก ขอชวนทุกคนมาร่วมสัมผัสกับค่ำคืนสุดพิเศษ ด้วยดินเนอร์แบบ Chef’s Table and Wine Pairing ทั้งหมด 4 คอร์ส ภายใต้แนวคิด Taste Life on the Flip Side ที่ร้านอาหาร Lobster & Oyster ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ความพิเศษของอีเวนต์นี้ คือการได้ Jamie Marfell นักทำไวน์คนเก่งของแบรนด์ บินตรง มาจากนิวซีแลนด์ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำไวน์กับทุกท่านอย่างใกล้ชิด พร้อมจับคู่ไวน์กับมื้ออาหารชั้นเลิศผ่านฝีมือของเชฟ Marian Baranek “King of The Ocean & Grill”จากเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ก่อนที่จะกดจองโต๊ะเข้าสู่คืนพิเศษของงานกัน UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของ Winemaker กับ Chef
พลังของ Soft Power นั้นน่ากลัวกว่าที่คิดนะครับ ในหลาย ๆ ครั้งเนื้อหาของคอนเทนต์ก็เข้ามาควบคุมจิตใจเรา สะกดจิตให้เกิดความอยากต่าง ๆ นา ๆ สั่งให้เดินไปที่ตู้เย็นเปิดหยิบน้ำแข็งบ้าง หาเครื่องดื่มเย็น ๆ บ้าง หรือไปจนถึงจัดจานวางถั่วใส่เพื่อกินคู่กันบ้าง เฮ้ออ ขออนุญาตหยิบเครื่องดื่มก่อนจะเขียนบรรทัดถัดไปครับ UNLOCKMEN ชวนทุกคนดูหนังและซีรีส์ในวันที่ต้องการพักผ่อน ปล่อยตัวอยู่บนโซฟา ละเมียดเครื่องดื่มเย็น ๆ แล้วปล่อยให้มันชำระล้างความเหนื่อยล้าของวันจนหมดสิ้น Weakest Beast (2018) ซีรีส์เพชรเม็ดงามจากแดนอาทิตย์อุทัย ซ่อนตัวอยู่ใน Netflix มาหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้ถูกหยิบมาพูดถึงเท่าไหร่ ว่าด้วยเรื่องราวของผู้คนในชีวิตวัยทำงาน ที่มีปัญหาในความฝันกับการใช้ชีวิตซึ่งต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ผ่านตัวละครหลัก 2 ตัว ‘โคเซ’ ชายหนุ่มเจ้าของสำนักงานทนายความที่ต้องเลือกระหว่างการทำผิดกฎหมายเพื่อช่วยคนอื่น และ ‘อากิระ’ หญิงสาวพนักงานออฟฟิศที่ Job Description เยอะเกินหน้าที่ จนเธอตั้งคำถามว่าการงานที่ทำอยู่อย่างนี้มันดีแล้วเหรอ ทุกครั้งที่ตัวละครมีเรื่องทุกข์ใจเกิดขึ้น (ซึ่งก็มีทุกตอนแหละ) ทุกคนมักเลือกแก้ปัญหาด้วยการไปที่ร้าน 5 Trap บาร์ที่มีเครื่องดื่มพร้อมกับเจ้าของร้านที่เป็นผู้รับฟังที่ดีคอยบริการอยู่ ปัญหาของพวกเขาค่อย ๆ ได้รับการแก้ไข เมื่อเครื่องดื่มถูกเสิร์ฟเคล้ากับบรรยากาศที่มีแสงไฟสลัวของร้าน
สกิลเปิดขวดเบียร์หรือขวดโซดาด้วยมือเปล่าดูเหมือนจะเป็นสกิลติดตัวชายแทบทุกคน จนถือเป็นเป็นสกิลที่ดูบ้าน ๆ ไปแล้ว แต่ถ้าเปิดไวน์โดยไม่มีที่เปิดขวดไวน์ได้ล่ะ? คิดดูว่าจะคูลแค่ไหน? UNLOCKMEN ขอรับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งสกิลใหม่ ๆ ที่เพิ่มคะแนนให้คุณในสายตาสาว ๆ ท่ามกลางคืนที่หิ้วไวน์ไปเตรียมโรแมนติกเต็มที่ แต่ดันไม่มีที่เปิดขวด เพราะนอกจากจะดูโรแมนติกมากกว่าการดื่มเบียร์กินพิซซ่าเป็นไหน ๆ จะได้คะแนนความเท่เพิ่มขึ้นจากการเปิดขวดไวน์โดยไม่ใช้ที่เปิดแบบแมน ๆ ไปอีกหนึ่งสเต็ป มาดูกันเถอะว่าการเปิดไวน์โดยไม่ใช้ที่เปิดสามารถใช้อะไรเปิดแทนได้บ้าง? รองเท้า ใครจะไปคิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ แค่ถอดรองเท้าที่เราใส่อยู่ออกมาหนึ่งข้าง เอาขวดไวน์ที่ต้องการเปิดวางลงไปแทนที่เท้าของเรา จากนั้นก็หากำแพงแล้วลงมือตบตูดขวดไวน์ลงบนกำแพงได้เลย ผลลัพธ์ก็เปิดออกมาง่ายดายอย่างที่เห็นในคลิปนี่เอง กุญแจบ้านนี่แหละ กุญแจบ้าน กุญแจรถ กุญแจห้องกิ๊ก หรือกุญแจอะไรก็ได้ เชิญล้วงควักออกมาทันทีที่รู้ว่าไม่มีที่เปิดไวน์อย่างเป็นกิจจะลักษณะ แล้วเสียบลงไปบนฝาก๊อกไวน์ทำมุม 45 องศา จากนั้นค่อย ๆ ออกแรงหมุนลูกกุญแจ จนฝาก๊อกค่อย ๆ เคลื่อนตามขึ้นมา ง่ายไม่ง่ายก็ดูจากคลิปเอาแล้วกัน นิตยสารสักเล่ม หลักการเดียวกันกับการใช้รองเท้าเปิด แต่นี่ง่ายกว่าเก่าด้วยการหานิตยสารที่ไม่ใช้แล้วมา เผื่อรองเท้าที่คุณใส่อยู่นั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือกลัวว่าจะดูไม่สะอาด ไปจนถึงกลัวว่ารองเท้าคู่โปรดของเราจะเปื้อนได้ เราก็ใช้นิตยสารที่หนาหน่อย มารองตูดขวด จากนั้นก็จัดการกระแทกเข้ากับกำแพงตามใจชอบได้เลย กรรไกร กรรไกรก็นับเป็นอีกของคู่บ้านที่ไม่ว่าบ้านไหนก็น่าจะมี คว้ามันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ซะ ด้วยการแทงขาด้านหนึ่งของมันลงไปในฝาก๊อกโดยทิ่มลงไปให้ลึกจนสุดด้าม ก่อนจะใช้แรง
กัญชา พืชสารพัดประโยชน์ที่เป็นได้มากกว่าสารมึนเมา ทั้งคุณสมบัติอันน่าพิศวงในด้านการแพทย์ รวมถึงเส้นใยพิเศษที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอีกสารพัดส่วนผสมในหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดพืชใบเขียวอย่างกัญชายังถูกนำมาเป็นส่วนผสมในไวน์ได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าไวน์แดงและไวน์ขาวที่มีส่วนผสมจาง ๆ ของกัญชานั้นจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะขอนำเสนอ ไวน์สีเขียว เครื่องเดิมที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้หลงใหลในควันแต่พร้อมดื่มด่ำไปกับมิติใหม่ของการจิบไวน์ให้ High สบายใจสบายตัว Canna Wine หรือ Weed Wine มีความหมายเหมือนกันคือไวน์ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบหลัก เกิดจากกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน โดยเริ่มจากการนำองุ่นขาวที่ปลูกแบบไบโอไดนามิคไร้สารเคมี มาบ่มพร้อมกับกัญชาออแกนิคตากแห้งในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ โดยใช้กัญชาในปริมาณครึ่งกิโลกรัมต่อไวน์ขาวหนึ่งถังไม้โอ๊คและบ่มไว้เป็นเวลาหนึ่งปี จนได้ออกมาเป็นไวน์สีเขียวที่มีความแตกต่างจากไวน์แดงและไวน์ขาวทั่วไป เพราะไวน์กัญชานั้นจะมีสารที่ชื่อว่า เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล หรือ ทีเอชซี (Tetrahydrocannabinol – THC) ซึ่งเป็นสารมีฤทธิ์กล่อมประสาทแบบอ่อน ๆ ในปริมาณที่พอดิบพอดี ไวน์กัญชาเจ้าแรกอย่าง Mary Jane จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างไวน์ที่เมื่อดื่มก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายและทำให้มึนเมาอยู่แล้ว แต่ใน Canna Wine นั้นให้ได้มากยิ่งกว่า ด้วยฤทธิ์สาร THC ในไวน์กัญชาจะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้มสุขใจ นอนหลับง่าย และกระตุ้นให้เจริญอาหารมากขึ้น แถมยังปราศจากอาการหลอนเหมือนการใช้กัญชาโดยการสูบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดื่มในปริมาณที่พอดีเป็นสำคัญ แล้ว Canna Wine มีขายที่ไหนบ้าง ?
“Wine is the Only Artwork You Can Drink” – Luis Fernando Olaverri หนึ่งในประโยคคลาสสิกตลอดกาลเกี่ยวกับไวน์ ถือเป็นประโยคที่เราค่อนข้างชอบและเห็นด้วยกับมัน เนื่องจากถ้าเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นแล้ว ไวน์เป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้งและซับซ้อนกว่ามาก ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่หนุ่ม ๆ อย่างเราจะหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องดื่มผลไม้หมักชนิดนี้ เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ ห่างไกลจากคำนั้นมาก ออกจะเป็นหน้าใหม่ในเรื่องนี้ แต่ด้วยความชอบบรรยากาศในการนั่งจิบไวน์กับเพื่อน ๆ เราจึงมีโอกาสไปเยือนร้านไวน์หลายต่อหลายแห่ง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำร้านไวน์ที่เราชอบ ไม่จำเป็นต้องหรูหรือแพง แต่เป็นร้านที่เราไปแล้วมีความสุข Quince หนุ่ม ๆ นักสังสรรค์น่าจะรู้จัก ‘Sing Sing Theater’ กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในเวิ้งเดียวกันนั้นมีร้านอาหารที่เหมาะสำหรับการนั่งจิบไวน์อยู่ด้วย Quince ตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศสบาย ๆ โปร่งโล่ง มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ให้เลือกนั่งกันได้ตามสบาย อาหารของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นอาหารยุโรปที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น ทุกเมนูอยู่ในการควบคุมของเชฟ Charlies เชฟประจำร้าน ไวน์ของที่นี่ส่วนใหญ่จะเน้นไวน์จากฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน แต่ถึงอย่างนั้นราคาก็ไม่ได้สูงจนจับต้องไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดงก็เริ่มต้นที่แก้วละ 230 บาทเท่านั้น Location: สุขุมวิท
“ไวน์คือบทกวีที่ถูกบรรจุลงสู่ขวด” เป็นคำที่นักเขียนชาวสก็อตติชอย่าง Robert Louis Stevenson เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่ง UNLOCKMEN ว่านี่ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มอันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดชวนให้ผู้ชายอย่างเราเข้าไปสัมผัส นอกจากนั้นวัฒนธรรมแห่งการดื่มไวน์ได้กลายเป็นศิลปะการลองลิ้มชิมรสสุดคลาสสิกที่ผู้ชายคูล ๆ ทุกคนไม่ควรพลาด การรู้เรื่องไวน์ประดับตัวไว้จึงเป็นทั้งการยกความเท่ของผู้ชายอย่างเราให้สูงขึ้นไปอีกระดับ แถมยังช่วยให้เราเข้าสังคมแห่งการดื่มไวน์ได้อย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้น ผู้ชายแมน ๆ คนไหนที่เคยคิดไว้ว่าการดื่มไวน์นั้นยากแสนยาก วันนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะการได้รู้จักเครื่องดื่มแห่งความลุ่มลึกมีระดับอย่างไวน์จะทำให้เราติดใจจนบอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะลิ้มลองบทกวีบรรจุขวดให้ลึกซึ้ง ถ้าพร้อมจะดำดิ่งไปกับความคลาสสิกในโลกของไวน์แล้ว UNLOCK WINE 101 ที่เก็บเรื่องไวน์พื้นฐานให้ครบถ้วนทุกเม็ดก็พร้อมจะปลดล็อกศักยภาพการสัมผัสไวน์ให้คุณถึงที่แล้วเช่นกัน สำหรับมือใหม่ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ การเริ่มต้นนับหนึ่งในโลกของไวน์จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีระดับและไม่ซับซ้อน ถ้าเราเริ่มจากพื้นฐานของไวน์กันก่อน โดยคำถามสุดเบสิคที่เราควรรู้ก็คือ “ไวน์คืออะไร?” นอกจากความงดงามคล้ายบทกวีแล้ว ไวน์คือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการหมักของน้ำองุ่นที่ได้จากผลองุ่นสด ๆ นั่นเอง โดยแต่ละท้องที่ก็จะมีกระบวนการผลิตแตกต่างกันไปตามสไตล์ที่แต่ละท้องถิ่นกำหนดขึ้น ถ้าในหัวผู้ชายอย่างเรายังนึกออกแค่ไวน์แดงกับไวน์ขาวก็ไม่ต้องห่วงไป ครั้งนี้เราจะพามาทำความเข้าใจไวน์ 3 ประเภทที่แบ่งตามเทคนิคการผลิตให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันไปเลย เริ่มต้นกันที่ Still Wine เป็นไวน์ที่ไม่มีฟอง หรือพูดง่าย ๆ คือไม่มีการอัดก๊าซ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 8-15% Still Wine แบ่งออกเป็นไวน์ได้อีก
อยากกระตุ้นสมองแบบสุขใจ ลองดื่มไวน์สักแก้วกันไหม?