เป็นตำนานมีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันความคลั่งตลอดเวลา สำหรับ Diego Maradona ศูนย์หน้าคลาสสิคขึ้นหิ้งชุดแชมป์โลกปี 1986 ทีมชาติ Argentina แม้จะแขวนสตั๊ดไว้หลังบ้านนานหลายปีหลังตระเวณผ่านสโมสรระดับโลกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Boca Juniors, Barcelona หรือ Napoli แต่เราก็ได้เห็นข่าวคราวดีบ้าง ร้ายบ้างมาโดยตลอด ทั้งเรื่องหนีภาษี เรื่องสุขภาพ มาโผล่อีกทีใน Box นั่งเชียร์ Argentina ใน World Cup 2018 แม้จะมีเตะเพียงไม่กี่นัด แต่ดูเหมือนโฉมหน้าและท่าทางกวน ๆ ของ Maradona จะปรากฏในข่าวทั่วทั้งโลกไม่แพ้ตัวนักเตะอย่าง Messi หรือ Ronaldo เลยด้วยซ้ำ นอกจากการนั่งสูบซิการ์ตรงป้ายห้ามสูบ หรือการชูดับเบิ้ลนิ้วกลางใส่นักเตะทีมตรงข้ามด้วยความมันส์ อีกสิ่งนึงที่หลายคนสังเกตเห็นคือ Maradona ใส่นาฬิการุ่นเดียวกันบน 2 ข้อมือพร้อมกัน ซึ่งใครเป็นแฟนบอลหรือติดตาม Maradona อยู่แล้ว อาจจะเห็นอาการนี้มานานตั้งแต่ปี 2004 แล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่า “ทำไม?” นี่คือสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร หรือนี่คือการอวยรวยตามประสา Superstar ระดับโลกที่ชอบทำอะไรพิลึก ๆ
เมื่อการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในศึกฟุตบอลโลก 2018 หนนี้ผ่านพ้นไปแล้ว นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น Luka Modric, Harry Kane , Diego Godin แต่พวกเขาเหล่านี้กลับไม่ใช่นักเตะที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด เพราะนักเตะที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเป็นนักเตะของทีมชาติอาร์เจนตินา และคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์อย่าง Lionel Messi ด้วย แต่เป็นนักเตะที่ใครหลายคนคงเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เขาคนนั้นคือ ‘Maximiliano Meza’ Who is Maximiliano Meza? Maximiliano Meza ปัจจุบันอายุ 26 ปี สัญชาติอาร์เจนตินา ตำแหน่งถนัดคือมิดฟิลด์ด้านข้าง แต่ในบางครั้งก็สามารถขยับขึ้นสูงไปเล่นเป็นปีกได้ สมัยยังเด็กเขาเป็นเด็กฝึกของสโมสร Gimnasia y Esgrima ทีมในลีกประเทศบ้านเกิด และสามารถพัฒนาตนเองขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ โดยลงเล่นในลีกไปทั้งหมด 100 นัดพอดิบพอดี ยิงไป 12 ประตู ซึ่งถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีจนเตะตาสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกอย่างทีม Independiente และสามารถคว้าตัว Meza ไปร่วมทีมได้สำเร็จในปี 2016 นับตั้งแต่ตอนนั้น Meza ลงเล่นในลีกให้กับ Independiente ไปทั้งหมด 44
ถ้าเราบอกคุณว่า “อีกไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเราอาจต้องเป็นทาส AI” คุณจะเชื่อมันไหม จะรู้สึกยังไง โกรธที่เราพูดแบบนี้ ท้อแท้ใจ หรือบ่นงึมงำในลำคอว่า UNLOCKMEN เชียร์ AI เก่งเหลือเกิน แต่ไม่ว่าคุณจะคิดแบบไหนก็ตามความก้าวหน้าที่กำลังจะได้เห็นต่อจากนี้มันคงไม่มีวันถอยหลังอย่างแน่นอน ทีนี้มันก็อยู่ที่ว่าพวกเราจะยอมแพ้ให้กับสิ่งที่เห็นไหม หรือฮึดลุกขึ้นมองหาลู่ทางอื่น และพยายามหาทางหวดคืนเพื่อก้าวเหนือมันให้ได้ Why AI might takes all? “จะเก่งแค่ไหนกันเชียว มันก็เป็นแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น?” อย่าเพิ่งพูดประโยคนี้ถ้าคุณไม่รู้ว่าวันนี้บรรดาสมองกลทั้งหลายทำอะไรได้บ้าง เรื่องแรก AI ไม่ได้เป็นแค่โค้ดลาย ๆ ในจอคอมพิวเตอร์ที่คอยดูดข้อมูลเราไปประมวลผลหรือแข่งขันเรื่องคำนวณเท่านั้น หลังตัดสายสะดือจากจอปุ๊ป มันจะกลายเป็นรูปแบบไหนก็ได้ชนิดที่เราคาดไม่ถึงทันที เรื่องที่สองเมื่อ AI โดดออกมาจากจอมันไม่ใช่หุ่นกระป๋องต๊อกต๋อยรูปทรงสี่เหลี่ยมอีกต่อไป และเรื่องที่สามอย่าประเมินต่ำว่า AI จะไม่มีวันเลื่อยขาเก้าอี้ของเราได้ เพราะเราไม่ได้ทำงานในอุตสาหกรรมประเภทโรงงาน แล้ววันนี้อาชีพที่ AI จะเข้าไป take over ได้เพิ่มเติมจากอาชีพที่เราเคยรู้คืออะไรกันบ้างมาเช็กดู HELLO INFLUENCER, HELLO STRANGER เชื่อว่าผู้ชายทุกคนต้องมีคนดังในใจที่เราคอยตาม follow กัน แต่แน่ใจได้จริงเหรอว่าคนในหน้าจอที่เราเห็นคือมนุษย์ตัวจริง ไม่ใช่กราฟฟิกสวมวิญญาณจากสิ่งแปลกปลอมอื่น เมื่อล่าสุดผลงานของ Hakuhodo Tokyo
ความซวยเวลามันพุ่งเข้ามาหา มันจะวิ่งเข้ามาแบบถี่ ๆ แต่สำหรับปีหมาปีนี้ ถือว่าเป็นปีมหาโหด “หมาดุไล่กัดนางเงือก” เพราะร้านเจ้าดังอย่างสตาร์บัคที่มีลูกค้าทั่วโลก เจอตบหน้าขวาซ้ายด้วยข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยสารพัดเรื่องใหญ่หลายประเด็น จนต้องเร่งออกมาแก้ปัญหา เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาชนิดมือเป็นระวิง และเพื่อให้การจิบกาแฟของหนุ่ม ๆ เข้มข้นขึ้นกว่าที่เคย เราขอ RECAP เรื่องชง ๆ ขม ๆ ที่สาวก Starbucks ต้องรู้กันดังต่อไปนี้ เดือน 3 เป็นมะเร็ง เดือน 4 เหยียดผิว เดือน 6 หุ้นดิ่ง MARCH : STARBUCK VS CANCER สตาร์บัคเริ่มต้นปีชงล็อตใหญ่ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา เพราะจู่ ๆ สภาศึกษาและวิจัยสารพิษ (CERT) ก็ลุกมาฟ้องศาลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ แจ้งข้อหาเรื่องการแปะฉลากเตือนโรคมะเร็ง ถ้าคิดไม่ออกให้คิดว่าเป็นแบบไหนให้คิดถึงซองบุหรี่ที่มีภาพชวนเศร้าทั้งหลาย แต่อันนี้พี่จะให้แปะไว้บนแก้วกาแฟที่ลูกค้ากิน ความกระอักกระอ่วนที่จะต้องบอกใครว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายสร้างมะเร็งว่าหนักแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่แย่เท่ากับค่าปรับมหาโหดที่โดนฟ้อง 2,500 ดอลลาร์
การ์ตูนมักถูกมองว่าเป็นสื่อให้ความบันเทิงสำหรับเด็กมาโดยตลอด แต่จริง ๆ แล้วนั่นคือความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะการ์ตูนหลายเรื่องมีเนื้อเรื่องเข้มข้น จริงจัง มืดมนยิ่งกว่าภาพยนตร์รางวัลแนวดราม่าเสียอีก และมีการ์ตูนจำนวนไม่น้อยที่แฝงเรื่องการเมืองเอาไว้ โดยเฉพาะการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ ที่อ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้เขียนได้มาเก็บข้อมูลจากโลกนอกการ์ตูนแน่นอน ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN นำเอา 5 การ์ตูนเกี่ยวกับเผด็จการเรื่องเยี่ยมที่อยากให้ทุกคนรีบไปหาอ่านกัน ก่อนที่อาจจะหาอ่านไม่ได้ในอนาคต One Piece Written by Eiichiro Oda เนื้อเรื่องหลักอาจจะดูเหมือนการ์ตูนแอ็กชั่นพลังมิตรภาพตามสไตล์โชเน็นทั่วไป ว่าด้วยการเดินทางผจญภัยในท้องทะเลของโจรสลัดหมวกฟาง มังกี้ ดี ลูฟี่ และผองเพื่อนโดยมีเป้าหมายคือการเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด แต่แท้จริงแล้ว One Piece เป็นการ์ตูนที่แฝงเรื่องการเมืองไว้เยอะมาก ชัดเจนที่สุดเลยคือประเด็นเรื่อง ‘เผ่ามังกรฟ้า’ เผ่ามังกรฟ้าคือมนุษย์ชนชั้นสูงที่สุดในโลก One Piece ลักษณะเด่นของเผ่านี้คือจะสวมหน้ากากใส ๆ เอาไว้ตลอดเวลาเพราะไม่อยากหายใจร่วมกับมนุษย์ที่ต่ำต้อยกว่า มีสัตว์เลี้ยงเป็นมนุษย์ด้วยกัน ฆ่ามนุษย์ชั้นต่ำเหมือนมดปลวกโดยไม่มีความผิด ส่วนสถานที่อยู่อาศัยของพวกเขาก็อยู่บนนครศักดิ์สิทธิ์ลอยฟ้านามว่า ‘แมรี่จัวร์’ ไม่ได้อาศัยร่วมกับมนุษย์ธรรมดาบนพื้นโลก สาเหตุที่เผ่ามังกรฟ้าสามารถทำได้ขนาดนี้เนื่องจากมีรัฐบาลโลกซึ่งควบคุมกำลังรบ คอยให้การสนับสนุนอยู่ พวกเขาสามารถสั่งการรัฐบาลโลกให้หันซ้ายหันขวาได้ตามใจ เรียกว่าควบคุมโลกทั้งใบไว้ในกำมือก็ว่าได้ ต่อให้เป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าเผ่ามังกรฟ้าก็ยังต้องยอมสยบ ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลูฟี่พระเอกของเรานี่เอง ที่ครั้งหนึ่งเคยโชว์วีรกรรมสุดห้าวปล่อยหมัดซัดใส่เผ่ามังกรฟ้าเต็มหน้าจนกระเด็นไปไกล สร้างชื่อให้โจรสลัดหมวกฟางเลื่องลือถึงรัฐบาลโลก
ฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้คงไม่มีใครเหมาะกับวลี ‘From Zero to Hero’ มากไปกว่า Gabriel Jesus กองหน้าดาวโรจน์ของทีมชาติบราซิลอีกแล้ว เพราะถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ Gabriel Jesus ในวัย 17 ปี ขณะนั้นเขาเป็นเพียงนักเตะฝึกหัดของสโมสร Palmeiras แน่นอนว่ารายได้ย่อมไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ดังนั้นเขาจึงรับจ็อบพิเศษด้วยการเป็นช่างทาสีตามกำแพงหรือพื้นถนนต้อนรับฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง แต่เพชรยังไงก็คือเพชร หลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2014 Gabriel Jesus ก็เริ่มโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจนได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ Palmeiras และเขาก็ไม่ทำให้โค้ชและเพื่อนร่วมทีมผิดหวัง กระหน่ำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนเป็นที่หมายปองจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป และก็เป็นทีมเรือใบสีฟ้า Manchester City ที่คว้าตัวเขาไปครองได้สำเร็จด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ซึ่งนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น Gabriel Jesus ไม่หยุดการพัฒนาตัวเองไว้เท่านี้ เขาพิสูจน์ตัวเองว่าฝีเท้าเป็นของจริง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม และสุดท้ายก็สามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ Premier League ได้สำเร็จ เมื่อฟอร์มดีขนาดนี้ การมีชื่อติดทีมชาติบราซิลมาลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 จึงไม่ใช่เรื่องแปลก จากวันที่เขานั่งทาสีอยู่ข้างสนามฟุตบอล ถึงวันที่เขาเป็นซูเปอร์สตาร์พาทีมบ้านเกิดลุยฟุตบอลโลกใช้เวลาเพียง 4
วาทะเด็ดประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อดาราเจ้าของบทบาท Captian America อย่าง Chris Evans ได้ทวีตแสดงความเห็นถึงมุมมองถึงประธานาธิปดีตัวแสบ Donald Trump ที่คล้ายกันกับเฟรนไชส์ของ Avengers ในเรื่องความฝันแบบอเมริกันนั้นมีค่าเล็กน้อยกับความเกลียดชัง “ความพยายามของเขาในการลดจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานเป็นเรื่องที่ชัดเจน เขาสามารถขุดความกลัวและความโกรธในใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนพวกหัวรุนแรง GOP ให้มีส่วนร่วม ช่างเป็นช่วงที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์ และจะไม่มีใครลืม” His effort to dehumanize immigrants is appallingly clear. He stokes fear and anger effectively pandering to the bigoted and uninformed. The entire GOP is complicit in this pernicious reincarnation of history’s ugliest chapters. Their silence
ชาว UNLOCKMEN ที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นประจำคงรู้กันดีว่าเวลาเดินทางเราต้องเติมน้ำมันหรือแก๊สให้พร้อมก่อนเดินทางเสมอเพื่อความชัวร์ และการเติมครบโปรตามปั๊มก็ทำให้เราได้ของแถมอย่าง “น้ำเปล่าบรรจุขวดพลาสติก” กันอยู่เป็นประจำ บ่อยครั้งพวกเราก็โยนมันไว้ที่เบาะด้านหลังรถอย่างไม่ใส่ใจ ถือเอาฤกษ์สะดวก อยากกินเมื่อไรก็ค่อยหยิบมาเปิดคลายกระหาย สำหรับหนุ่ม ๆ คนไหนที่เคยทำแบบนั้นลองสังเกตดูที่เบาะนั่งที่วางน้ำไว้ให้ดี เพราะบางทีคุณอาจจะได้เจอจุดไหม้บนเบาะสักจุดสองจุดเล็ก ๆ ก็ได้ และถ้ามันเกิดขึ้นแล้วอย่างทำเพิกเฉยต่อสิ่งที่เห็น เนื่องจากร่องรอยนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่า อนาคตมันอาจไม่หยุดแค่นี้ แต่ขยายเป็นการจุดไฟให้ลุกท่วมรถคันงามของพวกเรา เรื่องนี้เกิดจากหนุ่มเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงแบตเตอรี่ที่บังเอิญเห็นควันลอยขึ้นมาใกล้ ๆ คอนโซลรถบรรทุกของตัวเองแล้วพบว่ามีต้นตอมาจาขวดน้ำพลาสติกที่อยู่ในรถ เหตุการณ์ภัยจากขวดน้ำพลาสติกไม่ได้มีเพียงหนุ่มคนที่เท่านั้นที่เคยพบ แต่ยังมีคลิปแจ้งเตือนกันแบบจริงจังจากหนุ่มนักดับเพลิงที่สาธิตให้เห็นอีกด้วย หลักการการเผาไหม้นี้เป็นแบบเดียวกับการทดลองใช้แว่นขยายจุดไฟในคาบเรียนวิทยาศาสตร์ แสงอาทิตย์จะรวมตัวกันผ่านขวดน้ำที่ทำหน้าที่ไม่ต่างจากเลนส์ ชี้ตรงไปที่จุดโฟกัสแล้วจุดติดจากควันสู่ประกายไฟลุกท่วมรถได้ทั้งคัน แม้อัตราอัคคีภัยจากการทิ้งขวดน้ำพลาสติกไว้ในรถจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อย ๆ แต่พวกเราคงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับรถคันโปรดของเราแน่ ๆ เพราะอุบัติเหตุจากความประมาทไร้คู่กรณีแบบนี้คงไม่มีใครรับเคลมประกันอย่างแน่นอน หนุ่ม ๆ อย่าลืมนะ ถึงที่หมายอย่าทิ้ง “ขวดน้ำ” ไว้บนรถ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ย้ายไปใส่ไว้หลังรถแทนในที่ที่แสงส่องไม่ถึง ไปไหนจะได้ไม่ต้องพะวงและเสียใจภายหลัง SOURCE
แม้ว่าประเทศไทยจะมีสถิติการเกิดอาชญากรรมติดต่อกันแทบทุกวัน เปิดข่าวไปเวลาไหนก็เจอจนติดเป็นภาพจำแดนอันตรายในสายตาของคนไทยกันเอง แต่ถ้าเปรียบเทียบความฮาร์ดคอร์กับประเทศที่สงบเงียบ อาชญากรรมต่ำดุจแดนสวรรค์อย่างญี่ปุ่นแล้ว เรื่องฆาตกรรมเรายังนับเป็นน้องเล็กที่ห่างกันหลายชั้น เพราะในแดนปลาดิบแห่งนี้ฆาตกรไม่เพียงมีวิธีการเชือดเหยื่อที่แยบยล ทว่าเจตนารมณ์การฆ่ายังยากจะคาดเดาด้วย ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะเกิดเหตุข่าวสะเทือนขวัญล่าสุดจากญี่ปุ่นในคดีชาย 3 คนร่วมกันลงมือฆ่าข่มขืน อุจิยามะ มายุโกะ พยาบาลสาววัย 29 ปี ที่พวกเขาไม่เคยพบหรือมีความแค้นส่วนตัวกับเธอ ที่สำคัญความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากันเองยังเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญพบกันในหน้าเว็บบอร์ดใต้ดิน แหล่งชุมชนของอาชญากรผู้นิยมการล้ำเส้นกฎหมาย นัดแนะกันตั้งแต่ก่อการร้าย ซื้อขายอาวุธ แลกเปลี่ยนความคิดที่รุนแรง จนขยายมาสู่การฆาตกรรมในที่สุด และที่เด็ดไปกว่านั้นคือเว็บไซต์แนวนี้คุณไม่สามารถใช้ Google หามันเจอได้อย่างแน่นอน เพื่อคลายข้อสงสัยที่หลายคนไม่รู้ว่า เฮ้ย! มีด้วยหรอ เว็บที่ Google หาไม่พบ เราขอบอกตรงนี้เลยว่า “มี” และปกติหาก Google จะมองเห็นเว็บไซต์สักเว็บคนทำเว็บไซต์ต้องบอก Google ก่อนด้วย ก่อนจะไปเริ่มรู้จักกับวิธีแกะรอยเว็บไซต์ลับเหล่านั้นชาว UNLOCKMEN ลองมา input ความรู้ความเข้าใจกันสักนิดว่าสิ่งที่คุณรู้ในโลกออนไลน์มันถูกต้องแล้วหรือยัง DARK WEB IS MORE THAN YOU KNOW บรรดาจำนวนเว็บไซต์สาธารณะหลายล้านเว็บในที่แจ้งมีน้อยกว่าเว็บด้านมืดที่แฝงไว้หลายเท่าตัวชนิดประเมินค่าไม่ได้ เฉพาะสถิติย้อนหลังจาก BrightPlanet ในปี
แม้มหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่อย่างบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว UNLOCKMEN เชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนคงแอบคิดอยู่ในใจว่าทำไมฟุตบอลโลกครั้งนี้มันดูเงียบเหงาแปลก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตจากสื่อที่ดูไม่ถึงพริกถึงขิงอย่างครั้งที่ผ่านมา ช่องหลัก ๆ ก็ดูเงียบ ๆ ไปไม่คึกคักเท่าไหร่ แม้แต่ไปรษณียบัตรทายผลบอลโลกที่เคยดังเป็นพลุแตกก็ดูจะกริบ ๆ ไป จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าทำไมบอลโลกมันเงียบเหงาเบอร์นี้วะ!? บอกเลยว่าเราไม่ได้คิดไปเองหรอก แต่มันมีเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ทำให้บอลโลกครั้งนี้เงียบแสนเงียบกว่าที่เคย ฟีฟ่ามีรายได้ลดลง! เราอาจจะคิดว่า เฮ้ย มันเงียบ ๆ แค่ในไทยหรือเปล่า ต่างประเทศเขาก็อาจจะคึกคักก็ได้มั้ง UNLOCKMEN อยากบอกว่าหนึ่งในสาเหตุที่มันเงียบเหงาขนาดนี้ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกก็ไม่ได้อินเหมือนครั้งก่อน ๆ เป็นเพราะรายได้จากผู้สนับสนุนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่าลดลง! สปอนเซอร์หลายรายที่เคยสนับสนุนอย่าง จอห์นสัน & จอห์นสัน, น้ำมันคาสตรอล, โซนี่ และเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ก็ขอถอนตัวเนื่องจากเรื่องฉาวในฟีฟ่าเมื่อ 4 ปีก่อน โดยเงินสนับสนุนลดลงราว 2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว สถานการณ์บอลโลกครั้งนี้มันเลยออกจะเหงา ๆ หน่อย ค่าลิขสิทธิ์แพง หลายช่องไม่ร่วมประมูล ช่องทางเข้าถึงจึงน้อยตาม ปกติเราก็จะชินกับการที่ช่องทีวีหลาย